Save to Google Drive

บันทึกภาพจากเว็บไปยัง Google Drive ของเราโดยตรง ด้วยส่วนขยาย “Save to Google Drive”

วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำส่วนขยายของบราวเซอร์ (Extension) ที่น่าใช้กันอีกซักตัวนะคะ นั่นก็คือ “Save to Google Drive” ซึ่งเป็นส่วนขยายที่จะช่วยให้เราสามารถบันทึกภาพที่มีอยู่บนเว็บไซต์ต่างๆ ที่เราต้องการไปยัง Google Drive ของเราโดยตรงได้ทันทีค่ะ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ เพิ่มส่วนขยายนี้ให้กับ Google Chrome ของเรากันก่อน กด URL นี้ https://chrome.google.com/webstore/detail/save-to-google-drive/gmbmikajjgmnabiglmofipeabaddhgne?hl=th แล้วกดปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” ค่ะ รอจนติดตั้งเรียบร้อย ก็จะพบ ICON นี้โผล่ขึ้นมา ซึ่งการเพิ่มส่วนขยาย Save to Google Drive ให้กับ Chrome ของเราก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมใช้งานแล้วละค่า มาใช้งานกันค่ะ เพียงแค่คลิกขวาบนภาพที่เราต้องการบันทึกไปยัง Google Drive แล้วเลือก “บันทึกภาพไปที่ Google ไดรฟ์” เท่านี้ภาพที่เราต้องการก็จะจัดเก็บลงไปยัง Google Drive ของเราค่ะ (เข้าใช้งานบัญชี Google ไว้แล้ว) โดยเริ่มต้นภาพนั้นจะถูกบันทึกไปยัง “ไดรฟ์ของฉัน” นะคะ แต่หากเราต้องการจัดเก็บไปยังโฟลเดอร์อื่นบน Google Drive ก็ให้สร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการให้เรียบร้อยก่อนค่ะโดยการเปลี่ยนโฟลเดอร์ปลายทางที่เราจะเก็บภาพนั้น ก็ให้กด (เปลี่ยน) ในกล่องบันทึกไปยัง Google Drive ซึ่งจะมีหน้าจอให้เราตั้งค่าต่างๆ ขึ้นมาให้ ให้คลิกที่ “เปลี่ยนโฟลเดอร์ปลายทาง” นะคะ ก็จะมีหน้าจอให้เราเลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่เราต้องการบันทึกภาพ ให้เราเลือกโฟลเดอร์บน Google Drive ที่เราได้สร้างไว้แล้ว และต้องการจัดเก็บภาพ แล้วกดปุ่ม “Select” ได้เลยค่ะ สำหรับครั้งต่อๆไป การบันทึกภาพก็ไม่ต้องเลือกโฟลเดอร์ใหม่แล้วนะคะ จะตั้งต้นโฟลเดอร์ที่เราเลือกไว้ให้เลยค่ะ (ยกเว้นว่า อยากจะเก็บโฟลเดอร์อื่น ก็ต้องเปลี่ยนกันใหม่ค่ะ) ส่วนใครที่ต้องการแก้ไขชื่อไฟล์ ให้คลิก “เปลี่ยนชื่อ” แล้วแก้ไขชื่อไฟล์ กดปุ่ม “ใช้” ได้เลยนะคะ ชื่อไฟล์ก็จะถูกเปลี่ยนให้เราตามที่ต้องการค่ะ เท่านี้ไฟล์ภาพที่เราต้องการก็ถูกบันทึกด้วยชื่อ และไปยังโฟลเดอร์บน Google Drvie ที่เราต้องการค่า เป็นไงกันบ้างค่ะ ผู้เขียนคิดว่าเป็นส่วนขยายที่ดีงามมากเลยทีเดียว https://chrome.google.com/webstore/detail/save-to-google-drive/gmbmikajjgmnabiglmofipeabaddhgne?hl=en

Read More »

Webmail transformation!! #4

export contact มาแล้วเอาเข้า webmail2 ไม่ได้ ยังไงซิ ? ไหนขอดูหน่อย เมื่อเปิดไฟล์ที่ export ออกจาก Squirrelmail (webmail) ตัวเก่าพบว่าข้อมูลที่ export มาเป็นดังนี้ จะเห็นว่ามีบรรทัดสุดท้ายที่รายชื่อแปลก ๆ เมื่อถามๆ ดูคือทำลิสต์เอาไว้ว่าถ้าส่งหาลิสต์นี้ก็ไปตามรายชื่อเมล์ได้เลย ทีนี้ การเก็บลักษณะนี้บน Roundcube (Webmail2) นั้นทำไม่ได้ครับต้องแก้ใหม่ให้อยู่ในรูปแบบดังนี้ *รูปแบบตามบรรทัดแรกในไฟล์นั่นเอง แต่ในความเป็นจริงสดมภ์ (คอลัมน์ Column) ที่จำเป็นจะต้องมีมีเพียง 3 คอลัมน์ ได้แก่ First Name, Last Name และ E-mail address เท่านั้นดังนี้เมื่อแปลงไฟล์ด้านบนให้เป็นตามรูปแบบก็จะได้เป็น หรือจะสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมาเองก็ได้แต่ต้องอยู่ในรูปแบบ ไฟล์ตัวอย่างก็จะได้เป็น เมื่อมาที่ Roundcube ไปที่ contact แล้วมองด้านขวาบนกด Import Browse เลือกไฟล์ที่แก้ไขแล้ว กด Import จะได้หน้าสำคัญที่เป็นตัวกำหนดว่าจะเอาคอลัมน์ไหนเข้าบ้าง หากเป็นไฟล์ Custom ก็จะมีเพียง 3 คอลัมน์ดังภาพ กด Import จะได้หน้าสรุปว่านำเข้าได้กี่รายชื่อ กด Close แต่มาเป็นการรวมแต่ละรายชื่อเข้ากลุ่มให้เหมือนสมัยเป็น Squirrelmail มองมาทางซ้ายสุดด้านบนจะเห็นคำว่า Group อยู่ ใกล้ ๆ กันนั้นมี ให้กดที่ แล้วเลือก Add group จะมีหน้าต่างสำหรับตั้งชื่อ Group ให้ ก็สามารถตั้งชื่อได้ตามอัธยาศัยแล้วกด Save จะได้ Group ที่สร้างเพิ่มขึ้นมาดังภาพ คราวนี้มาเพิ่มสมาชิกเข้ากลุ่ม ทำได้โดยการคลิกที่รายชื่อที่ต้องการแล้วมองไปทางขวา จะเห็นคำว่า Groups กดที่คำว่า Groups ก็จะเห็นรายชื่อกลุ่มที่เราสร้างไว้สามารถกด (ปุ่มอยู่ชิดซ้าย) ให้กลายเป็น (ปุ่มอยู่ชิดขวา) เพื่อให้รายชื่อนั้นอยู่ในกลุ่มที่เราต้องการนั่นเอง ก็สามารถเลือกได้จนพอใจเมื่อคลิกกลุ่มที่สร้างไว้จะพบรายชื่อที่เราต้องการให้อยู่ในกลุ่มนี้มีอยู่แล้ว สามารถส่งเมล์ถึงกลุ่มได้ทันทีโดยง่ายเพียงกดเลือกที่ชื่อกลุ่มที่เราต้องการจะส่งเมล์หา แล้วไปกดที่ Compose รายชื่อทั้งหมดในกลุ่มจะถูกใส่ในชื่อ To โดยอัตโนมัติ หรือหากมีหลายกลุ่มหรือต้องการส่งเมล์ถึง คนอื่นๆ ในคราวเดียวกัน (สำคัญ) ระบบเมล์ของมหาวิทยาลัยอนุญาตให้ส่งเมล์ถึงที่อยู่เมล์ได้ 100 เมล์เท่านั้นในคราวเดียวกัน สามารถกดที่รูป เพื่อเพิ่มรายชื่อได้ทันทีหรือจะพิมพ์ต่อท้ายไปก็ได้เช่นเดียวกัน จบขอให้สนุก…

Read More »

Webmail transformation!! #3

เมื่อจะเลิกใช้ Squirrelmail มาใช้งาน Roundcube ก็ต้องมีเรื่องของการทำ Redirect และ Filter ด้วยซึ่งใน Roundcube (webmail2) มีวิธีการที่แตกต่างออกไปดังที่จะเล่าต่อไปนี้ Redirect & Filter สำหรับผู้ใช้ใหม่ไม่เคยใช้ Squirrel mail (webmail เดิม) มาก่อน ที่ต้องระบุแบบนี้เพราะสำหรับคนที่เคยใช้ Squirrel mail มาก่อนส่วนมากจะ Redirect mail ไป gmail หมดแล้วดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องทำตามขั้นตอนนี้ Log In เข้าระบบให้เรียบร้อย คลิก Settings ด้านซ้ายมือ จะได้ดังภาพ เลือก Filters ได้ดังภาพ มองไปด้านขวามีคำว่า Create คลิก Create ได้ดังภาพ กรอกข้อมูลและเลือกดังนี้ โดย username.s คือ username ของท่าน หากต้องการเก็บเมล์ไว้ที่ PSU E-mail ด้วยให้คลิกเครื่องหมาย ท้ายช่อง แล้วเลือก Keep message in Inbox เพิ่มดังนี้แล้วคลิก Save ในกรณีที่ Keep message in Inbox อาจจะต้องเข้ามาดูที่เว็บเมล์บ้างเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันเมล์เต็มนะครับ หลังคลิก Save จะได้ดังภาพ หรือหากต้องการ Redirect mail ไปที่อื่น ๆ อีกก็สามารถสร้างเพิ่มอีกโดยคลิก Create และตั้งค่าแบบเดิมแต่เปลี่ยนที่อยู่อีเมล เช่น โดย Filter จะทำจากบนลงล่าง สามารถตั้งกฎเพื่อกรองอีเมลสแปมได้เช่นกัน โดยปกติอีเมลของมหาวิทยาลัยจะทำเครื่องหมายไว้หน้าอีเมลที่เข้าข่ายอีเมลสแปมอยู่แล้วคือมีค่ำว่า [SPAM?]: อยู่ใน Subject สามารถตั้งกฎให้ลบได้ดังภาพ Filter นี้จะทำการลบอีเมลทุกฉบับที่มีคำว่า [SPAM?:] ถูกลบทิ้งไปอยู่ใน Trash ควรตรวจสอบอีเมลในโฟลเดอร์ Trash ก่อน Empty Trash ทุกครั้ง การล้างโฟรเดอร์ Trash ทำได้โดยคลิกโฟลเดอร์ Trash แล้วคลิกที่ ที่อยู่หลัง username ของท่านแล้วเลือก Empty ดังภาพ ซึ่งอีเมลทั้งหมดที่ถูกลบและ Spam จะโดนล้างไปหมดในคราวเดียวกันดังนั้นควรตรวจสอบว่ามีอีเมลที่ไม่ใช่ Spam ปะปนไปหรือไม่ก่อนกดล้างโฟลเดอร์นะครับ และควรลบอีเมลที่ไม่ใช้แล้วเสมอ ๆ เพื่อป้องกันโควต้าเต็มนะครับ จบขอให้สนุก…

Read More »

วิธี github clone มาเฉพาะบาง Folder

ถ้าต้องการเฉพาะบาง folder เช่นจากของ Google Research https://github.com/google-research/google-research แต่เราต้องการเพียงแค่ project ย่อยเดียว เช่น tft (Temporal Fusion Transformer) วิธีการมีดังนี้ 0. ต้องใช้ git version ใหม่ ๆ ในที่นี้ผมใช้ 2.32.0 1. จะมี sparse-checkout ซึ่งทำให้กำหนดได้ว่า ต้องการ folder ใด ให้ใช้คำสั่งแรกคือ 2. จากนั้น กำหนดว่า ต้องการเฉพาะ folder ชื่อ tft 3 . จากนั้นก็กำหนด remote repository ด้วยคำสั่ง 4 . แล้วก็ pull ด้วยคำสั่ง รอสักครู่ เราก็จะได้เฉพาะ folder ที่ต้องการ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ

Read More »