เล่าเรื่อง KM การใช้งานโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ ตอน การทำวิดีโอสื่อการสอนง่าย ๆ

มีเพื่อน ๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งที่เป็น ผู้ดูแลระบบ และ อาจารย์ที่ให้ความสนใจ จำนวน 20 คน ผู้นำในการแลกเปลี่ยนฯในครั้งนี้คือ คุณคณกรณ์ หอศิริธรรม ศูนย์คอมพิวเตอร์ ม.อ. ได้นำความรู้จากการปฏิบัติจริงมาถ่ายทอดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มด้วยแนะนำการบันทึกวิดีโอด้วย Hangouts on Air ผู้เรียนทุกคนใช้ PSU GAFE (Google Apps For Education) account ซึ่งก็คือ PSU Email ที่ใช้อยู่และได้ผ่านขั้นตอน Password Setting (https://webmail.psu.ac.th/src/resetpassword.html) ในหน้าเว็บ https://webmail.psu.ac.th/src/login.php แล้ว แต่อาจใช้ gmail account ที่มีอยู่ก็ได้ โดยเริ่มต้นที่ไอคอนรูป Google+ เมื่อมีไฟล์ presentation พร้อม (เช่น Microsoft Powerpoint เป็นต้น) ก็ทำการ share เข้ามาใน hangouts on air ซึ่งเลือกได้ว่าจะแชร์ทั้งหน้าจอหรือเฉพาะ presentation ที่เตรียมไว้ แล้วทำการเริ่มบันทึกวิดีโอ เมื่อเสร็จก็ไปตัดต่อไฟล์บน youtube สนุกมาก ง่ายด้วย ถัดไปก็แนะนำ CamStudio Screen Recorder ให้เอาจาก http://sourceforge.net/projects/camstudio/ แต่ให้ระมัดระวังอย่าคลิกที่ปุ่มสีเขียว Download แต่ให้คลิก hyperlink ที่เขียนว่า Browse All Files ข้างใต้ ซึ่งจะเป็นไฟล์ติดตั้งที่ปลอดจาก Adware ครับ CamStudio นี้ก็เอาไว้ใช้บันทึกหน้าจอที่เราจะบันทึกวิดีโอ ซึ่งเลือกได้เช่นกันว่าจะบันทึกเฉพาะบริเวณใด หรือ ทั้งหน้าจอ เมื่อทำการ Save จะได้ไฟล์ที่มีความคมชัดสูง ไฟล์ชนิด .avi ขนาดค่อนข้างใหญ่ อย่าบันทึกวิดีโอนานเกินไป เมื่อได้ไฟล์ชนิด .avi มาแล้ว เราก็นำไฟล์ไปผ่านกระบวนการตัดต่อด้วยโปรแกรม Windows Movie Maker ซึ่งติดตั้งจากที่นี่ Windows Movie Maker 2012 http://windows.microsoft.com/en-us/windows/get-movie-maker-download เมื่อตัดต่อ เพิ่มเสียงเพลง เพิ่มเสียงคำบรรยาย เพิ่มข้อความคำบรรยาย เพิ่มหน้านำ เพิ่มหน้าจบ เสร็จ ก็มีตัวเลือกให้อัปโหลด youtube ได้เลย สุดท้าย เราก็ได้เรียนรู้โปรแกม Screen Capture ที่น่าใช้มากทีเดียว ชื่อ Greenshot – a free screenshot tool optimized for productivity http://getgreenshot.org/ ใช้งานแทน Snipping Tools ของ Windows ได้ดีกว่า และใช้งานแทน Snagit ที่ต้องจ่ายค่าใช้งานซอฟต์แวร์ได้ โดยสรุปคือ เราสามารถทำการบันทึกเป็นวิดีโอได้ด้วยโปรแกรม Hangouts on Air จะได้ไฟล์เก็บอยู่ที่ youtube ทันทีแล้วค่อยดาวน์โหลดลงมาตัดต่อก็ได้ หรือ ตัดต่อด้วย Tools บน youtube ก็ได้ เราสามารถเลือกอีกโปรแกรมที่เป็น Client รันบน Windows คือ CamStudio แล้วนำไปตัดต่อด้วย Windows Movie Maker จนเสร็จ แล้วจึง upload ขึ้นบน youtube

Read More »

รีโมตเดสก์ทอปจากลินุกซ์ไปลินุกซ์

การทำรีโมตเดสก์ทอป (หรือรีโมตแอคเซส) จากลินุกซ์ไปลินุกซ์ เราก็ต้องเข้าใจก่อนว่า โปรโตคอลที่ใช้ในการทำรีโมตเดสก์ทอปนั้น ที่นิยมคือ VNC และ RDP โดยที่ VNC ย่อมาจาก Virtual Networking Computing จะใช้ TCP port 5900 และ RDP ย่อมาจาก Microsoft Remote Desktop Protocol จะใช้ TCP port คือ 3389 ดังนั้นเราก็ต้องเลือกว่าจะใช้แบบใดระหว่าง VNC และ RDP บทความนี้ทดสอบด้วย Linux Mint 17.2 MATE โดยค่าดีฟอลต์ในการติดตั้ง Linux Mint นั้นจะมีโปรแกรมที่เรียกว่า Desktop Sharing มาให้แล้วซึ่งจะทำหน้าที่เป็น VNC server (ชื่อโปรแกรมคือ Vino-server) แต่ยังขาดโปรแกรม client ที่จะต้องติดตั้งเพิ่ม โปรแกรมชื่อ rammina 1.2.0-rcgit.4 เป็น client สำหรับใช้งานได้ทั้ง VNC และ RDP จึงถูกเลือกมาใช้งาน   Linux -> Linux สมมติมีเครื่อง Linux (เครื่อง A) จะทำรีโมตเดสก์ทอปไปยังเครื่อง Linux อีกเครื่อง (เครื่อง B) เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง การทำรีโมตเดสก์ทอปเมื่อเลือกใช้ VNC มีขั้นตอนดังนี้ 1. ที่เครื่อง B ตั้งค่า Desktop Sharing ดังนี้ คลิก Menu > Preferences > Desktop Sharing > เลือก Allow other users to view your desktop และ Allow other users to control your desktop > เลือก Require the user to enter this password (ตรงนี้เรียกว่า VNC password) 2. ที่เครื่อง A ติดตั้งโปรแกรม Client ชื่อ rammina ดังนี้ เปิด Terminal เพื่อพิมพ์คำสั่ง โดยคลิก Menu > เลือก Terminal และทำคำสั่งช้างล่างนี้ sudo apt-add-repository ppa:remmina-ppa-team/remmina-next sudo apt-get update sudo apt-get install remmina libfreerdp-plugins-standard sudo apt-get install remmina-plugin-vnc พิมพ์ exit เพื่อปิด Terminal จากนั้นต้องทำการ logout 1 ครั้ง แล้ว login กลับเข้ามาใหม่ 3. ที่เครื่อง A เปิดโปรแกรม Client ชื่อ rammina เพื่อทำรีโมตเดสก์ทอปไปยังเครื่อง B ดังนี้ คลิกปุ่ม Menu > เลือก Internet > เลือก Remmina > เลือก Protocol เป็น VNC > ใส่ค่า IP Address ของ Server > คลิก Quick Connect

Read More »

รีโมตเดสก์ทอปจากลินุกซ์ไปวินโดวส์และในทางกลับกัน

ผมคิดว่าหลาย ๆ คน คงจะรู้อยู่แล้วนะว่า remote desktop นั้นเป็นวิธีที่เข้าไปใช้งานเครื่องที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้าเรา อาจวางอยู่ข้าง ๆ ก็ได้ หรือ วางอยู่ไกลออกไปที่อีกห้องนึง ถ้าเรามีเครื่องที่เป็น Windows 1 เครื่อง และเรามี Linux 1 เครื่อง แล้วเราต้องการทำรีโมตเดสก์ทอปจาก Linux ไป Windows หรือบางทีเราก็อาจต้องการทำรีโมตเดสก์ทอปจาก Windows ไป Linux จะทำอย่างไร บทความนี้ ผมทดสอบด้วย Linux Mint 17.2 MATE และ Windows 10 แต่หากใครใช้ Ubuntu desktop ก็ได้นะเพราะ Linux Mint นั้นก็คือ Ubuntu ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ ผมทดสอบโดยเลือกใช้โปรโตคอล RDP ในการทำรีโมตเดสก์ทอป หลังจากค้นหาใน Google search ก็พบบทความที่นำมาใช้งานได้จริง ขอสรุปสั้น ๆ ดังนี้ครับ ถ้าจะทำรีโมตเดสก์ทอปไปยัง Windows ได้นั้น ที่ Windows ต้องตั้งค่าอนุญาตในหัวข้อ Allow remote access และถ้าจะทำรีโมตเดสก์ทอปไปยัง Linux ได้นั้น ที่ Linux ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม คือ xrdp และ tightvncserver โปรแกรมที่ใช้สำหรับทำรีโมตเดสก์ทอปจาก Linux ไปยัง Windows คือ ติดตั้งโปรแกรม rammina พร้อมด้วย rammina plugin for RDP ส่วนโปรแกรมที่ใช้สำหรับทำรีโมตเดสก์ทอปจาก Windows ไปยัง Linux คือ รันโปรแกรม Remote Desktop Connection ที่มีอยู่แล้วบน Windows ขั้นตอนอย่างละเอียด Linux -> Windows อัปเดตข้อมูลในหน้านี้เพิ่มเติมดังนี่้: โปรดตรวจสอบ Windows 10 ล่าสุดว่าได้แก้ไขให้สามารถทำ remote desktop ด้วย Azure AD Credential ได้แล้วหรือไม่ (ณ วันที่ 15 มกราคม 2559 ยังทำไม่ได้) อ้างอิงจาก Windows 10 Remote Desktop connection using Azure AD Credentials มีขั้นตอนดังนี้ 1. ที่ Windows คลิกปุ่มขวาที่ Start > เลือก Control Panel > เลือก System and Security > เลือก Allow remote access > ใต้กรอบ Remote Desktop ให้เลือก Allow remote connections to this computer และมี checkbox ที่ Allow connections only 2. ที่ Linux คลิกปุ่ม Menu > เลือก Software Manager (ใส่รหัสผ่านด้วย) > ใส่คำค้นหาว่า remmina > ดับเบิลคลิก remmina > เลือก Install > กลับไปหน้าก่อนหน้านี้ > ดับเบิลคลิก remmina-plugin-rdp หากต้องการให้ได้โปรแกรม remmina เวอร์ชั่นใหม่ ให้ทำขั้นตอนด้วย command line ดังนี้ sudo apt-add-repository

Read More »

Windows 10 ไม่ได้รับ DHCP IP Address ลองวิธีนี้ได้นะ

เครื่อง Notebook ที่ cloning เป็น Windows 10 ใช้งาน LAN ไม่ได้ เพราะไม่ได้ IP Address จึงตรวจสอบทางฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจะเป็น สาย LAN, Network Switch ตรวจสอบซอฟต์แวร์ ISC DHCP Server รีบูตก็แล้ว แก้ไข dhcp leased file ก็แล้ว ก็แก้ไขไม่ได้ สอบถามผู้รู้ทาง Windows ก็ไม่มีคำตอบว่า จะต้องคลิกเข้าไปแก้ไขที่ไหน ใช้ ipconfig /release ก็แล้ว ก็ไม่สำเร็จ จนจะสรุปอยู่แล้วว่า จะส่งร้านเพื่อซ่อมเครื่อง แต่มาเอะใจว่า เอ…. เราลองเอา Linux Mint ที่เราใช้งานอยู่บูตเครื่อง Notebook นี้ดูทีว่าจะเห็นข้อมูล DHCP เป็นอย่างไรบ้าง กลับพบว่าทำให้ Windows 10 นั้นใช้งานได้เลย ข้างล่างนี้เป็น Output จากคำสั่ง tail -f /var/log/syslog บน Ubuntu server ดังนี้ เครื่อง Windows 10 อยู่ที่ network 192.168.m.0/25 ปัญหาที่เกิดคือ Windows 10 ไม่ส่ง DHCPREQUEST หลังจาก server ส่ง DHCPOFFER Oct  6 12:09:07 ubuntu dhcpd: DHCPDISCOVER from x8:y7:z8:7a:8c:e3 via eth0 Oct  6 12:09:07 ubuntu dhcpd: DHCPOFFER on 192.168.m.46 to x8:y7:z8:7a:8c:e3 via eth0 Oct  6 12:09:07 ubuntu dhcpd: DHCPDISCOVER from x8:y7:z8:7a:8c:e3 via eth0 Oct  6 12:09:07 ubuntu dhcpd: DHCPOFFER on 192.168.m.46 to x8:y7:z8:7a:8c:e3 via eth0 Oct  6 12:09:11 ubuntu dhcpd: DHCPDISCOVER from x8:y7:z8:7a:8c:e3 via eth0 Oct  6 12:09:11 ubuntu dhcpd: DHCPOFFER on 192.168.m.46 to x8:y7:z8:7a:8c:e3 via eth0 นำเครื่อง Windows 10 นั้นมาที่ network 192.168.n.0/24 ปัญหายังคงเกิดเหมือนเดิมคือ Windows 10 ไม่ส่ง DHCPREQUEST หลังจาก server ส่ง DHCPOFFER Oct  6 11:24:13 LAB02 dhcpd: DHCPDISCOVER from x8:y7:z8:7a:8c:e3 (SYSTEM8) via eth0 Oct  6 11:24:13 LAB02 dhcpd: DHCPOFFER on 192.168.n.20 to x8:y7:z8:7a:8c:e3 (SYSTEM8) via eth0 Oct  6 11:24:29 LAB02 dhcpd: DHCPDISCOVER from x8:y7:z8:7a:8c:e3 (SYSTEM8) via eth0 Oct  6 11:24:29 LAB02

Read More »

วิธีแก้ปัญหาวินโดวส์บูตไม่ได้หลังจาก resize

ผมต้องการขยายเนื้อที่ (resize) ให้กับ Windows โดยมีพื้นที่ data (linux partition EXT4) อยู่ที่ partition ที่ 1 และ Windows 8.1 อยู่ที่ partition ที่ 2 ผมจึงต้องการไปดึงส่วนท้ายของ partition ที่ 1 มาเพิ่มให้กับ Windows วิธีทำก็คือ ผมก็ resize เนื้อที่ partition ที่ 1 ให้เล็กลง 25 GB จากนั้นผมก็ resize เนื้อที่ partition ที่ 2 ขยายไปทางซ้ายเพื่อเอาพื้นที่ว่างที่ได้มารวมกับเนื้อที่ Windows เดิม จากนั้นทำการ save ในระหว่างนั้นมีคำแนะนำโผล่ขึ้นมาว่า ระวังนะการทำอย่างนี้ใน partition ที่มีส่วนที่เป็น boot ของ Windows จะเสียหายและจะต้องซ่อมแซมเป็นนะ ประมาณนั้น ผมก็ตอบ Yes เพื่อลองดู (ผมบูตแผ่น SystemRescueCd  และใช้โปรแกรม gparted ในการ resize) ผลที่ได้คือวินโดวส์บูตไม่ได้จริง ๆ ก็ค้นหา google search พบในเว็บไซต์หลายแห่งว่าให้ไปหาแผ่นติดตั้ง Windows ที่ใช้อยู่นั้นมาบูตแล้วจะแก้ไขได้ ผมจึงมาเล่าถึงวิธีที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา 1. บูตจากแผ่นติดตั้ง Windows 8 2. เลือก Repair My Windows 3. เลือก Troubleshoot 4. เลือก Advanced options 5. เลือก Command Prompt 6. ทำคำสั่งเหล่านี้ทีละคำสั่งตามด้วยกด Enter bootrec.exe /FixMBR bootrec.exe /FixBoot bootrec.exe /RebuildBcd exit 7. เลือก Turn off your PC 8. เปิดเครื่องเพื่อดูผลลัพธ์ ผมก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ หวังว่าทุกท่านจะไม่ต้องทำขั้นตอนเหล่านี้นะ Reference: http://www.sevenforums.com/backup-restore/372700-windows-wont-boot-after-resize-windows-partition.html

Read More »