Category: Desktop Computer (PC, linux, windows, mac)

  • การจัดการ Wireless Profile บน Windows 8/8.1 ผ่าน Command line

    “บางท่านอาจประสบปัญหาลบ Wireless Profile บน Windows 8/8.1 ไม่ได้ไม่รู้จะทำอย่างไร”

    ผมจึงเสนออีก 1 วิธี คือการลบผ่าน Command Line ดังนี้

    1. เปิดโปรแกรม CMD ขึ้นมาตามปกติ

    2. ในกรณีที่ต้องการดูว่าตอนนี้มี Profile อะไรบ้างให้สั่งคำสั่ง

    netsh wlan show profile
    2013-12-10_132414

    * หมายเหตุ : สำหรับคนที่ผูก account ไว้กับ Microsoft ทาง Microsoft จะมีการจำ Profile ไว้บน Cloud ให้เวลาท่านลงเครื่องใหม่ หรือนำ account ไปใช้กับเครื่องอื่น ถ้าเข้า SSID ไหนที่ต้องใส่รหัสผ่าน สามารถเข้าได้เลยโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน (งงอยู่หลายครั้งว่าทำไมไม่ขึ้นให้ใส่รหัสผ่าน) ก็ไม่ต้องแปลกใจ แต่ในส่วนของ 802.1x ยังไงก็ต้องตั้งใหม่อยู่ดีครับ (มันไม่ได้จำทุก ๆ SSID นะครับ ไม่รู้มันเลือกยังไง)

    3. ทำการสั่งคำสั่งลบ Profile นั้น ๆ ดังนี้

    netsh wlan delete profile “xxxx”2013-12-10_132448

    เท่านี้ก็สามารถเพิ่มข้อมูล Profile ใหม่ได้แล้วครับ

    *แถม : สำหรับคนที่ต่อติดแล้แต่อยากกลับไปแก้ Wireless Profile ที่ตั้งค่าไว้ให้เข้าไปแก้ได้ตามรูปครับ

    1. เปิด Wifi Status ผ่านหน้า Network and Sharing Center
    2013-12-10_135742

    2. คลิกเลือก Wireless Properties จากนั้นจะปรากฎหน้าการตั้งค่า Profile จะแก้อะไรก็แก้ได้เลยครับ
    2013-12-10_135455

  • วิธีการติดตั้ง OpenVPN 2.3.16 สำหรับ Windows

    [Update 16/06/60]

    วิธีการติดตั้งเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ครับดังนี้ครับ

    1. ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง OpenVPN (โปรดเลือกให้ตรงกับ Windows Version ที่ตัวเองใช้อยู่ครับ)

    [วิธีดูว่า Windows เป็น Version อะไร]

    2014-10-23_205005

    [Link สำหรับ Windows XP 32bit]
    http://ftp.psu.ac.th/pub/openvpn/openvpn-install-2.3.16-I001-i686.exe

    [Link สำหรับ Windows XP 64bit]
    http://ftp.psu.ac.th/pub/openvpn/openvpn-install-2.3.16-I001-x86_64.exe

    [Link สำหรับ Windows Vista/7/8/8.1/10 32bit]
    http://ftp.psu.ac.th/pub/openvpn/openvpn-install-2.3.16-I601-i686.exe

    [Link สำหรับ Windows Vista/7/8/8.1/10 64bit]
    http://ftp.psu.ac.th/pub/openvpn/openvpn-install-2.3.16-I601-x86_64.exe

    2. ทำการติดตั้ง OpenVPN 2.3.16 (ให้รันให้ตรงกับไฟล์ที่โหลดมาครับ สำหรับ Windows Vista/7/8/8.1 64bit) โดยคลิกขวา Run as Admin ดังรูป (จากนั้น Next ๆ ติดตั้งตามปกติ)


    • ในกรณีที่เป็น Windows 10 (บาง Version) จะติด Windows SmartScreen ดังรูปให้กด More info แล้วเลือก Run anyway ดังรูป

    2016-03-23_131341

    2016-03-23_131408

    3. ดาวน์โหลดไฟล์ Config VPN และ PSU Cert

    http://ftp.psu.ac.th/pub/openvpn/openvpncer.zip

    3.1) แตก Zip File ดังรูป

    2014-10-23_205426

    3.2) จะได้ไฟล์ 2 ไฟล์ ให้ทำการ copy ไฟล์ดังกล่าวไว้

    2014-10-23_205511

    3.3) ทำการวางไฟล์ทั้งสองใน c:\Program Files\OpenVPN\config

    pic3

    4. จากนั้นทำการตั้งค่าให้ Run as Administrator ทุกครั้งที่เปิดใช้ OpenVPN GUI ที่
    c:\Program Files\OpenVPN\bin ดังรูป

    2016-03-23_132008
    หรือสามารถรันตรง ๆ ได้ดังนี้ (ผลเหมือนกัน แต่แนะนำให้ตั้งค่าไว้เลยแบบรูปข้างบน จะได้ไม่ต้องมา Run as administrator ทุกครั้ง เหมือนรูปข้างล่างนี้)

    2014-10-23_211144

    [TIP]

    วิธีการเพิ่ม shotcut ไว้ที่ taskbar บน Windows 8.1

    2014-09-19_104434

    วิธีการเพิ่ม shotcut ไว้ที่ taskbar บน Windows 10

    2016-03-23_132311

    วิธี Re-Check ว่าได้  IP VPN แล้วหรือยัง

    1. ตรวจสอบโดยเอาเมาส์ไปวางบน icon ดังรูปแล้วสังเกตุเบอร์ IP ในช่อง Assigned IP :

    2014-09-19_104905

     

    2. เปิด Web Browser พิมพ์ URL : http://server-dev.psu.ac.th/checkipvpn ตรวจสอบว่า IP ตรงกับข้อ 1 หรือไม่ ถ้าตรงแสดงว่าสามารถใช้งาน VPN ได้แล้วครับ

    2014-09-19_105017

    วิธีตรวจสอบว่าแบบละเอียดว่าโปรแกรมทำงานเป็นปกติหรือไม่

    (บางครั้งถึง icon เขียวก็ไม่ได้บอกว่าจะใช้ได้) ถ้าปรากฎข้อความดังภาพแสดงว่าเส้นทางการเชื่อมต่อสมบูรณ์

    2014-10-23_210631

  • โฆษณาคั่นรายการ Mirrors.psu.ac.th

    ปัจจุบัน http://mirrors.psu.ac.th เป็น Mirrors ของ Distro ต่อไปนี้

    • archlinux
    • centos
      • fedora-epel จาก http://fedoraproject.org/wiki/EPEL
      • repoforge จาก http://repoforge.org/use/
    • debian
      • debian-backports
      • debian-cd
      • debian-multimedia
      • debian-security
      • debian-volatile
    • freebsd
    • gentoo
    • knoppix
      • knoppix-dvd
    • linuxmint-packages
      • linuxmint-iso
    • openbsd
    • opensuse
    • oraclelinux
    • pclinuxos
    • slackware
    • ubuntu
      • medibuntu
      • ubuntu-cdimages
      • ubuntu-releases

    Mirror site สำหรับ Software สำหรับ Ubuntu/ Linux Mint  เช่น

    • PPAs
      • libreoffice โดย mirror จาก PPA sites ที่ http://www.ubuntuupdates.org/ppa/libreoffice
      • mozilla-security โดย mirror จาก PPA sites ที่ http://www.ubuntuupdates.org/ppa/ubuntu_mozilla_security
      • virtualbox โดย mirror จาก Oracle ที่ http://download.virtualbox.org/virtualbox/ ดูวิธีตั้งค่าได้ที่ http://www.ubuntuupdates.org/ppa/virtualbox.org_contrib

    Mirror site สำหรับ software opensource เช่น

    • libreoffice
    • cran
    • cygwin

    และ software ในชุดของ mozilla.org

    • mozilla
      • firefox
      • seamonkey
      • thunderbird

    จบโฆษณาแต่เพียงเท่านี้ … ขอให้สนุกครับ

  • Putty + Xming = Xwindows

    • สำหรับผู้ใช้งานวินโดวส์ อยากใช้บางโปรแกรมของ Xwindows แต่ไม่อยากเดินไป Log In หน้า Console
    • ต้องมี putty และ xming โหลดที่
      • ftp://ftp.psu.ac.th/pub/putty สำหรับ 32-bit
      • https://blog.splunk.net/wp/64bit-putty/ สำหรับ 64-bit
      • ftp://ftp.psu.ac.th/pub/xming/ อันนี้ไม่มีแยก
    • โหลดโปรแกรมทั้งสองมาติดตั้งในเครื่องให้เรียบร้อย (next tech) สำหรับ putty สามารถโหลด putty.exe มาไฟล์เดียวก็ได้
    • เปิด putty และ xming

    2013-10-01_0929

    2013-10-01_0931สำหรับ xming เปิดแล้วโปรแกรมจะไปอยู่ที่ Task Bar

    • ที่ Putty ในหัวข้อ Connection -> SSH -> X11 เลือกหัวข้อ Enable X11 forwarding

    2013-10-01_0934

    • กลับมาหน้า Session ในช่อง Saved Sessions สร้างชื่อใหม่เก็บไว้ใช้เวลาต้องการ

    2013-10-01_0939

    2013-10-01_0939_001

    • ทดสอบใช้งาน ให้เลือกไปที่ X11 Forwarding ที่สร้างไว้ แล้วกด Load แล้วใส่ชื่อ Host Name ที่ต้องการ

    2013-10-01_0944

    • เมื่อ Log In เรียบร้อยในครั้งแรก จะมีข้อความว่า /usr/bin/xauth: creating new authority file ….

    2013-10-01_0955

    • ลองเรียกใช้งานโปรแกรมที่ต้องใช้ Xwindows  เช่น gedit

    2013-10-01_1009

    2013-10-01_1022

    • จบ … ขอให้สนุกครับ
  • ติดตั้ง LibreOffice 4.1 บน Ubuntu และ Linux Mint

    • Add repository โดย repository นี้ใช้ได้สำหรับ Ubuntu รุ่น Precise, Quantal, Raring และ Linux Mint ในรุ่นที่เทียบเคียงกัน เช่น ปัจจุบัน Linux Mint 15 ซึ่งเทียบเคียงได้กับ Ubuntu Raring เป็นต้น ด้วยคำสั่ง

    sudo add-apt-repository ppa:libreoffice/ppa

    • เนื่องจากในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีไซต์ http://mirrors.psu.ac.th ซึ่งได้ทำการ mirror ไซต์ต่างๆ ที่จำเป็นไว้แล้วส่วนหนึ่ง รวมถึง repository ของ LibreOffice ด้วย ดังนั้น สามารถใช้งานได้ โดยการแก้แฟ้ม /etc/apt/sources.list.d/libreoffice-ppa-raring.list จากเดิม มีอะไรอยู่ให้แก้เป็นดังนี้ โดยหากเป็น Ubuntu รุ่นอื่นๆ ก็ให้เปลี่ยนคำว่า raring เป็นรุ่นที่ใช้งาน สำหรับ Linux Mint ก็ยังคงใช้รุ่นของ Ubuntu ที่เทียบเคียงกันมาเช่น Linux Mint 15 ก็ให้ใช้ของ raring

    deb http://mirrors.psu.ac.th/ppa/libreoffice/ raring main

    • สั่ง update ฐานข้อมูล software ด้วยคำสั่ง

    sudo apt-get update

    • สั่ง upgrade software ซึ่ง LibreOffice จะถูก upgrade ไปในคราวเดียวกันโดยอัตโนมัติด้วยคำสั่ง

    sudo apt-get -y dist-upgrade

    • จบ.. ขอให้สนุกครับ

    ที่มา

        http://www.ubuntuupdates.org/ppa/libreoffice

  • การสร้าง Mail Merge ด้วย Thunderbirds

    ส่งจดหมายเวียนในรูปแบบ Email ด้วย Thunderbird

    1. Download และ ติดตั้ง Thunderbird
      http://www.mozilla.org/en/thunderbird/all.html
      แล้วติดตั้ง email Account ตามปรกติ, ทดสอบให้สามารถส่ง email ออกไปได้จริง

    2. Download และ ติดตั้ง ThunderBird Mail Merge Extension
      https://addons.mozilla.org/en-us/thunderbird/addon/mail-merge/
      โดยเปิด Thunderbird แล้วกดปุ่ม  Alt-T แล้วเลือก Add-ons
      แล้วไปที่ รูปเฟือง แล้วเลือก Install Add-ons From file…
      จากนั้น เลือกไฟล์ที่ Download มา (mail_merge.XXXXX.xpi)
      เมื่อติดตั้งเสร็จ ให้ Restart Thunderbird

    3. Download และ ติดตั้ง Notepad++
      http://notepad-plus-plus.org/download/

    4. สร้างฐานข้อมูลด้วย Microsoft Excel หรือ LibreOffice Cal ก็ได้
      โดย ให้บรรทัดแรกของตาราง เป็นชื่อของ Field ซึ่งต้องเป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีเว้นวรรค
      04-excel

      ในที่นี้จะมีชื่อ name, email, salary, topup, bonus, sso, total

      แล้ว Save As เป็น .CSV (Comma Delimited) ในที่นี้ตั้งชื่อ salary.csv
      05-saveascsv

      จากนั้นให้ปิด Excel ไปได้เลย

    5. ต่อไป ต้องปรับให้ salary.csv มีการ Encoding เป็น UTF-8 ก่อน โดยใช้โปรแกรม Notepad++
      โดย Right-Click ที่ไฟล์ salary.csv แล้วเลือก Edit with notepad++
      06-editwithnotepadplus

      แล้วเลือก Encoding > Convert to UTF-8
      07-convertutf-8

      เสร็จแล้ว Save แล้วปิดไป

    1. กลับมาที่ Thunderbird ให้สร้าง email ใหม่
      การอ้างอิงข้อมูลใน CSV นั้น ต้องมีเครื่องหมาย {{ }} คร่อมชื่อ Field
      ดังภาพ

      08-write-template

    2. เมื่อต้องการส่ง คลิก File>Mail Merge
      แล้วตั้งค่าดังภาพ โดยเลือกไฟล์ salary.csv ที่แก้ไขแล้วข้างต้น

      09-setting-mailmerge

    3. เมื่อกดปุ่ม OK ระบบก็จะส่งจดหมายไปตาม email ที่กำหนด
      10-sending

    4. ตัวอย่าง email ที่ส่งผ่านระบบ
      11-result

  • แกะรอย Facebook Spam

    ตามรอย Facebook Spam with Virus

    คำเตือน : ขั้นตอนต่อไปนี้ ทำเพื่อให้เห็นว่า Facebook แพร่ Virus มาได้อย่างไรเท่านั้น

    อย่านำไปลองทำที่บ้าน !!! โดยเฉพาะ Windows Users

    1. มี Message มา เป็น Link แปลกๆ

    01-facebook-message

    2. ระแวงไว้ก่อน ลองใช้ Linux Mint LiveCD ตรวจสอบ

    โดยเปิด Link ดังกล่าวด้วย  FireFox (พิมพ์ลงไป ไม่ได้เปิดโดยตรงจาก Facebook)
    พบว่า มันให้ Download ไฟล์ Zip ชื่อ CameraImage-35160.jpg.zip
    ดังภาพ

    02-linuxmintcd

    แต่เดี๋ยวก่อน !!! อย่าใช้คำสั่ง Open เด็ดขาด
    ให้เปลี่ยนเป็น Save File

    หากใครเจอเหตุการณ์เช่นนั้น แล้วเผลอไปเปิด
    คุณก็ติด Virus เข้าแล้ว !!!

    3. จะเห็นได้ว่า พวกนี้จะหลอกให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะ Windows ที่มักจะ “ซ่อน” นามสกุลของไฟล์

    (Hide known extensions) ทำให้ไม่เห็นว่าไฟล์ที่ download มานั้นเป็น .Zip ซึ่งจะสามารถสั่งให้
    Execute โปรแกรมหรือ สั่งให้ Virus ทำงานได้ทันที !

    ผู้ใช้ที่ไม่รู้หรือไม่สังเกตุ ก็จะเห็นเป็นแค่
    CameraImage-35160.jpg
    ซึ่งน่าจะเป็นภาพ แทนที่จะเป็น
    CameraImage-35160.jpg.zip
    ซึ่งเป็นไฟล์อันตราย

    4. คราวนี้ มาดูว่า เจ้าไฟล์นี้ มันทำอะไร

    โดยทดลองเปิดดู (บน Linux Mint ไวรัสไม่สามารถทำอะไรได้)
    พบว่าใน Zip ไฟล์นี้ มี ไฟล์ชื่อ
    summertime-fun.jpg.exe
    อยู่ ซึ่งเป็น Virus นั่นเอง (ดังภาพ)
    03-exe-inside

    5. ต่อไป เป็นการส่งไฟล์ไปตรวจสอบ ว่าเป็น Virus ชนิดใด

    ในที่นี้เลือกใช้

    https://www.virustotal.com/en/

    เพราะสามารถส่งไฟล์ไปตรวจสอบได้ทาง Web Browser ดังภาพ
    04-sendfile-to-scan

    โดยเลือกไฟล์ summertime-fun.jpg.exe ข้างต้นไปตรวจสอบ

    ผลที่ได้คือ

    05-scan-result

    สรุป เป็น Virus/Malware ชนิดหนึ่ง

    รายละเอียดยังไม่แน่ชัด แต่ไม่ไปยุ่งกับมันเป็นดีที่สุด

    6. อ่านเพิ่มเติมเกี่ยว Virus/Spam ที่มากับ Facebook ได้ที่

    http://www.hacker9.com/beware-of-spambook-facebook-spam-and-virus.html

     

    สำหรับใครที่เจอเหตุการณ์นี้ แล้ว

    1. ได้รับ Message แล้วคลิก Link … ถ้า Web Browser ของท่านฉลาดสักหน่อย ก็จะถามว่า จะ Save หรือ Open
    (กรณีใช้ Microsoft Windows เท่านั้น)

    ถ้าเลือก Save แล้วไม่ได้ไปเปิดไฟล์ –> ก็ยังปลอดภัย แค่ไปลบไฟล์ทิ้ง จบ
    ถ้าเลือก Open แล้ว ไม่ได้ไป Double Click ไฟล์ที่ซ่อนอยู่ –> ก็ยังปลอดภัย ลบไฟล์ทิ้ง จบ
    แต่ถ้า เลือก Open แล้ว double click –> ท่านน่าจะติด Virus ไปแล้วครับ ถ้าในเครื่องมี Antivirus แต่ไม่ Update
    หรือตรวจสอบไม่เจอ ก็เป็นอันว่า มันฝังในเครื่องแล้ว

    หากติดแล้ว จะเห็นได้ว่า เครื่องจะช้าลง เพราะ Virus/Malware/Trojan พวกนี้จะพยายามติดต่อ Internet เพื่อทำการบางอย่างเช่น แพร่ข้อความ หรือ ที่เคยเจอมา “จะติดต่อกลับไปหาเจ้าของ” ซึ่ง Trojan พวกนี้ จะเปิด Backdoor เอาไว้ ทำให้เครื่องของท่าน
    กลายเป็น Botnet หรือ หุ่นเชิด ผู้ร้ายจะสามารถนำไฟล์อื่นๆมาลงในเครื่องได้ ซึ่งความเสี่ยงได้แก่
    1.1 มีการวาง Key-logger ซึ่งจะดักจับการ กด Keyboard ไว้แล้วส่งไปให้ผู้ร้าย ดังนั้น ถ้าท่านมีการพิมพ์รหัสผ่านต่างๆ
    ก็มีโอกาสที่ผู้ร้าย จะสามารถเข้าถึงบัญชีต่างๆของท่าน และเสี่ยงมากขึ้น หากเป็นข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น
    1.2 วางไฟล์ที่จะแพร่ Virus/Malware/Trojan พวกนี้ผ่าน Social Network/Email ไปยังคนที่เกี่ยวข้องกับท่าน
    สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
    1.3 อื่นๆอีกมากมาย เช่น ก่อกวนทำความเสียหายให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย

    แนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญใกล้ตัว เพื่อล้าง virus ครับ

    2. ท่านที่ได้รับ Message แต่ไม่ได้เป็น Windows ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ มันทำอะไรไม่ได้
    แต่ควรระวัง อย่าคลิกอะไรโดยไม่ดู เพราะ ครั้งนี้ ตัวอย่างนี้ เป็นการแพร่ไวรัสแบบ เป็น “ไฟล์”
    ซึ่ง ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งคือ มันจะฝังมาใน Temporary Internet File ซึ่ง แค่คลิกลิงค์ ก็ติดแล้ว
    โดย เมื่อคลิกลิงค์ ก็จะไปเปิด Website ที่แพร่ Malware เครื่องของท่านก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมทันที
    ซึ่ง ทุกระบบปฏิบัติการ มีโอกาสเสี่ยงได้เท่าๆกัน

     

     

    วิธีป้องกันตัวเอง คือ

    ระแวงในทุกสิ่งที่มาจาก Internet แล้วคุณจะปลอดภัยมากขึ้น
    ไม่รู้ ไม่แน่ใจ อย่าคลิก และ ให้สอบถามจากผู้รู้

  • วิธีตั้งค่า PSU Email สำหรับ Outlook Express

    การตั้งค่า Outlook Express ให้ใช้งานกับ PSU Email โดย สมมุติว่า

    1. ผู้ใช้ชื่อ Username Surname ใช้ email address เป็น username.s@psu.ac.th

    2. Incoming Server : mail.psu.ac.th

    และใช้งานผ่าน IMAP

    3. ตั้งค่า Outgoing Server: smtp2.psu.ac.th
    Port: 587
    และมีการเข้ารหัสข้อมูลในการส่ง (STARTTLS ) รวมถึงมีการยืนยันตัวตนก่อน (SMTP Authentication) ทำให้สามารถใช้งานได้จากทั่วโลก

     

    วิธีการตั้งค่า มีดังนี้

    1) ใส่ชื่อและนามสกุล

    001

    2. ใส่ email address

    002

    3. ตั้งค่าการเชื่อมต่อเป็น IMAP

    Incoming mail: mail.psu.ac.th

    Outgoning mail: smtp2.psu.ac.th

    003

    4. ใส่ username และ password ของ PSU Email

    004

     

    5. เสร็จการเริ่มต้นตั้งค่า

    005

    6.  ต่อไป เป็นการตั้งค่าความปลอดภัยอื่นๆ

    ไปที่ Tools > Accounts …

    006

    7. คลิกที่ Mail > mail.psu.ac.th > Properties

    จากนั้นคลิก Tab “Servers” , ในส่วนของ Outgoing Mail Server ให้ติ๊กที่ My Server requires authentication

    คลิกที่ปุ่ม Setting

    คลิกที่ Use same setting as my incoming mail server

    แล้วคลิก OK

    007

     

    8. ไป Tab “Advanced”

    ตั้งค่า Server Port Numbers ของ Outgoing  Mail Server เป็น 587

    และติ๊ก This server requires a secure connection (SSL)

     

     

     

    008

     

    เป็นอันเรียบร้อย

  • How to list linux file permissions in Octal Notation

    วันนี้เนื่องจากทีมผู้ดูแล  Web Hosting ต้องการดูว่ามีไฟล์ไหนบ้างที่มี permission เป็น 777 ก็เลยนั่งหาดูพบว่า สามารถใช้คำสั่ง stat ในการดูได้ เช่น

    $stat -c "%a %n" /var/www

    ผลลัพธ์
    Screenshot from 2013-05-01 11:47:06

    หรือ

    $stat -c "%A (%a) %8s %.19y %n" /var/www

    ผลลัพธ์
    Screenshot from 2013-05-01 11:49:19

    ทั้งนี้เนื่องจากไม่สามารถทำให้มัน recursive ได้ ก็ต้องหาไปทีละโฟลเดอร์ …. จนกระทั่งเจออีกคำสั่ง คือ สร้าง alias ชื่อ lso ดังนี้

    $alias lso="ls -alG | awk '{k=0;for(i=0;i<=8;i++)k+=((substr(\$1,i+2,1)~/[rwx]/)*2^(8-i));if(k)printf(\" %0o \",k);print}'"

    เมื่อจะใช้งาน ก็เพียงสั่ง lso ที่คอมมานด์ไลน์ ผลลัพธ์
    Screenshot from 2013-05-01 11:54:27

    สามารถปรับ option ของ ls ใน alias ให้ recursive ได้โดยเพิ่ม R ตัวใหญ่ลงไป ดังนี้

    $alias lso="ls -alGR | awk '{k=0;for(i=0;i<=8;i++)k+=((substr(\$1,i+2,1)~/[rwx]/)*2^(8-i));if(k)printf(\" %0o \",k);print}'"

    เมื่อเรียกใช้จะได้ผลลัพธ์
    Screenshot from 2013-05-01 11:57:21

    สามารถใช้ร่วมกับ grep เพื่อค้นหาเฉพาะค่าที่ต้องการ เช่น

    $lso|grep " ^777"

    ผลลัพธ์
    Screenshot from 2013-05-01 13:11:12

    ก็พอจะช่วยได้บ้างครับ Big Smile ขอให้สนุกครับ

    ที่มา

    http://thenubbyadmin.com/2012/02/16/how-to-list-linux-file-permissions-in-octal-notation/

    http://askubuntu.com/questions/152001/how-can-i-get-octal-file-permissions-from-command-line