
เตาะแตะไปกับ Docker ตอนที่ 7 Manage data
Docker ให้เราสามารถเลือกใช้วิธีการ mount data เข้าไปให้กับ container อยู่ 3 อย่างคือ 1. Volumes 2. Bind mounts 3. tmpfs mounts Volumes จะถูกเก็บอยู่ในส่วนของ Host filesystem ที่จัดการโดย Docker เอง (อยู่ที่ /var/lib/docker/volumes) และนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดเก็บข้อมูลที่เป็น persistent data (ตามคำบอกในเว็บเพจ docs.docker.com) Bind mounts จะถูกเก็บอยู่ในที่ไหนก็ได้ของ Host filesystem เป็นวิธีการที่มีมาตั้งแต่ Docker รุ่นแรก ๆ จึงมีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับ Volumes tmpfs mounts จะถูกเก็บอยู่ในหน่วยความจำของ Host เท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากที่นี่ https://docs.docker.com/engine/admin/volumes/ และ https://docs.docker.com/engine/admin/volumes/#more-details-about-mount-types ผมขอเล่าถึงตัวอย่างการใช้งาน Volumes ใน docker-compose.yml (version 2) ที่ผมได้ทำเสร็จแล้ว $ cat docker-compose.yml version: ‘2’ services: openldap: image: openldap container_name: openldap volumes: – ldapdatavol:/var/lib/ldap – ldapconfigvol:/etc/ldap/slapd.d ports: – “389:389” – “636:636” volumes: ldapdatavol: external: false ldapconfigvol: external: false อธิบายได้ดังนี้ ในไฟล์ docker-compose.yml นี้ เราจะรัน services ชื่อ openldap จาก image ที่สร้างไว้แล้วชื่อว่า openldap โดยรันเป็น container ที่ผมตั้งชื่อว่า openldap โดยจะเก็บข้อมูลไว้ถาวรที่ volume ชื่อ ldapdatavol ซึ่งจะ mapped กับ /var/lib/ldap ใน container และอีกบรรทัดคือ ldapconfigvol จะ mapped กับ /etc/ldap/slapd.d ใน container ถัดมาด้านล่างของไฟล์ เราจะต้องประกาศ volumes ไว้ด้วยว่า ldapdatavol ไม่ได้เป็น volume ที่สร้างไว้อยู่แล้วก่อนการัน docker-compose ด้วยการประกาศค่าว่า external: false เช่นเดียวกับ volume ชื่อ ldapconfigvol แต่ถ้าใช้ external: true จะหมายถึง docker-compose จะไม่สร้าง volume ให้ นั่นคือ เราได้สร้างไว้ก่อนแล้วด้วยคำสั่ง $ docker volume create –name ldapdatavol $ docker volume create –name ldapconfigvol เราสามารถดูรายการ volume ด้วยคำสั่งนี้ $ docker volume ls และที่เก็บจริง ๆ จะอยู่ที่นี่ /var/lib/docker/volumes ใช้คำสั่งเปลี่ยนสิทธิเป็น root เข้าไปที่เก็บ volume แล้วเราจะสามารถสำรองข้อมูลนี้ได้โดยใช้คำสั่ง cp หรือ tar ได้เลย ดังนี้ $ sudo su – # cd /var/lib/docker/volumes การใช้งาน volume แบบที่แนะนำนี้เรียกว่า named volume คือ เราตั้งเป็นชื่อตามที่เราคิดเอง ส่วนอีกแบบจะเรียกว่า anonymous นั่นคือ docker ตั้งชื่อให้เอง อันนี้ผมไม่ลงรายละเอียดครับ จบตอนนี้เราก็จะพอเข้าใจได้แล้วว่า