วิธีสร้าง CoreOS Cluster

จะสร้าง CoreOS ให้กลายเป็น Cluster Docker Container ได้อย่างไร              จากบทความที่แล้วที่แนะนำเกี่ยวกับ CoreOS และการติดตั้งบน Vmware[1] ไปแล้วนั้น เราก็สามารถสร้างให้เป็นในรูปแบบ Cluster ได้ โดยมองว่าเครื่องแต่ละเครื่องที่สร้างนั้นเป็น Node หนึ่ง ๆ ใน Cluster โดยใช้ etcd เป็นตัวเก็บข้อมูลของ Node และ Fleet เป็นตัว Deploy docker ให้กระจายไปยัง Node ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม โดยที่จะสามารถย้ายตัวเองได้เมื่อมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งมีปัญหา (Recommend จำนวนเลขคี่ และอย่างต่ำต้อง 3 node ขึ้นไป ยิ่งเยอะ โอกาสล่มก็ยิ่งต่ำ)             etcd ในปัจจุบันเป็น Version 3 ซึ่งจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจาก Version 2 (แต่ใน document web ยังเป็น etcd2 เป็นส่วนมาก) โดยใช้สำหรับเก็บข้อมูลแต่ละ Node ทำให้รู้ว่าในแต่ละ Cluster มีเครื่องใด IP อะไรบ้าง มีทั้งหมด 3 วิธีคือ  Static เป็นวิธีที่ระบุลงไปเลยในแต่ละเครื่องว่ามีเครื่องไหนบ้างที่อยู่ใน Cluster วิธีการนี้ข้อเสียคือถ้าเพิ่มต้องเพิ่มทุกเครื่อง etcd Discovery เป็นวิธีที่จะให้ Discovery Service เป็นคนทำหน้าที่เก็บข้อมูล (เหมือน tracker torrent) เมื่อเพิ่มเครื่องใหม่ ก็แค่ชี้ไป Discovery URL ก็เสร็จ DNS Discovery เป็นวิธีการใช้วิธีการจด DNS ในรูปแบบ SRV record เพื่อบอกว่า บริการนี้มีเครื่องอะไรอยู่บ้าง ซึ่งจะมีการอ้างอิงอยู่กับ Domain Name โดยวิธีนี้จำเป็นต้องจดชื่อ Domain ทุกเครื่อง             ในบทความนี้จะอธิบายวิธีที่ 1 ซึ่งแม้ยุ่งยาก แต่เหมาะกับระบบที่ Internet Public ไม่ค่อยเสถียร และ ถ้าใครต้องการลองวิธีอื่นสามารถตามอ่านได้ใน Web CoreOS[2] ครับ   วิธีการตั้งค่า etcd2 ทำการสร้าง service etcd2 service ด้วย systemd ดังนี้ sudo vim /etc/systemd/system/etcd2.service ข้อความในไฟล์มีดังนี้ (ถ้าต้องการความปลอดภัยสามารถใช้ https ได้ครับ แต่ต้องมีการทำ certificate เพิ่มเติม ซึ่งไม่ขออธิบายครับ) [Unit] Description=etcd2 Conflicts=etcd.service [Service] User=etcd Type=notify Environment=ETCD_DATA_DIR=/var/lib/etcd ExecStart=/usr/bin/etcd2 –name node01 –initial-advertise-peer-urls http://[IP]:2380 \ –listen-peer-urls http://[IP]:2380 \ –listen-client-urls http://[IP]:2379,http://127.0.0.1:2379 \ –advertise-client-urls http://[IP]:2379 \ –initial-cluster-token etcd-cluster-1 \ –initial-cluster node01=http://[IP_node01]:2380,node02=http://[IP_node02]:2380,node03=http://[IP_node03]:2380 \ –initial-cluster-state new Restart=always RestartSec=10s LimitNOFILE=40000 TimeoutStartSec=0 [Install] WantedBy=multi-user.target Enable etcd2 service เพื่อให้รันทุกครั้งที่เปิดเครื่อง sudo systemctl enable etcd2 Start etcd2 service sudo systemctl start etcd2

Read More »

3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการ Block Email ที่ไม่ต้องการใน PSU Webmail

เปิด Email ฉบับที่ไม่ต้องการรับ แล้วคลิกที่ From ในบรรทัด Create Filter เลือกว่าจะ Block แบบไหน 2.1 Reject คือโยนทิ้งทันที และแจ้งผู้ส่งด้วย 2.2 Discard คือโยนทิ้งทันที แบบเงียบๆ *** ในช่อง Additional Actions คลิก STOP ด้วย *** จากนั้นคลิก Add New Rule รออะไร คลิก Close สิครับ

Read More »

มารู้จักกับ CoreOS Linux และวิธีติดตั้ง CoreOS Linux บน Vmware

CoreOS Linux คืออะไร เอาไปใช้ทำอะไร              ในโลกของ Containner ในปัจจุบันมีหลายตัวเลือกให้ใช้งาน แต่การใช้งานที่สมบูรณ์จำเป็นต้องมี 3 อย่างรวมกันคือ Containner (ยกตัวอย่าง Docker,Rocket,Lxd), OS ขนาดเล็ก (ยกตัวอย่าง CoreOS, RancherOS, PhotonOS, Snappy Ubuntu Core, Redhat Project Atomic), และสุดท้ายคือโปรแกรมบริหารจัดการ Containner (ยกตัวอย่าง Kubernete, Admiral, Rancher, Kitematic)              สำหรับ CoreOS[1] เองรองรับการงานทั้งใน Cloud(AWS,Digital Ocean,Azure,Google Cloud Platform) หรือใน Virtualization Platform (ยกตัวอย่าง OpenStack, VMWare, Vagrant) และยังสามารถติดตั้งลงบนเครื่อง Physical (Bare Metal) ได้อีกด้วย              CoreOS มีจุดเด่นอีกอย่างคือระบบ CoreOS Cluster[2] ที่สามารถออกแบบเป็น Cluster ช่วยให้สามารถบริการ Docker Containner กระจายไปยัง Node ต่าง ๆ โดยใช้ etcd ในการจัดการระบบและใช้ fleet ในการสร้าง Docker ที่อยู่บน CoreOS Cluster ซึ่งจะกล่าวต่อไปในบทความต่อไปครับ              การติดตั้ง ติดตั้งได้หลากหลายช่องทาง เขียนแผ่นติดตั้งก็ได้ ผ่าน iso ก็ได้ แต่ถ้าเป็น Image จะไม่มี User (จริง ๆ มีแต่ไม่มี Password) ต้องสร้างด้วยสิ่งที่เรียกว่า cloud-config ซึ่งจำเป็นต้องตั้งค่าก่อนติดตั้ง หรืออีกแบบที่จะขอแนะนำ เป็นวิธีที่ใช้สำหรับ Image ที่เป็น ova ของ Vmware ซึ่งใช้วิธี Bypass เข้า Auto Login Mode[1] แล้วเข้าไป Add User เอาเองภายหลัง (สามารถนำไปประยุกต์กับวิธีติดตั้ง Image แบบอื่นได้เช่นเดียวกัน)  การติดตั้ง CoreOS ด้วย OVA Image ผ่าน vSphere Client 6.0[3] โหลดไฟล์ติดตั้งจาก https://stable.release.core-os.net/amd64-usr/current/coreos_production_vmware_ova.ova (ุถ้า Link เปลี่ยนไปหาดูเอาเองนะครับ) เปิด vSphere Client เลือก deploy OVF Template จากนั้นทำการ Browse File เลือกเครื่อง เลือก DataStore ตามปกติ   เมื่อถึงหน้าตั้งค่าใส่ Hostname และการตั้งค่า Network เบื้องต้น (ในที่นี้ผมใส่แค่ Hostname และ ชื่อ Network Interface โดยรับ IP จาก DHCP) จากนั้นเมื่อสร้างเสร็จและเปิดเครื่องขึ้นมารีบกดปุ่มลูกศรลงในหน้า Grub ป้องกัน Auto Boot (เร็วมาก ถ้าไม่ทันก็ให้รีเครื่องใหม่) จากนั้นให้เลือก CoreOS default แล้วกด e และพิมพ์ coreos.autologin (ไม่ต้องพิมพ์ \ ก่อนขึ้นบรรทัดใหม่ ระบบจะใส่ให้เอง) จากนั้นกด F10 ก็จะทำการ Boot และ ได้ Prompt สำหรับ adduser ตั้งรหัสผ่านได้เลย

Read More »

การเชื่อมต่อ OAuth2 ด้วย .NET C#

อยาก  Login ด้วย OAuth2 กับ .NET C# ต้องทำอย่างไร              สำหรับตัวอย่างนี้เอามาจาก GitHub Project : https://github.com/titarenko/OAuth2[1] ซึ่งเป็น Code ตัวอย่างนำมาเพิ่ม ในส่วนของการเชื่อมต่อ PSU Passport ดังนี้ เพิ่ม class file ใน project OAuth2->Client->Impl ชื่อ PassportClient.cs เนื้อหาดังนี้ using Newtonsoft.Json.Linq; using OAuth2.Configuration; using OAuth2.Infrastructure; using OAuth2.Models; namespace OAuth2.Client.Impl { /// <summary> /// Passport authentication client. /// </summary> public class PassportClient : OAuth2Client { /// <summary> /// Initializes a new instance of the <see cref=”PassportClient”/> class. /// </summary> /// <param name=”factory”>The factory.</param> /// <param name=”configuration”>The configuration.</param> public PassportClient(IRequestFactory factory, IClientConfiguration configuration) : base(factory, configuration) { } /// <summary> /// Defines URI of service which issues access code. /// </summary> protected override Endpoint AccessCodeServiceEndpoint { get { return new Endpoint { BaseUri = “https://oauth.psu.ac.th”, Resource = “?oauth=authorize” }; } } /// <summary> /// Defines URI of service which issues access token. /// </summary> protected override Endpoint AccessTokenServiceEndpoint { get { return new Endpoint { BaseUri = “https://oauth.psu.ac.th”, Resource = “?oauth=token” }; } } /// <summary> /// Defines URI of service which allows to obtain information about user which is currently logged in. /// </summary> protected override Endpoint UserInfoServiceEndpoint { get { return new Endpoint { BaseUri = “https://oauth.psu.ac.th”, Resource = “?oauth=me” }; } } /// <summary> ///

Read More »

Workshop : PSU Passport OAuth2

มีวิธี Authen แบบอื่นนอกจาก LDAP กับ Web Service ไหม             ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป ด้วยเทคโนโลยี OAuth2 ทำให้เราจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมกันอีกครั้งครับ หมายเหตุ : เนื่องจากต้องการให้เป็น Blog เปิดเผยได้ จึงขอไม่ระบุชื่อ Server จริง ๆ ลงไปนะครับ  โดยรวบรวม Blog แบ่งเป็น 7 Blog ดังนี้ Blog ที่ ชื่อ Blog      1 เรียนรู้เทคโนโลยี OAuth2      2 การติดตั้ง Postman      3 ทดสอบเชื่อมต่อ OAuth2 ด้วย Postman      4 การเชื่อมต่อ OAuth2 ด้วย Joomla      5 การเชื่อมต่อ OAuth2 ด้วย Wordpress      6 การเชื่อมต่อ OAuth2 ด้วย .NET C#      7 การเชื่อมต่อ OAuth2 ด้วย PHP (กำลังดำเนินการ) บทความและ Link เพิ่มเติม [1] การยืนยันตัวตนและกำหนดสิทธิ์ Apache UserGrid 2.x [2] รวม Code สำหรับเชื่อมต่อ OAuth ทุกภาษา 1 : https://oauth.net/code/ [3] รวม Code สำหรับเชื่อมต่อ OAuth ทุกภาษา 2 : https://developer.byu.edu/docs/consume-api/use-api/follow-sample-code

Read More »