• ASP.NET MVC Part3: สร้าง Model ด้วย Entity Framework


    จากบทความก่อนหน้า ซึ่งอาจจะนานมากพอสมควรที่ได้แนะนำ MVC ไปไว้แล้วในเบื้องต้น (ASP.NET MVC Part 1 : ทำความรู้จักกับ ASP.NET MVC และ ASP.NET MVC Part2: เริ่มต้นสร้างเว็บด้วย MVC with Bootstrap) บทความนี้จะมาแนะนำในส่วนของการสร้าง Model ในการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ในการ query และจัดการกับข้อมูล เพื่อส่งให้กับ Controller และ View เรียกใช้ในลำดับต่อไป Model คือ ส่วนหนึ่งในองค์ประกอบของการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันตามรูปแบบ MVC Framework (Model-View-Controller) โดยจะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ Business Model หรือส่วนที่ติดต่อกับฐานข้อมูล โดยบทความนี้นำเสนอการนำเครื่องมือ Entity Framework มาใช้ในการสร้างและจัดการ Model ในการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล สำหรับการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันตามรูปแบบ MVC Framework Entity Framework Entity Framework คือ tools ที่ทำหน้าที่จัดการกับฐานข้อมูล โดยแนวคิดของ…

    >> Read More <<

  • เล่าเรื่อง KM การใช้งานโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ ตอน การทำวิดีโอสื่อการสอนง่าย ๆ


    มีเพื่อน ๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งที่เป็น ผู้ดูแลระบบ และ อาจารย์ที่ให้ความสนใจ จำนวน 20 คน ผู้นำในการแลกเปลี่ยนฯในครั้งนี้คือ คุณคณกรณ์ หอศิริธรรม ศูนย์คอมพิวเตอร์ ม.อ. ได้นำความรู้จากการปฏิบัติจริงมาถ่ายทอดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มด้วยแนะนำการบันทึกวิดีโอด้วย Hangouts on Air ผู้เรียนทุกคนใช้ PSU GAFE (Google Apps For Education) account ซึ่งก็คือ PSU Email ที่ใช้อยู่และได้ผ่านขั้นตอน Password Setting (https://webmail.psu.ac.th/src/resetpassword.html) ในหน้าเว็บ https://webmail.psu.ac.th/src/login.php แล้ว แต่อาจใช้ gmail account ที่มีอยู่ก็ได้ โดยเริ่มต้นที่ไอคอนรูป Google+ เมื่อมีไฟล์ presentation พร้อม (เช่น Microsoft Powerpoint เป็นต้น) ก็ทำการ share เข้ามาใน hangouts…

    >> Read More <<

  • Spam 14/1/59


    จดหมายหลอกลวง โดยมันหลอกเอารหัสผ่านจากคนในของเราไป แล้วเข้ามาส่งจาก PSU Webmail ระบบตรวจสอบพบพฤติกรรมผิดปรกติ และทำการบังคับเปลี่ยนรหัสผ่านผู้ใช้ไปแล้ว 3 ราย ตั้งแต่ 1 นาทีแรกที่ทำการแล้ว ที่ยังหลงเหลือ และได้รับอยู่ มักจะมาจาก Mail Group ที่เปิดให้ส่งถึงผู้รับในกลุ่มโดยตรง โดยที่ผู้ดูแลประจำกลุ่มไม่ตรวจสอบก่อนกระจายครับ เรียนมาเพื่อทราบ

    >> Read More <<

  • การเรียกใช้งานเมธอดในฝั่งเซิร์ฟเวอร์/เว็บเซอร์วิสแบบ Ajax ด้วย jQuery (C#)


              ก่อนจะพูดถึงวิธีการเรียกใช้งานเมธอดในฝั่งเซิร์ฟเวอร์/เว็บเซอร์วิสแบบ Ajax ด้วย jQuery ผู้เขียนขอเกริ่นนำเกี่ยวกับที่มาที่ไปเกี่ยวกับแนวคิดแบบ Ajax เพื่อให้ผู้อ่านบางท่านที่ยังอาจงงๆได้ทำความเข้าใจเสียก่อน ว่าโดยปกติแล้วนั้น ในการพัฒนาเว็บไซต์(Web application)ของ ASP.NET จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Client side และ Server side ซึ่งการทำงานในส่วนของ Client side จะหมายถึงส่วนของ browser หรือหน้าจอการทำงานของผู้ใช้ เช่น Google Chrome Firefox และ Internet explorer ส่วนในฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะมีการรับคำร้องขอ(request) จากฝั่ง Client ทำการประมวลผลและส่งค่าผลลัพธ์คืนกลับมายังฝั่ง Client อีกครั้งเพื่อให้ผู้ใช้เห็นผลลัพธ์การตอบกลับนั้นได้ ซึ่งโดยปกติแล้วนั้นการพัฒนาจะประกอบด้วยโค้ด 2 ส่วน คือ Server-side code ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของการทำงานในการติดต่อไปยังฝั่งเซิร์ฟเวอร์ และถูกนำมาใช้ในการพัฒนา Web application ซึ่งใน ASP.NET นั้นนับว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจะมีการใช้งานผ่านทาง .NET Framework…

    >> Read More <<

  • ฟังก์ชัน WMSYS.WM_CONCAT และการเปลี่ยนแปลงเมื่ออัพเกรดไปใช้ Oracle 12c


    ฟังก์ชัน WMSYS.WM_CONCAT นักพัฒนาบางท่านที่พัฒนาระบบบนฐานข้อมูล Oracle 10g หรือ 11g อาจจะผ่านตาหรือเคยใช้งานฟังก์ชัน  WMSYS.WM_CONCAT โดยฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการนำข้อมูลในฟีลด์เดียวกัน แต่อยู่ต่างเร็คคอร์ดมาเชื่อมต่อกันเป็นข้อมูลเร็คคอร์ดเดียว ในที่นี้จะยกตัวอย่างจากตารางข้อมูลทดสอบ ชื่อว่าตาราง STATIONERY ซึ่งเก็บข้อมูลเครื่องเขียน โดยแยกเป็นสี และระบุจำนวนของเครื่องเขียนแต่และชนิดไว้ ดังนี้   ทดลองใช้คำสั่ง SELECT แบบปกติ ด้วยคำสั่ง SELECT WMSYS.WM_CONCAT(COLOR) COLOR_LIST FROM STATIONERY; ผลลัพธ์ที่ได้   แต่ในเง่การใช้งานส่วนใหญ่ มักจะต้องการแสดงข้อมูลสรุปเป็นกลุ่ม เช่น จากตัวอย่างนี้ ถ้าต้องการแยกข้อมูลสรุปเป็นกลุ่มตามชนิดเครื่องเขียน ว่าเครื่องเขียนแต่ละชนิดมีสีอะไรบ้าง ซึ่งก็สามารถทำได้โดยการเพิ่มการ GROUP BY ตามฟีลด์ STATIONERY เข้าไป ดังนี้ SELECT STATIONERY, WMSYS.WM_CONCAT(COLOR) COLOR_LIST FROM STATIONERY GROUP BY STATIONERY; ผลลัพธ์ที่ได้   หรือหากต้องการข้อมูลสรุปตามสีของเครื่องเขียน ว่าแต่ละสีมีเครื่องเขียนชนิดใดอยู่บ้าง คำสั่งที่ใช้งานก็จะเป็น SELECT…

    >> Read More <<

  • สร้างเอกสาร PDF ด้วย iTextSharp


    ที่มา บ่อยครั้งที่ในชีวิตของโปรแกรมเมอร์จะต้องพบกับความต้องการของลูกค้าที่อยากได้รายงานหรือเอกสารที่สามารถสร้างได้จากระบบ แน่นอนว่าประเภทเอกสารที่ต้องการย่อมมี PDF บรรจุไว้แน่นอนเพราะเป็นเอกสารที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ เครื่องมือสำหรับการสร้างเอกสารประเภทดังกล่าวมีอยู่มากมาย แต่จุดสำคัญนั้นอยู่ที่การเลือกใช้งานซึ่งย่อมแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่นในบทความนี้ ลูกค้าต้องการเอกสารเพื่อพิมพ์เป็น hard copy ไว้ที่หน่วยงาน ยังไม่ถึงขั้นรายงานนะครับ แค่เอกสารบันทึกข้อความ ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่เลือกใช้เครื่องมือที่เก่งกาจเช่น Crystal report หรือ Reporting service และทำการค้นหาเครื่องมือที่มีน้ำหนักเบา (เวลาใช้ไม่กินทรัพยากรเยอะ) แต่ตอบสนองความต้องการได้ในขณะนั้น รวมไปถึงการมี documentation ที่ดี เข้าใจง่าย ปฏิบัติตามได้ไม่ยาก ซึ่งสุดท้ายก็มาเจอกับเครื่องมือที่ชื่อ iTextSharp คุณสมบัติของเครื่องมือ iTextSharp เป็นผลงานของ iText ซึ่งทำมาเพื่อการสร้างเอกสาร PDF บน C# platform โดยเฉพาะ ในขณะเดียวกันก็มีเครื่องมือแบบเดียวกันสำหรับ platform อื่น ๆ ด้วย เราจึงจะได้เห็นตัวอย่างใน documentation ของเขาเป็นภาษา Java ความสามารถของ iTextSharp คือการสร้างเอกสาร PDF…

    >> Read More <<

  • การอัปโหลดไฟล์หลาย ๆ ไฟล์พร้อมกันด้วย Dojo


    ที่มา การ upload แฟ้มข้อมูล (File) เป็นกิจกรรมที่อยู่คู่กับ Web application มาเนิ่นนาน ยิ่งเมื่อการพัฒนา Web application เข้าสู่ยุคสมัยของ Web 2.0 และเป็น Web 3.0 ในยุคปัจจุบันก็ยิ่งเกิดเครื่องมือต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการ upload ไฟล์มากขึ้นรวมไปถึงความสามารถในการอัปโหลดหลาย ๆ ไฟล์พร้อมกัน (Multi-File Uploading) ณ เวลานี้มีเครื่องมือมากมายสำหรับนักพัฒนา Web application  ผู้อ่านอาจมีโอกาสได้ใช้งานเครื่องมือจากบางค่ายบ้างแล้ว แต่ในบทความนี้ผู้เขียนจะแนะนำวิธีการใช้งานเครื่องมือในการทำให้ Web application ของเราสามารถรองรับความต้องการในการอัปโหลดไฟล์หลาย ๆ ไฟล์ได้พร้อมกันตัวหนึ่งชื่อ HTML5 Multi-File Uploader ของ Dojo Toolkit ซึ่งทำงานได้ตามความต้องการของผู้เขียนดังนี้ ความต้องการ สามารถ upload file ได้หลาย ๆ ไฟล์พร้อมกัน upload file ด้วย…

    >> Read More <<

  • ข้อแตกต่างระหว่างการลงนามเอกสารด้วย Electronic Signature กับ Digital Signature


    ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานภาครัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางด้วยความอยากรู้ว่าหน่วยงานอื่นๆ เขาพัฒนาระบบนี้กันไปถึงไหนแล้ว เพื่อจะได้นำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงระบบของม.อ.เราต่อไป จากการดูงานที่ผ่านมาพบว่า ระบบที่มีการใช้งานกันส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพัฒนาให้รองรับงานด้านสารบรรณอย่างเต็มรูปแบบสักเท่าไหร่ บางที่ยังเป็นแค่ระบบที่ใช้ในการเก็บเอกสารแต่ยังไม่สามารถติดตามการดำเนินการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเอกสารเรื่องนั้นๆ ได้ ซึ่งต่างจากของม.อ. เราที่สามารถติดตามเส้นทางการดำเนินการต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด และเป็นที่ทราบกันดีว่าวัตถุประสงค์หลักของระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์คือ การดำเนินการต่างๆ ด้านงานสารบรรณทั้งหมดในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้งานกระดาษ นั่นหมายความว่าเป้าหมายที่สำคัญของระบบนี้คือการดำเนินการทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้ 100% โดยไม่มีการใช้กระดาษเลย แต่ในปัจจุบันระบบยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ โดยเฉพาะในเรื่องของการลงนามเอกสาร เนื่องจากผู้ใช้ยังไม่มั่นใจรูปแบบการลงนามเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่าที่ควร จึงเลือกที่จะพิมพ์เอกสารเป็นกระดาษแล้วลงนามกันด้วยปากกาเช่นเดิม อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้กำลังจะได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีกฎหมายออกมารองรับ และสามารถใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้แล้ว จากการเดินทางไปศึกษาดูงานพบว่ามีระบบของสถาบันแห่งหนึ่งในภาคกลาง มีความสามารถในการลงนามเอกสาร โดยผู้ใช้จะต้องใช้รหัสผ่านที่ 2 เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งหนึ่งก่อนการลงนาม จากนั้นระบบจะดึงรูปภาพลายเซ็นของผู้ลงนามมาแปะลงในเอกสารตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ข้อดีของวิธีการนี้คือในเอกสารจะมีรูปภาพลายเซ็นแปะอยู่ ทำให้ผู้อ่านคนอื่นๆ รับทราบได้ทันทีว่าใครเป็นคนลงนาม แต่ข้อเสียคือ รูปภาพลายเซ็นดังกล่าวสามารถคัดลอกแล้วนำไปแปะในเอกสารอื่นๆ ได้ง่าย จึงทำให้การลงนามแบบนี้ยังขาดคุณสมบัติด้านความปลอดภัย จากการศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ พบว่าวิธีการในการลงนามเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นมี 2 วิธีหลักๆ คือ  Electronic signature และ Digital Signature ซึ่งมีความหมายและข้อแตกต่างกันดังนี้ Electronic Signature เป็นการทำสัญลักษณ์ หรือลายเซ็นที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยบุคคล เพื่อเป็นการยืนยันหรือลงนามในเอกสาร สัญลักษณ์ที่นิยมใช้กันได้แก่…

    >> Read More <<

  • Resource Governor แนวคิดการจัดการทรัพยากรใน SQL Server 2014


          Resource Governor เป็นแนวคิดใน SQL Server ซึ่งมีมาให้ใช้ตั้งแต่ SQL Server 2008 โดยมีความสามารถในการจัดการ CPU และ Memory ให้พอเหมาะกับการใช้งานของแต่ละฐานข้อมูลได้ แต่ใน SQL Server 2014 ได้มีเพิ่มเติมการจัดการ I/O เพิ่มเข้ามาทำให้ผู้ดูแลสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้       หากจะว่าไปแล้วในการ Tuning ฐานข้อมูลนั้นส่วนใหญ่จะเน้นการทำงานไปที่ CPU และ Memory เป็นส่วนใหญ่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถปรับแต่งให้ประสิทธิภาพในการทำงานของฐานข้อมูลดีขึ้นได้ ก็คือ I/O นี่เอง ซึ่งทำให้ SQL Server 2014 มีคุณสมบัติในการจัดการทรัพยากรที่หลากหลายและครบถ้วนมากขึ้น ในการจัดการ Resource Governor นั้น มีสิ่งสำคัญที่เราควรรู้ 3 สิ่ง ดังนี้ Resource Pool หลังจากมีการติดตั้ง SQL Server เสร็จสิ้น ระบบจะสร้าง Resource Pool ตั้งต้นขึ้น…

    >> Read More <<