Day: June 30, 2020

  • ขั้นตอนการขอใช้บริการ PSU Groupmail

    กรุณาดำเนินการกรอกเอกสาร ตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
    Download เอกสาร

    http://group.psu.ac.th/docs/F_SD13.pdf

    วิธีกรอก

    https://sysadmin.psu.ac.th/2017/01/05/acrobat-reader-dc-free-but-sufficient/

    วิธีการใช้งานเบื้องต้น

    http://group.psu.ac.th/docs/MailingList-20090625.pdf


    แล้วส่งกลับมาทาง email ได้เลยครับ  ()

    PSU Groupmail ตั้งต้นจะเป็น @group.psu.ac.th นะครับหากต้องการให้แปลงเป็น @psu.ac.th ช่วยแจ้งด้วย
    ส่วนการส่ง Email ออกไปในนามหน่วยงาน ให้ทำตามนี้

    วิธีส่ง email ออกไปในนามหน่วยงาน ด้วย PSU Webmail
    https://sysadmin.psu.ac.th/2020/03/27/psu-webmail-sent-email-on-behalf-of/

    วิธีส่ง email ในนามหน่วยงาน ที่ออกจาก Gmail ให้เป็น @psu.ac.th หรือ @group.psu.ac.th

    https://sysadmin.psu.ac.th/2018/01/26/send-gmail-in-the-name-of-psu/

  • วิธีสร้าง Running Number ข้อมูลที่ถูก Filter ใน Excel

    หลายครั้งที่เรา ใช้ Excel แล้วใส่ Filter  เพื่อดูกลุ่มข้อมูลที่สนใจ และพบปัญหาว่าลำดับข้อมูลที่เคยเรียงอยู่ ไม่เรียงเหมือนเดิม เช่น  1,3,7,8 แล้วจะทำยังไงดีล่ะ

    ซึ่งใน Excel จะมี Function SUBTOTAL ซึ่งช่วยทำการคำนวณเฉพาะข้อมูลที่ยังคงมองเห็นอยู่หลังถูก Filter ไปแล้วโดย

    รูปแบบคำสั่งของ SUBTOTAL คือ SUBTOTAL (function_num, ref1, [ref2], …)

    โดยจะมี function_code ฟังก์ชันที่จะใช้ในการรวมผลย่อย

    1 คือ AVERAGE

    2 คือ COUNT

    3 คือ COUNTA

    4 คือ MAX

    5 คือ MIN

    6 คือ PRODUCT

    7 คือ STDEV

    8 คือ STDEVP

    9 คือ SUM

    10 คือ VAR

    11 คือ VARP

    ในที่นี้เราใช้ code 3 (COUNTA) ในการนับจำนวนข้อมูลจากแถวแรกถึงแถวที่จะใส่เลขลำดับนั้นๆ เพื่อให้รู้ว่ามีข้อมูลกี่รายการหลังถูก Filter ไปแล้ว

    ตัวอย่างวันนี้
    เป็นข้อมูลจากการสำรวจ size เสื้อขององค์กร เมื่อเรา Filter หน่วยงานที่สังกัด เพื่อที่จะดูว่าใครสั่ง size เสื้ออะไรบ้าง สามารถเขียนสูตรในแถวที่ 2 ได้ ดังนี้ =SUBTOTAL(3,B2:B2) โดยคอลัมน์ที่เราใช้ในสูตร ต้องไม่มีค่าว่าง

    ในตัวอย่างนี้จะใช้ คอลัมน์ B (ชื่อ-สกุล) หรือ C (หน่วยงานที่สังกัด) ก็ได้

    การ copy สูตร ควรจะ fix cell Reference เพื่อไม่ให้สูตรเลื่อน จะได้เป็น

    =SUBTOTAL(3,B$2:B2)

    ซึ่งสูตรนี้จะไม่นับแถวสุดท้ายของการ filter จึงต้อง คูณด้วย *1 เพื่อให้เอาแถวสุดท้ายของการ filter มานับด้วย สุดท้ายจึงผลลัพธ์ของสูตรออกมา

    =SUBTOTAL(3,B$2:B2)*1

    จากนั้นเราสามารถ copy สูตรมาใช้ได้ทั้งคอลัมน์

    เมื่อทำการ filter หลังจากใช้สูตร จากรูปสังเกตในช่องสูตรลำดับที่ 1 เดิมจะเป็นข้อมูล แถวที่ 2 คอลัมน์ที่ 3 นั้นเอง

    ขอขอบคุณ :https://www.inwexcel.com