การจัดหมวดหมู่แถวของข้อมูลบน GridView ด้วย C#

          ในการดึงข้อมูลมาแสดงผลในรูปแบบตาราง GridView อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกของนักพัฒนาที่จะหยิบไปใช้เป็นเครื่องมือในการแสดงผล แต่ในกรณีที่ข้อมูลมีจำนวนมากอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกตาลายและอ่านยากไปสักหน่อย ผู้พัฒนาจึงต้องพยายามหาวิธีจัดการข้อมูลในการแสดงผลให้สามารถอ่านง่ายและสบายตามากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในกรณีที่ข้อมูลมีจำนวนมาก การจำแนกประเภท หรือแยกออกเป็นกลุ่มย่อยๆก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้น ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอแนะนำวิธีการแสดงผลของข้อมูลบน GridView แบบจำแนกออกตามกลุ่ม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการดูข้อมูลแยกส่วนกัน เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ GridView ซึ่งเราเองใช้งานอยู่และน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ซึ่งจะมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ ขั้นตอนในการพัฒนา เตรียมข้อมูลในการแสดงผล โดยจากตัวอย่างนี้ จะทำการสมมุติข้อมูลของดอกไม้ ผลไม้ และต้นไม้ และมีข้อมูลเพื่อใช้ในการแยกประเภทไว้ด้วย เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ หมายเหตุ : การประกาศตัวแปร และการดึงข้อมูลเป็นเพียงการยกตัวอย่างง่ายๆ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจเท่านั้น ในการทำงานจริงผู้อ่านสามารถใช้วิธีการประกาศตัวแปรและเรียกใช้แบบอื่น หรือดึงข้อมูลจากส่วนอื่นได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความถนัดค่ะ 2. เตรียม GridView ที่จะใช้ในการแสดงผล โดยจะขอยกตัวอย่างให้ดูการแสดงผล GridView แบบทั่วไปก่อนมีการจัดกลุ่ม เพื่อให้เห็นความแตกต่าง ดังนี้ค่ะ เพิ่มเติม : ข้อมูลจำนวนเป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข จึงได้ทำการจัด Format รูปแบบของข้อมูลให้แสดงผลแบบตัวเลข ด้วยการระบุ DataFormatString=”{0:#,##0}” เช่น หากข้อมูล 2500 จะแสดง 2,500 ให้อัตโนมัติ ผลลัพธ์(ก่อนทำการจัดกลุ่ม) 3. เพิ่ม Event ที่ชื่อว่า OnDataBound=”GroupGv_DataBound” ให้กับ GridView เพื่อแสดงผลข้อมูลแบบกลุ่ม และตัดคอลัมน์ประเภท(Category Name)ออกไป เนื่องจากเราจะนำไปใช้แสดงผลในการจัดกลุ่ม 4. เพิ่มโค้ดในส่วนของฝั่งเซิร์ฟเวอร์(C#) ให้กับ Event ของ GridView ที่เราเพิ่มในข้อ 3. เพื่อจัดกลุ่ม ดังนี้ค่ะ ผลลัพธ์ (หลังมีการจัดกลุ่ม) เพิ่มเติม : จากตัวอย่างข้างต้น เนื่องด้วยข้อมูลเป็นการจัดกลุ่มและมีข้อมูลเชิงตัวเลข ผู้เขียนจึงขอแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของการแสดงจำนวนรวมแยกในแต่ละกลุ่มไว้ด้วย โดยเพิ่มเติมโค้ดในส่วนของ GroupGv_DataBound ดังนี้ค่ะ ผลลัพธ์           เพียงเท่านี้ท่านก็จะสามารถจัดกลุ่มข้อมูล GridView ของท่าน เพื่อลดปัญหาการดูข้อมูลแบบตารางที่มีแถวข้อมูลจำนวนมากได้บ้างแล้ว ซึ่งผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะสามารถนำแนวทาง เกร็ดเล็กๆน้อยๆนี้ไปประยุกต์ใช้กับงานของท่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ หากมีส่วนใดผิดพลาดทางผู้เขียนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^ แหล่งอ้างอิงhttps://stackoverflow.com/questions/61773421/sum-column-where-condition-with-datatable

Read More »

Crystal Report : Report หลายตัวหัวท้ายต่าง แต่ตรงกลาง Code เหมือนกัน จัดการอย่างไร (WinApp)

หลาย ๆ ครั้งที่ท่านมีรายงานมากกว่า 1 ฉบับที่มีรูปร่างหน้าตาส่วนหัวกระดาษหรือท้ายกระดาษที่ต่างกัน แต่ส่วนของ Detail นั้นเหมือนกันอย่างกับแกะ และเจ้าส่วน Detail นี้ ดั๊นนนน เป็นเจ้า Detail ที่มีเงื่อนไขเยอะแยะ ยุบยับซับซ้อนซ่อนเงื่อน ถ้าจะให้สร้าง File เพื่อวาง Report Viewer เป็น 2 File หรือตามจำนวนรายงานก็ใช่ที่ จากการที่ประสบพบเจอมากับตัว ส่วนหัว ส่วนท้าย ดั๊นนน ไม่คล้ายไม่เหมือนเลย แต่ข้อมูลตรงกลางนั้น ต้องใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน เหมือนกัน ทีนี้ถึงกับกุมขมับเลยว่าจะทำยังไงดี ได้คำปรึกษาแนะนำจากพี่ชายที่แสนดี @wachirawit-j มาช่วยชี้แจงแถลงไข ถึงต้องรีบจัดการเก็บข้อมูลไว้ เผื่อครั้งหน้าเจออีกแล้วลืมจะได้กลับมาอ่านซ้ำ ไปดูกันเล้ยยยยยย ตัวแปร cr ที่ประกาศนี้ จะเป็นตัวแปรที่ไว้ใช้ในอนาคตทั้งไฟล์ เป็นตัวแปรที่เป็นตัวเก็บค่าว่า จะเป็น Crystal Report File ตัวไหนและใช้สำหรับกำหนดค่า FormulaField เพื่อใช้กับ Report File นั้น ๆ ตัวอย่าง Code ข้างต้นเป็นการกำหนดค่าให้กับ Formula Field ที่ชื่อว่า ffType ในฝั่ง Crystal Report โดยกำหนดให้มีค่าเท่ากับข้อความว่า “Normal” ซึ่งจะเห็นว่ามีการใช้ตัวแปร cr ในการดำเนินการ Code ส่วนอื่น ๆ ที่มีการกำหนดค่าก็จะมีการเรียกตัวแปร cr นี้เหมือนกัน ซึ่ง cr จะเป็นตัวที่บอกว่าคือ Crystal Report File ไหน Code ข้างต้นเป็นการสร้าง Class ชื่อว่า CRModel มีสมาชิกภายใน Class 2 Report นั่นคือ RptNormal.rpt กำหนดให้ใช้ตัวแปร crNormal และ RptSpecial.rpt กำหนดให้ใช้ตัวแปร crSpecial จากนั้นในส่วนของการตรวจสอบว่าจะใช้ Report ตัวไหนหรือการกำหนด report ให้กับ Reportsource เป็นดังนี้ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถจัดการ Code ที่ File เดียวได้แล้ว เย้! ถ้าผู้อ่านมีวิธีที่ดีกว่า สะดวกกว่า สามารถแนะนำได้นะคะ จะขอบคุณยิ่งเลยค่า ^/\^ และหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ 🙂

Read More »

Crystal Report : รูปที่ใส่ไป ทำไม size ถึงกลับไป(ใหญ่)เท่าเดิม

เคยหรือไม่ ที่ใส่รูปลงไปในรายงาน จากนั้นหากต้องการ Config ค่าของรูปนั้น เมื่อจัดการเสร็จ กด OK ออกมา รูปที่ท่านใส่ไปนั้น กลับขยายกลายร่างกลับสู่ขนาดจริง ซึ่งบางครั้งหากท่านไม่ได้มีการย่อขนาดรูปให้ตรงตามที่ต้องการก่อนแต่ใช้วิธี Config ในส่วนของ Object Picture แทน ท่านอาจจะเจอปัญหานี้กันบ้าง วิธีแก้ไขง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆ หลาย ๆ ท่านอาจจะคาดไม่ถึง หรือหลาย ๆ ท่านอาจจะรู้แล้ว แต่ผู้เขียนเพิ่งได้กลับมาจับ Crystal Report อีกครั้ง ได้เจอปัญหานี้เข้า เลยอยากมาแชร์ และเป็นการบันทึกไว้อ่านเองด้วย มาดูกันเลยค่ะว่า วิธีจัดการมีขั้นตอนอย่างไร ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งตกใจกับความง่ายยยยยยย นี้นะคะ ไปกันเล้ยยยยย ^^ เมื่อท่านลาก Object Picture มาแล้ว ให้เลือก Menu Format Object ที่ ๆ ท่านเข้าไป Config รูปปกติค่ะ จากนั้นที่ Tab Picture เมื่อท่านตั้งค่าทุกอย่างเสร็จแล้วอย่าเพิ่งกดปุ่ม OK นะคะ เบรกก๊อนนน >< ให้สลับกลับไปที่ Tab Common ก่อนค่ะ สังเกตดี ๆ นะคะ ที่วงไว้สีแดง ๆ หนา ๆ ตัวนี้เลยค่ะ Can Grow เจ้าปัญหา ให้กลับมาดูก่อนนะคะ ว่ามีเครื่องหมายถูกอยู่ข้างหน้ารึเปล่า ถ้าไม่มี ไม่เป็นไรค่ะ นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ให้กด OK ออกได้เล้ยยย แต่ถ้ามีเครื่องหมายถูกอยู่ เอาออกด่วน ๆๆๆๆ เลยค่ะ ไม่งั้น รูปที่ท่านใส่ไว้ ก็จะ Grow กลับสู่ขนาดดั้งเดิม ซึ่งหากท่านใส่ไว้แบบไม่ปรับขนาดมาก่อน แล้วมีขนาดใหญ่มาก ก็จะเป็นปัญหาได้ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ 🙂

Read More »

Crystal Report : Term & Condition หรือ Privacy Policy ที่ต้องมีต่อท้ายรายงาน ทำได้อย่างไร

หลาย ๆ ครั้งที่เราพิมพ์เอกสาร แล้วจำเป็นต้องมีเอกสารแนบท้ายกระดาษเป็นพวก Term & Condition หรือ Privacy Policy ซึ่งเอกสารพวกนี้จะอยู่ท้ายสุดของเอกสาร และทุกครั้งเมื่อมีการพิมพ์เอกสารชุดอื่น ๆ ก็จำเป็นต้องมีเอกสารเดียวกันนี้แนบท้ายไป เนื่องจากช่วงนี้ได้มีการเข้ามาจับ Crystal Report อีกครั้ง จึงได้มีโอกาสได้ทำเอกสารแนบท้ายนี้ จึงต้องการเขียนไว้สำหรับเตือนความจำและอยากส่งต่อให้กับผู้ที่กำลังทำได้ทราบต่อไป อ่ะ เรามาเริ่มกันเลย อันดับแรก เริ่มจากสร้างรายงานที่เป็นไฟล์เอกสารแนบท้าย สร้างและจัดรูปแบบให้เรียบร้อย เพราะต่อไปนี้ ไฟล์เอกสารแนบท้ายเหล่านี้ จะกลายไปเป็น Subreport ของรายงานหลัก โดยไปที่ส่วนของ Report Footer คลิกขวา เลือก Insert -> Subreport ระบบจะมีหน้าต่าง Subreport มาให้ระบุไฟล์ Crystal Report ที่ต้องการให้เป็น Subreport ซึ่งให้เลือกไฟล์ที่เราสร้างไว้ จากนั้นจะได้ Subreport วางไว้ในส่วนของ Section Report Footer เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปเป็นการ Config ให้สามารถแสดง Subreport เป็นหน้าสุดท้ายโดย คลิกขวาที่แถบ Section เลือก Section Export ไปที่ Report Footer -> Tab Paging ให้ ทำเครื่องหมาย / หน้า New Page Before แต่เนื่องจากเราวาง Subreport ไว้ที่ Section Report Footer ทำให้เมื่อลอง Preview จะพบว่า หัวกระดาษและท้ายกระดาษส่วนอื่นแสดงด้วย ดังนั้นเราต้องมาจัดการในส่วนอื่น ๆ โดยเขียน Formula ใน Section อื่น ๆ ที่แสดงทุกหน้า เช่น Section Report Header, Section Page Header เป็นต้น ในที่นี้จะจัดการส่วน Section Page Header a จากนั้นทางขวา ในส่วนของ Suppress คลิกที่ x-2 เพื่อทำการเขียน Formula จะพบหน้าต่าง Formula จากนั้น เขียนคำสั่งดังภาพด้านล่าง ซึ่งเป็นคำสั่งตรวจสอบว่า ถ้าหน้าปัจจุบัน คือหน้าสุดท้าย ให้ทำการซ่อน Section Page Header จากนั้นกด Save and close เพื่อปิด และเขียนคำสั่งเดียวกันนี้ใน Section ส่วนอื่น ๆ ที่ต้องการซ่อนในหน้าสุดท้ายจนครบ จากนั้นทดลอง Run ดูจะพบว่า หน้าสุดท้ายที่ต้องการให้แสดง Term & Condition หรือ Privacy Policy จะไม่มี Section ส่วนอื่นมากวนใจ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ 🙂

Read More »

บันทึกหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วย Xbox Game Bar Hidden Feature บน Windows10

ใครที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ Windows 10 และกำลังมองหาโปรแกรมที่จะบันทึกหน้าจอเป็นคลิป โดยที่ไม่อยากจะต้องหาโปรแกรมเสริมจากที่อื่น ซึ่งอาจจะต้องเสียเงิน หรือกินพื้นที่ของเครื่องแล้วละก็ใน Windows 10 มี Hidden Feature ที่ช่วยบันทึกหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณขณะใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเติม ด้วย Xbox Game Bar Xbox Game Bar สร้างขึ้นใน Windows 10 เพื่อใช้จับภาพวิดีโอและภาพหน้าจอขณะเล่นเกมพีซีได้ แม้ว่าชื่อจะเหมือนทำมาเฉพาะสำหรับเกม แต่จริงๆแล้ว สามารถบันทึกได้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณเหมือนโปรแกรมบันทึกภาพทั่วไปเลย วิธีการบันทึก• กดปุ่ม Windows + G เพื่อเริ่มใช้งาน ซึ่งจะปรากฏแถบเครื่องมือต่าง ๆ ให้เลือกใช้งาน (สามารถกดจับภาพหน้าจอ, กดบันทึกวิดีโอหน้าจอ, กดเปิด-ปิดไมค์ และอื่นๆ ได้จากส่วนนี้) – Capture เอาไว้ใช้ในการกดบันทึกต่าง ๆ เช่น ถ่ายภาพ, บันทึกหน้าจอหรือปิดไมค์ – Audio ไว้สำหรับตั้งค่าระบบเสียงของคุณ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือเสียงจากในตัวเครื่องและเสียงที่มาจากไมค์ของคุณ – Performance แสดงสถานะการใช้ทรัพยากรในเครื่องของคุณ สามารถกดบันทึกวิดีโอหรือจับภาพหน้าจอได้ที่แถบ Game Bar หรือกดคีย์ลัด ดังนี้• เริ่มต้น/หยุด การบันทึก (Start/stop recording)กดปุ่ม : Windows+Alt+R • จับภาพหน้าจอ (Take screenshot) กดปุ่ม Windows +Alt+Prtscn • เปิด/ปิด ไมโครโฟน (Microphone on/off)กดปุ่ม Windows+Alt+M สำหรับไฟล์ที่บันทึกโดยปกติจะถูกเก็บไว้ที่ : C:\Users\USER\Videos\Captures คุณสามารถตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณว่าได้เปิดใช้งานฟังก์ชัน Xbox Game Bar แล้วหรือไม่ โดยพิมพ์ Settings ตรงช่องค้นหาด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือกเมนู Settings และเลือก Gaming จะปรากฎหน้า Xbox Game Bar ให้ตรวจสอบว่า On ไว้หรือไม่ หากต้องการปิดการใช้งาน ก็สามารถ Off ไว้ได้หรือต้องการเปลี่ยน Key board Shortcut สำหรับการใช้งานฟังก์ชันนี้ ก็สามารถกำหนดเองได้จากหน้านี้เช่นกัน เมนู Captures ทางซ้าย ในส่วนนี้จะเป็นการกำหนดโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บไฟล์วิดีโอที่อัดไว้ แค่เพียงกดไม่กี่ปุ่ม คุณก็สามารถบันทึกหน้าจอของคุณ หรือจะทำสื่อต่าง ๆ ได้แล้ว ของดีใกล้ ๆ ตัวลองเข้าไปใช้ดู คุณอาจจะติดใจก็ได้นะคะ ขอขอบคุณ : YouTube : Win G

Read More »