Category: Desktop Computer (PC, linux, windows, mac)

  • Canonical Livepatch Service

    Canonical Livepatch Service

    Apply critical kernel patches without rebooting.

    โฆษณา

    • Fixes are applied automatically, without restarting your system
    • Reduces downtime, keeping your Ubuntu LTS systems secure
      and compliant
    • Included as part of all Ubuntu Advantage for Infrastructure
      support packages
    • ใครควรใช้ เครื่อง ubuntu 16.04 ขึ้นไป
    • เริ่มได้
    • เปิดเว็บ https://auth.livepatch.canonical.com/ เลือก Ubuntu user แล้วกดปุ่ม Get your Livepatch token

    ก็จะไปหน้านี้

    • กด Accept all and visit site
    • ก็ให้ log in ให้เรียบร้อย หากยังไม่ได้สมัคร user ของ Ubuntu one ก็ให้เลือก I don’t have an Ubuntu One account เพื่อสร้าง account

    หลังจากกด Create account ให้ไปเช็คเมล์ที่ใช้ลงทะเบียนแล้วกด verify

    • ก็จะได้หน้าที่มี Token สำหรับลงทะเบียน
    • ติดตั้งโปรแกรมชื่อ canonical-livepatch ด้วยคำสั่ง
    sudo snap install canonical-livepatch
    • เมื่อติดตั้งเสร็จได้ผลลัพธ์ว่า

    canonical-livepatch 9.5.5 from Canonical✓ installed

    • แล้วต่อด้วยคำสั่ง copy จากในเว็บได้เลย
    sudo canonical-livepatch enable $TOKEN
    • โดย $TOKEN คือค่าที่ได้จากในหน้าเว็บ
    • ก็จะได้ผลว่าประมาณว่า

    Successfully enabled device. Using machine-token: xxxxxxxxxxx

    • เสร็จ!!! แบบง่ายๆ และงงๆ
    • และสำหรับ 1 email address สามารถใช้ token เดียวกันได้ 3 เครื่อง สำหรับผู้ใช้ฟรี!!
    • ตั้งแต่ใช้มาประมาณ 1 ปีครึ่ง ก็ไม่รู้ว่ามีอัพเดตอะไรบ้างเหมือนกัน กรั่กๆ
    • ตรวจสอบสถานะของ canonical-livepatch ด้วยคำสั่ง
    sudo canonical-livepatch status --verbose
    • ก็จะได้ประมาณว่า
    • จบขอให้สนุก

    อ้างอิง

    https://ubuntu.com/security/livepatch

  • วิธีการส่ง Line Notify เมื่อมีการเปิดคอมพิวเตอร์

    เริ่มจากต้องทำการขอ Line Token ซึ่งดูได้จากบทความ การส่ง Line Notify ด้วย Command Line

    จากนั้นให้สร้าง bat file โดยเปิด notepad แล้วใส่คำสั่ง command line ดังนี้

    curl -X POST -H “Authorization: Bearer Token” -F “message=XXX” https://notify-api.line.me/api/notify

    โดยที่ตัวอักษรสีแดงให้ทำการแทนที่ดังนี้
    Token แทนที่ด้วย Line Token ที่ขอไว้ตอนต้น
    XXX แทนที่ด้วย ข้อความที่ต้องการส่ง

    แล้วให้ save file ด้วยนามสกุล .bat

    เปิด Task Scheduler ขึ้นมา แล้วกดที่ Create Task

    ใส่ชื่อ task ที่ช่อง Name

    กดที่tab Triggers แล้วกดปุ่ม New

    ที่ Begin the task เลือกเป็น At startup

    ติ๊กที่ Delay task for แล้วเลือกเป็น 1 minute แล้วกดปุ่ม OK

    จะได้ผลดังรูป

    กดที่tab Actions แล้วกดปุ่ม New

    กดปุ่ม browse เลือก file bat ที่สร้างไว้ตอนต้น แล้วกดปุ่ม OK

    กดที่tab Conditions

    ตรงส่วนของ Network ให้ติ๊กหน้า Start only if the following network connection is available

    กดปุ่ม OK

    กดที่ปุ่ม OK อีกครั้งตามรูป

    จะมี task ที่สร้างขึ้นปรากฏดังรูป

    เมื่อมีการ start computer จะมีข้อความส่งไปทาง Line ดังรูป

  • การส่ง Line Notify ด้วย Command Line

    ถ้าจะส่ง Line Notify ต้องมี Line Token ก่อน ซึ่งมีวิธีการขอดังนี้
    1. เข้าไปยังwebsite https://notify-bot.line.me/my/
    2. Login ด้วย LINE Account
    3. คลิกที่ปุ่ม Generate token

    4. ตั้งชื่อ Line ที่จะแสดงตอนแจ้งเตือน ในช่องตามรูป

    5. เลือกว่าจะ Notify ไปที่ group ใด ซึ่ง group ที่เราเลือกจะเป็นสีเขียว แล้วให้กดปุ่ม Generate Token

    6. จะได้ Line Token มาดังรูป

    หลังจากได้ Line Token แล้ว ให้เราเปิดโปรแกรม Command Promt ขึ้นมา โดยถ้าเป็น windows10 ให้กดที่รูปแว่นขยายที่ taskbar แล้วพิมพ์ Command Promt แล้วกดที่ปุ่ม open ทางด้านขวา

    จะมีโปรแกรมปรากฎดังรูป

    ให้ใส่ข้อความดังนี้

    curl -X POST -H “Authorization: Bearer Token” -F “message=XXX” https://notify-api.line.me/api/notify

    โดยที่ตัวอักษรสีแดงให้ทำการแทนที่ดังนี้
    Token แทนที่ด้วย Line Token ที่ขอไว้ตอนต้น
    XXX แทนที่ด้วย ข้อความที่ต้องการส่ง

    เมื่อใส่ข้อความเสร็จแล้วให้กด Enter

    ถ้าส่งข้อความสำเร็จโปรแกรม Command Promt จะขึ้นดังรูป

    แล้วที่ Line ก็จะได้รับข้อความดังรูป

  • การสลับข้อมูลจาก Column เป็น Row ใน Excel

    ท่านผู้อ่านที่ใช้งาน Excel น่าจะเคยเจอปัญหาหรือมีความต้องการที่ว่า มีข้อมูลที่มีลักษณะเป็น Column แต่ต้องการย้ายให้มาแสดงในรูปแบบ Row ถ้าต้อง copy แล้วมา paste ทีละตัวคงไม่สะดวกอย่างแน่นอน แต่ Excel ได้จัดเตรียมเครื่องมือสำหรับแก้ปัญหาเหล่านี้เอาไว้แล้ว ลองไปดูกันเลย

    1.สมมติเรามีข้อมูลชื่อเดือนเก็บอยู่ในเ Excel ในคอลัมน์เดียวกันเรียงกันลงมาดังรูป

    2. เลือกข้อมูลที่ต้องการย้ายทั้งหมดแล้ว copy เก็บไว้

    3. ไปยัง sheet หรือ cell ที่ต้องการ จากนั้นคลิกขวา ใต้เมนู Paste Options เลือกไอคอนที่ 4 (Transpose)

    4. ก็จะได้ข้อมูลมาอยู่ในรูปแบบแนวนอน ดังรูป

    5. จากข้อ 2 ถ้าเราเลือกเมนู Paste Special… จะปรากฏ dialog ดังรูป ให้เลือก Transpose จากกดปุ่ม OK เพื่อยืนยัน ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน

    นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ฟังก์ชัน TEXTJOIN() โดยฟังก์ชันนี้จะทำหน้าที่รวมข้อความจากช่วงข้อมูลหรือข้อความหลายๆ ส่วนเข้าด้วยกันและสามารถระบุตัวคั่นระหว่างข้อมูลได้ด้วย โดยฟังก์ชันนี้จะมี parameter สามส่วนหลักๆ คือ

    TEXTJOIN(ตัวคั่น, ignore_empty, text1, [text2], …)
    พารามิเตอร์คำอธิบาย
    ตัวคั่นสตริงข้อความไม่ว่าจะเป็นสตริงข้อความว่าง, ประกอบอักขระอย่างน้อย 1 ตัวในอัญประกาศ หรือมีการอ้างอิงไปยังสตริงข้อความที่ถูกต้อง ถ้ามีตัวเลขอยู่ก็ถือว่าเป็นข้อความ
    ignore_emptyถ้าเป็นค่า TRUE ให้ละเว้นเซลล์ว่าง
    text1รายการข้อความที่จะถูกรวมเข้าด้วยกัน สตริงข้อความ หรืออาร์เรย์ของสตริง เช่น ช่วงเซลล์
    [text2, …]รายการข้อความเพิ่มเติมที่จะถูกรวมเข้าด้วยกัน สามารถมีอาร์กิวเมนต์ข้อความสำหรับรายการข้อความได้สูงสุด 252 รายการ รวมถึง text1 แต่ละรายการสามารถเป็นสตริงข้อความหรืออาเรย์ของสตริงได้ เช่น ช่วงเซลล์

    ตัวอย่างการใช้งานดังรูป

    จะเห็นว่าถ้าเป็นวิธีใช้ฟังก์ชัน TEXTJOIN ข้อมูลจะถูกนำมารวมในฟิลด์เดียวกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการเลือกนำไปประยุกต์ใช้ ว่าวิธีการไหนจะเหมาะกับงานตัวเอง

    ก่อนจะจากไป ขอแถมอีกวิธีบน MS Word เผื่อใครอยากทำอะไรคล้ายๆ แบบนี้ วิธีการคือ

    1. ข้อมูลแยกกันอยู่คนละบรรทัด ดังตัวอย่าง

    2. เลือกข้อมูลทั้งหมด จากนั้นกด Ctrl + H จะปรากฏ dialog “Find and Replace” ดังรูป

    3. ป้อน ^p ในช่อง Find what: และป้อน , ลงในช่อง Replace with: จากนั้นกด Replace All ข้อมูลทั้งหมดจะถูกยุบมาอยู่ในบรรทัดเดียวกัน โดยมี , คั่นอยู่ระหว่างข้อมูลแต่ละบรรทัด ดังรูป

    ซึ่งเทคนิคนี้ก็คือการแทนที่อักขระขึ้นบรรทัดใหม่ ด้วย , นั่นเอง

    ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย จนกว่าจะพบกันใหม่

    สวัสดีครับ


    อ้างอิง

    https://superuser.com/questions/240858/convert-a-column-into-a-comma-separated-list
    http://www.saranitus.com/2018/10/ย้ายข้อมูลจาก-row-เป็น-column-ใน-excel-2016.html
    https://www.it-guides.com/training-a-tutorial/office-tutorial/transpose-microsoft-excel-2007
    https://support.microsoft.com/th-th/office/textjoin-ฟังก์ชัน-textjoin-357b449a-ec91-49d0-80c3-0e8fc845691c

  • มาจัดการข้อมูลซ้ำ ๆ และเอาข้อมูลล่าสุดกัน ใน Excel

    สืบเนื่องจากเมื่อ 2-3 เดือนก่อน มีโอกาสได้ทำแบบสอบถาม เก็บข้อมูลนักศึกษา แล้วนักศึกษากรอกข้อมูลมาซ้ำ ๆ กันหลายคน และเราจะเอาแค่ข้อมูลล่าสุดเท่านั้น ทำไงกันดีนะ….. ในเมื่อแบบสอบถาม export ออกมาเป็น excel ได้ เราก็มาลองดูว่าทำไงได้บ้าง เล่นไปเล่นมา เฮ้ย ง่ายจุง ได้ข้อมูลตามต้องการด้วยสิ มาดูกัน

    จากภาพ เราต้องทำการ Sort รหัสนักศึกษาและ Timestamp ล่าสุด สุ่มดูคร่าว ๆ รหัสนักศึกษา 6110610025 มีรายการซ้ำ เมื่อจัดการข้อมูลซ้ำและให้เหลือเฉพาะข้อมูลล่าสุด ต้องเป็นแถวที่ 42

    จากนั้นคลิกแท็บ Data –> Remove Duplicates เลือกเลือกเฉพาะ รหัสนักศึกษา ซึ่งมันซ้ำกันอยู่ เมื่อเรียบร้อยแล้วจะแสดง Dialog แจ้งบอก

    มี 28 รายการที่ซ้ำและได้ลบออกไปแล้ว 165 รายการที่ไม่ซ้ำ สุ่มดู รหัส 6110610025 จะพบแค่รายการล่าสุดเท่านั้น

    เป็นวิธีที่ง่ายมาก ลองนำไปใช้กันดูนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ…..

  • Windows Terminal (3)

    • ติดตั้ง WSL2 ก็แล้ว แต่ใช้แค่ bash ดูไม่ว้าววววว เลย ให้ดูตัวอย่างก่อนที่

    https://github.com/ohmyzsh/ohmyzsh/wiki/Themes

    สวยงามอล่างฉ่าง
    • มาติดตั้ง zsh และ theme กัน
    • เริ่มจากติดตั้ง zsh
    sudo apt install zsh
    install zsh
    • ต่อด้วยคำสั่งต่อไปนี้เพื่อติดตั้ง ohmyzsh
    sh -c "$(curl -fsSL https://raw.githubusercontent.com/ohmyzsh/ohmyzsh/master/tools/install.sh)"
    • จากภาพจะมีการเปลี่ยน default shell ด้วยเปลี่ยนจาก bash เป็น zsh ฉะนั้นเมื่อเปิด wsl terminal ครั้งใดก็จะได้เป็น zsh shell ทุกครั้ง
    • สิ่งที่เพิ่มมาและมีความสำคัญมากคือ .oh-my-zsh และ .zshrc
    • เสร็จละง่าย!! แต่ theme ตั้งต้นอาจจะไม่ฉูดฉาด
    • แก้ไขแฟ้ม .zshrc ด้วย editor ที่ชื่นชอบ!
    • ดูชื่อ theme ต่างๆ ได้ที่ https://github.com/ohmyzsh/ohmyzsh/wiki/Themes
    • มองหาคำว่า ZSH_THEME=”robbyrussell” สามารถเปลี่ยน robbyrussell เป็นอย่างอื่นได้เลย เช่น bira เปลี่ยนแล้ว save เมื่อออกมาอยู่ที่ prompt ให้พิมพ์
    . ./.zshrc
    • (อ่านว่า จุด-เว้นวรรค-จุด-สแลช-จุด-แซ่ด-เอส-เอช-อาร์-ซี)
    • หรือพิมพ์ว่า
    source .zshrc
    • ก็จะเปลี่ยนหน้าตาไปทันที ก่อนหน้านี้ต้องเคยติดตั้ง powerline font มาก่อนซึ่งในตอนที่ 1 ได้ให้ติดตั้งไปแล้ว จะได้ดังรูป
    • สวยแล้ว ทั้งนี้สวยแต่ละคนไม่เท่ากันก็อาจจะลองเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นๆ ได้เลย หรือหากต้องการเขียนเองก็ทำได้ อ่านเอกสารเองนะจ๊ะ
    • เท่านี้ก่อนสำหรับ zsh shell
    • สำหรับ zsh สามาติดตั้งได้บน linux server แทบทุกดิสโทรเลยทีเดียว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ubuntu หรือ debian ยังมี repository และ plugin เสริมต่างๆ ของ zsh อีกด้วย (ค่ายอื่นอาจจะมีแต่ไม่ได้ใช้งานมากเลยไม่ทราบนะครับ)
    • จบขอให้สนุก
    • ต้นฉบับ https://ohmyz.sh/
  • Windows Terminal (2)

    Q: วันก่อนติดตั้ง WSL2 แล้วอยากใช้งาน bash บน Windows Terminal ด้วยทำไง?

    A: กด แล้วเลือก Ubuntu 20.04 ไงล่ะ!!

    Q: ไม่อยากกดเอาแบบเปิดมาแล้วเป็น ubuntu เลยอ่ะ

    A: แก้ Settings คลิก เลือก Settings

    จะเป็นการเปิดการตั้งค่าต่างๆ ด้วย Text Editor ที่ชื่นชอบ

    เลื่อนลงมาดูเรื่อยๆ จะเจอว่ามี Ubuntu-20.04 อยู่

    สนใจบรรทัดที่เขียนว่า “guid”: ให้ copy ข้อความที่อยู่ภายใน “{ }” มาทั้งหมด จากตัวอย่างคือ 07b52e3e-de2c-5db4-bd2d-ba144ed6c273 แล้วให้เลื่อนจอขึ้นไปด้านบนจนเห็นบรรทัดที่มีข้อความว่า “defaultProfile”: แทนที่ข้อความที่อยู่ภายในเครื่องหมาย “{ }” ด้วยข้อความที่ copy ไว้

    เปลี่ยนเป็น

    แล้ว save ปิดแล้วเปิดใหม่ก็จะได้ Ubuntu-20.04 เป็นค่า default

    • จบขอให้สนุก
  • Word : วิธีแก้ Repeat Header Table แล้ว word ดื้อ ไม่ยอม Repeat ให้

    เคยไหม กด ✔ ที่คำสั่ง Repeat as header row at the top of each page แล้ว ตารางนั้นก็ยังไม่ยอมแสดงหัวตารางในหน้าถัดไปเสียที

    ช่วงนี้หลังจากที่ผู้เขียนได้มีช่วงเวลาในการที่ปั่นเอกสาร รวมถึงเพื่อน ๆ ที่เจอปัญหาได้สอบถามกันเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เขียนจึงเห็นว่าน่าจะนำมาเขียน Blog เผื่อผู้อ่านท่านใดที่ติดปัญหาเช่นเดียวกัน จะได้ลองนำไปใช้ดูเผื่อแก้ปัญหาได้

    หลัก ๆ แล้วปกติ เมื่อผู้อ่านสร้างตารางขึ้นมา เมื่อต้องการให้ข้อมูลสองแถวแรกเป็นหัวตาราง ผู้เขียนจะทำการคลุมสองแถวนั้น จากนั้นคลิกเมาส์ขวา เลือกเมนู Table Properties… ดังภาพด้านล่าง

    จากนั้นที่ Tab Row ให้ ✔ ที่คำสั่ง Repeat as header row at the top of each page เพื่อเป็นการบอกว่า จะทำให้ตาราง 2 แถวแรกเป็นหัวตารางจากนั้นกด OK

    แต่เมื่อกลับมาหน้าตาราง ทำไมหัวตารางถึงยังไม่มีล่ะ????? 🤔

    งั้นต้องมาตรวจสอบเพิ่มเติมกันหน่อย โดยลองทำการคลุมสองแถวนั้นเหมือนเดิม จากนั้นคลิกเมาส์ขวา เลือกเมนู properties แต่ตอนนี้ไปเลือกที่ Tab Table สังเกตที่กลุ่ม Text wrapping ถ้าของผู้อ่านท่านใดเป็นแบบรูปด้านล่างคือเลือกอยู่ที่ Around นั่นคือปัญหา 😫😤

    ลองเปลี่ยนเป็นเลือก None ตามรูปด้านล่างดูค่ะ

    แทน แท๊นนนนนนนนนนนนนนนนน *0*

    ตารางของเรามีหัวตารางตามที่เราต้องการแล้ว เย้!!!!!!! 🎉🎊✨

    หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ สวัสดีค่าาาาา 😘

  • Notebook Tips – ประหยัด ยืดอายุแบตเตอรี่

    มีคำถามมากมายเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จ, แบตเสื่อม ประหยัดแบต โน๊ตบุ๊คและอีกมากมาย เนื่องด้วยในบรรดาอุปกรณ์ภายในโน๊ตบุ๊คของเราส่วนมาก สิ่งที่จะมีปัญหาอันดันแรก นั้นก็คือแบตเตอรี่ ซึ่งหากใช้งานไม่ถูกต้อง ซื้อมาเพียงไม่กี่เดือนแบตก็เสื่อมแล้ว ทำให้เป็นปัญหาเวลาใช้นอกสถานที่เป็นอย่างมาก

    1.ปล่อยให้แบตเตอรี่หมดก่อนแล้วค่อยชาร์จ เรื่องความร้อนนั้นเป็นของคู่กับโน้ตบุ๊คด้วยเลยก็ว่าได้ ส่วนสำหรับแบตเตอรี่นั้นหากได้รับความร้อนนานๆ อายุก็จะสั้นลงแน่นอน แต่เอ๊ะ!! แล้วจะให้ทำยังไงหละในเมื่อการชาร์จทุกเครื่องมันก็ร้อนนิหน่า ถูกไหม? แต่มีวิธีแนะนำ นั้นก็คือ อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่อยู่ต่ำกว่าประมาณ 20% ซึ่งถ้าจะให้ดีควรอยู่ในระดับ 20-30% หรืออาจจะ 40% ก็ได้ แต่ก็อย่าเกินนี้ เพราะยิ่งแบตเหลือน้อยมากๆ การชาร์จมันก็จะนาน ทำให้เกิดความร้อนมากกว่านั้นเอง และที่สำคัญอย่าให้แบตเตอรี่หรือตัวเครื่องโน้ตบุ๊คเราอยู่ใกล้กับสิ่งของร้อนๆ ด้วย

    2.ถอดแบตเตอรี่ออกขณะเล่นเกมหรือเวลาอยู่บ้าน ถามกันว่าต้องถอดแบตเตอรี่หรือเปล่า? ต้องใส่ไว้ตลอดไหม? วันนี้ก็มีคำตอบให้ หากเราถอดไว้แล้ว แต่เกิดปัญหา ไฟดับ ไฟกระชาก มันก็อาจจะทำให้อุปกรณ์หรือโน้คบุ๊คของเราเสียหายได้ครับ ซึ่งอันที่จริงหากเราถอดแบตเตอรี่ออกมามันจะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานได้จริง แต่มันก็เพียงเล็กน้อย แล้วมันจะคุ้ม? กับสิ่งที่เราอาจจะเสียไป ดูแล้วมันก็คงได้ไม่คุ้มเสีย

    3.ถอดแบตเตอรี่เก็บไว้ ไม่ต้องใช้ ไม่เสื่อม ปกติแบตเตอรี่ อายุประมาณ 1 ปีหรืออาจจะน้อยหรือมากกว่า ตามลักษณะการใช้งาน เราก็เริ่มเห็นปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมแล้ว ใช้งาน 1 ปีเต็มพอดี แบตก็ใช้งานได้สั้นลง 30 นาที จากปกติใช้ได้ 3 ชั่วโมง ตอนนี้ก็เหลือ 2 ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ ใช้ถูกหลักบ้างไม่ถูกหลักบ้างตามสถานะการ และแต่ส่วนใหญ่แล้วแบตเตอรี่มักจะสิ้นใจก่อนโน้ตบุ๊คของเราอยู่แล้ว โดยปกติก็ โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง กับ แบตเตอรี่ 2 ลูก ก็ถือว่ากำลังดี ก็คือใช้ตัวที่แถมมา และเราก็เปลี่ยนหนึ่งครั้ง มันก็จะสิ้นอายุไขของมัน หรือบางท่านก็อาจจะใช้แบตเตอรี่ลูกเดียวแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก

    เพิ่มชั่วโมงการทำงานของโน้ตบุ๊ตบนแบตเตอรี่ โดยไม่ต้องเสียสตางค์

    วิธีพื้นฐานคลาสสิคยิ่งนัก โดยเจ้า Windows Power Manager นั้นจะมีติดตั้งมาให้บนโน้ตบุ๊คทุกตัว(ที่ใช้ Windows) โดยวิธีที่ง่ายที่สุดที่ไม่ต้องปรับแต่งอะไรเลยก็คือเลือกปรับให้มันเป็น Power Saver นั่นเอง แต่ระดับสมาชิก NBS คงไม่ทำอะไรง่ายๆ  ซึ่งมันก็มีวิธีแอดวานซ์กว่านั้น ก็คือให้สังเกตเครื่องหมายรูปถ่านที่ Task Bar > คลิกซ้าย เลือก More Power Option > Change Plan Setting > Change Advance Power Option ที่นี้มันก็จะขึ้นหน้าต่าง Power Option

    หัวข้อที่แนะนำให้ปรับถ้าต้องการใช้แบตเตอรี่โน้ตบุ๊คนานๆ ก็จะ Processor ให้ Maximize อยู่ที่ราวๆ 50% ก็จะช่วยประหยัดไฟได้พอสมควร โดยที่ประสิทธิภาพของเครื่องไม่ตกลงมากนัก การบล๊อกแฟลชโฆษณาต่างๆ และปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นหรือปิด (Disable) Wireless / Bluetooth รวมถึง การลดความสว่างของหน้าจอ ก็ล้วนแต่มีส่วนช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

    การ Calibrate Battery เพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน เมื่อแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กเสื่อมทำไงดี ?

    สำหรับผู้ที่ใช้โน้ตบุ๊คมาสักปี 2 ปีปัญหาหนึ่งที่มักจะเจอกันก็คือแบตเตอรี่เสื่อม?ซึ่งถ้าใช้เครื่องมาระดับนี้การเสื่อมของแบตเตอรี่ถือเป็นเรื่องปรกติ แม้ท่านจะทำวิธีใดก็ตามแบตเตอรี่ที่ท่านใช้ๆอยู่ก็ย่อมต้องเสื่อมไปตามการเวลาเป็นปรกติ หลายๆท่านอาจจะเลือกที่จะต่อ Adapter ตลอดเวลา หรือไม่ก็ซื้อเครื่องใหม่ไปเลย แต่อีกหลายๆท่านก็ยังจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่อยู่ (และก็ไม่มีตังซื้อเครื่องใหม่) การซื้อแบตเตอรี่ใหม่จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะราคาถูกกว่าซื้อเครื่องใหม่ และก็ทำให้โน้ตบุกใช้งานแบตเตอรี่ได้เหมือนเดิมปัจจุบันแบตเทียบก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่งบประมาณจำกัด แต่อยากเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนเก่าที่เสื่อมแล้วเป็นแบตตัวใหม่ใสปิ้ง อีกทั้งปัจจุบันผู้ผลิตแบตเตอรี่เทียบหลายๆเจ้าก็พยายามพัฒนาคุณภาพให้เทียบเท่าแบตแท้จากผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก โอกาสที่แบตเทียบจะมีปัญหาใช้งานได้ไม่เต็มที่หรือแบตเตอรี่ระเบิดก็มีโอกาสน้อย เพียงแต่ว่าเราต้องดูชื่อผู้ผลิตหรือนำเข้าให้มันใจ ยิ่งถ้าเป้นแบรนด์ที่ขายมานานหรือเป็นที่รู้จักก็จะช่วยให้เรามั่นใจขึ้น

    วิธีการประหยัดพลังงานให้แบตเตอร์รี่โน้ตบุ๊ก

    เครื่องโน้ตบุ๊กตัวโปรดของคุณจะกลายเป็นภาระอันใหญ่หลวงทันที ถ้าหากเราต้องมัวแต่วิ่งหาปลั้กไฟเพราะว่าแบตหมดก่อนเวลาอันควรเอาซะดื้อๆ ต่อไปนี้จะเป็น  วิธีการที่เราอยากจะแนะนำ เพื่อจะทำให้เครื่องโน้ตบุ๊กของคุณสามารถประหยัดพลังงาน และใช้งานแบตเตอร์รี่ของคุณเพิ่มเติมได้อีกหลายนาที

    1.จัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อย่างสม่ำเสมอ ฮาร์ดดิสก์เป็นจุดที่ทำงานช้าและใช้พลังงานมากที่สุดจุดหนึ่งของเครื่องโน้ตบุ๊ก ยิ่งเราสามารถทำให้ฮาร์ดดิสก์ของเราทำงานได้ไวมากขึ้นเท่าไร ความต้องการที่จะใช้พลังงานก็จะน้อยลงเท่านั้น วิธีการหนึ่งที่ทำให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ ก็คือการ Defragment หรือจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์นั้นเอง

    2.ปิดโปรแกรมที่ทำงานอยู่ด้านหลังออกไปบ้าง หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจอะไรเวลาลงโปรแกรมล่ะก็ คุณจะได้โปรแกรมที่แอบทำงานอยู่เงียบๆ อยู่ข้างหลังตามมาเป็นว่าเล่น โปรแกรมพวกนี้ชอบถูกสั่งให้เปิดขึ้นมารอการใช้งานพร้อมกับ Windows ตั้งแต่แรก นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณบูตช้าลงทุกวันๆ

    3.ดึงอุปกรณ์ภายนอกที่ไม่ได้ใช้ออก อุปกรณ์ USB ทั้งหลายแหล่ที่คุณเสียบทิ้งไว้กับเครื่อง จะดึงพลังงานออกไปจากแบตอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม แม้แต่เม้าส์และตัว WiFi ถ้าหากคุณไม่ได้ใช้งานก็ควรจะปิด เพื่อให้เครื่องตัดกระแสไฟออกไป4.เพิ่มหน่วยความจำให้พอต่อการใช้งาน ยิ่งเครื่องมีแรมมากพอจะให้โปรแกรมใช้เท่าไร โอกาสที่โปรแกรมจะไปใช้ Virtual Memory จะลดลง ส่วน Virtual Memory คืออะไรนั้น ถ้าพูดง่ายๆ มันคือแรมที่ถูกจำลองขึ้นมาบนฮาร์ดดิสก์เพราะว่าแรมจริงนั้นมีไม่พอที่จะใช้ทำงาน และอย่างที่เราบอกไปในข้อแรมว่า ฮาร์ดดิสก์ทำงานช้าและใช้พลังงานเยอะมาก

    4.เพิ่มหน่วยความจำให้พอต่อการใช้งาน ยิ่งเครื่องมีแรมมากพอจะให้โปรแกรมใช้เท่าไร โอกาสที่โปรแกรมจะไปใช้ Virtual Memory จะลดลง ส่วน Virtual Memory คืออะไรนั้น ถ้าพูดง่ายๆ มันคือแรมที่ถูกจำลองขึ้นมาบนฮาร์ดดิสก์เพราะว่าแรมจริงนั้นมีไม่พอที่จะใช้ทำงาน และอย่างที่เราบอกไปในข้อแรมว่า ฮาร์ดดิสก์ทำงานช้าและใช้พลังงานเยอะมาก

    อ้างอิง : https://notebookspec.com/web/category/tips-tricks/