chatri.k
ในบทความนี้ ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเครื่องมือในการพัฒนาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Visual Studio โดยจะนำเสนอวิธีการ Convert Solution ASP.NET จากเวอร์ชั่นเก่าไปยังเวอร์ชั่นใหม่โดยไม่ต้องสร้างโปรเจคขึ้นมาใหม่ ตัวอย่างในวันนี้จะแสดงการ Convert Project Solution ที่พัฒนาด้วย Visual Studio 2005 ไปพัฒนาบน Visual Studio 2013 ซึ่งแน่นอนครับว่าจะต้องมีการ config ค่าเพิ่มเติมต่างๆ ผู้เขียนจะกล่าวไว้ช่วงท้ายนะครับ เราเริ่มขั้นตอนการ Convert กันเลยดีกว่าครับ ขั้นตอนแรก : เตรียมข้อมูลให้พร้อม 1. เตรียม solution ตัวเก่าของเราให้พร้อม (ในที่นี้เราใช้ solution ของ Visual Studio 2005 ชื่อ GSMISII ) รูปที่ 1 Folder Project Solution Visual Studio 2005 รูปที่ 2 ไฟล์ Project…
>> Read More <<
wanwarang.j
ความเดิมตอนที่แล้ว… ผู้เขียนได้ทิ้งท้ายไว้เกี่ยวกับเรื่องการใช้งาน LINQ ในการจัดการข้อมูลในเบื้องต้น ได้แก่ วิธีการดึงข้อมูลโดยทั่วไป(Select) การดึงข้อมูลแบบมีเงื่อนไข(Where) และการเรียงลำดับ(OrderBy) เป็นต้น หากใครที่ยังไม่เคยอ่านบทความที่แล้ว และต้องการศึกษาในส่วนดังกล่าวสามารถหาอ่านได้จากลิงค์ “การใช้ LINQ ในการจัดการข้อมูลอย่างง่าย สำหรับมือใหม่(Ep.1)” เพื่อเพิ่มความเข้าใจพื้นฐานในการใช้งานเบื้องต้น LINQ เพิ่มเติม และสำหรับในบทความนี้ ผู้เขียนจะขอพูดถึงการใช้งาน LINQ ในส่วนอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำงานทั่วไป ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้พัฒนาที่มีความสนใจในการใช้งาน LINQ จัดการข้อมูล ดังนี้ การคำนวณค่าร่วม/นับจำนวน ตัวอย่างที่ 1 : การคำนวณค่าผลรวมของฟิลด์ที่ดึงข้อมูลโดยใช้เมธอด Sum decimal sumLineTotal = (from od in orderdetailscollection select od.LineTotal).Sum(); หรือ decimal sumLineTotal = orderdetailscollection.Sum(od => od.LineTotal); คำอธิบาย : จากตัวอย่างข้างต้น เป็นการดึงข้อมูลโดยมีการคำนวณค่าผลรวมที่ได้จากการดึงข้อมูลทั้งหมดในฟิลด์ LineTotal ผ่านเมธอด Sum…
wachirawit.j
เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2015 ผู้พัฒนา Bootstrap ได้เปิดตัว Bootstrap 4 Beta ออกมาให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ได้ทดลองใช้งานกัน โดยได้มีการแก้ไข bug ที่เจอในเวอร์ชั่น 3 และเพิ่มเติมความสามารถต่างๆ เข้าไป ทำให้การพัฒนาเว็บไซต์สามารถทำได้ง่าย และเป็นที่น่าสนใจได้มากขึ้น โดยในเวอร์ชั่นนี้มีการปรับปรุงจากเวอร์ชั่น 3 ค่อนข้างเยอะ แต่ที่เด่นๆ ได้แก่ ใช้ Sass แทน Less ทำให้ compile ได้เร็วขึ้น ข้อดีของการใช้ Sass คือการมี community ขนาดใหญ่เป็นตัวช่วยสำหรับนักพัฒนาในการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม หรือขอความช่วยเหลือต่างๆ จาก community ได้ ปรับปรุง Grid System ให้รองรับกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น สนับสนุนการใช้งาน flexbox grid system และ component ใช้ Card component แทนการใช้ wells,…
worapot.k
สำหรับบทความนี้ จะนำเสนอข้อจำกัดและข้อควรระวังในการใช้งานคำสั่ง SELECT บนฐานข้อมูล Oracle ซึ่งประสบมาจากการใช้งานจริงสองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกจะเป็นข้อจำกัดในการใช้เงื่อนไข IN (value1,value2,value3,…) ในคำสั่ง SELECT ส่วนอีกเรื่องจะเป็นเรื่องของข้อควรระวังในการใช้ IN ร่วมกับเงื่อนไขที่เป็น subquery ในคำสั่ง SELECT เช่นกัน การใช้คำสั่ง SELECT และเงื่อนไข IN นั้น เป็นรูปแบบคำสั่งพื้นฐานแบบหนึ่งที่นักพัฒนาที่ทำงานคลุกคลีกับฐานข้อมูลส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยรูปแบบที่เรามักจะใช้งานกันบ่อย คือ รูปแบบที่ 1 รูปแบบ SELECT * FROM TABLE1 WHERE FIELD1 IN (value1,value2,value3,…) โดยผลลัพธ์จะเป็นรายการข้อมูลในตาราง TABLE1 ที่ค่าของข้อมูลใน FIELD1 มีอยู่ใน value1,value2,value3 ,… รูปแบบที่ 2 คล้ายกับรูปแบบที่ 1 นั่นเอง แต่จะเป็นการใช้ subquery แทนที่ (value1,value2,value3,…) …
suriporn.a
การเข้ารหัส (Encrypt) ไฟล์ Web.config ถือเป็นวิธีการหนึ่งในการช่วยเพิ่มความปลอดภัยและช่วยป้องกันการถูกโจมตีจากผู้บุกรุกในการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล เนื่องจากไฟล์ web.config เป็นที่รวมการ config ค่าต่างๆ ของ web application ของเราไว้ เช่น ข้อมูลรหัสผ่านสำหรับการเชื่อมต่อฐานข้อมูล (ConnectionString), AppSetting, คีย์ API หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ โดยบทความนี้นำเสนอการเข้ารหัสและการถอดรหัส (Encrypt/Decrypt) ไฟล์ Web.config ด้วยคำสั่งผ่าน Command line โดยใช้ tools ที่มากับ .NET Framework ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะต้องมีการติดตั้ง .NET Framework ไว้อยู่ก่อนแล้ว สำหรับข้อมูลในไฟล์ Web.config จะถูกแบ่งออกเป็น section หลายๆ section ด้วยกัน โดยผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างการ Encrypt/Decrypt ข้อมูลในส่วนของ section<connectionString>ดังนี้ ก่อนทำการ Encrypt Web.config ที่ section <connectionStrings> ซึ่งเก็บข้อมูล…
ก่อนที่จะไปถึงในส่วนของวิธีการจัดการข้อมูลด้วย LINQ เรามาพูดถึงที่มาที่ไปอย่างคร่าวๆ ของ LINQ กันสักเล็กน้อยนะคะ LINQ มีชื่อเต็มว่า “Language-Intergrated Query” ถือเป็นภาษาใหม่ที่ขยายความสามารถในการเขียนโปรแกรมโดยเลียนแบบภาษา SQL จึงทำให้มีการใช้งาน keyword ที่คุ้นเคยกันดีในคำสั่ง SQL เช่น select from where เป็นต้น ซึ่งมีความนิยมกับการทำงานด้านฐานข้อมูลมากขึ้นในปัจจุบัน และได้ถูกนำมารวมกับภาษาพัฒนาโปรแกรมทำให้การพัฒนาโปรแกรมควบคุมข้อมูลให้อยู่ในแนวการเขียนโปรแกรมเดียวกัน และช่วยอำนวยความสะดวกรวมถึงเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้พัฒนาในการจัดการข้อมูลมากยิ่งขึ้น โดย LINQ นี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ .NET Framework 3.5 ที่มากับ Visual studio 2008 ซึ่งจะมีการติดต่ออยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ ข้อมูลประเภท Object ข้อมูลประเภทฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันไป จึงแยกออกเป็น LINQ to Dataset LINQ to SQL LINQ to Entity ข้อมูล XML โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะขอแยกวิธีการจัดการข้อมูลออกเป็นเรื่องๆ ที่ถือเป็นพื้นฐานที่มือใหม่ควรรู้…
จากบทความที่แล้ว ผู้เขียนได้เขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องวิธีการกำหนดจุดพิกัดบนแผนที่กันไปบ้างแล้ว ในหัวข้อ “ทำอย่างไรให้สามารถกำหนดจุดพิกัดบนแผนที่ Google map แบบจุดเดียวและหลายจุดจากฐานข้อมูลได้ด้วย ASP.NET C#” สำหรับในบทความนี้ผู้เขียนจึงขอพูดถึงในส่วนของการดึงค่าละติจูด ลองจิจูดของสถานที่ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการแสดงผลพิกัดบนแผนที่ ซึ่งเดิมทีแล้วนั้น ผู้ใช้อาจต้องค้นหาข้อมูลพิกัดดังกล่าวจาก Google map เองและนำพิกัดดังกล่าวมากรอกลงฐานข้อมูลหรือมาระบุเพื่อการแสดงพิกัดนั้นๆในการเขียนโปรแกรม คงเป็นการดี หากการแสดงผลพิกัดจากฐานข้อมูลนั้น จะมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการดึงค่าละติจูด และลองจิจูดโดยการกรอกข้อมูลชื่อสถานที่ลงไปเพื่อใช้ในการค้นหา ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์และทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นในการนำพิกัดเหล่านั้นไประบุบนแผนที่นั่นเอง โดยการดึงค่าพิกัดละติจูด-ลองจิจูดของสถานที่ สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับการนำไปประยุกต์ใช้ ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนขอแนะนำ 2 วิธี ดังนี้ การเรียกใช้เซอร์วิสของ Google Geocoding API โดยการส่งพารามิเตอร์เป็นที่อยู่ของสถานที่ดังกล่าว ฝั่ง C# private void getLatAndLong() { try { ////เป็นการกำหนด url ที่จะใช้ในการเรียกเซอร์วิสของ Google Geocoding API โดยมีการส่งค่าพารามิเตอร์เป็นข้อมูลที่อยู่ string url = “http://maps.google.com/maps/api/geocode/xml?address=” + txtLocation.Text…
theerayuth.p
Download โปรแกรม PDFtk [ https://www.pdflabs.com/tools/pdftk-the-pdf-toolkit/ ] Install PDFtk ใช้ editor ซักตัวเขียน Code Powershell ที่ผมใช้คือใช้ Visual Studio 2013 และ Download PowerShell Tools for Visual Studio 2013 [ https://visualstudiogallery.msdn.microsoft.com/f65f845b-9430-4f72-a182-ae2a7b8999d7 ] ที่ใช้งานตัวนี้เพราะ Tools จะมี InteliSense ให้ไม่ต้องจำคำสั่ง PowerShell ทั้งหมด ก็ทำให้สะดวกดี Code ก็ไม่มาก #กำหนดที่เก็บผลการ$File Path = ‘E:\tmp\result.txt’ -f $env:Path; #เป้าหมาย diretory ที่เก็บ file PDF วนคำนาณแต่ละ file dir e:\ *.pdf | foreach-object{ $pdf = pdftk.exe $_.FullName dump_data $NumberOfPages…
cheerasak.s
การแสดงผลในรูปแบบกราฟสำหรับเว็บแอพลิเคชัน ในปัจจุบันนั้น มีเครื่องมือ หรือเฟรมเวิร์ค มากมายให้เลือกใช้งาน ซึ่งสำหรับการเลือกใช้งานก็แล้วแต่ความเหมาะสมกับเครื่องมือ เทคโนโลยี ของเว็บนั้นๆ หรืออาจจะแล้วแต่ความถนัดของผู้พัฒนาเอง สำหรับ Chart.js นั้นเป็นเฟรมเวิร์คที่สร้างด้วยภาษา JavaScript ดังนั้นคุณสมบัติที่พ่วงมาด้วยคือการทำงานแบบ AJAX อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในบทความนี้จะเป็นการนำเอามาใช้ร่วมกับเว็บแอพลิเคชัน ที่พัฒนาด้วย ASP.NET โดยวิธีการส่งข้อมูลในรูปแบบ JSON ผ่าน Web Services และทำการแปลงข้อมูล JSON ให้อยู่ในรูปแบบของ Object ที่มีโครงสร้างตรงตามที่ Chart.js ต้องการ เพื่อนำไปใช้แสดงผลในรูปแบบกราฟแท่ง กราฟเส้น กราฟวงกลม ผ่าน HTML Tag ที่มีชื่อว่า Canvas ซึ่งมีการเพิ่มส่วนแสดงความหมายของสีต่างๆในกราฟ ที่ได้พัฒนาเพิ่มเติมขึ้นมาอีกด้วย ในบทความนี้จะยกตัวอย่างการสร้างกราฟใน 3 รูปแบบ และมีการกำหนดค่า Option ในการแสดงผลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น สามารถอ่านวิธีการใช้งานเต็มรูปแบบได้ที่ http://www.chartjs.org/docs ทำการ Include ไฟล์…