แบ็กอัพ Windows OS ขึ้นเป็น virtual machine ด้วย disk2vhd

ต้องการสำรอง Windows XP เครื่อง PC เก่า แต่ยังใช้ได้ ซึ่งมีโปรแกรมที่จำเป็น เช่น โปรแกรมสำหรับพิมพ์ปกแผ่น CD/DVD เป็นต้น เผื่อฮาร์ดดิสก์เจ๊ง หรือ เครื่องมันไม่ทำงาน อาจมีสักวัน คิดว่าจะใช้วิธีไหนนี้ ก็ค้นหาดูใน google มีคนพูดถึง disk2vhd จึงลองทำตาม ได้ผลน่าพอใจ เมื่อนำไฟล์ .vhd ไปเปิดด้วย Oracle VM VirtualBox บน notebook ของผม ผมสามารถทำงานโปรแกรมบน XP นั้นได้เหมือนเดิม วิธีการทำคือ 1. ที่เครื่องเดิม ลงโปรแกรม Disk2vhd.zip 2. เปิดโปรแกรม 3. ตั้งค่า ตัวเลือกแค่ Use Volume Shadow Copy อย่างเดียว และเลือก Drive C: อย่างเดียว ขนาด 14.29 GB 4. ตั้ง VHD File name: ที่ Drive อีกอันที่เป็นชนิด ntfs เช่น e:\RD536.vhd 5. รอจนเสร็จ 6. นำไฟล์ไปที่เครื่อง notebook ที่มีโปรแกรม Oracle VM VirtualBox 7. สร้าง New VM เลือก Use an existing virtual hard disk file และ คลิก Create 8. ในตอนแรก มันเปิด Windows XP ไม่ได้ จึงค้นหา มีคำตอบว่า ให้ติ๊กเลือก Enable I/O APIC ในหน้า System Motherboard ด้วย 9. เปิดใช้งาน VM windowsxp รูปนี้เป็นเครื่อง notebook ที่เปิด VM Windows XP จากไฟล์ RD536.vhd 10. เมื่อจะใช้เครื่องพิมพ์ ให้ต่อสาย USB ของเครื่องพิมพ์เข้ากับ notebook แล้วเลือกเมนู Device > เลือก USB > เลือกที่ต้องการ อ้างอิง: Disk2vhd v2.01 By Mark Russinovich Published: January 21, 2014 https://technet.microsoft.com/en-us/sysinternals/ee656415.aspx Backup current Windows OS as a virtual machine http://techathlon.com/backup-current-windows-os-virtual-machine/ VHD with XP cannot boot. What should I do? https://forums.virtualbox.org/viewtopic.php?f=2&t=48688#p221106

Read More »

How to use bitlocker?

หลังจาก Truecrypt ไม่ปลอดภัย ? คนความลับเยอะจะใช้อะไรเข้ารหัส HDD กันดี ทางเลือกหนึ่งคือใช้ bitlocker ที่มาพร้อมกับ Windows 7/8/8.1/10 (รุ่น Professional, Enterprise, Education, Enterprise LTSB เท่านั้น) และ Windows Server 2008/2008R2/2012/2012R2/(2016?) เพื่อความสะดวกจึงสร้าง Virtual Hard Disk ดังนี้ เปิด Disk Management (Start > RUN > diskmgmt.msc) จะได้ Disk Management คลิกที่เมนู Action เลือก Create VHD จะได้หน้าต่าง Create and Attach Virtual Hard Disk เลือกที่เก็บ ขนาดและชนิดได้ตามชอบใจ VHD และ VHDX ต่างกันตามคำอธิบายนะครับ ดังนั้นตามตัวอย่างนี้จะได้ดังรูป เลือกเรียบร้อยกด OK จะได้ HDD ลูกใหม่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในสถานะ Not Initialize เหมือนเราเอา HDD ลูกใหม่ที่เพิ่งซื้อ (สดๆ :p ) มาเสียบ คลิกขวาที่ HDD ลูกใหม่นี้เลือก Initialize Disk เลือกชนิดพาทิชั่นที่ต้องการว่าจะเป็น MBR หรือ GPT อันนี้ปล่อยตามค่าที่ถูกเลือกไว้แต่แรกเลยก็ได้ อย่าลืมอ่าน Note: ด้านล่างด้วยนะครับ (จะเป็น MBR หรือ GPT ขึ้นอยู่กับว่าลง Windows มาในโหมดไหน UEFI หรือ BIOS) สร้าง Partition ใหม่ ตัวอย่างนี้เลือกเป็น GPT Partition Table จะเรียกเป็น Simple Volume คลิกขวาที่พื้นที่ Unallocated เลือก New Simple Volume… เลือกขนาด Partiton ให้เป็นพื้นที่ทั้งหมดไปเลย แล้วกด Next ไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นตอน Format สามารถเลือกได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น FAT32 หรือ NTFS ตามตัวอย่างนี้เลือก NTFS กด Next แล้ว Finish จะได้ HDD ลูกใหม่ที่มี Partition ชื่อ Bitlocker เพิ่มขึ้นมาแล้ว (H:) เปิดดูด้วย Windows Explorer จะเห็น Drive H เพิ่มขึ้นมาแล้ว เป็นอันเสร็จสำหรับการสร้าง Virtual Hard Disk คลิกขวาที่ Drive H เลือก Turn on Bitlocker จะได้หน้าต่าง Bitlocker Drive Encryption (H:) (ชื่อ Drive อาจต่างไปจากนี้แล้วแต่เครื่องนะครับ) เลือก Use a password to unlock the drive แล้วตั้ง Password ตามต้องการ กด Next จะได้หน้าสำหรับ Backup recovery key เลือกได้เลยว่าจะเก็บไว้ในรูปแบบไหน (ในตัวอย่างเลือก Save to a file ไว้ก่อนเนื่องจากไม่ได้เข้าวินโดวส์ด้วย Microsoft account) เลือกเสร็จแล้วกด Next จะได้ TXT file ชื่อขึ้นต้นด้วย BitLocker Recovery Key*.txt ให้เก็บไว้ให้ดีเผื่อกรณีฉุกเฉิน (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ

Read More »

วิธีกู้ไฟล์ที่ถูก Ransomware จับไปเรียกค่าไถ่

Ransomware หรือ โปรแกรมเรียกค่าไถ่ไฟล์ต่างๆ โดยการเข้ารหัสไฟล์เหล่านั้น ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีก นอกจากจะยอมเสียค่าไถ่ให้กับผู้ร้ายด้วยเงินสกุล Bitcoin โปรแกรมเหล่านี้จะมาจากการติดตั้ง หรือถูกหลอกให้ติดตั้ง ผ่านทางเว็บไซต์ “อโคจร” ต่างๆ Software เถื่อน ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหลาย และที่มีบ่อยมากคือ มาจาก “จดหมายหลอกลวง (Phishing)” ซึ่งทำให้ติดเชื้อได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.thaicert.or.th/alerts/user/2015/al2015us001.html เมื่อติด หรือ โดนเรียกค่าไถ่ เรียกได้ว่า ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้คืนโดยการ Decrypt  หรือถอดรหัสกลับคืน มีวิธีการเดียวที่ทำได้เลยคือ “กู้คืนจากไฟล์สำรองไว้” บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows เอง ก็สามารถทำได้ โดยผู้ใช้จะต้อง “ตั้งค่าการสำรองข้อมูล” ไว้ก่อน จึงจะสามารถกู้คืนได้ แต่หากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเสียหาย ก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย แต่ยังมีวิธีการ “สำรองและกู้คืน” ที่ง่าย ปลอดภัย และแม้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะเสียหายอย่างไร ก็จะสามารถ “กู้คืนข้อมูลได้” นั่นคือการใช้งาน Google Drive ในการสำรองข้อมูล โดยผู้ที่มี Google Account หรือ Gmail สามารถใช้งานได้ทันที โดยมีพื้นที่ให้ 15 GB (รวมกับการเก็บ email) ส่วนผู้ใช้ในมหาวิทยาลัยสงขลานคริทนร์ จะได้ใช้ Google Apps for Education ซึ่งมีพื้นที่ในการจัดเก็บ “Unlimited” หรือไม่มีขีดจำกัดเลยทีเดียว (เบื้องต้นจะเห็นพื้นที่จัดเก็บ 10 TB — 10,000 GB) Google Drive เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนก้อนเมฆ หรือ Cloud Storage ผู้ใช้ของ Google Account สามารถเข้าถึงได้ที่ https://drive.google.com เมื่อทำการลงชื่อเข้าใช้งาน (Sign In)  แล้วก็จะสามารถมองเห็นข้อมูลบนระบบ สามารถสร้าง Folder และ Upload ไฟล์ขึ้นไปเก็บได้ และสามารถเข้าถึงได้จากทั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ และ Smartphone ได้จากทุกแห่งทั่วโลก ดังภาพที่ 1 (โดยต้องมีระบบ Internet เข้าถึงนะ)   ภาพที่ 1: Google Drive บนระบบ Google Apps for Education ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในที่นี้ จะแสดงวิธีการ สร้างโฟล์เดอร์ชื่อว่า “เอกสารสำคัญ” ไว้บน Google Drive เพื่อใช้ในการสำรองไฟล์สำคัญไว้ ขั้นตอนคือ คลิกที่ New > Folder แล้วตั้งชื่อว่า “เอกสารสำคัญ” แล้วคลิกปุ่ม Create ดังภาพที่ 2 ภาพที่ 2: สร้างโฟล์เดอร์ชื่อว่า “เอกสารสำคัญ” ไว้บน Google Drive ส่วนการทำงานเพื่อ Backup ข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ไปเก็บไว้บนระบบ Google Drive อัตโนมัติ ทำได้โดยติดตั้งโปรแกรม “Google Drive” บนเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วตั้งค่าให้ Sync ข้อมูลกับโฟลเดอร์ “MyGoogleDrive” ใน My Documents ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังวิธีการต่อไปนี้ Google Drive สามารถดาว์นโหลดได้จาก https://www.google.com/drive/download/ เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วให้ลงชื่อเข้าใช้ และคลิก Next ไปเรื่อยๆ ดังภาพที่ 3 ภาพที่ 3: คลิก “ถัดไป” จนถึงหน้าจอสุดท้าย หน้าจอสุดท้าย คลิก “การตั้งค่าขั้นสูง” ดังภาพที่ 4 ภาพที่ 4: คลิก “การตั้งค่าขั้นสูง” คลิก “เปลี่ยน” แล้วสร้าง MyGoogleDrive ไว้ใน My Documents ดังภาพที่ 5 ภาพที่ 5: สร้าง MyGoogleDrive ไว้ใน My Documents ต่อไป เลือก

Read More »

วิธี Backup PSU Email ด้วย Thunderbird

เนื่องจาก PSU Email ให้พื้นที่ปัจจุบัน 1GB ซึ่ง อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บางท่าน หรือ บางท่านต้องการสำรองข้อมูล Email เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งสามารถทำได้ โดยใช้งานผ่านโปรแกรม Mozilla Thunderbird เชื่อมต่อกับ PSU Email ด้วย IMAP อีกทั้ง สามารถส่ง Email ออกได้จากทั่วโลกผ่าน smtp2.psu.ac.th และ ตัวอย่างต่อไปนี้ จะสร้างพื้นที่จัดเก็บบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ไว้ใน D:\MyBackup (รายละเอียดของ PSU Email สามารถอ่านได้ที่ http://www.cc.psu.ac.th/staffemail) มีวิธีการดังนี้ 1. Download Mozilla Thunderbird (รุ่นล่าสุด 24.3.0) จาก http://www.mozilla.org/en-US/thunderbird/   คลิกที่ Thunderbird Free Download แล้ว Save File ลงเครื่อง 2. Double Click ไฟล์ ที่ Download มา (Thunderbird Setup 24.3.0.exe) 3. จากนั้น ใช้ Next Technology คือ Yes, Next, Next, Install และ Finish 4. จากหน้านี้ คลิก Set as Default  5. คลิก Skip this and use my existing email 6. กรอกข้อมูล ให้ครบ แล้ว คลิก Continue แล้ว คลิก Manual Config 7. กรอกข้อมูลตามนี้ แล้ว คลิก ปุ่ม Advanced Config 8. คลิกที่ Local Folder, คลิก Browse แล้ว เลือก D:\MyBackup (แล้วแต่จะสร้าง Folder) 9. หน้าต่างนี้ คลิก Restart 10. ด้านขวามือ คลิกขวา ที่ Local Folders แล้ว คลิก New Folder ….   11. ตั้งชื่อ PSUEmail แล้วคลิก Create Folder  12. เมื่อต้องการ เก็บสำเนา (Copy) หรือ ย้าย (Move) จดหมายจาก INBOX ของ PSU Email มาเก็บไว้ใน Local Folders บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเท่าน ก็ให้ทำการเลือกจดหมายที่ต้องการ แล้ว คลิกขวา (Right Click) แล้ว เลือก Copy To หรือ Move To ไปยัง Local Folder > PSUEmail เท่านี้ ก็ สามารถ เก็บจดหมายที่ต้องการไว้ในเครื่องได้แล้ว และสามารถทำการ สำรอง D:\MyBackup เอาไว้ใน Handy Drive, DVD หรือ External Hard disk ได้ 13. เมื่อต้องการนำมาใช้งาน ก็เพียงแค่ Copy ลงไปในเครื่อง แล้ว ทำตามขั้นตอน ข้อ 8 และ 9

Read More »

วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #11

ตั้งแต่ วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #1 เป็นต้นมา เป็นการแสดงให้เห็นถึง ปัญหา, การตรวจสอบ, การค้นหา หลังจากเกิดปัญหาแล้วทั้งสิ้น ก็จะเห็นได้ว่า ยุ่งยาก และเป็นเรื่องยากมาก ที่จะค้นหา Backdoor ให้หมด และการจะกำจัดให้หมดนั้นเป็นภาระอย่างมาก ในบทความนี้ จะกล่าวถึง การสำรองข้อมูลไว้ พร้อมๆกับ สามารถตรวจสอบได้ว่า มี Backdoor ใดเกิดขึ้น, มีการแก้ไขไฟล์เพื่อวาง Backdoor ไว้บ้าง, มีการเปลี่ยนแปลงไฟล์ของระบบเป็น Backdoor บ้างหรือไม่ และยังสามารถ กู้ระบบกลับมาได้ แล้วจึงดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกได้ การสำรองข้อมูล หรือการ Backup มี 2 แบบ Full Backup: สำรองทุกไฟล์และไดเรกทอรี่ Incremental Backup: สำรอง “เฉพาะ” ไฟล์และไดเรกทอรี่ ที่มีการเพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลง เท่านั้น เครื่องมือในการ Backup มีหลายอย่าง ในบทความนี้ ขอใช้ tar เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย โดยยกตัวอย่าง เป็นการ Backup /var/www/joomla15 1. Full Backup ทำได้โดยการสร้างไฟล์ fullbackup.sh และมีข้อมูลดังนี้ d=$(date “+%Y%m%d%H%M%S”) cp /dev/null joomla15.snar tar -zcvf joomla15-full-$d.tar.gz -g joomla15.snar /var/www/joomla15 2. Incremental Backup ทำได้โดยการสร้างไฟล์ incrementalbackup.sh และมีข้อมูลดังนี้ d=$(date “+%Y%m%d%H%M%S”) tar -zcvf joomla15-inc-$d.tar.gz -g joomla15.snar /var/www/joomla15 โดยคำสั่ง tar มีคำสั่งเพิ่มเติม เล็กน้อย คือ -g ตามตัว joomla15.snar ซึ่ง จะเก็บสถานะของการ Backup ล่าสุดเอาไว้ ทำให้สามารถทราบได้ว่า มีต้อง Backup ไฟล์ใดบ้าง, ส่วน ชื่อไฟล์ .tar.gz ก็จะนำหน้าด้วย วันเวลานาที ของการทำ backup ไว้ เมื่อทำคำสั่ง sh fullbackup.sh จะได้ไฟล์นี้ joomla15-full-20140105004433.tar.gz ต่อมา สมมุติ มีการโจมตี Joomla ด้วยช่องโหว่ของ JCE แบบนี้ เมื่อใช้คำสั่ง find /var/www/ -name “*.php” -type f | grep ‘images/stories’ ได้ผลดังนี้ /var/www/joomla15/images/stories/0day.php และ สมมุติ Hacker ใช้งาน Backdoor 0day.php ดังกล่าวทาง URL http://localhost/joomla15//images/stories/0day.php และ แก้ไขไฟล์ /var/www/joomla15/CREDITS.php ดังนี้ สรุปคือ Hacker สามารถ สร้างและเปลี่ยนแปลงไฟล์ /var/www/joomla15/images/stories/0day.php /var/www/joomla15/CREDITS.php เมื่อใช้คำสั่ง sh incrementalbackup.sh จะได้ไฟล์ joomla15-inc-20140105021906.tar.gz วิธีตรวจสอบ ไฟล์ที่เพิ่มเข้ามา และมีการเปลี่ยนแปลง ใช้คำสั่ง diff โดยเอารายการของไฟล็ใน .tar.gz มาเปรียบเทียบกัน ด้วยคำสั่ง diff <(tar -ztvf joomla15-full-20140105004433.tar.gz) <(tar -ztvf joomla15-inc-20140105021906.tar.gz) |grep ‘>’ ผลที่ได้คือ จะทราบว่ามีไฟล์ ต่อไปนี้ เพิ่ม/เปลี่ยนแปลง > -rw-r–r– www-data/www-data 15571 2014-01-05 02:10 var/www/joomla15/CREDITS.php > -rw-r–r– www-data/www-data 14315 2014-01-05 01:55

Read More »