Tag: Microsoft

  • How to InPrivate/Incognito Edge and Chrome by default

    • เหมาะสำหรับเครื่องในห้องปฎิบัติการ จะได้ไม่ต้องลบค่าบางอย่าง เช่น MS Teams ล็อคอินค้าง, อีเมลล็อคอินค้างไว้
    • เริ่ม
    • คลิกขวา properties ที่ shortcut ของ edge หรือ chrome
    • คลิกที่แท็บ shortcut ในช่อง target สำหรับ Microsoft Edge เพิ่ม -inprivate ต่อท้ายสุด แล้วคลิก Ok ดังภาพ
    • สำหรับ Google Chrome เพิ่ม -incognito ต่อท้ายสุด ดังภาพ
    • ทดสอบเปิด
    • สำหรับ Firefox จะสร้าง shortcut สำหรับเข้า Private browsing ไว้อยู่แล้วไม่ต้องดัดแปลงอะไร
    • ต้องแก้ shortcut ทุกที่หากอยากให้เป็นเหมือนกันทุก shortcut
    • จบขอให้สนุก
  • Microsoft Authenticator

    Microsoft 365 จะมีการเปิด Multi-Factor Authentication ไว้โดยปริยายต้องตั้งค่าดังต่อไปนี้

    • สำหรับบุคลากรเป็น @psu.ac.th
    • นักศึกษารหัสนักศึกษาขึ้นต้นด้วย 67 เป็นต้นไปเป็น @psu.ac.th
    • และส่วนนักศึกษารหัสนักศึกษาขึ้นต้นด้วย 66 65 64 … ยังเป็น @email.psu.ac.th
    • วิดีโอแนะนำการตั้งค่า Microsoft Authenticator
    • iOS และ Android ให้ติดตั้งโปรแกรมชือ Microsoft Authenticator ความต้องการขั้นต่ำ iOS14 หรือสูงกว่า, Android 8.0 หรือสูงกว่า
    • การยืนยันตัวตนด้วย SMS สำหรับมือถือรุ่นเก่า
    • ภาพจาก App Store และ Play Store ค้นหาว่า “microsoft authenticator”
    • พักไว้ก่อนแล้วกลับมาที่ PC
    • เข้าเว็บไซต์ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th หรือ https://outlook.office365.com/email.psu.ac.th
    • ให้ใส่ username ในรูปแบบ username.s@psu.ac.th หรือ รหัสนักศึกษา@email.psu.ac.th แล้วกด Next จะได้หน้าต่างที่ต้องเลือกว่าเป็นบัญชีประเภทไหน เลือก บัญชีที่ทำงานหรือโรงเรียน
    • ได้หน้าใส่รหัสผ่าน ให้กรอกรหัสผ่านของ PSU Passport ลงไป
    • เมื่อกด Sign In เนื่องจากเป็นการเข้าระบบครั้งแรก จะมีการให้ตั้งค่า Multi-factor authentication กด Next
    • จะได้หน้า ดังภาพกดถัดไป
    • กดถัดไปจะได้ QR code
    • มาที่โทรศัพท์มือถือเปิด App Microsoft Authenticator ขึ้นมา
    • กดที่เครื่องหมาย + จะได้ดังภาพ เลือก work or school account แล้วเลือก Scan QR code
    • จะมี account ใหม่เพิ่มใน app ดังภาพ
    • กดถัดไปใน PC จะได้หน้าดังภาพ มีตัวเลขปรากฎอยู่ ให้นำตัวเลขไปใส่ใน App ในโทรศัพท์ กด Yes และต้องใส่รหัสผ่านที่ล็อคโทรศัพท์มือถือด้วยจึงจะสำเร็จ หากใช้สแกนหน้าหรือสแกนลายนิ้วมือก็สามารถทำได้เลย
    • จะได้ดังภาพกดเสร็จสมบูรณ์ เป็นอันเสร็จการตั้งค่า การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน วันดีคืนร้าย ไม่ได้ใช้งานอีเมลหรือบริการอื่นๆ ของ Microsoft 365 แล้ว App เด้งเตือนว่าให้ใส่ตัวเลขขึ้นมา แนะนำให้เปลี่ยนรหัสผ่านของ PSU Passport ทันทีนะครับเพราะรหัสผ่านของท่านอาจโดนแฮ็คได้แล้ว
    • จะได้หน้านี้ขึ้นมา หากเป็นเครื่องส่วนตัว สามารถตอบ Yes ได้ แต่ก็ไม่แนะนำ ควรตอบ No ไว้ดีกว่า
    • ก็จะได้หน้าอีเมลอย่างที่ต้องการ

    วิดีโอแนะนำการตั้งค่า Microsoft Authenticator

    SMS (ยกเลิกแล้วนะครับ)

    • หากติดตั้งแอป Microsoft Authenticator ไม่ได้สามารถเลือกเป็น SMS แทนได้โดยเมื่อถึงหน้านี้ หยุดอ่านก่อน ให้เลือก I want to set up different method หรือ ฉันต้องการตั้งค่าด้วยวิธีอื่น
    • จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เลือกดังภาพ
    • ให้เลือกเป็น Phone ดังภาพแล้วกด Confirm
    • เลือกประเทศที่ให้บริการโทรศัพท์ และกรอกหมายเลขโทรศัพท์ คลิก Next
    • รอรับ SMS จาก Microsoft แล้วนำเลขไปกรอกในหน้าเว็บ กด Next
    • จะได้ดังภาพกด Next
    • จะได้ดังภาพ กด Done
    • จะได้หน้านี้ หากเป็นเครื่องส่วนตัวสามารถตอบ Yes ได้เลย แต่ไม่แนะนำ ให้ตอบ No ไปทุกเครื่องทุกที่จะดีกว่า
    • หากมีปัญหาเช่น เผลอลบแอป Microsoft Authenticator เปลี่ยนมือถือ หรือตั้งค่าไม่สำเร็จ สามารถแจ้งได้ทางโทรศัพท์ 074-282082 หรือสายภายใน 2082
  • Byeๆ TLS1.0 TLS1.1

    ใช้ Firefox beta อยู่เลยจะได้รับ Feature อะไรใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ จนเมื่อ beta 73 กว่าๆ เริ่มเข้าเว็บบางเว็บในมหาวิทยาลัยไม่ได้ จะปรากฏหน้าดังนี้

    เว็บสามัญประจำบ้านแห่งหนึ่ง

    อ่านดูถึงได้รู้ว่าออ เค้าจะเลิก TLS1.0 และ TLS1.1 แล้วจริงประกาศไว้นานละว่าจะเลิกปีนี้!! สำหรับ Firefox จะเลิกในรุ่น 74 และ Chrome น่าจะรุ่น 81 ส่วน Microsoft และ Safari ก็จะปิดในครึ่งปีแรก ในปีนี้เช่นกัน

    https://www.techtalkthai.com/old-tls-protocol-has-been-dropped-by-all-major-browsers-in-2020/

    เอ้าเลยเช็คเว็บตัวเองสักหน่อยเริ่มจาก ทดสอบกับเว็บที่เคยได้ A+ ผลเป็นดังรูป

    ม่ายยย

    อัยย่ะละก๊ะ…. เหลือ B เพราะเปิด TLS1.0 และ TLS1.1 เอาไว้ ปิดให้ไว

    วิธีการคือ (สำหรับ Apache2)

    แก้ไขแฟ้ม /etc/apache/mod-enabled/ssl.conf หาข้อความว่า

     SSLProtocol All -SSLv3

    (บางคนอาจจะมี -SSLv2 ด้วยแต่ apache2 ไม่สนับสนุน SSLv2 โดยปริยาย (default) แล้ว) เปลี่ยนข้อความข้างต้นเป็น

    SSLProtocol All -SSLv3 -TLSv1 -TLSv1.1

    บันทึกแล้ว restart apache ให้เรียบร้อย เมื่อไปตรวจใหม่ได้ผลตามภาพ

    เย่ กลับมา A+ แล้ว จบขอให้สนุก

    เกี่ยวข้อง

    https://sysadmin.psu.ac.th/hardening-your-http-response-headers/

    https://sysadmin.psu.ac.th/เปลี่ยน-certificate/

  • Download and install Office365

    ปัจจุบันนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สามารถใช้งาน Office365 ได้แล้ว โดยมีเงื่อนไขดังนี้

    • PC (Windows) หรือ Macs สามารถติดตั้งรวมกันได้ 5 เครื่อง
    • Tablets ติดตั้งได้ 5 เครื่อง (Android, iPadOS)
    • โทรศัพท์ ติดตั้งได้ 5 เครื่อง (Android, iOS)
    • email account ภายใต้โดเมน @email.psu.ac.th ขนาด 50GB
    • พื้นที่จัดเก็บข้อมูล One drive ขนาด 5TB

    สำหรับนักศึกษา

    • สามารถเข้าระบบได้ที่ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th
    • โดย username จะเป็น
      [รหัสนักศึกษา]@email.psu.ac.th
      ยกตัวอย่าง เช่น 62111111111@email.psu.ac.th
    • รหัสผ่านคือรหัสเดียวกับ PSU Passport

    สำหรับบุคลากร

    • ต้องขอเปิดใช้บริการก่อนที่ https://passport.psu.ac.th
    • หลังจากขอเปิดใช้บริการ ต้องรอ 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถใช้งานได้
    • สามารถเข้าระบบได้ที่ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th
    • โดย Username จะเป็น
      [log in ของ PSU passport]@email.psu.ac.th
      ยกตัวอย่าง เช่น username.s@email.psu.ac.th
    • รหัสผ่านคือรหัสเดียวกับ PSU Passport
    ขอใช้บริการ Office365

    เริ่ม…ได้

    Sign in

    หากเป็นการเข้าระบบครั้งแรก ระบบจะให้ทำการตั้งค่า Multi-factor authentication

    More information required
    • จะเป็นหน้า Additional security verification
    Additional security verification 
    • หากต้องการความง่ายให้เลือกตามรูป แล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ของเราลงไป
    • คลิก Next แล้วรอรับ SMS (**อาจใช้เวลานานกว่า SMS จะมา)
    Telephone 📞
    • กรอกตัวเลขจาก SMS แล้วกด Next
    SMS

    Pages: 1 2 3

  • How to: SQL Server Failover Cluster

    สิ่งที่ต้องมี

    • Software
    • Hardware
      • เครื่องคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่องสเป็คเดียวกัน (ในเอกสารนี้ใช้ 2 เครื่อง)
      • ในเอกสารนี้ใช้ VMware ESXi
      • รายละเอียดเพิ่มเติม Hardware Requirements
      • เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสำหรับเป็น iSCSI เซิร์ฟเวอร์
    • IP address
      • สำหรับเครื่อง Server 2 เลข
      • สำหรับ Microsoft failover cluster 1 เลข
      • สำหรับ Microsoft SQL Server failover cluster 1 เลข
      • ทุกไอพีต้องมีชื่อใน domain .psu.ac.th
    • Shared Storage
      • iSCSI (ในเอกสารนี้เลือกใช้ iSCSI)
        • IP address สำหรับ  iSCSI Server
      • หากมี shared storage อื่นๆ สามารถใช้ได้เลย
    • Domain Account
      • ติดต่อศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อขอสิทธิ์จอยโดเมน

    มีครบแล้วก็เริ่มกันเลย

    • Shared Storage (iSCSI) (Windows Server 2012R2 Data center)
      • เข้าระบบด้วยบัญชี administrator
      • คลิกปุ่ม start พิมพ์ windows update เพื่อเปิดโปรแกรม windows update ให้ update ทุกอย่างให้เรียบร้อย (restart หากต้อง restart หากรีสตาร์ทกลับมาแล้วเข้าระบบด้วยผู้ใช้ administrator)
      • เปิด Server Manager (ไอคอนแรกข้างปุ่ม start , โดยปกติจะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติ)
      • ที่ Dashboard มองไปที่ QUICK START ข้อ 2 Add roles and features คลิก
      • คลิก Next เลือก Role-based of feature-based installation คลิก Next เลือก Select a server from the server pool เลือกเครื่องของเราในช่องด้านล่างคลิก Next มองหา File and Storage Services คลิกสามเหลี่ยมก็จะมี File and iSCSI Services ทำเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ iSCSI Target Server จะมีหน้าต่าง สรุปการติดตั้งขึ้นมา คลิก Add Features คลิก Next ไปเรื่อยๆ จนเจอคำว่า Install คลิก Install รอจนกว่าจะติดตั้งเสร็จ (Installation succeeded on …) คลิก Close
      • กลับมาที่ Server Manager คลิกที่ File and Storage Services คลิก iSCSI มองไปด้านขวาจะปุ่ม TASKS
      • ให้คลิก TASKS เลือก New iSCSI Virtual Disk… จะมีหน้าต่าง New iSCSI Virtual Disk Wizard เลือก Type a custom path ให้ Browse… ไปยังที่เก็บไฟล์ที่ต้องการ คลิก Next จะเป็นหน้าที่ให้ตั้งชื่อไฟล์ ตั้งชื่อแล้วคลิก Next ระบุขนาดที่ต้องการที่นี้ให้ใส่ไป 5GB Fixed size คลิก Next เลือก New iSCSI target คลิก Next ตั้งชื่อสำหรับ shared disk ลูกนี้ คลิก Next ในหน้า Access Servers คลิกปุ่ม Add… เลือก Enter a value for the selectd type ให้เลือกเป็น DNS Name หรือ IP address ก็ได้แล้วใส่เครื่องทั้งสองเครื่องที่จะทำ Cluster ลงไป (ทำทีละเครื่อง) เมื่อใส่ครบแล้วคลิก Next 2 ครั้ง คลิก Create คลิก Close
      • ทำซ้ำข้อที่แล้วอีกครั้งโดยขนาดดิสก์เป็น 10GB เปลี่ยนตรงขั้นตอน iSCSI Target ให้เลือก Existing iSCSI target: คลิก Next แล้วคลิก Create คลิก Close
    • Join Domain (Windows Server 2012R2 Data center)
      • ล็อคอินเข้าระบบด้วยผู้ใช้ administrator
        • คลิกปุ่ม start พิมพ์ windows update เพื่อเปิดโปรแกรม windows update ให้ update ทุกอย่างให้เรียบร้อยทั้ง 2 เครื่อง
        • คลิกขวาที่ปุ่ม start เมนูเลือก system
        • ที่หัวข้อ Computer name, domain, and workgroup settings คลิก Change settings
        • ที่หน้าต่าง System Properties แท็บ Computer Name คลิก Change…
        • Member of  เลือก Domain พิมพ์ psu.ac.th คลิก OK จะมีการให้ยืนยันตัวตนว่ามีสิทธิ์ join domain หรือไม่ รอสักครู่ แล้วจะมีข้อความว่าต้อง restart เครื่อง ให้ restart ได้เลย
        • เมื่อรีสตาร์ทเสร็จแล้ว เข้าระบบด้วยผู้ใช้ administrator
        • เปิด Computer Management โดยคลิกขวาที่ปุ่ม start เลือก Computer Management คลิกที่สามเหลี่ยมหน้าข้อความ Local Users and Groups มองไปช่องทางขวาจะมี Administrators ให้ดับเบิ้ลคลิกเปิดขึ้นมา เลือก PSU\Domain Admins คลิก Remove คลิก Add… ใส่ Username ของเราลงไปคลิก OK ออกมาจนสุด
        • Sign Out ออกจากระบบ
        • Log In ใหม่ด้วย Username ของเราเอง psu\firstname.s
        • ทำเหมือนกันสองเครื่อง
        • จบการ Join Domain
    • ติดตั้ง Microsoft Failover Cluster
      • เข้าระบบด้วยผู้ใช้ Domain ที่เพิ่งเพิ่มเข้าไปในกลุ่ม Administrators
      • ที่ Server Manager ที่เมนู Tools คลิกเลือก iSCSI Initiator คลิก Yes จะได้หน้าต่าง iSCSI Initiator Properties ที่แท็บ Targets ในช่อง Target: ใส่ IP Address ของเครื่อง iSCSI Server คลิก Quick Connect… คลิกเลือก disk คลิก Done ทำเหมือนกันทั้งสองเครื่อง และเพิ่มดิสก์ทั้งสองก้อนเข้าไป
      • ที่ Server Manager คลิก Manage เลือก Add Roles and Features
      • จะได้หน้าต่าง Add Roles and Features Wizard คลิก Next เลือก Role-based or feature-based installation คลิก Next เลือก Server ใน Server Pool (ซึ่งมีอยู่เครื่องเดียว) คลิก Next ในหน้า Server Roles คลิก Next หน้า Features เลือก Failover Clustering คลิก Next จะมีหน้าต่างสรุปการติดตั้งขึ้นมาให้กด Add features แล้วคลิก Next ไปจนเจอคำว่า Install คลิก Install รอไปจนเสร็จ คลิก Close
      • ที่ Sever Manager คลิก All Servers คลิกขวาที่เครื่องในช่อง Server เลือก Failover Cluster Manager
      • ที่ Failover Cluster Manager
      • คลิก Validate Configuration
        • Before You Begin คลิก Next
        • เพิ่มชื่อเครื่องที่เตรียมไว้ทั้งสองเครื่องลงไป โดยพิมพ์ชื่อแล้วคลิก Add ทีละเครื่อง
        • เลือก Run all tests (recommended) ปล่อยให้ทำไปจนเสร็จ
        • ตรวจสอบ Log การ valid อาจมีเตือนเรื่อง network เป็น single points of failure เนื่องจากใช้ internet card เพียงใบเดียว
        • ทำเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ Create Cluster Wizard เลือกเครื่องที่จะทำ Cluster กำหนดเลขไอพีสำหรับ Microsoft failover cluster (IP ข้อ 2) กำหนดชื่อ Cluster next ไปจนเสร็จ*
    • ติดตั้ง Microsoft SQL Server Cluster 2016
      • mount แผ่นติดตั้ง Microsoft SQL Server 2016 Server Cal เลือก New SQL Server failover cluster installation ในหน้า Installation
      • แทบจะ Next technology ได้เลยสิ่งที่ต้องกำหนดเพิ่มคือ ชื่อของ Microsoft SQL Server failover cluster และ IP address สำหรับ Microsoft SQL Server failover cluster เลือกดิสก์ที่ใช้งานสำหรับ SQL Server ให้เลือก shared disk ลูกที่ 2
      • รอจนเสร็จแล้วให้มาติดตั้งที่เครื่องที่ 2 โดยเลือก add new node และทำเหมือนเดิม
      • เสร็จ
    • จบขอให้สนุก…

    อ้างอิง

    https://msdn.microsoft.com/en-us/library/hh231721(v=sql.130).aspx

    https://blogs.msdn.microsoft.com/clustering/2012/04/06/installing-the-failover-cluster-feature-and-tools-in-windows-server-2012/

  • ทดสอบการแสดงผลเว็บแอพพลิเคชันง่ายๆ บน Browser ต่างๆ ด้วยบริการของ Modern IE

    ในปัจจุบันเว็บแอพพลิเคชันที่มีการพัฒนาจะต้องรองรับ Browser และอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งเป็นการยากที่เราจะทดสอบให้ครบได้

    จะดีไหมถ้าเราสามารถดูการแสดงผลเว็บแอพพลิเคชันที่พัฒนาว่า หน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อแสดงผลบน Browser หรืออุปกรณ์อื่นๆ

    Microsoft ได้เปิดตัว Modern IE ขึ้น โดยมีบริการที่น่าสนใจที่เรียกว่า Browser screenshots !!

    ขั้นตอนที่ 1

    ไปยัง URL : https://dev.modern.ie/tools/screenshots/

    2

    ขั้นตอนที่ 2

    ใส่ URL ของเว็บแอพพลิเคชันของเราที่ต้องการ

    1

    ขั้นตอนที่ 3

    กดปุ่ม Enter หรือรูปแว่นขยาย เครื่องมือจะแสดงผลดังภาพ

    3 4

    จะเห็นว่าเจ้า Browser screenshots เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเห็นหน้าจอเว็บแอพพลิเคชันของเราในเบื้องต้นได้

    “หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อนักพัฒนาหรือนักทดสอบระบบทุกท่านนะค่ะ”

  • วิธีแก้ปัญหา windows 8.1 กับ Powerpoint 2013 ที่มีความสามารถ Presenter View แล้วภาพสั่น

    วิธีแก้ปัญหา windows 8.1 กับ Powerpoint 2013 ที่มีความสามารถ Presenter View ซึ่งทำให้ผู้บรรยายสามารถ รู้ว่า สไลด์ต่อไปเป็นภาพอะไร และมี Note ต่างๆ แถมยังสามารถ เลือก Slide ที่จะ show เบื้องหลัง ก่อนจะแสดงให้ผู้ชมเห็นทาง Projector ได้ด้วย

    หน้าจอ Presenter View จะเป็นประมาณนี้
    presentation-view

    ปัญหา: เราเอา Notebook ไปต่อกับ Projector แล้วทำเป็นแบบ Duplicate ตอนแสดง Desktop ก็เห็นสวยงามดี ไม่สั่น แต่พอเปิด Powerpoint 2013 แล้ว กด F5 เพื่อ Present ก็พบว่า ภาพบน Projector สั่น หรือได้สัดส่วนไม่พอดี

    เหตุ: Presenter View นั้น จะแอบสลับไปใช้ Secondary Screen Resolution นั่นเอง ถ้า ใครเคยตั้งไว้สูงลิ่ว เช่น 1920×1080 เพราะ ที่โต๊ะมี 2 จอ ให้ใช้ ก็จะทำให้เวลา Present เกิดอาการภาพสั่น

    วิธีแก้ไข: ให้ปรับ Resolution ของ Secondary Screen ให้เป็นแบบเดียวกับ Primary Screen ที่ดีอยู่แล้ว เช่น เป็น 1366×768 เท่ากัน

    solution

    แล้วจะทำให้การ Present ด้วย Powerpoint 2013 แบบ Presenter View ราบรื่น

    หรือถ้าจะให้ง่าย คือใช้เป็นแบบ Primary Screen อย่างเดียว โดย

    1. ไปที่ Presentation
    2. เลือก Primary Screen
    3. Uncheck “Use Presenter View”

    ดังภาพ

    powerpoint-presentation-setting

  • วิธีลดขนาดไฟล์ Microsoft Word ให้เล็กลง

    ในการทำเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะ Microsoft Word ผู้ใช้มักจะ ใส่รูปภาพ เข้ามาในไฟล์ เพื่อให้เกิดความสวยงาม และสื่อความหมายในการบรรยาย

    บ่อยครั้ง เป็นภาพ “หน้าจอ” โดยการ “Print Screen” หรือ การ เอาภาพจากกล้องดิจิตอล ซึ่งปัจจุบันมีความละเอียดสูง เช่นกล้อง 5MP เป็นอย่างต่ำ หรือกล้องใหม่ๆ 12 MP กันเลยทีเดียว ซึ่งภาพที่ได้จะมีขนาดใหญ่มาก เมื่อนำมาใส่ในไฟล์เอกสาร แล้วทำการ Resize ภาพ หรือ Crop เอาเฉพาะบางส่วนของภาพ ก็มักจะคิดว่า ขนาดของไฟล์ จะลดลงไปด้วย

    ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะโปรแกรม Microsoft Word จะยังเก็บภาพขนาดเดิมเอาไว้ เพียงแต่เลือกแสดงบางส่วน หรือ ลดขนาดการแสดงผลเท่านั้น จึงทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ … และอาจจะเป็นปัญหาได้ เมื่อไฟล์มีขนาดใหญ่มากๆ, การส่งไฟล์ผ่าน email ก็จะมีขนาดใหญ่ จนบางครั้ง ผู้รับไม่สามารถรับได้ เช่นส่งไฟล์ขนาดเกิน 25 MB ไปยัง Gmail/Hotmail เป็นต้น

    วิธีการลดขนาดไฟล์

    1. คลิกที่ภาพในไฟล์ >Pictures Tools > Format > Compress Pictures
    แล้วเลือกความละเอียดขนาดแค่ email ก็พอ
    คลิก OK แล้ว Save

    MicrosoftWord-PictureCompress

    2. ผลการลดขนาด จะทำให้ไฟล์เดิมขนาด 6 MB ลดเหลือ 2 MB ในทันที

    fileresize-result