ASP.NET MVC Part 4: ทำความรู้จักกับ ViewData, ViewBag และ TempData

การส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันใน ASP.NET MVC จะมีการส่งผ่านกันด้วย objects ซึ่งใน ASP.NET MVC จะมี object ที่ชื่อ ViewData, ViewBag และ TempData เป็น object ที่่ใช้ในการส่งผ่านข้อมูลในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป โดยในการส่งผ่านข้อมูลจะแบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ การส่งผ่านค่าจาก Controller ไปยัง View การส่งผ่านค่าจาก Controller หนึ่ง ไปยัง Controller อื่น การส่งค่าระหว่าง Action หนึ่ง ไปยัง Action อื่น โดยทั้ง 3 objects จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้ ViewBag เป็น dynamic object ในการส่งค่าจาก controller ไปยัง view ViewData เป็น dictionary object ในการส่งค่าจาก controller ไปยัง view TempData เป็น dictionary object ในการส่งค่าข้ามกันระหว่าง controller และ action   การส่งผ่านข้อมูลจาก controller ไปยัง View การส่งผ่านข้อมูลจาก Controller ไปยัง View สามารถทำได้ 3 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลที่ต้องการส่งว่าเป็นข้อมูลลักษณะไหน มีความซับซ้อนเพียงใด แต่ละรูปแบบสามารถเขียนได้ดังนี้   ส่งผ่าน Model การส่งผ่านข้อมูลผ่านตัว model เป็นการส่งผ่านข้อมูลผ่านตัว model ตรงๆ โดยที่ข้อมูลจะมี property ตามที่มีอยู่ใน model ที่สร้างไว้ ดังตัวอย่าง สร้าง model ของ Book และ set ค่าให้กับ property ต่างๆ และ return model Book ไปยังหน้า View ฝั่ง Controller public ActionResult Index() { List<ฺBook> b = new List<Book>() { new Book{ Id = 1, Title = “Harry Potter”, Author= “JK. Rolling”}, new Book{ Id = 2, Title = “Inferno”, Author= “Dan Brown”} }; return View(b); } ฝั่งแสดงผล View ประกาศ type ของ model เป็น Book หลังจากนั้นใช้ตัวแปร model ในการเข้าถึง property ต่างๆของ Model @model MvcBook.Models.Book <table class=”table”> <tr> <th> @Html.DisplayNameFor(model => model.Title) th> <th> @Html.DisplayNameFor(model => model.Author) th> <th>th> tr> @foreach (var item in Model) { <tr> <td> @Html.DisplayFor(modelItem => item.Title) td> <td> @Html.DisplayFor(modelItem => item.Author) td> tr> }

Read More »

ตอนที่ 3 : สร้างรายงานด้วย Business Intelligence Development Studio (BIDS)

     เครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างรายงาน ได้แก่ Business Intelligence Development Studio (BIDS) และ Report Builder ในตอนที่นี้จะกล่าวถึงการสร้างรายงานด้วย BIDS ซึ่งเป็นอินเตอร์เฟซ ของ Microsoft Visual Studio เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับ Microsoft Visual Studio ส่วน Report Builder เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างรายงาน เหมาะกับผู้ใช้ทั่วๆไปที่ใช้ในทางธุรกิจเป็นหลัก การสร้างรายงานมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1 : Create Report Server Project ไปที่ File > New > Project… ดังรูปที่ 1 จะได้ผลลัพธ์ ดังรูปที่ 2 รูปที่1 Create Report Server Project รูปที่2 Report Server Project Solution ขั้นตอนที่ 2 : Create new report  การสร้างไฟล์รายงาน เราสามารถทำได้ 2 แบบคือ  แบบที่1 สร้างไฟล์รายงานว่างๆ (empty report) ดังนี้  1. จากรูปที่ 2 คลิกขวาที่โฟลเดอร์ Report > Add > New Item… > เลือก Create a new empty report ดังรูปที่ 3   รูปที่3 Create a new empty report 2. ไปที่หน้าต่าง Report Data (View > Report Data) เพื่อสร้าง Data Sources และ Datasets          – คลิกขวาโฟลเดอร์ Data Sources > Add Data Source… ซึ่งสามารถสร้าง Connection ได้ 2 แบบ คือ           1. Embedded Connection เป็นการฝัง Connection String ไปในตัวรายงาน ดังรูปที่ 4                    รูปที่4 Embedded Connection Properties           2. Use Shared Data Sources Connection ซึ่งผู้ใช้จะต้องไปสร้าง Connection String ไว้ก่อน โดยเข้าไปที่หน้าต่าง Solution Explorer คลิกขวาโฟลเดอร์ Shared Data Sources > Add New Data Source ก็จะเข้าสู่หน้าจอสร้าง Connection ดังรูปที่ 4 ข้อดีของการใช้ Shared Data Sources คือเมื่อมีการเปลี่ยน Connection String สามารถเปลี่ยนที่เดียวไม่ต้องไล่เปลี่ยนทีละรายงาน และ Deploy เฉพาะ Shared Data Sources           3. ไปที่หน้าต่าง Report Data คลิกขวาโฟลเดอร์ Datasets จะปรากฏหน้าต่าง Dataset Properties ดังรูปที่ 5                                   รูปที่5 Dataset Properties

Read More »

การเขียนโปรแกรม JSP เชื่อมต่อ ORACLE

     JSP หรือชื่อเต็มว่า Java Server Page เป็นภาษาที่ใช้ในการพัฒนา Application ที่ทำงานบนเว็บไซต์ โดยรูปแบบการทำงานจะทำงานคล้ายกับภาษา  ASP ,PHP และ .Net รูปแบบการทำงานจะแตกต่างกันตรงที่ JSP เป็น Subset ของภาษา Java โดยรูปแบบการเขียนนั้นจะใช้รูปแบบคำสั่งและชุด SDK ของ Java และใน JSP จะมีนามสกุลของไฟล์เป็น .jsp โดยการทำงานจะทำงานในรูปแบบของ Server และ Client แสดงผลและโต้ตอบกับ User Interface ผ่าน Web Browser เช่น  IE ,Chrome ,Firefox และอื่นๆ โดยจะสามารถทำงานร่วมกับ Client Tags เช่นพวก HTML / JavaScript / CSS และพวก jQuery ให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ที่สำคัญ JSP สามารถใช้งานได้ฟรี และสามารถรองรับได้ทุก Platform ไม่ว่าจะเป็น Windows ,Linux และ iOS รวมทั้ง Software อื่น ๆ      Oracle เป็น Database ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดการฐานข้อมูล โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยติดต่อประสานระหว่างผู้ใช้และฐานข้อมูล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานฐานข้อมูลได้สะดวกขึ้น เช่น การค้นหาข้มูลต่างๆ ภายในฐานข้อมูลที่ง่ายและสะดวก โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบถึงโครงสร้างภายในของฐานข้อมูลก็สามารถเข้าใช้ฐานข้อมูลนั้นได้      เริ่มต้นในการเขียนโปรแกรมที่นิยมการ connect  oracle ด้วย jsp จะใช้การ connect  ด้วย  JDBC โดยในส่วน ภาษา jsp จะสามารถใช้ packet ของ java ที่จะสามารถ import class ของ JDBC มาใช้งานใน  jsp ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเขียน โปรแรกม เพิ่มเติมให้ยุ่งยาก   ขั้นตอนที่ 1 สร้างไฟล์ jsp โดยข้อมูลภายในจะมีsyntax เหมือนกับ HTML แต่ต่างกันที่นามสกุลไฟล์ จะเป็นนามสกุล .jsp <HTML> <HEAD> <TITLE>Simple JSP to Oracle connection Example</TITLE> </HEAD> <BODY> </BODY> <HTML> ขั้นตอนที่ 2 ทำการ import library ที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับ database oracle ด้วย java.sql.* <%@ page import=”java.sql.*” %> <HTML> <HEAD> <TITLE>Simple JSP to Oracle connection Example</TITLE> </HEAD> <BODY> </BODY> <HTML> ขั้นต้อนที่ 3 สร้างตัวแปลที่ใช้ในการเขื่อมต่อ String strdrive =”oracle.jdbc.OracleDriver”; //driver ของ oracle String url = “jdbc:oracle:thin:@localhost:1521:xe”; //server database String usr = “username”; //user name String pwd = “pwd”; //password ขั้นต้อนที่ 4 สร้าง connection การเชื่อมต่อไปยัง database Connection conn = null; ขั้นตอนที่ 5 ทำการเชื่อมต่อกับ database โดยใช้ ตัวแปลจากข้างต้น <% Connection conn = null; try { Class.forName(strdrive ); conn = DriverManager.getConnection(url, usr, pwd); out.println(“connected….!!”); } catch(Exception e) { out.println(“Exception : ” + e.getMessage() + “”); }

Read More »

การตั้งค่าให้ Android Emulator สามารถรัน google map ได้

โดยปกติ Android Emulator ไม่สามารถรัน google map เนื่องจากไม่มีในส่วนของ google play serivce นั้นเอง (สังเกตุ ได้ว่าไม่มีแอพพลิเคชั่น google play) ซึ่งเมื่อนักพัฒนาทำการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มีgoogle map และรองรันบน Android emulator  จะเกิดข้อผิดพลาดดังรูป ในบทความนี้ขอนำเสนอวิธีการที่ทำให้ Genymotion ซึ่งเป็น Andriod  Emulator ตัวหนึ่งที่นิยมใช้กัน เนื่องจากทำงานได้รวดเร็ว และทำงานได้ดีกับ Android Studio 🙂 โดยหลักการก็ไม่มีอะไรมาก เมื่อ Android emulator ของเราไม่มี google play service เราก็แค่ลงไปให้ซะเลย ขั้นแรก ต้องโหลดไฟล์ที่ใช้ในการติดตั้ง ดังรูป โดยในส่วนของไฟล์ gapps-jb-xxxx-signed ต้องโหลดเวอร์ชั่นให้ตรงกับ android แต่ละเวอร์ชั่นที่ใช้งาน ต่อไปทำการติดตั้อง Genymotion-ARM-Translation_v1.1.zip ก่อน ซึ่งการติดตั้งก็ง่าย ๆ โดยการลากไฟล์ไปวางที่ Emulator ได้ทันที่ รอจนติดตั้งเสร็จและทำการ Restart Emulator ต่อไปก็ทำการ Gapps และ Restart Emulator อีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ลองเปิด Emulator จะพบว่ามีแอพพลิเคชั่น google play เรียบร้อยแล้ว ลองรันทดสอบแอพพลิเคชันที่มี google map ดูได้เลย

Read More »

IEEE Explore Services and IPv6

หลายวันก่อน (2016-06-28) คุณวันชัย พบปัญหาการเข้าใช้งาน web ieeexplore.ieee.org ซึ่งปัญหาที่ว่าก็คือ ปกติแล้วการเข้าไปพยายามดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บดังกล่าว ถ้าเข้าใช้งานจากเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เอง ผู้ให้บริการ (IEEE Explore) ก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เข้ามาจากเครือข่ายของมหา’ลัย ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานจากเครือข่ายของมหา’ลัย สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ แต่ครั้งนั้น อาจารย์ของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ไม่สามารถดาวน์โหลดได้ จากภายในเครือข่ายของภาคฯเอง และ ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ถ้าเปลี่ยนไปใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ในเครือข่ายของภาคฯเช่นเดียวกัน แต่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลับใช้งานได้ หลังจากผ่านการตรวจสอบ 2-3 ขั้นตอนก็ได้ข้อสรุปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ จากเดิมทีที่เครือข่ายของมหา’ลัย ใช้งาน IPv4 ในการเข้าถึงเครือข่ายของ IEEE (สำหรับในกรณีนี้ก็คือ ieeexplore.ieee.org) ตอนนี้ เมื่อเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมที่จะให้บริการ IPv6 เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่พร้อมที่จะใช้ IPv6 อยู่แล้ว ก็จะเปลี่ยนไปใช้ IPv6 สำหรับการติดต่อกับเครือข่ายปลายทาง สิ่งเหล่านี้ควรจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และผู้ใช้งานก็ควรที่จะใช้งานได้โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตนเองใช้งานอยู่ ติดต่อกับเครื่องปลายทางโดยใช้โปรโตคอลใด อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้ บริการของ IEEExplore และ Academic Journals อีกจำนวนมากซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นสมาชิกอยู่ (ซึ่งอาจจะเป็นสมาชิกโดยตรง หรือโดยอ้อมผ่านทาง UniNet/สกอ.) ไม่ได้เป็นบริการที่เปิดแบบ public ให้ใครๆก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกอย่าง ข้อมูลบางอย่าง เช่น ไฟล์ของบทความ จะดาวน์โหลดได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น ถ้าเป็นสมาชิกแบบบุคคล วิธีการที่ใช้ในการยืนยันตัวตน ก็คือการ login โดยใช้ username และ password แบบเดียวกับที่ใช้กับบริการบนเว็บอื่นๆทั่วไป แต่สำหรับสมาชิกแบบ “สถาบัน” แบบที่มาหวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นอยู่ แทนที่จะต้องให้ นักศึกษาและบุคคลากร แต่ละคนจะต้องมีแอคเคาท์ เป็นของตัวเอง วิธีการที่ง่ายกว่าก็คือ ใช้หมายเลข IP เป็นตัวระบุ โดยสถาบันที่เป็นสมาชิก ก็จะต้องแจ้งไปทางผู้ให้บริการว่า หมายเลข IP ใด หรือ ช่วงใดบ้างที่เป็นของสถาบันนั้นๆ แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ หมายเลข IP ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แจ้งไปจะมีเฉพาะ IPv4 และแน่นอนว่าก่อนหน้านี้ไม่มีใครแจ้งปัญหาว่าสามารถดาวน์โหลดไฟล์จาก IEEExplore ไม่ได้ … เพราะเครือข่ายส่วนใหญ่ใน มหา’ลัย ใช้งานได้เฉพาะ IPv4 [[ ซึ่ง … อาจจะทำให้ผมตั้งข้อสงสัยขึ้นมาได้ว่า แล้วหน่วยงานบางหน่วยซึ่งใช้งาน IPv6 มาได้นานก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีใครมีปัญหาบ้างเลยหรือ หรือจะเป็นเพราะว่าสมาชิกหน่วยงานเหล่านั้นไม่เคยใช้ IEEExplore เลย … แต่เนื่องจากว่า มีคำโบราณกล่าวไว้ … อะไรบางอย่าง…เกี่ยวกับการขว้างงู…และอวัยวะอะไรบางอย่างที่เป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างหัวและลำตัว… ผมก็เลยไม่ได้ตั้งข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะไม่อยากให้คอของผมมีรู … และผมก็ไม่ชอบงูด้วย! ย้ำ, ผมไม่ได้ตั้งข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นจริงๆ EDIT (2016-07-08): ข้อมูลจาก ที่นี่ ทำให้พอเชื่อได้ว่า IEEE เริ่มใช้งาน IPv6 เมื่อประมาณ 2016-06-06 นั่นคือประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ดังนั้นปัญหาในการเข้าถึงบริการของ IEEE Explore จากเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยใช้งาน IPv6 แล้วใช้งานไม่ได้ จึงไม่ได้นานมากอย่างที่ผมคิดตอนแรก ]] กลับมาที่เรื่องของการใช้งาน IEEExplore ต่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เทียบเคียงได้กับการที่ทาง มหาวิทยาลัยแจ้ง IP address ที่มีใช้งานอยู่ให้กับทางผู้ให้บริการไม่ครบ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มใช้งาน IPv6 ได้และพยายามใช้งาน IPv6 ในการติดต่อกับเครื่องที่ให้บริการปลายทาง เครื่องที่ให้บริการปลายทาง ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า หมายเลข IP address นี้อยู่ในรายการของหมายเลข IP ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ ก็เลยปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูล วิธีการแก้ปัญหา ก็คือแจ้งหมายเลข IPv6 address ที่มหา’ลัยใช้อยู่ไป เพื่อให้ทางผู้ให้บริการอนุญาตให้เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้หมายเลขเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลได้ วันนี้ (2016-07-07) คุณสงกรานต์ และ หอสมุดคุณหญิงหลงประกาศผ่านกลุ่มของ facebook ว่าสามารถใช้งานบริการของ IEEE ได้แล้วทั้ง IPv4 และ IPv6 ซึ่งในแง่ของผู้ใช้งานทั่วๆไป ควรที่จะใช้งานได้

Read More »