Month: October 2013

  • เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ start/stop dhcp server ทันทีที่เปิด server

    พวกเราที่ใช้งาน ubuntu server และที่ติดตั้ง dhcp server เพื่อทำหน้าที่แจกจ่าย IP Address ให้กับเครื่อง client ก็มักจะเลือกใช้ dhcp server ของ ISC (www.isc.org) ซึ่งก็จะติดตั้งได้ง่ายๆผ่านคำสั่ง apt-get install (ผมละคำว่า sudo ที่ต้องใส่นำหน้าคำสั่งเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ)

    แต่เดิมใน ubuntu 10.04 จำได้ว่าวิธีติดตั้ง dhcp server ก็จะใช้คำสั่ง apt-get install dhcp3-server แล้วต่อมาเมื่อเปลี่ยนเป็น ubuntu 12.04 วิธีการติดตั้งก็เปลี่ยนไปเป็น apt-get install isc-dhcp-server

    คราวนี้ก็มาถึงเรื่องที่อยากมาเล่าสู่กันฟัง คือ พวกเราจะรู้ไม๊ครับว่า หากเราต้องการจะ start หรือ stop dhcp server จะทำอย่างไร และโจทย์ของผมคือ ในการทำ dhcp server ทดสอบผมไม่ต้องการให้ dhcp server มันทำงานทันทีที่เปิดเครื่อง จะต้องทำอย่างไร

    เราเคยรู้มาว่า อ๋อ ก็ใช้คำสั่ง update-rc.d ถ้าต้องการเปิดใช้งาน ก็สั่ง update-rc.d isc-dhcp-server defaults ถ้าไม่ต้องการให้ทำงานทันทีที่เปิดเครื่อง ก็สั่ง update-rc.d -f isc-dhcp-server remove แบบนี้ เชื่อไม๊ครับว่า หลังจาก reboot เครื่องแล้ว dhcp server มันก็ทำงานอยู่ โดยใช้คำสั่งในการเช็ค คือ

    ps ax | grep dhcp

    แสดงผลลัพธ์แบบนี้

    mama@ubuntu:~$ ps ax | grep dhcp
     2491 ?        Ss     0:00 /usr/sbin/dhcpd -f -q -4 -pf /run/dhcp-server/dhcpd.pid -cf /etc/dhcp/dhcpd.conf eth0

    หรือ

    service isc-dhcp-server status

    แสดงผลแบบนี้

    mama@ubuntu:~$ sudo start isc-dhcp-server
    isc-dhcp-server start/running, process 2491

    เอาหละสิ แล้ว dhcp server มันเปิดขึ้นมาได้อย่างไร ค้นๆดูก็พบว่ามันมีไดเรกทอรี /etc/init/ ที่จะเป็นที่เก็บโปรแกรมสมัยใหม่ที่เรียกกันว่าแบบ upstart แทนการใช้งานแบบ SysVinit (/etc/init.d/) และก็เจอไฟล์ isc-dhcp-server.conf อยู่ใน /etc/init/ เมื่อแก้ไขที่ไฟล์นี้ก็สำเร็จ ใส่ comment “#” เพื่อว่าจะไม่ start เมื่อเปิดเครื่อง (บรรทัดที่4 #start on runlevel [2345])

    ก็ลองค้นดูเรื่องราวใน google ก็พบบทความหนึ่ง เรื่อง “What is the difference between /etc/init/ and /etc/init.d/?”

    ก็ได้คำตอบว่า ปัจจุบันนี้ผู้พัฒนาโปรแกรมบน ubuntu สามารถเลือกใช้ init ได้ 2 แบบ SysVinit กับ Upstart

    แบบ SysVinit เวลาสั่ง start จะทำดังนี้ /etc/init.d/dhcp3server start
    แบบ Upstart เวลาสั่ง start จะทำดังนี้ start isc-dhcp-server

    แบบ SysVinit ตั้งค่าโปรแกรมทำงานเมื่อเปิดเครื่อง แก้ไขด้วย update-rd.d
    แบบ Upstart ตั้งค่าโปรแกรมทำงานเมื่อเปิดเครื่อง แก้ไขที่ไฟล์ config ใน /etc/init/

    ขออนุญาต ลอกข้อความจาก Link http://askubuntu.com/questions/5039/what-is-the-difference-between-etc-init-and-etc-init-d มาให้อ่าน

    “/etc/init.d contains scripts used by the System V init tools (SysVinit). This is the traditional service management package for Linux, containing the init program (the first process that is run when the kernel has finished initializing¹) as well as some infrastructure to start and stop services and configure them. Specifically, files in /etc/init.d are shell scripts that respond to start, stop, restart, and (when supported) reload commands to manage a particular service. These scripts can be invoked directly or (most commonly) via some other trigger (typically the presence of a symbolic link in /etc/rc?.d/).

    /etc/init contains configuration files used by Upstart. Upstart is a young service management package championed by Ubuntu. Files in /etc/init are configuration files telling Upstart how and when to start, stop, reload the configuration, or query the status of a service. As of lucid, Ubuntu is transitioning from SysVinit to Upstart, which explains why many services come with SysVinit scripts even though Upstart configuration files are preferred. In fact, the SysVinit scripts are processed by a compatibility layer in Upstart.”

    ผมคิดว่าน่าจะมาเล่าสู่กันฟัง เท่าที่มีความรู้ หากมีคำแนะนำเพิ่มเติม บอกได้นะครับ

  • How to install phpmyadmin and joomla 3.1.5 on ubuntu server 12.04.3 lts

    สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมได้ลองติดตั้งอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งได้ทำเป็นไฟล์ pdf แล้วด้วยบางส่วน แต่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งวันนี้ห่างหายไปนานกับการเขียนบล็อกเนื่องจากไม่ว่างแล้วก็งานยุ่งมาก แต่ก็มีความคิดอยากจะเขียนบทความอยู่นะ พอดีขณะนี้ได้โอกาศเลยขอมาจัดซักหน่อยหนึ่งบทความ โดยในบทความนี้ผมก็เขียนขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับการทำงานในคณะเหมือนเดิม คือ เครื่องเซิร์ฟเวอร์เครื่องเก่าเป็น windows 2003 ซึ่งอายุก็มากกว่า 7 ปีแล้ว สภาพเครื่อง cpu ram part มันหมดอายุการผลิตไม่สามารถซื้อมาอัพเกรดเพิ่มได้ จึงต้องเปลี่ยนที่อยู่ให้เว็บไซต์ภายในเครื่องใหม่ คือ ย้ายโฮสต์นั่นแหละครับ คราวนี้เปลี่ยนมาติดตั้ง virtual แทน โดย OS: Ubuntu Server 12.04.3 LTS i386  ตอนแรกว่าจะโหลดแบบ 64 bit มาใช้งานแต่กลัวมันไม่เข้ากับ software ที่จะติดตั้งตัวอื่นๆเลยใช้แบบนี้ไปก่อน  โดยอันดับแรกผมก็ติดตตั้ง ubuntu 12.04.3 LST นะ โดยไม่ได้ใช้แบบสำเร็จรูป โดยตอนเลือกติดตั้ง ผมเลือก  Package  Openssh-server และ  LAMP เพื่อนำมาทำเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ลองทดสอบเรียกหน้า localhost หรือเรียกไปที่ ip เครื่องก็จะแสดงสถานะการทำงานว่า It’s Work   apache2 ทำงานได้ ส่วน service ของ mysql ก็ทำงานได้ตามปกติแต่เวลาจะเข้าไปจัดการมันนี่สิ ถ้าไม่มี tool ก็ลำบากหน่อย จึงได้ไปโหลด script authentication ของ อาจารย์ฉัตรชัย จาก share มาใช้งาน   http://share.psu.ac.th/blog/etc/19218  ซึ่งเขียนตั้งแต่ปี 54 ปัจจุบัน 56 แล้วก็ยังใช้งานได้อยู่นะ (ของแกดีจริง ๕๕๕)

    จากนั้นมาอัพเกรด ubuntu ของเราก่อนโดย

    1.  sudo apt-get update

    2. จากนั้น ใช้คำสั่งติดตั้ง  phpmyadmin โดย      sudo apt-get install phpmyadmin  ระบบก็จะให้เราเลือกว่าเราจะใช้ host ตัวใหน ระหว่าง apache2 หรือ lighthttp  ถ้าติดตั้ง LAMP ก็เลือก apache2 นะ จากนั้นระบบจะให้เรากรอกรหัสผ่านของ mysql

    install-phpmyadmin2

    จากนั้นระบบก็จะให้เราตั้งรหัสผ่านสำหรับ root ของ phpmyadmin  และก็ให้เรายืนยันรหัสอีกครั้ง (more…)

  • Putty + Xming = Xwindows

    • สำหรับผู้ใช้งานวินโดวส์ อยากใช้บางโปรแกรมของ Xwindows แต่ไม่อยากเดินไป Log In หน้า Console
    • ต้องมี putty และ xming โหลดที่
      • ftp://ftp.psu.ac.th/pub/putty สำหรับ 32-bit
      • https://blog.splunk.net/wp/64bit-putty/ สำหรับ 64-bit
      • ftp://ftp.psu.ac.th/pub/xming/ อันนี้ไม่มีแยก
    • โหลดโปรแกรมทั้งสองมาติดตั้งในเครื่องให้เรียบร้อย (next tech) สำหรับ putty สามารถโหลด putty.exe มาไฟล์เดียวก็ได้
    • เปิด putty และ xming

    2013-10-01_0929

    2013-10-01_0931สำหรับ xming เปิดแล้วโปรแกรมจะไปอยู่ที่ Task Bar

    • ที่ Putty ในหัวข้อ Connection -> SSH -> X11 เลือกหัวข้อ Enable X11 forwarding

    2013-10-01_0934

    • กลับมาหน้า Session ในช่อง Saved Sessions สร้างชื่อใหม่เก็บไว้ใช้เวลาต้องการ

    2013-10-01_0939

    2013-10-01_0939_001

    • ทดสอบใช้งาน ให้เลือกไปที่ X11 Forwarding ที่สร้างไว้ แล้วกด Load แล้วใส่ชื่อ Host Name ที่ต้องการ

    2013-10-01_0944

    • เมื่อ Log In เรียบร้อยในครั้งแรก จะมีข้อความว่า /usr/bin/xauth: creating new authority file ….

    2013-10-01_0955

    • ลองเรียกใช้งานโปรแกรมที่ต้องใช้ Xwindows  เช่น gedit

    2013-10-01_1009

    2013-10-01_1022

    • จบ … ขอให้สนุกครับ