แสดงข้อมูล Memory CPU Disk ด้วย C# EP.1

ในช่วงที่ผ่านมาผู้เขียนได้รับมอบหมายให้พัฒนาเครื่องมือสำหรับมอนิเตอร์การใช้งานทรัพยากรต่างๆ บน Server ที่ให้บริการลูกค้า ทั้งในส่วน Memory CPU และ Disk โดยโจทย์คือพัฒนา Service ขึ้นมาตัวนึงด้วยเครื่องมือที่เราใช้งานกันอยู่แล้วคือ Visual Studio.NET ด้วยภาษ C# สำหรับอ่านทรัพยากรต่างๆ บน Server แล้วจึงเขียนค่าเหล่านั้นลงไฟล์ จากนั้นจะมีเครื่องมืออีกตัวเข้ามาอ่านไฟล์ดังกล่าวแล้วนำไปแสดงผลเป็นกราฟในรูปแบบที่ต้องการต่อไป เริ่มต้นเรามาดูวิธีการดึงข้อมูลหน่วยความจำ Available (คงเหลือ) กันก่อน ซึ่งโชคดีที่ .NET มี object ตัวนึงที่ชื่อ PerformanceCounter ที่จะคอยเก็บข้อมูลต่างๆ ของ Server และเราสามารถดึงค่าต่างๆ มาใช้งานได้โดยการระบุ parameter ที่เราต้องการ อย่างเช่นในกรณีของหน่วยความจำ จะต้องระบุ parameter 2 ตัว คือ “Memory”, “Available MBytes” ดังโค้ดตัวอย่าง โดยเราจะดึงข้อมูลออกมาผ่านเมทธอด NextValue() อย่างเช่น เมื่อทดลองรันโค้ดดังกล่าว โดยผู้เขียนได้ทดลองสร้างโปรเจ็คแบบ Console Application ได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ โดยข้อมูลที่ได้อยู่ในรูปแบบ Megabytes ดังนั้นถ้าต้องการให้อยู่ในรูปแบบ Gigabytes จะต้องนำไปหารด้วย 1,024 เสียก่อน (ในส่วนนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า ในทางเทคนิคควรจะหารด้วย 1,024 หรือ 1,000) แต่ด้วยข้อจำกัด เราไม่สามารถหาหน่วยความจำทั้งหมดจาก PerformanceCounter โดยจะต้องดึงข้อมูลผ่านวิธีการอื่น นั่นคือการเรียกผ่าน Windows API Function และต้องประกาศ Structure เพิ่มเติมเพื่อให้รองรับข้อมูลที่ Windows API ส่งกลับมา ดังนี้ และตัวอย่างวิธีการเรียกใช้งานฟังก์ชัน เมื่อนำโค้ดไปทดสอบ จะได้ผลลัพธ์ดังภาพ โดยข้อมูลที่ได้จากฟังก์ชันนี้จะเป็นหน่วย byte ถ้าเราต้องการแปลงให้เป็น gigabyte ก็จะต้องหารด้วย (1024 * 1024 * 1024) ซึ่งก็จะได้ผลลัพธ์ประมาณ 4 gigabytes และจากโค้ดในส่วนแรกที่ใช้งานหน่วยความจำคงเหลือ เมื่อนำมาผนวกกัน และมีการคำนวณอีกนิดหน่อย ก็จะได้ผลลัพธ์ดังภาพ ตัวอย่างโค้ดทั้งหมด สำหรับวิธีการดึงหน่วยความจำของเครื่องก็คงจบลงเพียงเท่านี้ ครั้งหน้าเราจะมาดูวิธีการดึงข้อมูลการใช้งาน CPU กัน สวัสดีครับ อ้างอิง http://www.infoworld.com/article/3008626/how-to-work-with-performance-counters-in-c.html http://stackoverflow.com/questions/105031/how-do-you-get-total-amount-of-ram-the-computer-has

Read More »

เปลี่ยนมือถือ เป็นเครื่องสแกนเอกสารด้วย Office Lens

เพียงแค่คุณมีมือถือ ก็สามารถสแกนเอกสารได้โดยไม่ต้องวิ่งหาเครื่องสแกนอีกต่อ!!! Office Lens เป็น Free Application จาก Microsoft Corporation สามารถใช้งานบน Mobile Deviceรองรับทั้งระบบ Windows Phone, Android และ iOS การใช้งาน Office Lensข้อดี ของตัวแอปพลิเคชันนี้คือไม่มี โฆษณา หรือ Ad โผล่ขึ้นมา ให้กวนใจเวลาใช้งานและใช้งานไม่ยากสามารถแปลงรูปที่สแกนให้เป็นไฟล์เอกสาร Microsoft Office ได้ ไม่ว่าจะเป็น Word , PowerPoint,ไฟล์รูป .JPG หรือแม้แต่ .PDF ก็สามารถทำได้ Office Lens มี 4 โหมดในการถ่าย คือ Whiteboard : กระดาน Whiteboard Document : หน้าเอกสาร,โปสเตอร์ Business Card : นามบัตร Photo : ถ่ายรูปทั่วไปโดยมันจะปรับรูปภาพที่ถ่ายสแกนมาให้เหมาะสมกับชนิดของเอกสารที่สแกนมา Office Lens ขั้นตอนการใช้งานบน Mobile Device ดังนี้ เปิด App Office Lens จับภาพ เลือกโหมดการถ่าย รอกรอบครอบตัดรูปภาพ กด “ถ่าย” ปรับแต่งภาพ ตามเครื่องมือที่ App จัดเตรียมไว้ บันทึกภาพ สามารถเลือกการบันทึกเป็น OneNote, ไฟล์ JPG หรือบันทึกชุดไฟล์ภาพเป็น PDF Office Lens สามารถใช้แบบออฟไลน์ (Offline) ได้ผู้ใช้งานสามารถใช้ Office Lens ได้แม้ว่าจะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยบันทึกไฟล์ JPG, PDF ลงเครื่อง โดยไม่ต้อง Login และไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Internetเมื่อใช้ Office Lens บน iOS และ Android App ถ่ายภาพ แล้วแปลงเป็นเอกสาร สามารถเลือกบันทึกเอกสารที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ JPG, PDF เข้าตัวอุปกรณ์โดยตรง ไม่ถูกจำกัดว่าจะต้องบันทึกเข้า OneDrive ที่ผู้ใช้งานต้อง Login Microsoft accont เชื่อมต่อ Internet จัดเก็บไว้ที่ OneDrive หวังว่าบทความนี้จะมีช่วยให้ทุกท่านสะดวกในการ จัดการเอกสารที่ต้องการได้ ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณ : ครูหนึ่งสอนดี, THAIWERE

Read More »

ทำ functional design อย่างง่ายด้วยโปรแกรม Sandcastle Help File Builder

เมื่อพัฒนาโปรแกรมเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาทำเอกสารการเขียนอธิบายโค้ดต่อ บางครั้งมันยุ่งยากเสียเวลา วันนี้มีวิธีที่สะดวกและรวดเร็วเพียงแค่เขียนอธิบายใน Class ที่เราต้องการอธิบาย เช่น Constructors, Properties, methods โดยทั่วไปแล้วการเขียน Logic ต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานต่อหรืออ้างอิงโค้ดที่เราเขียนมักจะ build code เป็นไฟล์ .dll เพื่อให้ระบบอื่นมาเชื่อมต่อและเรียกใช้งานได้ โดยขั้นตอนแรกเราใช้โปรแกรม Sandcastle Help File Builder สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตามลิ้งก์ https://github.com/EWSoftware/SHFB/releases และ download และติดตั้งตามลิ้งก์ SHFBInstaller_v2019.11.17.0.zip 45.1 MB เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อย หน้าตาก็จะประมาณนี้ ก่อนอื่นเราต้องไปตั้งค่าการ build code ใน Visual Studio ในส่วนของ XML ตามไฮไลต์สีเหลือง จากนั้นก็กด Build ใน Visual Studio เมื่อ build เสร็จ เราจะได้ไฟล์ .dll และ .xml เมื่อได้ไฟล์ .dll และ .xml เรียบร้อยแล้ว ก็เพิ่มในโปรแกรม Sandcastle Help File Builder โดยไปที่เมนู File > Project Explorer > Documentation Sources > Add Documentation Source เมื่อเลือกไฟล์ .dll และ .xml เรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้แสดงตามภาพ จากนั้นตั้งค่าเมนู Help File ตามตัวอย่างข้างล่าง จากนั้นตั้งค่าเมนู Visibility ตามตัวอย่างข้างล่าง เมื่อตั้งค่าโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปที่เมนู Documentation > Build Project รอโปรแกรมประมวลผลสักครู่ เราก็จะได้ไฟล์ .chm ออกมา เมื่อเปิดไฟล์ .chm เราก็จะได้ผลลัพธ์ Help File ตามรูปแบบที่แสดงตามภาพด้านล่าง

Read More »

วิธีทำให้ตั้ง password ใน windows server ได้ตามที่ต้องการ

เมื่อ create user ใหม่ใน windows server เราจะต้องตั้ง password ตามกฏที่ windows server กำหนดมาให้ถ้าตั้งไม่ตรงตามกฎ windows server จะไม่ยอมให้สร้าง userอย่างเช่นสร้าง user ชื่อ sysadmin แล้วตั้ง password ว่า sysadmin123จะไม่สามารถสร้าง user ได้ ซึ่งจะมี error ขึ้นดังรูป วิธีแก้ให้สามารถตั้ง password ได้ตามที่ต้องการมีดังนี้ ที่หน้า Desktop ของ windows Server ให้ไปที่ปุ่มค้นหา(รูปแว่นขยาย) ตรง taskbar แล้วพิมพ์  gpedit.msc แล้วกดปุ่ม Enter ที่ keyboard ให้เลือกตามลำดับดังนี้ Computer Configuration -> Windows Settings -> Security Settings -> Account Policies -> Password Policy. Double click ที่ Password must meet complexity requirements ให้เปลี่ยนจาก Enabled เป็น Disabled แล้วกด OK ลองสร้าง user ใหม่อีกที โดยตั้งชื่อเป็น sysadmin แล้วตั้ง password ว่า sysadmin123 จะเห็นว่าสามารถสร้าง user ได้แล้ว

Read More »

How to ลบไฟล์ใน Downloads อัตโนมัติ บน Win10

เนื่องด้วยทางผู้เขียนเองในทุกๆ วัน ด้วยงานที่ทำและพฤติกรรมโดยส่วนตัว ส่งผลให้ Folder Downloads ในเครื่องตัวเองมีไฟล์เพิ่มขึ้นทุกวัน (แลดูรกมากๆ) มีทั้งไฟล์งาน ไฟล์เพลง ไฟล์วีดีโอ ไฟล์ภาพ เต็มไปหมด !! และเอาจริงๆ บางทีก็คิดนะว่าควรจะทำความสะอาดโดยการลบออกซักที แต่ก็นะ ด้วยความยุ่งวุ่นวายในหลายๆ อย่าง ก็เลยลืม และยังคงลืมมาโดยตลอดดดดดด 555+ จนสุดท้ายได้นั่งหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนมาเจอวิธีที่สามารถตั้งค่าการลบไฟล์ใน Folder Downloads ได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งเหมาะมาก เหมาะกับคนที่ความจำแย่ ขี้ลืม และขี้เกียจ T T แบบผู้เขียน มา เรามาเริ่มกันเลย ไม่ต้องเกริ่นกันให้มากความ ลุยยยยย !! ก่อนอื่น Blog นี้จะเป็นการตั้งค่าบน Windows10 นะ (Windows อื่นๆนี่ยังไม่ได้ศึกษา แหะๆ) เริ่มแรกไปที่เมนู Start ก่อนเลย คลิกเลือก Start จากนั้นเลือกเมนู Settings ตามรูปเลยนะ เมื่อเข้ามาในหน้าต่าง settings ให้คลิกเลือกตรงเมนู “System” ได้เลย เมื่อเข้ามาในหน้าจอเมนู System ให้คลิกเลือกเมนูด้านซ้ายที่ชื่อว่า “Storage” (รอเครื่องเราโหลดข้อมูลสักครู่นะ) จากนั้นคลิกเลือกตรงด้านขวาของหน้าจอ เลือกข้อความ “Configure Storage Sense or run it now“ จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอ Configure Storage Sense or run it now ให้เลือก “Turn on” ในส่วนของ “Storage Sense“ ขั้นตอนสุดท้ายให้เลือกติ๊กถูกด้านหน้าข้อความ “Delete temporary files that my apps aren’t using” และเลือกระบุตามความพอใจได้เลยว่าต้องการให้ระบบทำการลบไฟล์ในระยะเวลาใด โดยค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่ 30days อยู่แล้วนะ เพียงเท่านั้นก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการตั้งค่าบน Windows 10 กันแล้วนะทุกคน มันดีจริงๆ อยากให้ทุกคนที่อยากลอง ก็ลองไปเล่นดูนะ สั้นๆ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากหรอก สำหรับ Blog นี้ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านทุกๆท่านน๊าาาา ขอขอบคุณบทความดีๆจาก : https://www.varietypc.net

Read More »