Shorewall Blacklist

ใช้ได้กับ Shorewall 4.4.12 ขึ้นมา แก้แฟ้ม /etc/shorewall/interfaces โดยเพิ่มความว่า blacklist ต่อท้ายของเดิม เป็น net eth0 detect tcpflags,logmartians,nosmurfs,blacklist เพิ่มลิสต์ที่ต้องการบล็อคลงไปในแฟ้ม /etc/shorewall/blacklist ตัวอย่างค้นหาเครื่องที่ต้องการบล็อคการเข้าถึงพอร์ต 80 และ 443 grep -R phpmyadmin/scripts/setup.php /var/log/apache2|cut -d: -f2|awk ‘{ print $1 }’|sort -t’.’ -n -k1,1 -k2,2 -k3,3 -k4,4|uniq จากตัวอย่างในเครื่องเราไม่มี phpmyadmin แต่มีคนพยายามเข้าถึงตัวติดตั้ง phpmyadmin ฉะนั้นบล็อค IP พวกนี้ไว้ก่อน (บล็อคถาวรกรั่กๆ…) เอา IP จากข้อที่แล้วมาใส่ในแฟ้ม /etc/shorewall/blacklist รูปแบบ #ADDRESS/SUBNET PROTOCOL PORT เช่น 93.115.210.90 tcp 80,443 93.174.93.153 tcp 80,443 94.23.58.185 tcp 80,443 94.102.51.155 tcp 80,443 103.247.21.60 tcp 80,443 107.6.88.155 tcp 80,443 109.163.232.218 tcp 80,443 110.170.34.220 tcp 80,443 111.90.168.5 tcp 80,443 115.84.101.78 tcp 80,443 115.238.101.45 tcp 80,443 115.239.253.11 tcp 80,443 116.93.105.112 tcp 80,443 117.35.96.146 tcp 80,443 118.140.120.26 tcp 80,443 119.52.254.20 tcp 80,443 119.57.51.154 tcp 80,443 122.49.0.220 tcp 80,443 123.125.148.79 tcp 80,443 125.210.204.242 tcp 80,443 restart shorewall sudo shorewall restart IP ที่ถูกแบล็คลิสต์ อาจหายไปจากสารบบ ทำให้ shorewall start ไม่ขึ้น ต้องลบไอพีดังกล่าวออกไปก่อนจึงจะ start ได้ Compiling /etc/shorewall/blacklist… ERROR: Unknown Host (93.x4.93.153) : /etc/shorewall/blacklist (line 23) จบ… ขอให้สนุกครับ ที่มา http://shorewall.net/manpages/shorewall-blacklist.html คีย์เวิร์ดสำหรับแบน /CFIDE/administrator/enter.cfm /MyAdmin/scripts/setup.php /myadmin/scripts/setup.php /phpMyAdmin/scripts/setup.php /pma/scripts/setup.php /w00tw00t.at.blackhats.romanian.anti-sec:) เป็นต้น

Read More »

7-Eleven Survival #1

แนะนำเทคนิค การใช้ 7-Eleven ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ประจำเดือน มีนาคม 2557 ในฐานะที่เป็น ลูกจ้างรายวัน ของคุณนาย ได้ค่าจ้างวันละ 100 บาทให้มาทำงาน (เช้า + เที่ยง) จึงขอเสนอเรื่อง การใช้โปรโมชั่น เพื่อประหยัดตังค์สุดๆ  โจทย์ ต้องการกินกาแฟ กับอาหารเช้า ทุกวันทำงาน และน่าจะมีนมเปรี้ยวไว้กินบ้าง  สิ่งที่ต้องมี/ต้องทราบ ก่อน 1. ไปซื้อบัตร 7-Card ราคา 190 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายไปฟรีๆ บัตรมีอายุ 3 ปี เมื่อหมดอายุแล้ว เอาไปต่อบัตรใหม่ จะได้ส่วนลด 50 บาท คือ จะจ่ายค่าบัตรใหม่ 140 บาท 2. เติมเงินครั้งละขั้นต่ำ 50 บาท เติมได้ที่ 7-Eleven 3. ทุกครั้งที่ซื้อของ โดยจ่ายด้วยมูลค่าในบัตร 10 บาท จะได้ 5 แต้ม 4. แต้ม 50 แต้ม มีมูลค่า 1 บาท สมมุติ ได้บัตรมาแล้ว เติมเงิน 250 บาทไว้ วิธีการดังนี้ 1. โปรโมชั่น เดือน มีนาคม 2557 มี 3 รูปแบบ 1.1 แลกซื้อสุดคุ้ม: ซื้อของทุก 40 บาท ได้ 1 สิทธิ์ ที่จะซื้อของเหล่านี้ ซึ่งจะได้ส่วนลดประมาณ 1-15 บาท http://www.7eleven.co.th/download/promotionFile16_7-Corp_0314_pdf.pdf ตัวอย่างเช่น ซื้อของ 40 บาท จะซื้อ ใส้กรอกฟุตลองแฟรงค์เฟิร์ตไก่ จากราคา 27 บาท ได้ในราคา 20 บาท แถมได้แต้มในบัตร 50 แต้ม (จ่ายเงินไป 20 บาท ได้แต้มเพิ่ม 50 + 2 แต้ม) อะไรทำนองนั้น  1.2 จับคู่อิ่ม: เขาจะคิดมาว่า ซื้อของกินอย่างนึง จะสามารถเพิ่มเงินแค่ 5, 10 บาท ก็จะได้ของกินเพิ่มอีกอย่างนึง ซึ่งจะประหยัดไปได้ประมาณ 4-10 บาท http://www.7eleven.co.th/download/promotionFile12_Combo_0314_pdf.pdf  ตัวอย่างเช่น ซื้อ บิ๊กเปา 17 บาท เพิ่มเงิน 10 บาท รวมเป็นเงิน 27 บาท จะได้ ชาเย็นแก้วเล็ก 12 Oz. (เรียกว่า ชาเย็นจากราคา 14 บาท ซื้อได้ในราคา 10 บาท ประมาณนั้น) 1.3 รับแต้มพิเศษ อันนี้สำคัญ เพราะเราจะได้แต้มพิเศษมา โดยจะสามารถเอาไปใช้แทนเงินสด ซื้ออะไรก็ได้ตามใจชอบ กล่าวคือ เขาจะมีของที่จะให้แต้มพิเศษ สะสมในบัตร http://www.7eleven.co.th/download/promotionFile2_7-Card_0314_point_pdf.pdf ตัวอย่างเช่น ซื้อกาแฟเย็นแก้วใหญ่ 24 บาท จะได้แต้มพิเศษ 300 แต้ม ซึ่งคิดเป็นเงิน 6 บาท ถ้าคิดง่ายๆ เท่ากัย ซื้อ 4 แก้ว พอจะซื้อแก้วที่ 5 ก็เอาแต้ม 300 x 4 =1200 แต้ม ซึ่งเท่ากับ 1,200/50 = 24 บาท ไปใช้แทนเงินสด ก็คือได้แก้วที่ 5 โดยไม่ต้องจ่ายตังค์ เอาแต้มไปแลกแทน หรือ จะเอานมเปรี้ยว 2 ขวดเป็นเงิน

Read More »

แนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้ง (Conflict) ระหว่างปลั๊กอิน JS

ปัจจุบันมีปลั๊กอิน (Plug-in)  จาวาสคริปมากมาย ที่ช่วยให้การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดาย สามารถสร้างลูกเล่นและความสามารถต่างๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงแรงเขียนโค้ด ทำให้ประหยัดเวลาการทำงานได้อย่างมาก เฟรมเวิร์ก (Framework) จาวาสคริปที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งอย่าง Jquery ที่มีปลั๊กอินให้เลือกใช้อย่างมากมายที่เป็นนิยมกันมากและถูกใช้เฟรมเวิร์กพื้นฐานในการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นเป็นส่วนใหญ่ แต่หากเรามีความจำเป็นต้องใช้ร่วมกับเฟรมเวิร์กตัวอื่นๆ อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งการทำงาน (Conflict) ระหว่างเฟรมเวิร์กหรือปลั๊กอินได้ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความขัดแย้งคือ การที่ชื่อตัวแปรหรือฟังก์ชัน ในโค้ดโปรแกรมระหว่างปลั๊กอินซ้ำและเหมือนกัน ทำให้โปรแกรมเกิดความสับสนและทำให้ปลั๊กอินไม่ทำงาน วิธีการแก้ไขคือเข้าไปไล่โค้คเพื่อเปลี่ยนชื่อตัวแปรใหม่ หรือเลือกใช้ปลั๊กอินตัวใดตัวหนึ่งเท่าที่จำเป็นที่สุด หากมีความจำเป็นต้องใช้เฟรมเวิร์กหรือปลั๊กอินจากหลายๆ ค่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ ผมก็ลองค้นหาวิธีการที่เป็นสูตรสำเร็จแล้วไม่พบว่ามีวิธีการที่ใช้ได้อย่างชัดเจน หากผู้อ่านท่านทราบวิธีการที่ดีกว่านี้ก็แลกเปลี่ยนกันได้ครับ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ใช้อยู่ก็มีวิธีการเบื้องต้นที่ได้กล่าวไปแล้วและมีอีกวิธีการเลือกหนึ่งคือ การคัดกรองให้ใช้น้อยที่สุด (Customize) โดยก่อนที่จะดาวน์โหลดปลั๊กอินมาใช้ ซึ่งปลั๊กอินส่วนใหญ่จะมีเมนุที่ชื่อ JavaScript components ให้เลือก เทคนิคก็คือเลือกเอาออกให้หมด แล้วคลิกเลือกเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ซึ่งเราจะทราบได้โดยการนั่งไล่ชื่อ JavaScript components ระหว่างทั้งสองเฟรมเวิร์กโดยให้ยึดเฟรมเวิร์กตัวใดตัวหนึ่งไว้เป็นตัวทำงานหลัก ยกตัวอย่างที่ผมเคยใช้คือ Jquery Easy UI กับ  Bootstrap ผมจะยึด Jquery Easy UI เป็นตัวทำงานหลัก และปิดการทำงาน JavaScript components ของ Bootstrap  จากหน้าลิงค์นี้ (Customize and download) โดยเอาออกทุกตัวและเลือกกลับเข้าไปใหม่ที่คิดว่าจะทำไม่ให้เกิด Conflict (จุดสังเกตคือชื่อฟังก์ชัน) หวังว่าเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาการ Conflict ให้กับเหล่า web dev ได้บ้างนะครับ สวัสดี ^^

Read More »

แนวโน้มในการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นในปี 2014

จากบทสัมภาษณ์ Wyke-Smith ซีอีโอของ @BublishMe ได้กล่าวถึงแนวโน้มในการพัฒนาและการออกแบบเว็บแอพพลิเคชั่นในปี 2014 ไว้ดังนี้ :- การเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเว็บแอพพลิเคชั่น จะติดต่อสื่อสารกับแบบสองทาง (two-way binding) กันมากขั้น แนวโน้มการพัฒนา ที่จะช่วยให้เราประหยัดทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า เฟรมเวิร์กที่ใช้พัฒนาบนส่วนการทำงานของเบื้องหน้าโปรแกรม (Front-End) ที่นิยมใช้กันได้แก่ NodeJS. AngularJS, Ember และ Backbone ฐานข้อมูลแบบ JSON จะได้รับความนิยมมากขึ้น เป็นการย้ายฐานข้อมูลแบบ SQL ไปเป็นในรูปแบบของ JSON ส่วนกลางการทำงานของโปรแกรม (Middleware) จะใช้ JavaScript การใช้ประโยชน์ของแฟรมเวิร์ก Angular จะเป็นทั้งการพัฒนาและการออกแบบเว็บ บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบและทักษะความรู้ความสามารถของนักพัฒนาเว็บกับนักออกแบบเว็บไซต์จะเหมือนกัน สามารถอ่านรายละเอียดแต่ละเทคโนโลยีจากแหล่งที่มาครับ Cr: Web Professional Trends 2014

Read More »