วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #4

(ตอนนี้ จะเน้นการตรวจสอบ Joomla เป็นหลักครับ) จาก “วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #3” ซึ่ง เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่า มีการบุกรุกผ่านช่องโหว่ต่างๆของ Web Server เข้ามาวาง Backdoor หรือไม่ ซึ่ง ตั้งสมมุติฐานว่า Hacker จะเอาไฟล์ .php มาวางไว้ในไดเรคทอรี่ images/stories เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว … ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะ Hacker ต้องคิดต่อไปอีกขั้นหนึ่ง คือ ต้องวางไฟล์ Backdoor ไว้ในที่อื่นๆด้วย รวมถึง พยายามแก้ไขไฟล์ .php ของ Joomla เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต และเป็นช่องในการกลับเข้ามาในภายหลัง ในบทความนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติที่พึงดำเนินการ เพื่อการสืบสวน ค้นหา และทำลาย Backdoor ที่อื่นๆ รวมถึง เสนอแนวทางปฏิบัติ เพื่อผู้ดูแลระบบจะได้ทราบว่า มีไฟล์ใดบ้างที่เปลี่ยนแปลง ในอนาคต ภาพรวมขั้นตอนการปฏิบัติ 1. … Read more

วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #2

ต่อจาก “วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #1” ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบ จาก วันเวลา ของไฟล์ที่ตรวจสอบพบว่า ถูกนำมาวาง จากช่องโหว่ของ Joomla แต่เมื่อตรวจสอบลึกลงไป โดยตรวจสอบ ไฟล์ที่เอามาวางไว้ พบว่ามีรูปแบบหลากหลาย *** แต่มีวิธีการเดียวกัน*** นั่นคือ การใช้ eval และ base64_decode ทั้งสิ้น ตัวอย่างที่ 1:   จะเห็นได้ว่า hacker เขียนไฟล์ดังกล่าว แล้วสร้างตัวแปรว่า $code ในนั้นเป็น Code ซึ่ง “เข้ารหัสแบบ Base64 แล้ว gzip เอาไว้” เพื่อไม่ให้เราตรวจสอบได้ง่ายๆ จากนั้น จึงใช้คำสั่ง eval(gzinflate(base64_decode($code))) ซึ่งจะ decode ข้อความแบบ Base64 ก่อน แล้วค่อย unzip ออกไปอีกที … ซับซ้อน ก็จะทำให้ hacker … Read more

วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #1

จากการเข้าแก้ไขเว็บไซต์ต่างๆที่โดน Hack ในช่วง 2 ปีที่ผ่าน พบว่า จะมีรูปแบบเดิมๆคือ 1. มีการเปิด Permission ของ directory เป็นแบบ 777 หรือ world writable หรือแม้แต่เปิดสิทธิ์ให้ web user เช่น apache/httpd/www-data สามารถเขียนได้ 2. เมื่อมีพื้นที่ให้ web user เขียนได้ แล้ว Web Application นั้นๆ มีช่องโหว่ หรือไม่ก็มีการทำงานปรกติที่เปิดให้ Web User เขียนไฟล์ได้ตามปรกติ ก็เป็นช่องให้เกิดการ “วางไฟล์” ซึ่ง Hacker จะเข้ามาเรียกไฟล์ดังกล่าว ซึ่งจะได้สิทธิเป็น Web User ทำการแก้ไขไฟล์, นำไฟล์ .c มาวางแล้ว compile ต่อไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิด Buffer Overflow จนกระทั่งสามารถครอง … Read more