Everything are connected together

“ทุกสรรพสิ่งเชื่อมต่อกัน” สวัสดี ผู้อ่านทุกท่านนะครับ นี่คือบทความฉบับปฐมภูมิของผู้เขียน ที่จะนำพาท่านไปพบกับบทความในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้เขียนพยามสรรสร้างบทความนี้เพื่อให้เกิดแนวความคิดที่เรียบง่าย แต่ได้ไอเดีย เพื่อนำไปสร้างนวัตกรรมหรือนำไปประยุกต์ใช้งานกับหน้าที่การงาน ที่เราต่างร่วมกันทำเพื่อองค์กรของเราให้มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป กล่าวถึงหัวข้อที่ผู้เขียนเรื่อง “Everything are connected together” เป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนได้สกัดมาจากงานที่ผู้เขียนปฏิบัติจริงและได้มีการดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่เริ่มตั้งไข่ จนกระทั่งเริ่มยืนและเดินได้ เติบโตขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย ค่อยๆ เพิ่มทักษะในการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ในบทความนี้จะไม่เน้นเนื้อหาในเชิงลึก แต่จะนำเสนอแก่นสาร ที่รวบรวมแนวความคิดของผู้เขียนที่มีต่อการปฏิบัติงาน เพื่อนำเสนอไอดีย และแง่มุมต่าง ๆ ที่มันสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างจากการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านต่อไป ปัจจุบันโลกของเรามีการเปลี่ยนอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีตลอดจนเครื่องมือต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายให้เราเลือกนำมาใช้งาน สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ “ทุกสรรพสิ่งเชื่อมต่อกัน” เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ผู้อ่านคงจะเริ่มคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ในชีวิตประจำวันที่เราใช้ Internet มันเชื่อมโยงทุกสิ่งอย่าง อย่างไรก็ตามในหลาย ๆ มิติของการเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นไปตามธรรมชาติของมัน นั่นคือทุกอย่างล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ผู้เขียนพยามสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริง หากเราจะก้าวไปข้างหน้า จงอย่างไปยึดติด แต่เราควรเลือกที่จะเปลี่ยนให้เหมาะสมไปตามภาวะในความเป็นจริง เรามาเข้าเรื่องที่จะนำเสนอในบทความนี้กัน…. เพิ่งได้เข้าเรื่องนะ OK ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบร้อนค่อย ๆ อ่านไปแล้วกันนะ ^_^ จากการที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมปฏิบัติการ “ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ครั้งที่ 1 (The 1st PSU ICT Workshop) นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทำให้เราได้เชื่อมต่อถึงกัน ในการประชุมครั้งนั้นผู้เขียนได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอ ” แพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนา web app และ mobile app บนสถาปัตยกรรมไมโครเซอร์วิส (Microservices Architecture)” สถาปัตยกรรมของแพลตฟอร์มใหม่ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้ออกแบบขึ้นบนพื้นฐานของสถาปัตยกรรม Microservice ซึ่งทุกสิ่งอย่างเชื่อมต่อกัน แต่ละ Service มีหน้าที่เฉพาะตัว ไม่ยึดติดภาษาที่ใช้พัฒนา แต่เราจะควบคุมให้ทำงานตามที่เราต้องการและสามารถปรับแต่งได้ เพื่องรองรับการเปลี่ยนแปลง นั่นคือภาพโดยรวมของเพลตฟอร์ม การเลือกเครื่องมือ (Tools) ทีนำมาใช้ในการพัฒนาหรือการ Operation ระบบทั้งหมดนั้นมีความสำคัญต่อการปฏิบัติงาน หลักการเลือกเครื่องมือของผู้เขียนมีดังนี้ ตรงตามความต้องการ มีรายละเอียด (Docs) อธิบายชัดเจน มีชุมชน (Community) ที่มีการ update ปัญหาอย่างสมำเสมอ มี Road map ของการพัฒนาที่ชัดเจน มีช่องทางเชื่อมต่อแบบต่างเพลตฟอร์ม (Cross Platform) เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ ผู้เขียนขอนำเสนอเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการบริหารเพลตฟอร์ม ที่สามารถเชื่อมต่อกันโดยไม่ต้องพัฒนาหรือเขียน Code ขึ่นมาใหม่ ตรงนี้จะช่วยให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นเพิ่มขึ้น เครื่องมือที่นำเสนอในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนา ที่ผู้เขียนได้ผ่านกระบวนการทดสอบ และใช้งานจริงแล้ว ขอนำเสนอด้วยภาพด้านล่างเพื่อความเข้าใจอย่างรวดเร็ว จากภาพเครื่องมือที่ใช้นั้นเป็น Open source ที่มาจากต่างค่าย ต่างผู้พัฒนาแต่มันสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว ซึ่งรายละเอียดของเครื่องมือนั้นผู้เขียน ขอให้ข้อมูลจากผู้ให้บริการเลยนะครับซึ่งมีดังนี้ Kong API Gateway เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการ การเข้าถึง APIs จากภายนอกแล้วไปเรียก APIs ภายในโดยใช้หลักการ Reverse proxy ได้อย่างง่าย สะดวก ไม่ต้องเขียน config ให้ยุ่งยากปลอดภัยและรวดเร็ว ในตัว Kong API Gateway นั้น มี Logging UDP/TCP Plugin  ให้เราสามารถส่ง logs ไปบันทึกตามตำแหน่งที่เราต้องการได้ Reference:  https://konghq.com ELK API Analytic เป็นเครื่องมือที่หลายคนน่าจะรู้จักดีและมีบทความดี ๆ ที่ผ่านมาเกี่ยวกับ ELK อยู่ในชุมชนนี้ด้วย เครื่องมือนี้ช่วยวิเคราะห์ปัญหาการเรียกใช้ APIs ตรวจสอบความผิดปกติในการใช้งาน เป็นต้น Reference: https://www.elastic.co Grafana API Monitoring เป็นเครื่องมือสำหรับใช้สร้าง Dashboard / Visualize กราฟ และวิเคราะห์ในเชิงสถิติ โดยตัวมันมี Plugin connection data source หลายแบบ หนึ่งใน data source

Read More »

รวมร่าง Windows กับ Linux ใช้งานในเครื่องเดียวกันแบบเนียนๆ

จุดประสงค์ สามารถใช้งาน Windows กับ Linux ได้ในเครื่องเดียวกันและในเวลาเดียวกันเหมือนเป็นทองแผ่นเดียวกัน แก้ปํญหา Dev / SysAdmin ส่วนใหญ่ที่ต้องใช้ Linux เป็นหลักในการทำงานแต่ต้องเผื่อใจต้องทำงานบน Windows ด้วยในบางเวลา เช่น ทำเอกสาร MS Word ไม่ให้เพี้ยน หรือ Adobe PhotoShop หรือโปรแกรมที่ไม่สามารถทำการติดตั้งลงใน Linux ได้ และที่สำคัญคือการทำงานระหว่างสองระบบต้องไหลลื่นและรวดเร็ว ประหยัด กินทรัพยากรน้อย หากยังนึกภาพไม่ออก สามารถดูวิดีโอนี้ครับ  Windows 10 + Linux Lite (Seamless)  สเปกเครื่อง สามารถใช้บน windows 7, 8, 10 แต่ขอให้มี RAM อย่างน้อย 4 GB จะดีมากถ้า RAM 8 GB แต่ในที่นี้จะเป็นการติดตั้งและใช้งาน Linux บน Windows 10 64 bit  

Read More »

วิธีแก้ไข Excel เปิดไฟล์ CSV แล้วอ่านภาษาไทยไม่ออก

ผู้ใช้จะใช้คำประมาณว่า “เป็นภาษาต่างดาว” เอ่อ … ภาษาต่างดาวเนี่ยเป็นไงครับ ? อย่างคนเขียนคำว่า “私はあなたを愛している” ทำไมเราถึงรู้ว่า นี่คือภาษาญี่ปุ่น หรือ “我愛你”  ทำไมเราถึงรู้ว่า นี่เป็นภาษาจีน หรือ “Я люблю тебя” เป็นภาษารัสเซีย เปลี่ยนเป็นคำว่า “เป็นภาษาที่อ่านไม่ออก” หรือ “ไม่ออกมาเป็นภาษาไทย” จะถูกต้องกว่านะครับ ปัญหา ผู้ใช้เปิดไฟล์ที่แน่ใจได้ว่า Export จากระบบมาเป็น Unicode/UTF-8 แน่นอน เหตุ Microsoft Excel เค้าจะ Default ใช้ Charset เป็น Windows-874 วิธีการแก้ไข สร้างไฟล์ Excel ใหม่ คลิกเมนู Data -> From Text/CSV(ของใครเมนูภาษาไทย เทียบเคียงเอาเองนะครับ) เลือกไฟล์ CSV ที่ต้องการ เบื้องต้นตอนจะ Import จะได้เห็นสิ่งที่ Excel ทำ คือ Default เป็น Windows-874 ต่อไป เปลี่ยนที่ File Origin เป็น Unicode/UTF-8หรือ แล้วแต่ที่ต้นทาง Export มา ก็จะได้ ภาษาไทยสวยงาม เมื่อคลิก Load ก็จะได้ข้อมูลที่เป็น “ภาษาไทย” อ่านออกแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ

Read More »

Hardening your HTTP response headers

Introduction HTTP Response headers คือ ค่าของสตริงที่ส่งกลับมาจากเซิร์ฟเวอร์ที่มีเนื้อหาตามที่ถูกร้องขอ โดยปกติจะใช้บอกข้อมูลทางเทคนิค เช่น เบราเซอร์ควรแคชเนื้อหา, ประเภทของเนื้อหาคืออะไร, ซอฟต์แวร์ที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ และอื่น ๆ   HTTP Response headers ถูกใช้เพื่อส่งต่อนโยบายความปลอดภัยไปยังเบราเซอร์  ทำให้การเปิดเว็บไซต์ของเรามีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น Header ของ Apache2 ที่ควรต้องใส่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมีดังนี้ Content Security Policy Header เรื่อง Content Security Policy (CSP) ช่วยให้กำหนดต้นทางของเนื้อหาที่อนุญาตสำหรับเว็บไซต์ โดยการจำกัดเนื้อหาที่เบราเซอร์สามารถโหลดได้ ได้แก่ js และ css สามารถสร้าง CSP ได้จาก https://report-uri.com/home/generate ทั้งนี้ต้องทดสอบการทำงานทุกครั้งเนื่องจาก การกำหนดค่าบางอย่างอาจทำให้เว็บไซต์ ทำงานไม่ถูกต้อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://scotthelme.co.uk/content-security-policy-an-introduction/ สำหรับ Apache2 เพิ่ม Header ต่อไปนี้ ในแฟ้มของไซต์ที่ต้องการ เช่น /etc/apache2/site-enabled/lsc-ssl.conf  หรือแฟ้ม .htaccess ในไซต์ที่ต้องการ (ซึ่งแนะนำว่าใช้ .htaccess จะได้ไม่ต้องรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์) เพื่อเปิดการใช้งาน CSP Header always set Content-Security-Policy “default-src https: data: ‘unsafe-inline’ ‘unsafe-eval'” HTTP Strict Transport Security (HSTS) เว็บไซต์ ต้องมีการตั้งค่าให้ redirect จาก HTTP ไปยัง HTTPS เสมอ และ HSTS จะเป็น Header ที่กำหนดให้เบราเซอร์จำสถานะของ HTTPS เอาไว้แม้ว่าจะเป็นการเปิดจาก bookmark ที่เป็น HTTP ก็ตาม ก็จะถูกบังคับให้เป็น HTTPS รายละเอียดเพิ่มเติม https://scotthelme.co.uk/hsts-the-missing-link-in-tls/ เช่น เมื่อเปิด http://licensing.psu.ac.th ก็จะถูก redirect ไป https://licensing.psu.ac.th Header always set Strict-Transport-Security “max-age=31536000; includeSubDomains” X-Frame-Options X-Frame-Options หรือ XFO header จะช่วยป้องกันผู้ใช้จากการโจมตีแบบ clickjacking ที่ผู้บุกรุกสามารถโหลด iframe จากไซต์ของเขาบนไซต์ของเราได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเราเชื่อว่าไม่อันตราย!! รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.troyhunt.com/clickjack-attack-hidden-threat-right-in/ Header always set X-Frame-Options “SAMEORIGIN” X-Xss-Protection Header นี้ใช้กำหนดค่าการป้องกัน XSS ที่มีอยู่บนเบราเซอร์ต่างๆ โดยการตั้งค่าจะมี 0 คือ ปิดการทำงาน 1 คือเปิดการทำงาน และ 1; mode=block ซึ่งจะกำหนดให้เบราเซอร์ทำการบล็อคการกระทำใดๆ ก็ตามที่มากกว่าการล้างข้อมูลสคริปต์ Header always set X-Xss-Protection “1; mode=block” X-Content-Type-Options X-Content-Type-Options ใช้ในการป้องกันการโจมตีผ่านทางช่องโหว่ MIME sniffing ซึ่งจะเกิดเมื่อ เว็บไซต์อนุญาตให้ผู้ใช้อัพโหลดเนื้อหาไปยังเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งผู้ใช้อาจเปลี่ยนหรือซ่อนไฟล์อันตราย แล้วอัพโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.keycdn.com/support/x-content-type-options/ Header always set X-Content-Type-Options “nosniff” เบื้องต้นแนะนำเท่านี้ก่อนครับ พิเศษ!! สำหรับผู้ใช้งาน wordpress มีปลั๊กอินชื่อ HTTP Headers ใช่ตั้งค่า Header ต่างๆ ที่เล่ามาข้างต้นได้อย่างสบายใจหายห่วง!!! ไม่ต้องแก้ .htaccess ไม่ต้องแก้ config ใด ๆ  เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะพบว่ามี Header อีกมากที่สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะกล่าวอีกในครั้งต่อ ๆ ไป ต้นฉบับ https://scotthelme.co.uk/hardening-your-http-response-headers/ มีวิธีการเซ็ตสำหรับ Nginx และ IIS สามารถดูเพิ่มเติมได้ครับ อย่าลืม!! ตรวจ

Read More »

วิธีทำให้โปรไฟล์บน Google Scholar เป็น Public

Google Scholar เป็นบริการหนึ่งของ Google ทำให้เรามีโปรไฟล์  “อีกช่องทางหนึ่ง” เพื่อแสดงผลงานที่ได้รับการเผยแพร่ หรือตีพิมพ์ในที่ต่าง ๆ  อ่านเพิ่มเติม https://scholar.google.com/intl/en/scholar/about.html ปัญหาอยู่ที่ว่า ในการสร้างครั้งแรกโปรไฟล์ (Profile) ของท่าน จะยังไม่ Public หมายความว่า จากหน้า Google จะค้นหาไม่เจอ Google Scholar Profile ของท่านนั่นเอง ( พอดีมีอาจารย์ท่านหนึ่งถามมา เห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงเขียนบันทึกนี้ไว้ให้ ) วิธีการทำให้เป็น Public Profile จากหน้า Profile ของท่าน คลิกที่รูป ดินสอ (Edit) ด้านหลังชื่อ คลิก Make my profile public แล้วคลิกปุ่ม Save แต่ต้องรอสักหน่อย เคยอ่านเจอมาว่า ใช้เวลาประมาณ 4 weeks กว่าจะค้นหาบน Google เจอ

Read More »