Google Search Console Alert New owner for

เนื่องจากเว็บไซต์สถาบันการศึกษา ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี ตามรายงาน สกมช. ที่https://www.ncsa.or.th/service-statistics.html โดยเว็บไชต์จำนวนหนึ่งในมหาวิทยาลัยได้เคยถูกโจมตีแล้ว และกำลังจะถูกโจมตีได้อีกมากด้วยยังคงมีช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง ประจำมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงได้ออกหนังสือเวียนแจ้งทุกส่วนงานในมหาวิทยาลัย[มอ 011/67-ว011]แนวปฏิบัติในการจัดทำเว็บไซต์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (23 เม.ย. 67)https://docs.psu.ac.th/view/2b962109-f1d8-451e-a361-ca7ee053c9a2/ เอกสารแนบ แนวปฏิบัติในการจัดทำเว็บไซต์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์https://net.psu.ac.th/local/internet/Guidelines_for_PSU_Website_2024_v1.pdfเพื่อให้ได้ใช้แนวทางการตรวจสอบช่องโหว่เว็บไซต์ได้ด้วยตนเอง และผู้ดูแลเว็บไซต์ได้เร่งปรับปรุงให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย เว็บไชต์ในมหาวิทยาลัยที่ได้ถูกโจมตีมักจะเป็นการวางหน้าโฆษณาและมีลิงก์ไปสู่เว็บไชต์พนันออนไลน์ด้วยพฤติกรรมของแฮคเกอร์เมื่อโจมตีเว็บไซต์สำเร็จ ต้องการให้หน้าเว็บไซต์ของส่วนงานในมหาวิทยาลัยที่มีลิงก์พนันออนไลน์ โฆษณาไปให้ถึงผู้ใช้เว็บไซต์ได้จำนวนมากๆโดยใช้เครื่องมือของ Google Search ทีมงาน PSU CIRT ได้รับการแจ้งเตือน เมื่อเว็บไซต์ภายใต้ชื่อโดเมนของมหาวิทยาลัย .psu.ac.th จากการใช้เครื่องมื่อ Google Search Console ที่ https://search.google.com/search-console เพื่อให้ ผู้ดูแลเว็บไซต์ส่วนงาน ได้รับการแจ้งเตือนโดยตรง เพื่อแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ส่วนงานที่มี ชื่อโดเมนย่อยต่างๆ ของส่วนงาน หรือซับโดเมนพีเอสยู (Subdomain under psu.ac.th) ให้เลือกแบบ Domainและระบุชื่อโดเมนย่อยของส่วนงานที่ท่านรับผิดชอบ หรือหากเป็นชื่อเว็บไซต์ ที่มีชื่อระดับเดียวแล้วต่อด้วย .psu.ac.th ให้เลือกแบบ URL prefix และระบุชื่อเว็บไซต์เป็น URL ของส่วนงานที่ท่านรับผิดชอบ ต่อมาในขั้นตอน Verify URL ก็ให้เลือกวิธีการพิสูจน์ว่าท่านเป็นเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ ตามวิธ๊การที่ท่านสามารถทำได้คำแนะนำอ่านเพิ่มเติมได้จาก https://contentshifu.com/blog/google-search-console-introduction หากมีข้อสงสัยในการ Verify ส่งข้อความสอบถามมาใน Teams Chat PSU Admin วิทยาเขตต่างๆ ที่ท่านสังกัดอยู่ได้เลยครับ เพื่อจะได้ทราบคำแนะนำเพิ่มเติมไปพร้อมๆ กัน เมื่อแฮคเกอร์ลงโฆษณาลิงก์พนันออนไลน์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ส่วนงานก็จะได้รับอีเมลเตือนทันที จาก Google Search Console Team ด้วยเรื่องNew owner for https://ชื่อเว็บไซต์ส่วนงาน.psu.ac.th/ตำแหน่งไฟล์หน้าโฆษณาลิงก์พนันออนไลน์ To owner of ชื่อเว็บไซต์ส่วนงาน psu.ac.th, Google has identified that ***บัญชีอีเมลที่แฮคเกอร์ใช้ลงโฆษณา***@gmail.com has been added as an owner of https://ชื่อเว็บไซต์ส่วนงาน.psu.ac.th/ตำแหน่งไฟล์หน้าโฆษณาลิงก์พนันออนไลน์/เช่น/js/xamp/angkasa168/. Property owners can change critical settings that affect how Google Search interacts with your site. Ensure that only appropriate people have owner status, and that this role is revoked when it is no longer needed. ขอขอบคุณในความร่วมมือจากทุกๆ ท่านในการจัดทำเว็บไซต์ให้ได้มาตรฐาน และเพิ่มความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับเว็บไซต์ภายใต้ชื่อโดเมน psu.ac.th ของ ม.อ.

Read More »

มาลองสร้าง Website ด้วย Google Site แบบง่ายๆกันดีกว่า

ใครจะไปคิดว่าการสร้าง Website จาก Google Site จะง่ายขนาดนี้ ถ้าอยากรู้ว่าต้องเริ่มยังไงมาดูกันเลย ขั้นตอนที่ 1. เริ่มจากไปที่ https://sites.google.com จะมี Template ให้เลือกใช้หรือ จะสร้างหน้า Website ขึ้นมาเองก็ได้นะ มาลองดูกันเลย ขั้นตอนที่ 2. หลังจากที่เราได้โครงสร้างของ Website ของเรามาแล้ว เราต้องทำการตั้งชื่อ Website ของเราก่อน โดยสามารถเปลี่ยนชื่อได้จากรูปเอกสารมุมซ้ายบน นอกจากการเปลี่ยนชื่อ Website แล้วนั้น เรายังสามารถเปลี่ยนโลโก้ได้อีกด้วย แต่ข้อสำคัญของการจะเผยแพร่ / publish Website ของคุณนั้น ต้องมีหน้า Website 2 หน้าขึ้นไป ขั้นตอนที่ 3. หลังจากที่เราแก้ไขชื่อ และโลโก้ แล้วเรายังสามารถปรับแก้ไขเนื้อหาที่เราต้องการจะมานำเสนอ หรือเพิ่มลงบน Website ได้เองอีกด้วย โดยใช้เครื่องมือทางด้านขวามือที่ Google Site ได้มีไว้ให้ ลากสิ่งที่ต้องการใช้มาวางในพื้นที่ที่ต้องการได้เลย ขั้นตอนที่ 4. หลังจากที่เราสร้างหน้า และใส่เนื้อหาที่ต้องการจะแสดงบน Website แล้ว เรายังสามารถสร้างหน้าเพิ่มเติมได้จากการเลือกเมนู “หน้าเว็บ” ทางด้านขวามือ แถบเมนูจะแสดงหน้า Website ทั้งหมดที่เรามีในตัว Website นี้ โดยการสร้างหน้าเว็บเพิ่มสามารถกดได้จาก ปุ่ม + ที่มุมด้านล่าง ขั้นตอนที่ 5. การกำหนดแถบเมนู ต้องการจะให้แสดงด้านบน หรือต้องการให้แสดงด้านข้างสามารถจัดได้โดยการที่ กดที่รูปฟันเฟือง หรือการตั้งค่าดังรูป สามารถตั้งค่าได้ที่คำสั่ง “โหมด” ว่าต้องการจะให้อยู่ด้านบน หรือด้านข้าง นอกจากนั้นยังสามารถกำหนดสีแถบเมนูได้อีกด้วยนะ ตัวอย่างเมนูที่อยู่ข้างบน ตัวอย่างเมนูที่อยู่ด้านข้าง และในที่สุด เราก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือการเผยแพร่ Website เพียงแค่คุณ กด เผยแพร่/Publish หากคุณมี Domain เป็นของตัวเองสามารถนำมาใช้ได้เลย จบกันแล้วการสร้าง Website ไม่ได้อยากเหมือนที่คิดใช่ไหม ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

Read More »

แนวทางการพัฒนา Web Application ด้วย django จาก local docker สู่ Google Cloud Run

ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เราก็จะเจอปัญหานึงเสมอ ๆ คือ เวอร์ชั่น (Version) ของเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนานั้น แต่ละโปรเจคมีความแตกต่างกัน เช่น ในกรณีของ การพัฒนา Web Application ด้วย django web framework เราอาจจะอยากใช้ python รุ่นล่าสุด คือ 3.8 แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อหลังบ้านต้องการไปติดต่อ Tensorflow 2.0 ซึ่งยังต้องใช้งานกับ Python 3.6 เป็นต้น วิธีแก้ไขปัญหาทั่วไปคือ ติดตั้ง package ‘virtualenv’ เพื่อให้การพัฒนาแต่ละโปรเจค มี Environment แตกต่างกันได้ แต่จากการใช้งานจริง พบว่า สุดท้าย ตอนเอาไป Production บนเครื่อง Server ก็ต้องตามไปติดตั้งเครื่องมือ และรุ่นที่ถูกต้อง แม้ใน Python จะมีคำสั่ง pip install -r requirements.txt ก็ตาม แต่ก็ยังไปติดปัญหาว่า OS ของเครื่องที่จะ Production นั้น รองรับรุ่นของเครื่องมืออีกหรือไม่ด้วย แนวทางการใช้ Container ด้วย Docker จึงเป็นที่นิยม เพราะ เมื่อเราพัฒนาเสร็จแล้ว สามารถ Pack เข้าไปใน Container แล้วเอาไป Deploy ได้ โดย (แทบจะ) ไม่ต้องกังวลกับ Environment ปลายทาง อีกทั้ง ยังสามารถทดสอบ Environment ใหม่ ๆ ก่อนจะ Deploy ได้ด้วย เช่นการเปลี่ยนรุ่นของ Python เป็นต้น ในบทความนี้ จะนำเสนอ แนวทางการสร้าง docker container เพื่อใช้เป็นฐานในการพัฒนา django และ สามารถต่อยอด ติดตั้ง package อื่น ๆ ตามต้องการ ตั้งแต่ Development ไปจนถึง Deployment สู่ Serverless Environment อย่าง Google Cloud Run สร้าง Development Container เริ่มจาก สร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมา ในนั้นมี 2 ไฟล์ คือ Dockerfile และ requirements.txt กับ โฟลเดอร์ ชื่อ code Dockerfile ใช้ image ของ python เป็นรุ่น 3.7-slim ซึ่งตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกแล้ว (ไม่ใช้ alpine เนื่องจาก พบรายงานว่า แม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ถูกจำกัดทรัพยากรบางอย่าง ทำให้ทำงานได้ช้ากว่า) สร้าง /code แล้วเข้าไปใช้พื้นที่นี้ (เหมือนคำสั่ง mkdir /code ; cd /code อะไรประมาณนั้น) สั่งให้ copy ไฟล์ requirements.txt ไปใช้ที่ root ( / ) จากนั้น Upgrade คำสั่ง pip เป็นรุ่นล่าสุด แล้ว ติดตั้ง package ตามที่กำหนดใน requirements.txt เปิด Port 8080 ไว้ เพื่อใช้ในการทดสอบ และเป็นไปในแนวทางเดียวกับการใช้บน Google Cloud Run ต่อไป requirements.txt ในการพัฒนา django เมื่อทำการติดตั้ง package ใดเพิ่มเติมด้วยคำสั่ง pip install ก็จะบันทึกรายการ พร้อมรุ่นของ package มาในไฟล์นี้ ในที่นี้ ใช้

Read More »

วิธีสร้างสมุดโทรศัพท์ของหน่วยงานด้วย Google Contact

เคยเป็นไม๊ จะโทรศัพท์หาเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่รู้ว่า เบอร์มือถือ เบอร์ที่โต๊ะ หรือ Email อะไร วิธีการที่บางหน่วยงานทำ คือ ทำแผ่นพับเป็นสมุดโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าตังค์บ้าง เป็นกระดาษแปะบ้าง บางทีก็หาย บางทีก็ไม่ได้พกบ้าง หรือ บางทีทำเป็นเว็บให้ค้นหาบ้าง … บางแห่งถึงกับต้องลงแรงเรียน Mobile App ก็มี (อิอิ) จะดีกว่าไม๊ ถ้าแค่ฝ่ายบุคคล แค่รวบรวม ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เบอร์มือถือ เบอร์โต๊ะ และ Email ใส่ Excel แล้วจากนั้น ใครใคร่จะ Import ใส่ Google Contact ของตนเองได้เลย แล้วหลังจากนั้น จะโทร จะค้นหา ก็สามารถทำในมือถือของตนเองได้เลย !!! ไม่ต้องพก ไม่ต้องติดตั้ง App เพิ่ม ใช้ได้ทั้ง iOS, Android และบน Computer ก็ยังได้ มาดูกัน สร้าง Excel เก็บข้อมูล การนำเข้า (Import) ข้อมูลเข้า Google Contact มีทริคนิดเดียว คือ บรรทัดแรกของไฟล์ จะต้องเป็น Header ที่กำหนดชื่อตามรูปแบบมาตราฐาน กล่าวคือ ตั้งหัวข้อว่า “ชื่อ”, “นามสกุล”, “ชื่อเล่น”, “มือถือ”, “เบอร์โต๊ะ” อะไรอย่างนี้ +++ไม่ได้+++ ต้องตั้งเป็น “Given Name”,”Family Name”, “Name Suffix”,”Phone 1 – Type”,”Phone 1 – Value”,”Phone 2 – Type”,”Phone 2 – Value”,”Group Membership” Given Name = ชื่อFamilay Name = นามสกุลName Suffix = ใช้เป็นชื่อเล่นก็ได้Phone 1 – Type = ประเภทโทรศัพท์อันที่ 1 (เช่น Mobile)Phone 1 – Value = หมายเลขโทรศัพท์อันที่ 1 (เช่น เบอร์มือถือ) Phone 2 – Type = ประเภทโทรศัพท์อันที่ 2 (เช่น Work)Phone 2 – Value = หมายเลขโทรศัพท์อันที่ 2 (เช่น เบอร์โต๊ะ) Group Membership = จะให้ Label ว่าอย่างไร ดังตัวอย่างนี้ จากนั้น Save เป็นแบบ CSV File สมมุติชื่อว่า contact.csv นำเข้า Google Contact เสร็จแล้ว ก็จะได้ใน Google Contact มี Label ตามภาพ (1 contact มีหลาย ๆ label ได้)ในภาพ จะเห็นว่า Contact ที่เพิ่งนำเข้าไป จะปรากฏใน Label cc2019, myContact และ Imported on 5/7 ซึ่งเป็น Default วิธีการนี้ มีข้อดีคือ แม้จะมี contact ที่ซ้ำกัน ก็ไม่เป็นไร เราสามารถ Merge ทีหลังได้ หรือ เลือกลบที่เป็น Label ของปีก่อน ๆ ได้

Read More »