จับภาพหน้าเว็บไซต์ ง่าย ๆ ฟรี ๆ ฟิน ๆ ด้วย FireShot Lite – Capture Page (ดูปากณัชชานะคะ แค็พ-เฉอะ)

บทความนี้ว่ากันด้วยเรื่องของ Extension บน Chrome กันอีกซักตัวนะคะ คราวนี้นำเสนอ Extension ที่จะช่วยในการ capture หน้าเว็บ ซึ่ง Easy to use มาก ๆ และ Free forever กันไปเลยค่า นั่นก็ คือ FireShot Version Lite นั่นเองงงงง เย่ ๆ เอ้า ปรบบบมือรัว ๆ สิคะ รออัลลลลไล

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ (หยุดรัวแทบไม่ทัน) สำหรับ Version Lite ที่เราจะติดตั้งใช้งานกันวันนี้นั้น อาจไม่ได้มี feature ต่าง ๆ ที่จะดำเนินการกับภาพที่เรา capture มาได้มากมาย เช่น Custom watermarks Advanced Editor: Undo/Redo, Resize, Crop and Save features หรือ Microsoft OneNote support และบลา ๆ นะคะ ซึ่งหากเราต้องการใช้ feature ที่มีอีกมากมายเหล่านี้ได้นั้น ก็ต้อง Pay ให้กับ FireShot Version Pro กันค่ะ ตอนนี้มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 (เอ้ย ไม่ใช่ Watsons Boots หรือ TOPS น่ะจ๊ะ) โปรโมชั่นลดราคาเหลือ US$ 39.95 อยู่ค่ะ

ช้าก่อน !! อย่าเพ่งรีบสอย เพราะผู้เขียนคิดว่า Version Lite ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วละค่ะ อย่าง User ท่านไหนใช้งานเว็บไซต์แล้วเกิดเจอ error ครั้นจะโทรมาแจ้ง Support แล้วแจ้งรายละเอียด error ที่ยาว (มาก) นั้นว่าอย่างไร ก็คงลำบากไม่น้อย หรือเมื่อโทรมาแจ้ง Support ว่าใช้งานแล้ว error ส่วนใหญ่ Support ก็จะแนะนำให้ส่งภาพหน้าจอที่ว่า error นั้นมาเพื่อจะได้ตรวจสอบให้

บางทีก็ทำม่ายโถ๊กกกก แต่บางคนก็สบายมากจ้า กดปุ่ม Print Screen หรือไม่ก็ใช้ Snipping Tool ที่มาพร้อมกับ Windows จับภาพ แต่ก็ต้องเสียเวลาในการวางภาพ แนบไฟล์ ส่งเมล กันอี๊กกก

แต่ต่อจากนี้หากใช้งาน FireShot อะไรก็ง่ายๆ ก็สะดวกสบายมากขึ้นแล้วละค่า เพราะสามารถ capture หน้าเว็บปั๊บ ก็ส่ง Email ได้เลย (Account ผู้ส่งต้องเป็น Gmail) หลังจากนั้นโทรแจ้ง Support นิดหน่อย “ส่งภาพหน้าจอ error มาแล้วน่ะคะ/น่ะครับ” จบปิ๊ง สวย ๆ ทั้ง User และ Support พอคุยกันเข้าใจ อะไรๆ ก็ดีไปโหม๊ดดด 555+

ของฟรีที่ดีก็มีในโลกนะเออ เอ้า ปรบมือรัว (ต่อ) สิคะ รออัลลลลไล และขอขอบคุณผู้พัฒนานะคะ ฮี่ ๆ

ปล. ส่วนใครที่อยากทราบข้อมูลของ Version Pro กับ Lite ว่ามี Features อะไร แตกต่างกันบ้าง มากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ลองเข้าไปดูข้อมูลเปรียบเทียบที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ https://getfireshot.com/features.php

เกริ่นกันซะยาวยืด ลิงหลับทั้งฝูงแย้ว มา ๆ ค่ะ สาระมีอยู่จริง มารู้จัก FireShot กันก่อนที่จะเริ่มใช้งานค่ะ เริ่มจากความสามารถในการจับภาพหน้าเว็บไซต์ก่อน ซึ่ง FireShot นั้นสามารถจับภาพหน้าเว็บได้ 3 รูปแบบด้วยกัน คือ entire page ,visible part และ selection ค่ะ อธิบายแต่ล่ะรูปแบบสั้นๆ ง่าย ๆ (ขอให้สั้นจริงๆ เห๊อะ) ดังนี้

Capture entire page จับภาพเว็บไซต์แบบยาวทั้งหน้า

Capture visible part จับภาพเว็บไซต์เฉพาะส่วนที่เรามองเห็นอยู่บนหน้าจอ เหมือนกับการกดปุ่ม Print Screen นั่นแหละค่ะ แต่แตกต่างกันที่ภาพที่ได้จากการใช้ FireShot นั้นจะเป็นแค่หน้าเว็บล้วน ๆ ไม่มีส่วนอื่นบนหน้าจอ (Browser /OS) ปนในภาพเลย

Capture Selection จับภาพเว็บไซต์เฉพาะส่วนที่เราต้องการ เหมือนกันการใช้ Snipping Tool ของ Window แต่ต่างกันที่ FireShot จะจับภาพได้เฉพาะหน้าเว็บไซต์เท่านั้นค่ะ

ส่วนการดำเนินการกับภาพหน้าเว็บที่ได้จากการ capture ด้วย FireShot Version Lite นั้น มีดังนี้ ค่ะ

Save as Image บันทึกเป็นไฟล์รูปภาพชนิด PNG

Save to PDF บันทึกเป็นไฟล์ PDF

Email ส่งภาพหน้าเว็บที่ capture ไปยังอีเมลที่ต้องการจาก Account Gmail ของเรา โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้แนบเป็น PDF file หรือแนบเป็นรูปภาพชนิด PNG / JPG

Copy to clipboard copy ภาพหน้าเว็บที่ capture เพื่อใช้ในโปรแกรมอื่นต่อ ด้วยการคลิกขวาบนรูป แล้วเลือก copy image ค่ะ และสุดท้าย

Print สั่งพิมพ์ภาพหน้าเว็บที่ capture ไปยัง Printer ของเรานั่นเองงงงค่า

เป็นยังไงละคะ FireShot นี้เจ๋งใช่เล่น ทั้งความสามารถที่มี แถมการันตีด้วยยอดผู้ใช้งานที่มีกว่า 2 ล้านราย หรูหราหมาเห่ามาก ๆ (อ่ะ น้องณัชชาม่ะพอ เนสตี้ สไปร์ทซี่ ก็มาเอี่ยวววว) 555+ เริ่มการติดตั้ง FireShot กันดีกว่านะคะ

ติดตั้ง FireShot ให้กับ Chrome

1.ไปที่ลิงก์ https://chrome.google.com/webstore/category/extensions ค้นหาส่วนขยาย FireShot และกดปุ่ม Add to Chrome เพื่อเริ่มการติดตั้ง FireShot ให้กับ Chrome

2.Chrome แสดงกล่องยืนยันการติดตั้ง FireShot กดปุ่ม Add extension เพื่อยืนยันการติดตั้ง และรอจนกว่าจะสิ้นสุดการติดตั้ง

เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว จะมีปุ่ม FireShot ที่มุมขวาบนของ Chrome โผล่ขึ้นมาเพื่อให้กดใช้งานค่ะ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย (จบปิ๊ง!)

ใช้งาน FireShot กัน

หากเราไปยังเว็บไซต์ใดแล้วอยากจะ capture หน้าจอเว็บไซต์นั้น ๆ ให้กดปุ่ม FireShot ที่มุมขวาบนของ Chrome เมื่อกดปุ่มแล้ว จะพบกับเมนูย่อยต่าง ๆ ซึ่งก็คือรูปแบบการ capture ทั้ง 3 รูปแบบของ FireShot ที่ได้อธิบายไปแล้วในตอนต้นนั่นเองค่ะ

หรือจะคลิกขวาบนหน้าเว็บไซต์ที่เราต้องการ capture ก็ได้นะคะ แล้วกดลือก “Take Webpage Screenshots Entirely – FireShot” ต่อด้วยเลือกเมนูย่อย ตามรูปแบบการ Capture ที่เราต้องการค่ะ

เรามาลอง capture แต่ละรูปแบบกันดูนะคะ ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร เริ่มจากจับภาพเว็บไซต์แบบยาวทั้งหน้า โดยคลิก “Capture entire page” นะคะ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นภาพหน้าเว็บไซต์ยาว ๆ ทั้งหน้าแบบนี้เลยค่า

มาต่อกันที่จับภาพเว็บไซต์เฉพาะส่วนที่เรามองเห็นอยู่บนหน้าจอ ให้คลิก “Capture visible part” นะคะ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นภาพของเว็บไซต์เฉพาะส่วนที่เราเห็นบนหน้าจอของเราค่ะ

แต่ถ้าหากเราต้องการจับภาพเว็บไซต์เฉพาะส่วนที่เราต้องการ นั้น ให้คลิก “Capture Selection” นะคะ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นภาพของเว็บไซต์เฉพาะส่วนที่เราได้เลือกตัดมาค่า

เมื่อเรา capture เว็บไซต์แล้ว รอแว๊บนึง FireShot ก็จะแสดงหน้า Save Screenshot ขึ้นมา เพื่อให้เราดำเนินการกับภาพนั้น ๆ ต่อได้ โดยในหน้านี้ผู้เขียนขออธิบายแยกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆนะคะ

อธิบายดังนี้ค่ะ

  • ส่วนแสดงภาพเว็บไซต์ เป็นส่วนที่จะแสดงภาพของเว็บไซต์ที่ได้จากการ capture ตามรูปแบบที่เราเลือก capture มานั่นเอง และ
  • ส่วนการดำเนินการกับภาพ เป็นส่วนที่ให้เราดำเนินการต่อกับภาพเว็บไซต์ที่ capture มา โดยสามารถเลือกได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร  สำหรับ FireShot Version Lite สามารถดำเนินต่อกับภาพอย่างไรได้บ้างนั้น ก็ตามที่ผู้เขียนได้อธิบายไปแล้วตอนต้นนั่นแหละค่ะ (Save as Image, Save to PDF, Email, Copy to Clipboard และ Print)

สำหรับวันนี้ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างการดำเนินการกับภาพแบบที่ capture มาปุ๊บ ก็แนบส่ง Email เลยนะคะ ส่วนแบบอื่น ๆ นั้น ให้ลองใช้งานกันดูนะคะ ง่ายมาก ๆ สบายบรื๋ออแน่นวลค่ะ

มาเริ่มกันเลย!

ที่หัวขัว Email (Account ผู้ส่งต้องเป็น Gmail นะคะ) ให้เลือกว่าเราจะแนบภาพเป็นไฟล์ชนิดอะไรไปใน Email ค่ะ ผู้เขียนต้องการแนบเป็น PDF file ก็คลิกเลือก “PDF” ค่ะ

เมื่อคลิกเลือกแล้ว ครั้งแรกที่เราใช้งาน FireShot นั้น FireShot จะแสดงหน้าจอ FireShot – please allow the access to Gmail เพื่อเราขอสิทธิ์ให้กับ FireShot อนุญาตให้ FireShot จับภาพ และเปิดใช้งาน Gmail API  เราก็ Allow ให้เรียบร้อยนะคะ

เมื่ออนุญาตเรียบร้อยแล้ว เราก็จะพบกับหน้าจอของ Gmail ของเราโผล่ขึ้นมา พร้อมหน้าต่างให้เราส่ง Email ค่า (Sign in ไว้ก่อนแล้ว) สิ่งที่เราต้องทำต่อก็แค่ ป้อนชื่อ Email ของผู้รับที่เราจะส่ง Email ไป ป้อน Subject และเนื้อหาของ Email แล้วก็กดปุ่มเพื่อส่ง Email ได้เลยค่า

อ๊ะ !! เดี๋ยวก่อน แล้วไฟล์รูปภาพของเว็บที่จะแนบใน Email ละ ? ไม่ต้องแนบเองแล้วละค่ะ ก็เพราะว่า FireShot เค้าแนบมาให้เราเรียบร้อยแล้วค่า ฟิน ๆ  

และผู้รับก็ได้รับ Email พร้อมไฟล์แนบแบบนี้ เรียบร้อยแล้วค่า Awesome!!

อ้าว ปรบมือรัวๆ กันอีกซักรอบนะคะ ก่อนจะ Say Good Bye แยกย้ายกันไปทำงานที่เรารัก (มาก) และลากันไปก่อนสำหรับบทความนี้นะคะ บุยยยย

อ้อ สำหรับ Browser อื่น ๆ – Edge, Opera, Firefox นั้น ก็สามารถติดตั้ง FireShot ได้เช่นกันนะคะ

(ดูปากณัชชานะคะ อ๊อ-เซิม)

ขอขอบพระคุณ :

https://getfireshot.com
https://dictionary.sanook.com/search/dict-computer/capture
https://ภาษาอังกฤษออนไลน์.com/awesome-translate-pronunciation/
https://www.beartai.com/beartai-tips/176323