Category: Lifestyle

  • ใช้ Line PC สแกน QR CODE

    เป็นกันไหมคะทุกคนเวลาที่ใช้ PC ในการดูข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ  หรือ ต้องการลงทะเบียนในการเข้าร่วมกิจกรรมอะไรสักอย่าง  บนหน้าเว็บก็จะบอกว่าสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…  สามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่…  แล้วก็มีรูป QR CODE มาให้  เราก็ต้องใช้มือถือนำมาแสกน QR CODE  ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งการดูข้อมูลหรือกรอกข้อมูลบนมือถือ  ก็ต้องยอมรับว่าไม่สะดวกเหมือนบนจอคอมพิวเตอร์ใช่มั้ยล่ะค่ะ ถ้าสแกนบนมือถือแล้วจะ Copy Link ส่งไปไว้ใน  Keep Memo  (ดูวิธีการใช้งาน Keep Memo) แล้วไปเปิดบนคอมพิวเตอร์อีกที ก็ได้เหมือนกันล่ะค่ะ  แต่มันก็เพิ่มขั้นตอนเข้าไปอีก  ไม่ต้องห่วงนะคะ เรามีวิธีมาบอกเพราะบน Line PC ก็สามารถสแกน QR CODE ได้เหมือนกันจ้า เรามาดูวิธีกันเลยค่ะ

     1.  ถ้าใครยังไม่มี Line PC ให้เข้าไป Download การใช้งานกันก่อนที่ https://line-pc.com แล้วเลือกติดตั้งตามระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน

       2.  เปิดหน้าเว็บหรือรูปภาพที่มี QR CODE ที่ต้องการจะแสกนรอไว้ก่อน

    3. เมื่อติดตั้ง Line PC เรียบร้อยแล้วให้ Login เข้าใช้งาน

    4.  เมื่อ Login สำเร็จ ในหน้าแรกของ Line ให้คลิกเลือกที่สัญลักษณ์ …

    5.  เลือก Capture Screen

    6.  ที่ภาพ QR CODE ให้ลากคลุมรูปของ QR CODE ค้างไว้ แล้วปล่อยเม้าส์ เลือกสัญลักษณ์ สแกน QR CODE

    7.  ปรากฏ URL เพื่อให้สามารถ Copy  Go to URL  หรือ Share หน้าเว็บไซต์นั้น ๆ ได้

    เป็นไงคะ คราวนี้เวลาที่เราเจอ QR CODE ในขณะที่เราใช้ PC อยู่ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปหยิบมือถือขึ้นมาสแกนอีกแล้วล่ะค่ะ ^ ^

  • เปลี่ยน iPad เป็นหน้าจอเสริมไร้สายสำหรับ PC/Notebook (Windows)

    ในปัจจุบัน iPad เรียกว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันของใครหลายๆคน แต่บางครั้งซื้อ iPad มาแล้วรู้สึกว่ายังใช้งานไม่คุ้มค่า ไม่ค่อยได้หยิบมาเล่นเพราะต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานมากกว่า

    แล้วถ้าเราสามารถเอา iPad มาใช้ประโยชน์เพิ่มเป็นจอเสริมพกพา เชื่อมต่อแบบไร้สาย มีแบตเตอรี่ในตัวใช้งานได้สบายๆ หลายชม.แบบไม่ต้องเสียบสายชาร์จ แถมยังใช้ความสามารถขอจอทัชสกรีน apple pencil ได้ น่าจะใช้งานได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

    ถ้าทำงานในฝั่งของ Mac OS สามารถใช้งาน iPad เป็นจอเสริมได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม แต่ถ้าฝั่งของ Windows เราจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม(Freeware) ที่ชื่อว่า “ Spacedesk “ โดยจะต้องติดตั้งทั้งใน Notebook และ iPad

    Download Spacedesk : https://www.spacedesk.net/

    โปรแกรมรองรับการใช้งานบน Windows 8.1/10/11

    Notebook/PC

    เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรมบน Windows แล้วให้เปิดโปรแกรม Spacedesk จากช่อง Search หรือจาก Taskbar ก็ได้

    ให้ตรวจสอบ IP ที่ Notebook ทำการเชื่อมต่อ WIFI (เนื่องจากทั้ง Notebook และ iPad ต้องเชื่อมต่ออยู่บนเครือข่ายเดียวกัน)

    iPad/Tablet

    เมื่อติดตั้ง Spacedesk บน iPad แล้วให้กดเพิ่ม IP ของ Notebook ตามรูป

    เมื่อตรวจสอบที่โปรแกรมฝั่ง Notebook จะแสดงสถานะการเชื่อมต่อดังรูป

    และข้อดีอีกอย่างของการใช้งาน iPad เป็นจอเสริมคือคือการใช้ความสามารถของการ Touch Screen และ Apple Pencil บน Windows ได้

  • ปรับขนาดและสีของ Mouse Cursor / Mouse Pointer บน Windows 10 /Windows 11 ให้ชัดๆ ปังๆ ตามสไตล์สายมูเตลู

    ด้วยอายุอานามของผู้เขียนที่ปาเข้าไปหลายหลักสิบ เวลามองอะไรที่เล็กๆ ก็ออกจะขัดใจและไม่สบายตาไปซะแล้ว อย่าง Mouse Cursor ก็เช่นกัน

    ผู้เขียนเลยถือโอกาสนี้มาแชร์วิธีการปรับขนาด ของ Mouse Cursor บน Windows 10 และ 11 ให้ดูง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สบายตาแล้ว สายมูเตลูอย่างผู้เขียนก็ไม่พลาดเพราะสีสันมีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา จึงขอแชร์วิธีการปรับสีของ Mouse Cursor ด้วยซะเลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ Mouse Cursor ที่ชี้ไปชี้มา ก็พาปังและราบรื่นได้นะ อิอิ

    สำหรับสายมูเตลูอยากปรับสี Mouse Cursor ให้ปังและราบรื่น ขอเชิญเลื่อนหน้าจอไปด้านล่างสุดกันก่อนนะคะ จะได้ทราบว่าเราจะใช้สีอะไร ส่วนใครไม่ใช่สายมู ก็ดูวิธีการต่อจากนี้ได้เลยค่า ซึ่งเราจะต้องรู้ก่อนว่า Microsoft Windows ที่เราใช้งานกันอยู่นั้น เป็นเวอร์ชัน 10 หรือ 11 จะได้เข้าไปตั้งค่ากันถูกค่ะ

    การจะรู้ได้อย่างไรว่า Microsoft Windows ที่เราใช้งานกันอยู่นั้น เป็นเวอร์ชัน อะไร ?

    ให้เลือก เริ่มต้น > การตั้งค่า  > ระบบ > เกี่ยวกับ

    เท่านี้เราก็จะทราบแล้วค่ะ ว่าใช้งาน Microsoft Windows เวอร์ชัน 10 หรือ 11


    เอาละ ถ้าทราบกันแล้วว่าเราใช้งาน Microsoft Windows เวอร์ชัน 10 หรือ 11 ก็มาดูวิธีการปรับขนาดและสีของ Mouse Cursor ตามแต่ละ Windows กันเลยค่า

    การตั้งค่าขนาดและสีของ Mouse Cursor / Mouse Pointer บน Window 10 /Windows 11 มีวิธีการดังนี้

    ขั้นที่ 1 : คลิกไอคอน Search ของ Window พิมพ์คำว่า Mouse แล้วเลือก Mouse Settings

    Microsoft Window 11

    Microsoft Window 10

    ขั้นที่ 2 : คลิกเลือก Adjust mouse & cursor size สำหรับ Window 10 หรือเลือก Mouse Pointer สำหรับ Window 11 เพื่อเข้าไปปรับขนาดและสีของ Mouse Cursor/Mouse Pointer กันค่า

    Microsoft Window 11

    Microsoft Window 10

    ขั้นที่ 3 : ตั้งค่า Mouse Cursor /Mouse Pointer โดยปรับขนาดและสีของ Mouse Cursor/Mouse Pointer ตามที่ต้องการ อธิบาย ดังนี้

    Change pointer size /size – ปรับขนาดของ Mouse Cursor ให้ใหญ่-เล็ก โดยให้คลิกลากแถบขนาดเพื่อปรับขนาดของ Mouse Cursor

    ส่วนสายมูเตลูอยากปรับสีด้วย ในส่วนของ Change pointer colors /Mouse poitter Style ซึ่งเป็นการปรับสีของ Mouse Cursor ก็คลิกคลิกเลือก icon ชาร์ทสี/Mouse สีเขียว และคลิกเลือกสีตามปีเกิดที่ต้องการได้เลยค่ะ

    แต่หากต้องการเลือกสีอื่นหรือสีปังๆ ตามปีเกิดซึ่งไม่มีในสีที่แนะนำ ให้คลิกเลือก Pick a custom pointer color /Choose another color แล้วทำการเลือกสีที่ต้องการ เมื่อเลือกสีที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม Done คร่าาาา

    Microsoft Window 11

    Microsoft Window 10

    > เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ได้ Mouse Cursor ชิคๆ  ชัดๆ สีสวยๆ ตามที่ต้องแล้วละค่า แถมความปังก็เกิดขึ้นในทันที



    ดูสีมงคลประจำปี 2566 ตามปีเกิดที่ทำให้ชีวิตของเราปังและราบรื่นกันก่อน จะได้เอาไปใช้ปรับสีของ Mouse Cursor กันค่า (Ref : เช็กสีมงคล 2566 เสริมดวง 12 นักษัตร ให้ชีวิตราบรื่นตลอดทั้งปี)

    ได้สีเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปเปลี่ยนสี Mouse Cursor กันนะค่า ได้เรื่องอย่างไรมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ^^

    ปีกุนสีมงคล : สีน้ำเงิน สีแดง
    ด้วยชาวกุนเป็นคนชอบเก็บเงินเก็บทอง หมายปองเรื่องเงินเป็นสำคัญ ควรมีสีน้ำเงินในชีวิตให้มากเพื่อรับทรัพย์ และสีแห่งความมั่งคั่งอย่างสีแดง ซึ่งนอกจากจะแสดงถึงความรักแล้ว ยังเป็นสีแห่งความเฮงที่เหมาะสมกับชาวกุนเช่นกัน
    ปีชวดสีมงคล : สีม่วง สีส้ม
    เพราะชาวชวดมีอุปนิสัยเขินอาย ขี้กลัว และกังวลเป็นอย่างมาก ควรมีสีส้มแห่งความโชคดี เสริมให้คุณเจอแต่เรื่องที่ดี ให้คุณพร้อมมั่นใจไม่วิตกกังวล และสีม่วงจะคอยเสริมเรื่องทรัพย์ให้คุณมีกินมีใช้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    ปีฉลูสีมงคล : สีเขียว สีแดง
    โดยภาพรวมชาวฉลูเป็นคนที่อดทน อดกลั้นได้ดี ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าจริง ๆ แล้ว คุณนั้นรู็สึกอย่างไร ดังนั้นควรเสริมด้วยสีแดง สีแห่งความรัก ความเมตตาให้คนได้มองเห็นใจของชาวฉลูบ้าง และสีเขียวแห่งความอุดมสมบูรณ์ อบอุ่น ผ่อนคลาย จะช่วยขจัดความกดดันที่มีให้สบายใจขึ้น
    ปีขาลสีมงคล : สีน้ำเงิน สีส้ม
    เพราะชาวขาลมีความเป็นผู้นำ มีความเอาแต่ใจสูง ต้องได้ในสิ่งที่ปรารถนา ดังนั้นสีส้มจะนำพาความสุขสมหวังดั่งใจมา มอบให้คุณ และสีน้ำเงิน เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ เป็นสิ่งที่ชาวขาลปรารถนาควรค่าแก่การได้ครอบครอง
    ปีเถาะสีมงคล : สีเขียว สีส้ม
    เพราะชาวปีเถาะเป็นคนขี้เหงา ต้องการเป็นผู้ที่ได้รับความสนใจ สีเขียวจะช่วยเติมเต็มความสุขสมบูรณ์ของชีวิต สีส้มจะนำพาความโชคดีให้ชีวิตไม่ขาดมีแต่คนรักคนเมตตา
    ปีมะโรงสีมงคล : สีแดง สีน้ำเงิน
    เพราะมะโรงเป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลืองานบุญ งานกุศลควรได้รับสีแดง สีแห่งพลังความรักจากผู้อื่นและความมั่งคั่งจากสีน้ำเงินเสริมบุญบารมีแก่ตัวเองอย่างสมควร
    ปีมะเส็งสีมงคล : สีเขียว สีน้ำเงิน
    ชาวมะเส็งเป็นคนขี้เบื่อ ไม่ชอบอะไรที่จำเจ บางครั้งก็เลิกทำเอาดื้อ ๆ ดังนั้นควรเติมด้วยสีเขียวที่มีความหมายถึงการให้ความอบอุ่นสมบูรณ์แก่คนรอบข้างเพื่อโน้มน้าวใจให้ชาวมะเส็งอยากทำสิ่งต่าง ๆ และเสริมด้วยสีแห่งทรัพย์ คือ สีน้ำเงิน ให้ชาวมะเส็งมีแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดผลลัพธ์ที่ดี
    ปีมะเมียสีมงคล : สีแดง สีม่วง
    ชาวมะเมียเป็นคนขี้สงสาร มีความเมตตาและเอ็นดูผู้อื่นอยู่เสมอมักจะมอบสิ่งที่คนอื่นร้องขอ โดยเฉพาะเรื่องเงินทอง ดังนั้นสีแดง จะเสริมให้ชาวมะเมียได้รับความรัก ความเมตตา  และความเห็นใจจากผู้อื่นเป็นการตอบแทนมากขึ้น ส่วนสีม่วงจะช่วยดึงดูดทรัพย์ ส่งเสริมให้ชาวมะเมียมั่งมี เงินทองเพิ่มพูน
    ปีมะแมสีมงคล : สีม่วง สีเขียว
    โดยรวมแล้วชาวมะแมเป็นนักวางแผนที่ดี มีความคิดแน่วแน่ มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ต้องเสริมด้วยสีเขียว เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับชาวมะแมที่ชอบใฝ่หาความสำเร็จ และสีม่วงจะเสริมเรื่องโชคลาภให้มั่งคั่งมากยิ่งขึ้น
    ปีวอกสีมงคล : สีส้ม สีน้ำเงิน
    เพราะชาววอกเป็นคนอยู่ไม่สุข ชอบทำนู่นทำนี่แล้วไม่ค่อยระวังนัก ต้องเสริมด้วยสีแห่งความโชคดีอย่างสีส้ม เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ส่วนสีน้ำเงินจะช่วยเติมเต็มความสุขสมบูรณ์ทางการเงินให้ชีวิตและต่อยอดสิ่งดี ๆ ให้เข้ามาหาตัวเอง
    ปีระกา
    สีมงคล : สีแดง สีส้ม
    เพราะชาวระกาเป็นคนช่างพูด มีวาทศิลป์ที่ดี จึงควรได้รับพลังแห่งความรักจากสีแดงจะช่วยเสริมความเมตตาจากคนรอบกาย  และเสริมด้วยสีส้มให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต ทำให้หมดทุกข์ หมดโศก หมดเรื่องร้าย ๆ
    ปีจอ
    สีมงคล : สีเขียว สีม่วง
    ชาวจอเป็นคนขี้บ่น ขี้หงุดหงิดรำคาญใจ หากเสริมด้วยสีเขียว จะทำให้มีพลังงานที่ช่วยลดความใจร้อน คอยเติมความสมบูรณ์และความสงบทางใจมากขึ้น ส่วนสีม่วง เสริมเรื่องการดึงดูดสิ่งดี ๆ ให้เข้ามาในชีวิต จะทำให้คุณใจเย็นกับทุก ๆ เรื่อง
  • Event และ Vote ใน Line ใช้งานยังไงนะ

    สวัสดีค่ะทุกท่าน มาแล้ววววค่าาาาา ^_* มาเขียนเรื่องง่าย ๆ เข้าถึงได้กันทุกคน และสืบเนื่องมาจาก Blog ที่แล้ว เราได้ทราบฟังก์ชันเคล็ดไม่ลับแบบฉบับการใช้ Line กันมาแล้ว หลายคนมาบอกว่า สะดวกดี ไม่เคยรู้มาก่อนเลย รู้อย่างนี้ทำไปนานแล้ว ^ ^  ทำผู้เขียน Blog มีกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ  สำหรับ blog นี้เรามาดูในเรื่องของการนัดหมาย และ การโหวตกันดีกว่านะคะ ใน Line ใช้งานกันยังไง

    1. Event

    เวลาที่เราคุยแชทกับเพื่อนหรือแชทกันในไลน์กลุ่ม แล้วมีการนัดหมายกันทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือไม่ใช่เรื่องงานก็ตาม ^ ^  เมื่อคุยกันเพลิน ๆ  ข้อความที่นัดกันไว้ก็ถูกเลื่อนไปด้านบน จนทำให้อาจลืมนัดกันหรือ หรือ จะดูว่าที่นัดกันไว้มันวันที่เท่าไหร่ ก็ต้องเสียเวลามาเลื่อนแชทหาข้อความที่เคยคุยเรื่องนัดกัน  ถ้าเป็นกรณีแบบนี้เรามาสร้างตารางนัดหมายโดยการใช้ Event กันดีกว่าค่ะ

    1.1 เข้ามาที่หน้าจอแชทของไลน์กลุ่มหรือไลน์ส่วนตัวของคนที่เราคุยด้วย เลือกที่เครื่องหมายขีด 3 ขีด

    1.2 เลือก Events

    1.3 เลือกวันที่ที่ต้องการนัดหมาย จากนั้นกดเครื่องหมาย +

    1.4 ระบุหัวข้อในการนัดหมาย สามารถเลือกได้ว่าเป็นการนัดหมายทั้งวันหรือระบุเป็นช่วงเวลา หากเป็นการนัดหมายกันทั้งวันก็เลือกทำเครื่องหมายถูกที่ All Day  ในส่วนของข้อมูลตรง Start : ก็จะไม่แสดงเวลา

    1.5 แต่หากต้องการระบุเป็นช่วงเวลา ให้เอาเครื่องหมายถูกที่ All Day ออก  ในส่วนของข้อมูลตรง Start :  ก็จะแสดงข้อเวลา โดยสามารถเลือกแตะตรงข้อมูลของวันและเวลาเพื่อแก้ไขได้

    1.6 สามารถระบุเวลานัดหมาย  หรือแก้ไขวันที่นัดหมายใหม่ได้  โดยเมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้วเลือก Done

    1.7 หากเป็นการทำกิจกรรมต่อเนื่องกันหลายวัน  สามารถมาเพิ่มเวลานัดหมายให้ขยายเป็นช่วงวันได้ตรง End   อยากกจะระบุ Location ก็สามารถทำได้  ต้องการให้มีการตอบรับการนัดหมายก็เลือกทำเครื่องหมายถูกไว้ที่ Request RSVP

    1.8 หากต้องการให้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเวลานัดหมายก็สามารถทำได้โดยการเลือกทำเครื่องหมายถูกไว้ที่ All reminder เมื่อแตะเลือก จะแสดงเวลาให้เลือกว่าต้องการให้แจ้งเตือนก่อนในระยะเวลาเท่าไหร่ที่เราต้องการ ให้เลือกเวลาตามที่เราต้องการให้แจ้งเตือน

    1.9 ตรวจสอบข้อมูลการนัดหมายเรียบร้อยแล้วเลือก Done ได้เลย

    1.10 และเพื่อให้ไม่พลาดนัดสำคัญของเรา เราก็ตั้งค่าไว้ให้แสดงไว้ที่ประกาศด้านบนสุดของแชทได้เลยโดยการเลือกตั้งค่าให้ Set as announcement

    1.11 ระบบก็จะแจ้งเตือนว่าได้ตั้งค่าไว้เป็นประกาศเรียบร้อยแล้วเลือก OK

    1.13 เลือกตรงสัญญลักษณ์ < เพื่อกลับไปยังหน้าแชทของเพื่อนหรือไลน์กลุ่ม

    1.14 ในหน้าแชทแสดงการนัดหมายที่สร้างไว้ และ ถูกตั้งค่าไว้เป็นประกาศด้านบนสุดในหน้าแชทเรียบร้อยแล้ว

    1.15 และเมื่อเลือกเข้ามาดูข้อมูลในตารางนัด ก็สามารถเลือกตอบรับหรือปฏิเสธการนัดหมาย เพื่อให้ผู้นัดทราบได้เลย โดยด้านล่างแสดง Account ของผู้ที่ตอบรับหรือปฏิเสธก็จะปรากฏให้ทราบได้ทันที

    2. Vote

    เย็นนี้กินอะไรดี  งานปีใหม่จะเลี้ยงที่ไหน แล้ววันหยุดยาวนี้ล่ะจะไปจังหวัดไหนกันดี  คิดว่าทุกคนคงเคยมีหัวข้อสนทนาที่เป็นปัญหาโลกแตกแบบนี้  คุยกันไปกันมาไม่ได้ข้อสรุปกันเสียที ถ้าแบบนี้ก็เปิดโหวตแบบแฟร์ ๆ กันไปเลย มาสร้างการโหวตใน Line กันดีกว่าค่ะ

    2.1 เข้าไปที่หน้าแชทส่วนตัวของเพื่อนหรือแชทกลุ่ม กดที่สัญลักษณ์ +

    2.2 เลือก Poll

    2.3 เลือก Create Poll

    2.4 ตั้งชื่อหัวข้อของการโหวต ตัวเลือกในการโหวต โดยในแต่ละตัวเลือกสามารถใส่รูปได้

    2.5 เลื่อนลงมาด้านล่างจะมีตัวเลือกให้เลือกดังนี้

    • Set ending date : กำหนดวันปิดโหวต
    • Multivote : โหวตแบบตอบได้หลายข้อ
    • Anonymous votes : โหวตแบบไม่แสดงชื่อ
    • Allow new options : เพิ่มตัวเลือกอื่น ๆ ในการโหวต

      ยกตัวอย่างในกรณีนี้เลือกการโหวตแบบไม่แสดงชื่อ  และ เลือกกำหนดวันปิดโหวต เมื่อกำหนดข้อมูลในการโหวตเรียบร้อยแล้วเลือก Done

    2.6 แสดงข้อมูลของการโหวต และ เราสามารถตั้งค่าให้เป็นประกาศอยู่ด้านบนสุดของแชทได้เช่นเดียวกันกับ Event  โดยการเลือกที่ Announce

    2.7 แจ้งว่าตั้งค่าให้เป็นประกาศแล้ว ให้กด OK

    2.8 กดที่สัญลักษณ์ X เพื่อปิดหน้าจอ

    2.9 ในหน้าแชทก็จะแสดงการโหวตและตั้งค่าเป็นประกาศเรียบร้อยแล้ว

    2.10 เมื่อกดเข้าไปในโหวต ก็จะแสดงกับรายการที่เราตั้งค่าให้โหวต เพื่อนก็สามารถเลือกโหวตได้ตามต้องการ จากนั้นก็เลือก Vote

    2.11 แสดงจำนวนของผู้โหวตให้ทราบ และ เนื่องจากเรามีการตั้งค่ากำหนดวันปิดโหวต ด้านบนก็จะแสดงจำนวนวันนับถอยหลังว่าอีกกี่วันถึงจะปิดโหวต

    เป็นไงคะสำหรับ 2 ฟังก์ชันนี้ คิดว่าน่าจะนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กันได้มากขึ้นนะคะ Blog หน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามให้ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ^ ^

  • เคล็ดไม่ลับแบบฉบับการใช้ Line

    มาถึงยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Application Line เพราตั้งแต่รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่  ใคร ๆ ต่างก็ใช้ Line ในการส่งข้อความหากัน  แต่ใช่ว่าใน Line จะทำได้แค่การส่งข้อความเท่านั้นนะคะ ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายฟังก์ชันเลยค่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้า เราไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

    1. Line Meeting

    เราสามารถใช้ Line ในการประชุมได้เช่นเดียวกันกับ Application อื่นๆ ที่ใช้ในการประชุม เช่น  Zoom, Microsoft Team, Google Meet เป็นต้น โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาโหลด App การประชุมอื่น ๆ มาเพิ่มเติม ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

    1.1 เข้ามาที่หน้าจอแชทของ Line กดปุ่ม ….

    1.2 เลือก Meeting

    1.3 เลือก Create Meeting เพื่อสร้างห้องประชุม

    1.4 ปรากฏ Link ของการประชุม โดยเราสามารถแก้ไขหัวข้อในการประชุมได้โดยการกดที่สัญลักษณ์ของการแก้ไข

    1.5 แก้ไขหัวข้อในการประชุมแล้วกดปุ่ม Save

    1.6 Copy link เพื่อส่งให้คนที่ต้องการให้มาร่วมประชุม  หรือ Invite เพื่อเลือกเพื่อนได้ หากเชิญเรียบร้อยแล้วก็กดปุ่ม Start เพื่อเริ่มต้นประชุมได้เลย

    สำหรับฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ไฟล์ หรือ แชร์หน้าจอ ต่าง ๆ สามารถทำได้เหมือน กันกับ App อื่นๆ  ที่ใช้ในการประชุมเลยค่ะ โดย Link ในการประชุมจะมีอายุการใช้งาน 14 วัน และ รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้สูงสุด 500 คน  ใช้ได้ทั้ง App Line บนมือถือ และ Line PC เวอร์ชัน 6.2.0 ขึ้นไป ถ้าใครใช้ไม่ได้ก็อย่าลืมไป Update เวอร์ชันกันก่อนนะคะ

    2. Keep

    เคยไหมคะที่บางครั้งเพื่อนส่งรูปหรือส่งไฟล์อะไรมาให้ทางแชท เราก็มีเวลาดูแค่แว้บเดียว แล้วด้วยความที่ทำแต่งาน และ งาน ^_^ อ้าว !! พอมาเปิดดูอีกทีไฟล์หมดอายุไปแล้วซะงั้น ไม่เป็นไรค่ะ เราก็แค่เก็บทุกอย่างไว้ใน Keep กันไปก่อน โดยสามารถเก็บข้อความ รูปภาพ วิดีโอ Link  และ ไฟล์ต่าง ๆ ได้ค่ะ ยกตัวอย่างการเก็บไฟล์ภาพนะคะ มีขั้นตอนดังนี้

    2.1 กดค้างที่ภาพ เมนูจะแสดงฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เลือก Keep

    2.2 สามารถเลือกภาพอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีกโดยทำเครื่องหมาย ถูก หน้าภาพที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Save

    2.3 ระบบจะแสดงข้อความแจ้ง Save in Keep

    2.4 เวลาที่ต้องการดูข้อมูลให้มาที่หน้า Home แล้วกดที่สัญลักษณ์ Keep ด้านบน

    2.5 ก็จะเจอข้อมูลต่างๆ  ที่เราเก็บไว้ใน Keep

    2.6 หากต้องการส่งข้อมูลจาก Keep ในขณะที่กำลังแชทไลน์กับผู้อื่นก็สามารถทำได้ค่ะ โดยกดที่เครื่องหมาย +

    2.7 จะเจอกับสัญลักษณ์ Keep

    2.8 เมื่อกดเข้าไปก็จะเลือกข้อมูลที่เราเก็บไว้ใน Keep มา Share ต่อให้กับเพื่อน ๆ ได้เลยค่ะ

    เพียงเท่านี้ เรามีเวลาว่างตอนไหนก็สามารถมาดูข้อมูลที่เรา Keepไว้ได้เลยค่ะ แต่การใช้งาน Keep มีข้อจำกัดดังนี้นะคะ

    • เก็บข้อมูลได้สูงสุด 1 GB
    • เก็บความยาวของวิดีโอสูงสุด 5 นาที
    • จำกัดข้อความสูงสุด 10,000 ตัวอักษร
    • เก็บได้ไม่จำกัดระยะเวลาแต่ไฟล์ที่มีขนาดเกิน 50 MB เก็บได้ไม่เกิน 30 วัน

    3. Keep Memo

    ส่วนใครที่เป็นประเภทเวลาไปเจอรูปภาพ  Link  หรือไฟล์ต่าง ๆ ที่อยากจะเก็บไว้อ่านหรือดูภายหลัง โดยจะต้องส่งข้อมูลเหล่านี้ไปที่แชทของเพื่อนก่อน แล้วบอกว่า ฝากรูปไว้ด้วย  ฝาก Link ไว้หน่อย  ฝากไฟล์ไว้ก่อน ^_^ เราก็ไม่ต้องทำเช่นนั้นให้เพื่อนรำคาญหรือลำบากใจค่ะ ส่งมันไปไว้ใน Keep Memo ดีกว่า ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยากค่ะ ขั้นตอนดังนี้

    3.1 ไปที่หน้าแชท แล้วค้นหา Keep Memo ในช่องค้นหา ก็จะเจอกับ Keep Memo

    3.2 เมื่อกดเข้าไป จะแสดง Keep Memo ที่สามารถส่งข้อความ Link  ไฟล์ หรือ วิดีโอ ที่เราต้องการมาในห้องแชทของตัวเราเองได้เลย

    3.3 หากจะดูข้อมูลที่อยู่ในแชท Keep Memo สามารถกดดูที่สัญลักษณ์ Keep จากหน้าแชทได้เลย

    3.4 ข้อมูลก็จะถูกจัดเก็บเข้าไปในฟังก์ชัน Keep โดยอัตโนมัติ

    มาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านส่งสัยกันไหมคะว่าแล้ว Keep กับ Keep Memo ต่างกันอย่างไร สำหรับความแตกต่างมีดังนี้ค่ะ

    • Keep คือการเก็บข้อมูลไว้บน Cloud ของ Line คล้ายกับการจัดเก็บข้อมูลบน Google Drive แต่จะแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจนว่าเป็นข้อมูลประเภทใดบ้าง เช่น รูป วิดีโอ ลิงค์ ข้อความ เป็นต้น
    • Keep Memo เก็บข้อมูลในลักษณะแชท เหมือนกันที่เราแชทกับเพื่อนๆ  เพียงแต่เป็นการแชทกับตัวเราเองและมีเพียงแต่เราคนเดียวที่เห็นข้อความ

    เป็นยังไงกันบ้างคะ  คิดว่าจากการที่เราจะใช้ไลน์แค่การพูดคุยกันเพียงอย่างเดียว เราน่าจะใช้ประโยชน์จากไลน์ในฟังก์ชันอื่นๆ ได้มากขึ้นนะคะ สำหรับ Blog หน้าจะเป็นการใช้ฟังก์ชันอะไรเพิ่มเติม อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^_^

  • Create a feedback form with NotionForms

    สวัสดีท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน มาค่ะ เรามาต่อกันใน Blog ที่ 4 ของรอบ TOR นี้
    ซึ่งผู้เขียนขอพาไปรู้จักกับ NotionForms

    ถ้าพร้อมแล้ว ไปค่ะ ไปเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน 😜


    NotionForms 💬
    NotionForms was created to help Notion users to achieve more with their favourite tool.
    Need a contact form? Doing a survey? Create a form in 3 minutes
    and receive responses directly in Notion.


    เอาจริงๆ หลายๆ ท่านก็คงจะรู้จักวิธีการสร้างฟอร์ม สร้างแบบสอบถาม ด้วยเครื่องมืออื่นๆ มาบ้างแล้ว เช่น google form, microsoft form หรือ อื่นๆ NotionForms ก็คล้ายๆ กับเครื่องมือเหล่านั้น อาจจะมีแตกต่างกันบ้างในเรื่องของลูกเล่น หรือฟังก์ชัน ให้เราได้ลองใช้งานกันค่ะ

    เมื่อพร้อมแล้ว เรามาทดลองสร้าง Form ด้วย NotionForms ตัวนี้กันเลย

    💡 หมายเหตุ : แบบฟอร์มที่เราสร้างขึ้นด้วย NotionForms ข้อมูลการตอบกลับจะถูกเก็บไว้ใน Notion

    Step 1

    ก่อนอื่นเราต้องสร้างฐานข้อมูลหรือตารางสำหรับจัดเก็บข้อมูลแบบฟอร์มของเราขึ้นมาก่อน ตัวอย่างใน Blog นี้ผู้เขียนขอสร้างตารางชื่อ Admission Feedback เก็บข้อมูล 4 column
    – name (type = text)
    – feedback (type = text)
    – the system is easy to use (type = select)
    – How do you feel after using the system (type = select)

    โดย column ที่อยู่ในรูปแบบ select เราก็จะเพิ่ม option เข้าไป เช่น column “How do you feel after using the system” ก็จะมี 2 option
    1. 👍 ฉันถูกใจสิ่งนี้
    2. 👎 ฉันไม่ถูกใจ

    📌 วิธีการสร้าง Table เก็บข้อมูลใน notion สามารถตามไปอ่านได้ใน Blog ก่อนหน้า จัดการข้อมูลง่ายๆ ด้วย Database Notion

    Step 2

    ไปยัง NotionForms

    คลิก Create Form จากนั้น Register ข้อมูล โดยใช้ Email เดียวกับตอนสมัครเว็บไซต์ Notion

    Step 3

    คลิก Create a new form

    Step 4

    ให้เลือก Notion Database Name สำหรับขั้นตอนนี้ให้เราระบุชื่อ Database ที่เราสร้างไว้ใน Notion (ตามในขั้นตอนที่ 1) จากตัวอย่างเราจะเลือก Database ที่ชื่อ Admission Feedback


    Step 5

    NotionForms จะดึงข้อมูล Column ทั้งหมดที่เราสร้างไว้ใน Admission Feedback จาก Notion ขึ้นมาแสดง เราสามารถปรับแต่งการแสดงผลของ Forms ได้ตามต้องการ (setting ได้ภายใต้ฟังก์ชันที่ใช้ฟรีอะนะทุกคน 😜)

    Step 6

    แนะนำให้เพื่อนๆ เลื่อนลงมาในส่วนของการ Custom Block เราสามารถกำหนดการแสดงผลข้อมูล Column ของเราได้ เช่น ปิด/เปิด การแสดงผลหัวข้อใน form ได้ และยังสามารถ setting ค่าอื่นๆ เพิ่มเติมได้

    Step 7

    ตัวอย่างแบบฟอร์มนี้ผู้เขียนต้องการให้ Column ที่เป็น Type select ทั้ง 2 รายการ แสดงข้อมูล Option ภายในที่เรากำหนดเอาไว้ทันที โดยไม่ต้องคลิกเลือกจาก Dropdownlist ในฟอร์ม

    วิธีการ คือ ในส่วนของ Custom Block ให้ผู้ใช้ทดลองคลิก ⚙️ หลัง column จากนั้นเลื่อนหาส่วน select Option ให้ ✅ หน้าช่อง Always show all select options.

    Step 8

    ตัวอย่างผลลัพธ์การแสดงผลของ Form ที่ได้จากการตั้งค่าของเรา ก็จะแสดง Option ภายในที่เรากำหนดไว้ หากเราพอใจแล้ว ต้องการนำ Form ดังกล่าวไปใช้ต่อ ให้เพื่อนๆ คลิก “Create Form” ได้เลย

    Step 9

    NotionForms ก็จะ Generate URL ขึ้นมาให้เราซึ่งสามารถ copy และนำไปใช้ต่อได้เลย

    ตัวอย่างการนำมา embed ไว้ใน Notion Page ของเรา เพียงเท่านี้เราก็จะได้หน้าสำหรับเก็บ Feedback จากลูกค้าแบบน่ารัก น่าใช้ สวยงาม ด้วยเวลาอันรวดเร็ว

    👍👍👍


    เป็นยังไงกันบ้างค่ะ ผู้เขียนก็ยังคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะมีประโยชน์กับใครหลายๆคน ให้สามารถนำไปปรับใช้ หรืออย่างน้อยได้มาทำความรู้จัก เห็นหน้าค่าตากับเจ้าตัวที่ชื่อว่า NotionForms กันไม่มากก็น้อย

    💜💙💚 ตามคติ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามมม นะทุกคน 💚💙💜

    📍 พบกันใหม่ใน Blog หน้า ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ตอนนี้ผู้เขียนก็ยังนึกไม่ออกแหละ 555+ เอาเป็นว่าเจอกันใหม่โอกาสหน้าน๊า ….. 🙂

  • จัดการข้อมูลง่ายๆ ด้วย Database ใน Notion

    สวัสดีท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน สำหรับ Blog ที่ 3 ในรอบ TOR นี้ ผู้เขียนขอแนะนำการสร้าง Database เก็บข้อมูลบน Notion กันค่ะ

    📍 Blog นี้จะไม่ลงลึกในส่วนการสมัครใช้งาน notion แต่จะเน้นในส่วนของการสร้าง Table เพื่อเก็บข้อมูล

    Notion 💬
    Notion is a workspace with lots of tools to help you stay organized and productive.
    You can use notes, tasks, wikis and databases to manage projects, tasks, ideas and more.

    📲 More than a doc. Or a table. Customize Notion to work the way you do.


    📢 หากผู้อ่านอยากรู้ว่า Notion คืออะไร สามารถไปอ่านได้ที่ More than noting “Notion” ซึ่งมีสมาชิกผู้ร่วมอุดมการณ์เขียนแบบย่อๆ เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

    มาค่ะ เรามาเริ่มขั้นตอนการสร้าง Database Notion กัน —>> สมัครใช้งาน Notion คลิกที่นี่ 📌

    ตัวอย่าง Blog นี้จะแนะนำการสร้าง Table สำหรับเก็บข้อมูลบันทึกการแจ้งปัญหาการใช้งานจากลูกค้า


    📝 Step 1 — เมื่อเราสมัครใช้งานให้เรียบร้อยแล้ว ให้เราเลือก Add a page ขึ้นมาจาก Sidebar ด้านซ้ายมือ

    📝 Step 2 — ตั้งชื่อ Page ตามต้องการ ตัวอย่างนี้ขอตั้งชื่อ “Report Problem” และเลือก Database รูปแบบ “Table”

    📝 Step 3 — เลือก New database เพื่อเริ่มต้นกำหนดและสร้าง Table เพื่อเก็บข้อมูลในรูปแบบที่เราต้องการ

    📝 Step 4 — กำหนด column ที่เราต้องการลงใน Table ตัวอย่างจะเก็บข้อมูล 5 column (ผู้อ่านสามารถทดลองกำหนดในรูปแบบตามที่ตนเองต้องการได้เลย)

    • รายละเอียดของปัญหา (Type = Text)
    • Category (Type = Multi-select)
    • ชื่อผู้แจ้ง (Type = Text)
    • หมายเลขติดต่อกลับ (Type = Phone)
    • วันที่แจ้ง (Type = Date)

    📝 Step 5 — เรามาทดสอบเพิ่มข้อมูลลง Table กัน ให้เอาเมาส์ไปชี้บน record ว่าง ใน column แรก เลือก OPEN ก็จะปรากฏหน้าจอให้เราเพิ่มรายละเอียดข้อมูลตามรายการ Column ที่เราสร้างไว้

    💡 แนะนำให้ทดลองเพิ่มเข้าไปหลายๆ รายการนะ

    📝 Step 6 — เมื่อสร้างรายการเรียบร้อยแล้ว เรามาลองนำข้อมูลรายการดังกล่าวที่อยู่ในมุมมอง Table ไปแสดงในมุมมองอื่นๆ –>> ให้เราคลิกสัญลักษณ์ +

    📝 Step 7 — เราสามารถเลือก View ได้หลายมุมมอง เช่น Calendar, Board, Timeline, List หรือ Gallery ตัวอย่างนี้ขอทดลองแสดงในรูปแบบ Calendar ละกันนะ

    💡 เราสามารถ Customize การแสดงผลข้อมูลในหน้าดังกล่าวเพิ่มเติมได้นะ ให้คลิกตรงจุด 3 จุดหน้าปุ่ม New ตามในรูป จากนั้น หน้าต่าง notion ก็จะ View Option ขึ้นมาให้เราสามารถกำหนด หรือปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

    📌 สะดวก ใช้งานง่าย มี Template มากมาย รวมทุกฟังก์ชันไว้ในที่เดียว แนะนำ Notion นะทุกคน ! 📌


    📢 สุดท้าย ท้ายสุด ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ แล้วพบกันใหม่
    Blog หน้า จะมาแนะนำการสร้าง Notion Form เพื่อสร้างแบบสำรวจ หรือแบบฟอร์มเก็บข้อมูล Feedback จากลูกค้ากันค่ะ

  • import file from “notion” to “azure devops”

    สวัสดีท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน Blog แรกของรอบ TOR ใหม่ในปีนี้ ผู้เขียนจะขอว่าด้วยเรื่องของการ export ข้อมูลจาก notion และการนำเข้าข้อมูลไปยัง azure devops กันค่ะ

    หลายๆคนคงมีคำถาม ว่าเจ้า notion นี่มันคืออะไร ?? ถ้าให้อธิบายสั้นๆ ง่ายๆ notion ก็คือ

    “ซอฟต์แวร์ตัวนึงที่เราสามารถใช้จดโน้ต จัดการงาน วางแผนต่างๆ ได้ครบจบในตัวเดียว ใช้งานง่าย หน้าตาน่ารัก” นั้นแหละนะ

    คำถามถัดมา แล้วทำไมไม่กรอกบน azure devops เลยละ ?

    ทางผู้เขียนขอตอบเลยว่าการบันทึกข้อมูลตามฟอร์ม work items เนี่ย ผู้เขียนมีความรู้สึก(ส่วนตัว) ว่ามันค่อนข้างจะกรอกยาก และเสียเวลาจริงๆ (ใช้ excel, google sheet หรือ notion ง่ายกว่าเย๊อะ)

    ปล…แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น azure devops ก็ยังคงมีประโยชน์และใช้งานได้ดีในส่วนอื่นๆ อยู่แหละนะ ^^

    Blog นี้ผู้เขียนจะไม่ลงลึกในส่วนของการใช้งาน notion แต่จะเน้นในส่วนของการ import ข้อมูลเข้าใน azure devops ซะมากกว่า ถ้าท่านผู้อ่านสนใจการใช้งาน notion สามารถค้นหาข้อมูลผ่าน google ได้เลย มีเยอะแยะมากมายเชียวละ

    เรามาเริ่มดูหน้าตาเจ้า notion กันก่อนเลยดีกว่า

    Step 1 : สมัครใช้งานให้เรียบร้อย จากนั้น Add a page ขึ้นมา ตั้งชื่อตามต้องการ เลือกใช้ DATABASE ในรูปแบบ Table ซึ่งตอบโจทย์ในการทำงาน และเก็บข้อมูลของทางผู้เขียน

    Step 2 : สร้าง column ข้อมูลตามที่เราต้องการบันทึก สำหรับขั้นตอนนี้ แนะนำให้สร้างตรงกับฟิลด์ที่ใช้เก็บข้อมูลใน work item ของเราบน azure devops นะ เพราะมันจะง่ายและลดระยะเวลาในการทำงานได้เยอะเลยแหละ

    ตัวอย่างข้อมูลที่กรอกบน notion

    Step 3 : ขั้นตอนนี้จะเป็นการ Export ข้อมูลที่เรากรอกไว้บน notion ให้อยู่ในรูปแบบ .csv ให้เราคลิกตรง … มุมบนด้านขวาของ page ที่เราต้องการ Export จากในตัว notion จากนั้นเลือก Export

    Step 4 : เลือก format และเงื่อนไขอื่นๆ ที่เราต้องการ Export โดยผู้เขียนจะเลือกเป็น Markdown& CSV เมื่อเรา Export เรียบร้อยแล้วก็จะได้หน้าตาข้อมูลมาประมาณนี้ (เราสามารถปรับแก้ไขตัวไฟล์ดังกล่าวเพิ่มเติมได้เลยนะ)

    Step 5 : เปิดหน้าจอ azure devops ของเราขึ้นมาก่อนเลย เลือก Project ที่ต้องการดำเนินการ เลือกเมนู “Boards” เมนูย่อย “Work Items

    Step 6 : เลือก Import Work Items จากนั้นให้เราเลือก Choose File โดยเลือกเป็นไฟล์ที่เรา Export ได้มาตะกี้นั่นแหละ

    Step 7 : เมื่อเรา Import ข้อมูลจาก .CSV เราเข้ามาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะพบกับข้อมูลดังกล่าวบนตัว azure devops หน้าตาประมาณนี้เลย

    สุดท้าย ท้ายสุด หากตรวจสอบพบว่าถูกต้อง ไม่มีปัญหาใดๆ ก็ให้คลิก Save items ได้เลยนะทุกคนนนนนน

    เอาจริงๆ ง่ายมากๆ ลดเวลาการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อนในการทำงานของทางผู้เขียนได้ดีมากๆ เอาไปเลย 5 ดาววววววว

    ทั้งนี้ทางผู้เขียนยังคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลดังกล่าวจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้อ่านหลายๆ ท่านน๊าาาา แล้วพบกันใหม่ใน Blog หน้าเน้ออออออ

    ขอขอบคุณน้องเอก (Akekyz) ผู้แนะนำให้ทดลองใช้งานเจ้าตัว notions มา ณ ที่นี้ด้วยยยยยย 🙂

  • ✏️ More than noting “Notion”

    ทุกวันนี้เวลาเราใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าเราไม่จดโน๊ต ทุกอย่างเราก็จะต้องจดจำทุกอย่างอยู่ในหัวสมองเราเอง แน่นอนการจดจำในหัวสมองเรานั้นมันก็ไม่ได้มีความถูกต้อง แม่นยำ 100% การจดโน๊ตก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยเตือนความจำ ระหว่างการจดก็จะเป็นส่วนช่วยในการจดจำได้ดียิ่งขึ้น

    จะดีไหมถ้ามีเครื่องสักตัวหนึ่งที่ เราสามารถจดโน๊ตของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว มันสามารถนำข้อมูลที่เราจดไป มาใช้งานต่อได้อีก เช่นการจดรายงานการประชุมโดยมีการแปะลิ้งค์ รูป ข้อความได้ลงในหน้ากระดาษ แล้วใช้การ mentions ผู้เข้าร่วมประชุมให้มา revise และ approve ได้ จุดไหนผิดถูกสามารถ comment ได้ เมื่อแก้ไขเสร็จแล้วก็สามารถ Lock ไฟล์นั้นๆได้และ Export ออกไปเป็น PDF สำหรับการส่งรายงานก็ทำได้เช่นกัน

    🤔 What is Notion?


    Website: Notion – One workspace. Every team.

    Notion เป็นเครื่องมือการจดโน๊ตที่เป็นได้มากกว่าการจด จดแล้วก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ในระหว่างการจดก็มีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกเช่น การใส่ Heading1,2,3 List ประเภทต่างๆ Checkbox และอื่นๆอีกมากมาย และที่สำคัญ เราสามารถเก็บข้อมูลในรูปแบบของ Database ได้ ซึ่งเราก็จะสามารถเรียกใช้ซ้ำ ใส่ความเชื่อมโยงให้กับ Database หลายๆอันที่เราสร้างขึ้นมาได้ อันนี้แค่ยกตัวอย่างมาส่วนหนึ่งนะครับ ตัวเครื่องมือนี้เราสามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันของเราด้วยท่าทางไหนก็ได้ จะเห็นได้ว่ามีประโยชน์มากๆ ผมจึงอยากแนะนำให้ทุกคนมาใช้กัน

    Notion เป็น base on web-browser application สามารถทำได้จากอุปกรณ์ไหนก็ได้ แถมยังมีเวอร์ชั่น Windows/Mac OS iOS และ Android อีกด้วย

    Used cases of using Notion


    Note

    เป็นการจดบันทึกทั่วไปในชีวิตประจำวันเช่น บันทึกการประชุม มีการคุยในหัวข้อต่างๆที่ลงรายละเอียดก็มีการใช้ sub-page เข้ามาแบ่งสัดส่วนให้อ่านง่าย สวยงาม หรือการจดบันทึกเตือนความจำ

    Work log

    เป็นการจดบันทึกการปฏิบัติงานโดยการใช้ส่วนของ Database มาเก็บข้อมูลและจัดการข้อมูลประเภทของ work log และรายละเอียดการทำงาน สามารถตั้งให้แสดงผลในรูปแบบของ Table หรือ List หรือ Calendar ก็ได้ด้วย เมื่อถึงรอบรายงานก็ Export ออกเป็น csv หรือทำการแชร์หน้าที่จดบันทึกไปยังผู้ประเมินได้โดยตรง

    Software Document

    เป็นการประยุกต์ใช้การจดบันทึก แต่เราสามารถสร้าง Template ให้กับเอกสารได้ซึ่งเราสามารถตั้งให้มี Layout แบบเฉพาะได้ ตั้งส่วนของ Header ส่วนต่างๆตั้งไว้ได้ ตั้งส่วนของตัวอย่างข้อมูลไว้ได้ เวลาเราจะสร้างเอกสารก็สามารถเลือก Template นั้นมาใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น


    จริงๆแล้วตัว Notion เองก็มี Template สำเร็จรูปมาให้เราใช้งานด้วยเช่นกัน มีเยอะมาก หลากหลายหมวด สามารถเลือกใช้มาตั้งต้นแล้วใช้งานต่อได้เลย