เทคนิคการใช้ Word ในการทำบรรณานุกรม

ในการทำเอกสารงานวิชาการ/งานวิจัย เมื่อเราอ่านเอกสารจากบทความหรือหนังสือต่าง ๆ แล้วมาเขียนในงานของเราจะต้องมีการอ้างอิงที่มาของเนื้อหาดังกล่าว โดยไปที่ References คลิก Insert Citation  คลิก Add New Source จะแสดง Dialog ดังรูป Type of Source ให้เลือกประเภทของแหล่งข้อมูลเนื้อหาตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ, เอกสารวิชาการ, Conference Proceeding, รายงาน, เอกสารอิเล็กทรอนิกส์, จาก Website ต่าง ๆ ก็สามารถทำอ้างอิงได้ ในที่นี้ขอเลือก Book Author ระบุชื่อผู้แต่ง Title ระบุชื่อหนังสือ Year ระบุปีที่พิมพ์ City ระบุชื่อเมืองที่พิมพ์ Publisher ระบุสำนักพิมพ์ จากนั้นคลิก OK ก็จะได้อ้างอิง ดังรูป พอเราทำเอกสารเสร็จทั้งหมดไปถึงหน้าสุดท้ายแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องทำบรรณานุกรมแล้ว ไปที่ References ที่ Style เราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้มาตรฐานการอ้างอิงแบบไหน ส่วนใหญ่ก็จะเป็น APA จากนั้นคลิกที่ Bibliography คลิกเลือก Bibliography ก็จะได้บรรณานุกรม ดังรูปโดยที่เราสามารถปรับแต่งขนาดตัวอักษร จัดรูปแบบ และยังสามารถอัพเดตอ้างอิงและบรรณานุกรมได้ด้วยค่ะ อาจจะเป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่คิดว่าคงมีประโยชน์กับผู้ที่ทำเอกสารงานวิชาการ/งานวิจัยนะคะ   

Read More »

ภาพสวยประกอบบน office ด้วย Pickit

ในการนำเสนองานต่างๆ สิ่งที่ช่วยให้การนำเสนอดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น คือ รูปภาพและรูปแบบการจัดวาง ซึ่งใน office จะมี Add-in ที่ชื่อว่า Pickit ซึ่งเป็นเป็นเครื่องมือที่ช่วยการค้นหาภาพตามที่เราต้องการนำมาใช้ในงานนำเสนอของเราได้ มาดูขั้นตอนการใช้งานกันเลยค่ะ  1.เริ่มต้นเราต้องทำการติดตั้ง Add-in ซึ่งสามารถติดตั้งได้ใน Microsoft office (Word, excel, power point) ในที่นี้จะนำเสนอในส่วนของ power point ไปยังแท็บ INSERT > Store   2.เป็นหน้าจอ Apps for Office ในช่องค้นหา พิมพ์คำว่า “Pickit” เมื่อเจอรายการ “Picket Free Images” ให้กดปุ่ม Add 3.เมื่อติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อย โปรแกรมจะปรากฎอยู่ด้านขวาของหน้าจอ 4.หากโปรแกรมไม่ขึ้นมาสามารถเรียกใช้โปรแกรมได้ที่ INSERT> My Apps > Pickit Free Images 5.จากนั้นพิมพ์ชื่อภาพที่ต้องการหรือเลือกภาพตามหมวดหมู่ต้องการได้ ในตัวอย่างนี้ข้อยกตัวอย่าง คำว่า “network” ระบบก็จะแสดงรายการภาพ 6.จากนั้นเลือกภาพที่ต้องการ ก็กดปุ่ม Insert เพื่อดึงภาพมาใช้ในงานของเรา   เพียงเท่านี้เราก็ได้ภาพสำหรับตกแต่งให้งานนำเสนอของเรา น่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ภาพดังกล่าว ยังเป็น “ภาพฟรี” อีกด้วย

Read More »

การแต่งภาพให้มีมิติด้วย PowerPoint

วันนี้มานำเสนอการแต่งภาพง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ แค่มีโปรแกรมนำเสนอผลงานอย่าง Power Point ก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย โดยวันนี้ขอเสนอการแต่งภาพให้มีมิติ ไปดูกันเลยจร้า 1.เปิดโปรแกรม Power point จากนั้นไปที่เมนู Insert คลิก Pictures เลือกภาพที่ต้องการ 2.คลิกที่ภาพที่ Insert เข้ามา จากนั้นกด ctrl ค้างไว้ แล้วลากภาพออกมา จะได้เพิ่มขึ้นมาอีกภาพนึง 3.เอาภาพพื้นหลังออก คลิกที่ภาพที่ต้องการเอาพื้นหลังออก ไปที่เมนู Format คลิก Remove Background แล้วปรับขนาดให้ได้ตามต้องการ 4.จากนั้นที่เมนู Format คลิก Keep Changes ภาพพื้นหลังก็จะหายไป 5.ภาพตั้งต้นเราทำการใส่กรอบเข้าไป ไปที่เมนู Format คลิก Metal Frame แล้ว Crop ตัดเป็นรูปร่าง ที่เมนู Format คลิก Crop to Shape .ในส่วนของการทำรูป Pop out ขึ้นมาด้านบน เลือก Trapizoid จากนั้นคลิก Crop ลดขนาดของภาพลงมาเหลือสักครึ่งหนึ่ง ให้คาบเกี่ยวกับส่วนของดอกบัวที่จะแสดงออกมาสักครึ่งนึง จากนั้นกดปุ่ม Crop จากนั้นนำดอกบัวภาพที่นำพื้นหลังออกมาประกบลงในภาพที่1 ก็จะได้รูปดอกไม้ที่ลอยเด่นขึ้นมา 9.กรณีที่ 2 ให้รูปดอกบัวปรากฏเด่นมาด้านข้าง ที่เมนู Format คลิก Crop to Shape เลือก Flowchart Manual Input จากนั้นคลิก Crop 10.เลื่อนขนาด และเลื่อนด้านข้างเข้ามา เพื่อให้ดอกบัวปรากฏขึ้นมาทั้งด้านบนและด้านข้าง จากนั้นคลิก Crop 11.จากนั้นนำดอกบัวภาพที่นำพื้นหลังออกมาประกบลงในภาพที่1  

Read More »

WatIn Framework

WatIn Framework เป็น Framework ที่ใช้ในการทดสอบการทำงานของเว็บ ที่พัฒนาด้วย .Net ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องทำการทดสอบซ้ำ ๆ เพียงแต่ถ้าต้องการข้อมูล Input ที่แตกต่างไป สามารถแก้ไข Source Code ได้ การติดตั้ง WatIn Framework คลิก Tool จากนั้นคลิก Extensions and Updates… ที่ NuGet Package Manager คลิก Download เมื่อ Download เสร็จแล้ว ทำการ Install โดยกดปุ่ม Install เมื่อ Install เสร็จแล้ว ไปที่เมนู จากนั้นค้นหา “WatIn” กดปุ่ม “Install” จากตัวอย่างมีการ Install เข้าไปแล้ว เมื่อ Install เสร็จจะแสดงดังรูปด้านบน จากนั้นค้นหา “NUnit” การเรียกใช้งาน WatIn Framework สร้าง Form ขึ้นมาปกติ จากนั้น ให้เขียนคำสั่งดังนี้ IE browser = new IE();browser.GoTo(“http://tqf-test.psu.ac.th/”); browser.TextField(Find.ByName(“ctl00$MainContent$Login1$UserName”)).TypeText(“thichaluk.s”); browser.TextField(Find.ByName(“ctl00$MainContent$Login1$Password”)).TypeText(“xxx”); browser.Button(Find.ByName(“ctl00$MainContent$Login1$Button1”)).Click();   – ในส่วนของคำสั่ง browser.GoTo(“http://tqf-test.psu.ac.th/”) เป็นการเรียกให้เปิด URL ที่ต้องการ – ในส่วนของคำสั่ง TextField หมายถึง Text box – ในส่วนของคำสั่ง Button หมายถึง ปุ่ม Button – ในส่วนของคำสั่ง Find.ByName ต่อด้วยชื่อ Control  ในการดูชื่อ Control สามารถดูได้จาก IE โดยกดปุ่ม F12 อย่าลืม using WatiN.Core; เมื่อรันโปรแกรมจะปรากฏหน้าจอทำงานอัตโนมัติ ดังรูป

Read More »

ใช้ Firebug ในการตรวจสอบข้อมูล

วันนี้จะมาพูดถึง Firebug ซึ่งหลาย ๆ คนคงใช้งานหรือรู้จักกันอยู่แล้ว แต่ผู้เขียนเพียงแค่นำส่วนที่ใช้งานมาแบ่งปันสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานค่ะ Firebug เป็นเครื่องมือสำหรับ Web Development ในการแก้ไขตรวจสอบ JavaScript / CSS / HTML เป็น Extension หรือ Add-ons สำหรับใช้ในการช่วยจัดการ Debug พวก HTML , JavaScript และ CSS การใช้งานไม่ยาก โดยทำการติดตั้ง Plugin ลงใน Web Browser เช่น Google Chrome หรือ Mozilla Firefox หลังจากนั้นก็เปิด URL หรือเว็บไซต์ที่ต้องการ และทำการคลิกที่ Icon ของ Firebug จากนั้นโปรแกรม Firebug ก็จะแสดงรายละเอียดโครงสร้าง HTML , JavaScript และ CSS ทั้งหมดใน URL นั้น ๆ เราสามารถทำการคลิกเพื่อแก้ไข CSS หรือแม้กระทั่งตรวจสอบค่าต่าง ๆ ซึ่งการใช้งานนั้นไม่ยากซับซ้อนอะไร ผู้เขียนได้ใช้ Firebug กับการทำงานโดยใช้การ debug ที่แท็บ Console ตัวอย่างดังนี้ เมื่อมีการแจ้งจากผู้ใช้งานระบบว่าข้อมูลแสดงไม่ครบถ้วน จึงทำการตรวจสอบ Service ที่ดึงข้อมูลดังกล่าว โดยใช้ Firebug ในการตรวจสอบ คลิก Service ที่ต้องการจะแสดงข้อมูลดังนี้ (จะเห็นได้ว่าจากรูปด้านบนแสดงเวลาที่โหลดข้อมูลแต่ละคำสั่งด้วยค่ะ) ในส่วนอื่น ๆ ก็สามารถศึกษาได้ไม่ยากค่ะ

Read More »