wilailuk.p
เวลาที่เราจะต้องการ Capture เพื่อทำคู่มือ หรือ ต้องการส่งหน้าจอให้ผู้อื่นดูว่าใช้ Icon ไหนในการเข้าใช้งาน เราสามารถ Capture หน้าจอพร้อมทั้ง Zoom Icon ให้ผู้ใช้เห็นกันชัดๆ อีกด้วย โดยมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ 1. Capture หน้าจอ โดยกดปุ่ม Home พร้อมกับปุ่ม Power จะเข้าหน้าจอของการแก้ไขภาพ เลือกเครื่องหมาย + กด แล้วเลือก Magnifier 2. ปรากฏแว่นขยาย ให้เลือกเลื่อนไปยัง Icon ที่เราต้องการ Zoom แล้วปรับขนาดได้ตามต้องการ 3. จะได้หน้าจอผลลัพธ์ที่เราได้ Zoom ไว้ ซึ่งวิธีนี้เรายังสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อ Zoom ข้อความหรือเมนูต่างๆ ได้ตามที่เราต้องการค่ะ ลองดูนะคะบางทีส่งรูปไปคนรับก็อาจจะหาเมนูหรือข้อความไม่เจอ นอกจากใช้วิธีขีดเส้นแบบวงกลมเอาตามที่เราเคย ๆ ใช้กันแล้ว วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธี แถมยังดูมืออาชีพด้วยค่ะ
>> Read More <<
theerayuth.p
ออกตัวไว้ก่อนนะครับบทความนี้เป็นการย่อความหรือถอดสาระสำคัญมาจาก หนังสือกรอบการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ซึ่งจะนำเสนอในส่วนของการตั้งทีมเพื่อพัฒนา Big Data แนวทางการพัฒนาทั้งข้อมูลและกลุ่มคนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบให้บริการข้อมูล เพื่อประยุกร์ใช้กับการนำข้อมูลไปประกอบการพัฒนามหาวิทยาลัยของเราในรูปแบบ (Data Driven Organization) 1) กลุ่มผู้ใช้ข้อมูล (Business Domain) ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการกอง ผู้ทำงานด้านนโยบายและวิชาการ ผู้ทำงานด้านบริการ มีหน้าที่กำหนดโจทย์หรือประเด็น ที่ต้องการวิเคราะห์ข้อมูล และนำสารสนเทศที่เป็นผลจากการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูล มาใช้ประกอบการดำเนินงาน 2) กลุ่มผู้วิเคราะห์ ประมวลและแสดงผลข้อมูล ได้แก่ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) และนักนิทัศน์ข้อมูล (Data Visualizer) มีหน้าที่ในการนำข้อมูลมาจัดกลุ่ม วิเคราะห์และประมวลผล พร้อมทั้งพัฒนาภาพแบบ แสดงผลข้อมูลหรือ Dashboard สำหรับการนำเสนอข้อมูล 3) กลุ่มผู้สร้างและพัฒนาระบบ ได้แก่ วิศวกรข้อมูล (Data Engineer) สถาปนิก ข้อมูล(Data Architect) นักวิเคราะห์ธุรกิจ(Business
ตามปกติหากเราต้องการนับจำนวนข้อมูลที่ซ้ำๆ กัน ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ใน Excel หลาย ๆคนคงใช้ฟังก์ชัน COUNTIF ในการนับจำนวนกัน แต่วันนี้มีอีกวิธีที่จะมานำเสนอนั้นคือการใช้ Pivot Table ในการนับจำนวน ซึ่งใช้งานง่ายและไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดค่ะ ลองมาดูวิธีกันเลยนะคะ ใน excel ที่เรามีข้อมูลซ้ำ ๆ กันหน้าตาแบบนี้ 2. ไปที่เมนู Insert เลือก Pivot Table 3. ปรากฏหน้าจอ Create PivotTable เพื่อให้เลือกกลุ่มของข้อมูลที่ต้องการนับจำนวน ให้เลือกคอลัมน์ที่ต้องการนับจำนวน แล้วกดปุ่ม OK ดังรูป 4. ปรากฏหน้าจอการทำงานของ Pivot Table ให้เลือกลากข้อมูลชื่อ-สกุล มาไว้ในช่อง Rows และ Values สังเกตุว่าในช่อง Values ใน Excel จะใช้ฟังก์ชัน Count ให้เราโดยอัตโนมัติ ดังรูป 5. แสดงข้อมูลผลลัพธ์ของการนับจำนวนโดยใช้ Pivot Table
sasithorn.k
ใน Google Sheets จะมีสูตรที่ชื่อว่า =GOOGLETRANSLATE ใช้เป็นคำสั่ง ให้ดึงคำหรือประโยคภาษาต่าง ๆ เข้าไปแปลให้ใน Google Translate แล้วส่งคำแปลนั้นมาแสดงใน Google Sheets ซึ่งสูตรนี้จะช่วยแปลคำหรือประโยคในภาษาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อจำกัดก็คือ มันจะแสดงคำแปลตรงๆ มาให้ ไม่มีคำใกล้เคียง (Synonyms) แสดงมาให้ด้วย สามารถแปลได้ทุกภาษา แต่ต้องมีการปรับสูตรบ้างเล็กน้อย เริ่มต้นด้วย : เปิด Google Sheets เพื่อสร้างข้อมูลคำศัพท์ที่ต้องการแปลโครงสร้างสูตรชื่อเซลล์ ภาษาที่จะแปล=GOOGLETRANSLATE(A2, “th”, “en”)หมายความว่า แปลคำศัพท์ที่อยู่ใน “ตำแหน่งของเซลล์ที่มีคำศัพท์หรือประโยค” ตามด้วย “ภาษาต้นฉบับ” และ “ภาษาที่จะแปล” เพื่อให้สูตรทำการแปลภาษาได้อย่างถูกต้องตรงตามที่เราต้องการ และสามารถ Copy สูตรด้านล่างได้ หากต้องการแปลภาษาอื่น ๆ สามารถใช้อักษรย่อในแต่ละภาษาแทนได้ เช่นอักษรย่อแต่ละภาษาth ไทย , en อังกฤษ, zh จีน, k๐
cheerasak.s
สำหรับนักพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อให้บริการบนระบบปฏิบัติการ iOS, iPadOS ฯลฯ ของ Apple นั้น ทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องอัพโหลดขึ้นไปยัง App Store เพื่อให้ผู้ใช้เข้าไปค้นหาและดาวส์โหลดไปใช้งาน ทั้งนี้ช่องทางการอัพโหลดแบบปกติ (Native App ที่พัฒนาด้วย Xcode อยู่แล้ว หรือ เฟรมเวิร์คที่ Export ออกมาเป็น Xcode โปรเจค) คือ การใช้ขั้นตอน Build Archive เมื่อสำเร็จก็จะสามารถเลือก Distribute App ไฟล์ Build ก็จะอัพโหลดขึ้นไปรอที่ appstoreconnect.apple.com ให้อัตโนมัติ เพื่อเข้ากระบวนการ Review App ต่อไป ทั้งนี้ในปัจจุบันเฟรมเวิร์คที่ใช้พัฒนาครั้งเดียวสามารถให้บริการได้หลายระบบปฏิบัติการ (Cross Platform) เป็นที่นิยมอย่างมาก เช่น Flutter, React Native, Xamarin ซึ่งมักจะมีเครื่องมือที่ช่วย Build เป็นไฟล์ .ipa ที่ใช้สำหรับอัพโหลดมาเลย ซึ่งในปัจจุบันไม่สามารถใช้
สายงานดึงข้อมูลเพื่อใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล แปลงข้อมูล จัดรูปแบบข้อมูลต่างๆไม่ว่าวัตถุประสงค์ที่จะทำ ETL, Data warehouse , Data Science, Data Lake สิ่งที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆคือ การจัดกลุ่มข้อมูล ROW_NUMBER(), RANK(), DENSE_RANK() การแปลงข้อมูล CAST,CASE การสร้าง View, Sub Table, temp table, Material View ,select ซ้อน select หลายชั้น (with) การทำงานด้านนี้จะแตกต่างจากการดึงข้อมูลในการทำงานแบบ CRUD (Create, Read, Update, Delete) เป็นงาน Transaction เน้นการทำงานที่เร็วอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลลืมเรื่อง Performance ไปได้เลยส่วนใหญ่คำสั่งที่ทาง Transaction Performance ต้องการให้เราหลีกเลี่ยงเราก็จะได้นำมาใช้งานอยากสนุกสนาน เนื่องจากตอนนี้ผมดึงข้อมูลจาก Oracle Database เป็นหลักก็เลยขอเขียนตัวอย่างของ Oracle ก่อนนะครับ ต่อไปค่อยเพิ่มเติม Database อื่นๆต่อไป
สวัสดีค่ะ หลายท่านคงเคยเจอปัญหามีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามานำเสนอสินค้า ขายประกัน หรือมี SMS โฆษณาเข้ามาทั้งที่เราไม่ได้เคยใช้บริการเหล่านี้ บางท่านอาจจะใช้ App ในการแสดงข้อมูลเพื่อที่จะปฏิเสธการรับสาย แต่เราก็สามารถจัดการตั้งแต่ต้นทางได้นะคะ ไม่ให้พวก App ที่อยู่ในมือถือของเราสามารถนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ก่อนจะใช้งาน Feature นี้ ให้ตรวจสอบก่อนนะคะ ว่า ได้ Update iOS เป็นเวอร์ชัน 14.5 แล้วหรือยัง ถ้า Update แล้วอย่ารอช้าค่ะ เราไปดูวิธีกันเลย เข้าไปในส่วนของ Settings 2. เลือก Privacy 3. Tracking 5. จากนั้นให้เลือก Ask Apps to Stop Tracking เพื่อบอกให้ Apps หยุดติดตาม 6. Apps ทั้งหมดก็จะถูกปิดทั้งหมดเพื่อไม่ให้ติดตามได้อีก เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ ลองไปทำตามกันดูนะคะ อย่าลืมว่าต้อง Update iOS เป็นเวอร์ชัน
wanwarang.j
ที่มาของบทความนี้ เนื่องด้วยงานที่ผู้เขียนได้รับมอบหมายให้พัฒนาอยู่นั้น มีส่วนหนึ่งที่เป็นการแนบไฟล์เอกสาร/หลักฐานทั้งในรูปแบบไฟล์ PDF และรูปภาพ เข้ามาจากผู้ใช้งาน ซึ่งเอกสารเหล่านี้จะต้องมีส่วนของการแสดงผลให้ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเอกสาร/หลักฐานดังกล่าวด้วย โดยเดิมทีจะมีการแสดงผลแยกเป็นรายการให้เจ้าหน้าที่เพื่อคลิกดูรายละเอียดทีละรายการ ดังภาพ ซึ่งในการทำงานจริงแล้วนั้นพบว่า การตรวจสอบเอกสาร/หลักฐานต่างๆที่ผู้ใช้แนบมาสามารถทำได้ยากและต้องใช้เวลา เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องทำการคลิกดูรายละเอียด/ดาวน์โหลดไฟล์คราวละ 1 ไฟล์เพื่อตรวจสอบ ซึ่งไฟล์จะแยกกันอยู่ หากต้องการดาวน์โหลดก็ต้องดาวน์โหลดทีละไฟล์ ดังภาพ จึงเป็นที่มาของการค้นหาวิธีการแสดงผลไฟล์ทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและดูรายละเอียดข้อมูลเอกสารไฟล์แนบได้ในคราวเดียว ซึ่งผู้เขียนก็ได้นำวิธีการดังกล่าวมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านที่มีความสนใจและประสบปัญหาคล้ายกันอยู่ ซึ่งจะมีวิธีการดังนี้ค่ะ 1.ดึงข้อมูลไฟล์แนบเอกสารทั้งหมดของผู้ใช้ หมายเหตุ ในการทำงานข้างต้น ควรมีการลบไฟล์(Temporary file)ที่ถูกสร้างไว้ก่อนหน้านี้ที่ไม่ใช้งานออกไปด้วย เนื่องจากการรวมไฟล์ด้วยวิธีนี้จะมีการสร้างไฟล์รวมตัวใหม่ขึ้นมาและนำไปแสดงผลให้ผู้ใช้ ซึ่งหลังจากผู้ใช้งานไม่ใช้งานแล้วหากเราไม่ทำการลบทิ้งจะเกิดเป็นไฟล์ขยะบนเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากได้ โดยจากโค้ดข้างต้นจะพบว่า ไฟล์ที่จะใช้ในการรวบรวมจะต้องเป็นไฟล์ PDF ซึ่งในการทำงานจริงของเรา การแนบไฟล์เอกสาร/หลักฐานสามารถแนบได้ทั้งไฟล์ที่เป็น PDF และไฟล์ที่เป็นรูปภาพด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะทำการรวมไฟล์ จึงต้องทำการตรวจสอบว่ามีไฟล์ดังกล่าวอยู่จริงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบชนิดของไฟล์ด้วย หากพบว่าไฟล์ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในรูปแบบ PDF ไฟล์ ให้ทำการแปลงไฟล์รูปภาพเหล่านั้นให้เป็น PDF เสียก่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในขณะทำการรวมไฟล์นั่นเอง 2. เขียนเมธอดในการรวมไฟล์ดังกล่าวและสร้างเป็นไฟล์ PDF ตัวใหม่ 3.เขียนเมธอดในแปลงไฟล์รูปภาพให้เป็นไฟล์ PDF 4.แสดงผลไฟล์ PDF ที่รวมเรียบร้อยแล้ว ด้วย
การสือสารที่มีอรรถรสสำหรับการมอง/อ่าน ที่ข้อมูลครบถ้วนโดยมีมิติ มุมมองและการเปรียบเทียบ จบในหน้าเดียวหรือรูปเดียว คือนิยาม Data Visualization ของผมครับ เราก็มาดูกันครับ เอาข้อมูลแบบไหนมาชนกับ Data Visualization แบบไหนถึงจะตรงประเด่นการนำเสนอข้อมูลด้วยภาพ ต้องการเปรียบเทียบข้อมูล (Comparison) กลุ่มนี้ก็จะมี Bar Chart Line Chart Bubble Chart Grouped Bar Table Pivot Table Bar Chart และ Grouped Bar ใช้เปรียบเทียบข้อมูลตามเงื่อนไขที่สนใจ ใช้เปรียบเทียบมิติจำนวนข้อมูลที่สนใจกับช่วงที่สนใจ เช่น เปรียบเทียบเป้าหมายที่ตั้งไว้กับข้อมูลที่ทำได้จริงในแต่ละเดือน, จำนวนนักศึกษา ในแต่ละปีการศึกษา เป็นต้น Line Chart ใช้เปรียบเทียบเพื่อดูแนวโน้มของข้อมูล ใช้เปรียบเทียบมิติของข้อมูล ในเชิงต้องการดูเพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง ดูแนวโน้ม (Trends) โดยอาจจะเทียบกับมิติของเวลา (Time Series) และยังนำไปใช้ร่วมกับ machine learning เพื่อพยากรณ์ข้อมูลในอนาคตได้ด้วย เช่น ข้อมูลการถอนรายวิชาในแต่ละเดือนเปรีบเทียบ