วิธีการ Upload ไฟล์ไปบน Google Drive File Stream ด้วย Google Client Library for Python

Google Drive File Stream จริงๆแล้วก็คือการเปิดให้ PC ทั้ง Windows และ Mac สามารถ Map Drive จาก Google Drive มาเป็น G:\ หรืออะไรทำนองนั้น แต่ปัจจุบัน (September 2017) บน Windows Server ซึ่งใช้ Secure Boot จะไม่สามารถติดตั้ง Client ได้ และ Ubuntu Server ก็ยังไม่มีตัวติดตั้ง ดังนั้น ในภาพของผู้ดูแลระบบ ไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ได้ … โดยตรง ส่วนใน Windows Desktop ทั่วไปก็จะติดตั้งได้ แม้ว่า จากคำโฆษณา จะบอกว่าผู้ใช้สามารถใช้งานได้ แม้พื้นที่บน Local Drive ไม่เยอะ แต่เอาเข้าจริง ด้วยความสามารถที่จะใช้งาน Offline ได้บ้าง ทำให้ Client ต้อง Cache ไฟล์ที่ใช้งานด้วยเช่นกัน และหาก upload ไฟล์ขนาดใหญ่ จาก Local Drive ไปเก็บใน G:\ ข้างต้น ก็จะทำให้ต้องเสียพื้นที่ในขนาดเท่าๆกันไปด้วย เช่น ใน Local Drive มีไฟล์ที่จะ Backup ขึ้นไป ขนาด 1 GB บน C:\ เมื่อทำการ Copy ไปยัง G:\ ก็จะเสียพื้นที่อีก 1 GB ด้วยเช่นกัน ทางออกก็คือ ใช้ความสามารถของ Google Client Library ทำการ Upload ไฟล์ขึ้นไปโดยตรง เท่าที่ทดลองมา จะไม่ได้ Cache บน Local Drive ทำให้สามารถ Upload ไฟล์ขนาดใหญ่ได้ โดยไม่เสียพื้นที่เพิ่มแบบ Client ข้างต้น วิธีการใช้งาน Python เพื่อ Upload File ขึ้น Google Drive File Stream ผมเขียน Code เอาไว้ ชื่อ upload2gdrive.py ไว้บน GitHub (https://github.com/nagarindkx/google) สามารถดึงมาใช้งานได้โดยใช้คำสั่ง clone https://github.com/nagarindkx/google.git cd google สร้าง Project, Credential ตาม “ขั้นที่ 1” ในบทความ การใช้งาน Google Drive API ด้วย Google Client Library for Python ซึ่งจะได้ไฟล์ Client Secret File มา ให้แก้ไขชื่อเป็น “client_secret.json” แล้ว นำไปไว้ใน directory “google” ตามข้อ 1 วิธีใช้คำสั่ง ดูวิธีใช้ python upload2gdrive.py –help Upload ไฟล์ จาก /backup/bigfile.tar,gz python upload2gdrive.py –file /backup/bigfile.tar.gz บน Windows ก็สามารถใช้งานได้ ด้วยคำสั่ง python upload2gdrive.py –file D:\backup\bigfile.tar.gz หากต้องการระบุตำแหน่ง Folder บน Google Drive ที่ต้องการเอาไฟล์ไปไว้ ให้ระบุ Folder ID python upload2gdrive.py –file /backup/bigfile.tar.gz —-gdrive-id xxxxxxxbdXVu7icyyyyyy หากต้องการระบุ Chunk Size (ปริมาณข้อมูลที่จะแบ่ง Upload เช่น

Read More »

วิธีการตั้งค่า Google Apps/Gmail บน Microsoft Outlook 2016

ก่อนจะตั้งค่า Microsoft Outlook 2016 ให้สามารถใช้งานกับ Google Apps/Gmail Account ได้ต้องดำเนินการตามนี้ก่อน (เพราะ Microsft Outlook 2016 ยังไม่รองรับการยืนยันตัวตนด้วย OAuth 2.0 ซึ่งมีความปลอดภัย) แบ่งเป็น 2 กรณีครับ 1. ถ้าไม่ได้ใช้ 2-Step Verification ต้องไปที่ https://myaccount.google.com/security แล้วคลิก Allow less secure apps: ให้เป็น On ครับ 2. กรณีใช้ 2-Step Verification ให้ทำการสร้าง Apps Password โดยไปที่ https://security.google.com/settings/security/apppasswords?pli=1 เลือก Mail > Windows Computer แล้วคลิก Generate จากนั้นเอารหัสผ่านที่แสดงขึ้นมาใหม่ ไปใช้งานครับ จากนั้น จึงใส่รหัสผ่านใน Outlook ครับ UPDATE: หากจะใช้ OAuth 2.0 จริงๆ ก็ทำได้ แต่ต้อง Tweak แก้ registry กันเลย ตามนี้ครับ https://blogs.technet.microsoft.com/ivfranji/authentication-enabling-modern-auth-oauth2/

Read More »

การเชื่อมต่อ Thunderbird กับ Google Mail (ทั้ง Gmail และ Google Apps)

ในอดีต Thunderbird และ Mail Client อื่นๆสามารถติดต่อกับ Google Mail ได้โดยตั้งค่า Mail Server ให้ถูกต้อง และ username/password ก็สามารถใช้งานได้ แต่ในปัจจุบัน Google หันไปใช้ระบบ OAuth 2.0 ซึ่งการ Authentication หรือการใส่ username/password ต้องทำที่ Google เท่านั้น รวมถึงการทำ 2-Step Verification ด้วย (การใส่ One-Time Password นอกเหนือจาก username/password เป็นต้น) ทำให้ Thunderbird และ Mail Client ที่ยังไม่รองรับ OAuth 2.0 ไม่สามารถใช้งานได้ แต่ทาง Google Mail ยังเปิดให้สามารถใช้งานได้ โดยแบ่งเป็น 2 กรณีคือ ใช้หรือไม่ใช้ 2-Step Verification โดยตรวจสอบได้จาก 0. วิธีตรวจสอบว่าใช้งาน 2-Step Verification หรือไม่ โดยการไปที่ https://myaccount.google.com/security หากไม่เปิดใช้ 2-Step Verification จะได้หน้าตาอย่างนี้ หากเปิดใช้ 2-Step Verification จะได้หน้าตาอย่างนี้ 1. ผู้ใช้ที่ไม่ได้เปิดใช้งาน 2-Step Verification ให้ไปที่ https://myaccount.google.com/security#connectedapps ภายใต้หัวข้อ Allow less secure apps ให้เปิดใช้งาน ดังภาพ 2. ผู้ใช้ที่เปิดใช้งาน 2-Step Verification ให้ไปที่ https://security.google.com/settings/security/apppasswords แล้วเลือก Mail และ Windows Computer แล้วคลิก Generate ดังภาพ จะได้ Password ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (ไม่ต้องไปจำ) ดังภาพ หากวันหลังต้องการเลิกใช้ ก็กดปุ่ม Revoke ภายหลังได้ จากนั้น เปิดให้ Google Account ใช้งาน IMAP ได้ โดยไปที่ https://mail.google.com/mail/u/0/#settings/fwdandpop แล้วคลิก Enable IMAP ดังภาพ แล้วคลิก Save Change ด้านล่าง สุดท้าย ที่ Thunderbird ให้ตั้งค่า Password: สำหรับคนที่ไม่ใช้ 2-Step Verification ให้ใส่ Password ของ Google Account เดิมลงไป ส่วนคนที่ใช้ 2-Step Verification ให้เอา Password ที่ได้มาใหม่ใส่ลงไปแทน Incoming IMAP เป็น imap.gmail.com และ SSL เป็น SSL/TLS Outgoing SMTP เป็น smtp.gmail.com และ SSL เป็น SSL/TLS อย่าลืม ใส่ username ให้มี @gmail.com หรือ @psu.ac.th ในกรณีใช้ PSU GAFE ด้วย แล้วคลิกปุ่ม Done ดังภาพ เท่านี้ก็สามารถใช้งาน Google Mail จาก Thunderbird ได้แล้ว

Read More »

วิธีการทดสอบเว็บไซต์ Responsive บน Smart phone ด้วย Chrome

“ปัจจุบันกระแสการออกแบบเว็บเชิงตอบสนอง (Responsive design) ถูกนำมาใช้ในการออกแบบเว็บสมัยใหม่ เนืองจากสามารถดูได้ทั้งแบบผ่านเครื่องคอม แท็บเล็ต และมือถือ ได้โดยทันที” แต่ในระว่างการออกแบบ ถ้าผู้ออกแบบจะต้องมีการทดสอบบนอุปกรณ์แท็บเล็ต หรือมือถือ ต่างๆ ซึ่งมีความละเอียดของหน้าจอแตกต่างกันออกไป ซึ่งในส่วนที่ Chrome มีเครื่องมือที่ช่วยในการแสดงผลเว็บไซต์บนอุปกรณ์ Smart phone ได้ โดยไม่ต้องโหลดเพิ่ม แต่ประการใด !!! แถมวิธีการก็ง่ายแสนง่าย  ขั้นตอนที่ 1 ให้ไปที่ More tools > Developer tools ดังภาพ ขั้นตอนที่ 2 เลือกที่รูปโทรศัพท์ ดังภาพ ขั้นตอนที่ 3 สังเกต ด้านซ้ายจะปรากฏหน้าจอมือถือขึ้นมา ให้ระบุ URL ที่เราต้องการดังภาพ จากภาพ จะเห็นว่าหากเป็นเว็บที่ออกแบบด้วยหลักการออกแบบเว็บเชิงตอบสนอง (Responsive design) จะมีการจัดหน้าจอให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ ขั้นตอนที่ 4 สังเกต ด้านบน เราสามารถเลือกรุ่นของ Smart Phone ได้หลายรุ่น แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นรุ่นหลักและหลากหลายความละเอียด หรือจะเลือกปรับขนาดเองก็ทำได้  และสามารถปรับให้แสดงแนวตั้งและแนวนอนได้อีกด้วย ดังภาพ จะเห็นว่าเครื่องมือด้งกล่าวใช้งานไม่ยาก ทำให้สามารถดูหน้าจอในหลายๆ ความละเอียดได้อย่างรวดเร็ว 

Read More »

วิธีกู้ไฟล์ที่ถูก Ransomware จับไปเรียกค่าไถ่

Ransomware หรือ โปรแกรมเรียกค่าไถ่ไฟล์ต่างๆ โดยการเข้ารหัสไฟล์เหล่านั้น ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีก นอกจากจะยอมเสียค่าไถ่ให้กับผู้ร้ายด้วยเงินสกุล Bitcoin โปรแกรมเหล่านี้จะมาจากการติดตั้ง หรือถูกหลอกให้ติดตั้ง ผ่านทางเว็บไซต์ “อโคจร” ต่างๆ Software เถื่อน ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหลาย และที่มีบ่อยมากคือ มาจาก “จดหมายหลอกลวง (Phishing)” ซึ่งทำให้ติดเชื้อได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.thaicert.or.th/alerts/user/2015/al2015us001.html เมื่อติด หรือ โดนเรียกค่าไถ่ เรียกได้ว่า ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้คืนโดยการ Decrypt  หรือถอดรหัสกลับคืน มีวิธีการเดียวที่ทำได้เลยคือ “กู้คืนจากไฟล์สำรองไว้” บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows เอง ก็สามารถทำได้ โดยผู้ใช้จะต้อง “ตั้งค่าการสำรองข้อมูล” ไว้ก่อน จึงจะสามารถกู้คืนได้ แต่หากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเสียหาย ก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย แต่ยังมีวิธีการ “สำรองและกู้คืน” ที่ง่าย ปลอดภัย และแม้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะเสียหายอย่างไร ก็จะสามารถ “กู้คืนข้อมูลได้” นั่นคือการใช้งาน Google Drive ในการสำรองข้อมูล โดยผู้ที่มี Google Account หรือ Gmail สามารถใช้งานได้ทันที โดยมีพื้นที่ให้ 15 GB (รวมกับการเก็บ email) ส่วนผู้ใช้ในมหาวิทยาลัยสงขลานคริทนร์ จะได้ใช้ Google Apps for Education ซึ่งมีพื้นที่ในการจัดเก็บ “Unlimited” หรือไม่มีขีดจำกัดเลยทีเดียว (เบื้องต้นจะเห็นพื้นที่จัดเก็บ 10 TB — 10,000 GB) Google Drive เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนก้อนเมฆ หรือ Cloud Storage ผู้ใช้ของ Google Account สามารถเข้าถึงได้ที่ https://drive.google.com เมื่อทำการลงชื่อเข้าใช้งาน (Sign In)  แล้วก็จะสามารถมองเห็นข้อมูลบนระบบ สามารถสร้าง Folder และ Upload ไฟล์ขึ้นไปเก็บได้ และสามารถเข้าถึงได้จากทั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ และ Smartphone ได้จากทุกแห่งทั่วโลก ดังภาพที่ 1 (โดยต้องมีระบบ Internet เข้าถึงนะ)   ภาพที่ 1: Google Drive บนระบบ Google Apps for Education ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในที่นี้ จะแสดงวิธีการ สร้างโฟล์เดอร์ชื่อว่า “เอกสารสำคัญ” ไว้บน Google Drive เพื่อใช้ในการสำรองไฟล์สำคัญไว้ ขั้นตอนคือ คลิกที่ New > Folder แล้วตั้งชื่อว่า “เอกสารสำคัญ” แล้วคลิกปุ่ม Create ดังภาพที่ 2 ภาพที่ 2: สร้างโฟล์เดอร์ชื่อว่า “เอกสารสำคัญ” ไว้บน Google Drive ส่วนการทำงานเพื่อ Backup ข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ไปเก็บไว้บนระบบ Google Drive อัตโนมัติ ทำได้โดยติดตั้งโปรแกรม “Google Drive” บนเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วตั้งค่าให้ Sync ข้อมูลกับโฟลเดอร์ “MyGoogleDrive” ใน My Documents ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังวิธีการต่อไปนี้ Google Drive สามารถดาว์นโหลดได้จาก https://www.google.com/drive/download/ เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วให้ลงชื่อเข้าใช้ และคลิก Next ไปเรื่อยๆ ดังภาพที่ 3 ภาพที่ 3: คลิก “ถัดไป” จนถึงหน้าจอสุดท้าย หน้าจอสุดท้าย คลิก “การตั้งค่าขั้นสูง” ดังภาพที่ 4 ภาพที่ 4: คลิก “การตั้งค่าขั้นสูง” คลิก “เปลี่ยน” แล้วสร้าง MyGoogleDrive ไว้ใน My Documents ดังภาพที่ 5 ภาพที่ 5: สร้าง MyGoogleDrive ไว้ใน My Documents ต่อไป เลือก

Read More »