ชีวิตสะดวกและปลอดภัยด้วยการ Sign In บน Google Chrome

เคยเจอปัญหาเหล่านี้เมื่อต้องไปใช้งานเครื่องอื่นที่ไม่ใช่เครื่องตนเองหรือไม่ ? จะเข้าเว็บไซต์ที่เคย Bookmark เอาไว้ในเครื่องตนเอง ก็ทำไม่ได้ ทำไงดีรหัสผ่านมากมาย เคยให้เว็บจำไว้ให้ แล้วตอนนี้จะใช้งานยังไงหล่ะ สภาพแวดล้อมไม่คุ้นชินเมื่อไปใช้เครื่องอื่น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อใช้ Google Chrome และ ทำการ Sign In เอาไว้ คำเตือน: ผู้ที่จะใช้วิธีการนี้ ควรทำระบบ 2-Step Verification ไว้ก่อน เพื่อป้องกันรหัสผ่านรั่วไหล และป้องกัน กรณีมี Keyboard Logger ฝังตัวเพื่อดักการพิมพ์รหัสผ่านจาก Keyboard ซึ่งแม้จะมีผู้ร้ายดักรหัสผ่านไปได้ ก็จะติดขั้นตอนการยืนยันตัวตนอีกชั้นของ 2-Step Verification กรณีผู้ใช้ Google Apps ขององค์กร (ทั้ง For Education และ For Business) ระบบจะทำการสร้าง Profile แยกให้ แต่ถ้าเป็น Google Account ของ Gmail นั้น จะต้องทำการ Create Profile เอง แล้วจึง Sign In เข้าไป มิฉะนั้นข้อมูลของเราจะไปปะปนกับของผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง วิธีการนี้ ผู้ใช้ต้อง “Remove This Person” ทุกครั้งเมื่อจบการใช้งาน (จะอธิบายต่อไป) วิธีการใช้งาน เปิด Google Chrome ขึ้นมา ด้านขวามือบน ใกล้ๆ Tools Box คลิกรูป “คน” ดังภาพ แล้วคลิก Sign in to Chrome ใส่ Google Account (Gmail Account)  หรือ Google Apps Account (Google Apps For Education/Business) และรหัสผ่าน จากนั้นคลิก Sign In สำหรับท่านที่ทำ 2-Step Verification จะพบหน้าต่างให้ใส่ Code ก็ให้ดำเนินการตามปรกติไป สำหรับบัญชี Google Apps ขององค์กร จะแสดงหน้าต่างให้เลือกว่า จะสร้าง Profile ใหม่หรือไม่ แนะนำให้คลิกปุ่ม Create a new profile ต่อไป คลิกปุ่ม “Ok, got it” ใช้เวลาไม่นาน ระบบจะ Sync ข้อมูล Apps, Autofill, Bookmark, Extensions, History, Password, Settings, Themes, Opentabs มาให้ (สามารถเลือกได้ว่าจะ Sync อะไรมาบ้างได้) และทำการเข้ารหัส รหัสผ่านไว้ด้วย (เลือกได้ว่าจะเข้ารหัสด้วย Google Credential หรือจะสร้าง Paraphrase แยกต่างหาก — ในที่นี้ เลือกเป็น Google Credential) คราวนี้ ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนนั่งอยู่ที่เครื่องตนเองอีกทั้งวิธีการนี้ จะสามารถใช้งานได้ทั้งบน Smartphone และ Tablet ได้ด้วย ทำให้เมื่อ Save Bookmark เอาไว้บนคอมพิวเตอร์ ก็สามารถไปเปิดดูได้บน Tablet ได้ทันที เมื่อเลิกใช้งาน ให้ทำตามข้อ 2. แล้วคลิก Switch User แทน จากนั้น ที่รูป Profile ด้านมุมขวา คลิก Remove this person คลิก Remove this person อีกครั้งเพื่อยืนยัน เท่านี้ ข้อมูลก็จะปลอดภัยแล้ว 😉 หากต้องการปรับแต่งเรื่อง สิ่งที่ต้องการจะ Sync

Read More »

Mozilla Thunderbird & Google Calendar

1. ติดตั้ง extension 2 ตัวใน Thunderbird ได้แก่ Lightning และ Provider for Google Calendar ดังรูป 2. รีสตาร์ท Thunderbird จะพบปุ่ม อยู่ทางมุมบนขวา 3. เข้า gmail.psu.ac.th ล็อคอินให้เรียบร้อย คลิก  แล้วเลือก Calendar 4. ที่หน้า Calendar คลิก เลือก Setting 5. คลิก Calenders ทีี่มุมซ้ายบน 6. เลือกปฏิทินที่ต้องการ 7. ตรวจสอบว่าใช่ปฏิทินที่ต้องการหรือไม่ดูที่ ช่อง Calender Owner ว่าเป็นอันเดียวกับ Username ที่ล็อคอินเข้า gmail 8. เลื่อนดูด้านล่างในส่วนของ Private Address: 9. คลิกขวาที่ ICAL เลือก Copy Link Location 10. กลับมาที่ Thunderbird กดปุ่ม เพื่อเปิดปฏิทิน 11. คลิกขวาที่ช่องว่างฝั่งซ้ายมือใต้คำว่า Calendar เลือก New Calendar 12. ได้หน้าต่าง Create New Calendar เลือก Google Calendar กด Next 13. กด Ctrl-v เพื่อ paste URL ของปฏิทินที่ Copy มาในข้อก่อนหน้า 14. กด back 1 ครั้งแล้วกด Next ใหม่ (อันนี้น่าจะเป็นบักของ Ubuntu 14.10) 15. กด Next 16. จะมีหน้าต่างเพื่อยืนยันตัวตนของ Google ปรากฎขึ้นมา 17.  กด Sign in จะได้อีกหน้าต่างดังรูป กดยอมรับ 18. จะมีหน้าให้เลือกปฏิทินที่ต้องการอีกครั้งกด Next 19. จะมีหน้าให้ ยืนยันตัวตน และหน้าเพื่อขอสิทธิ์การเข้าถึง อีกรอบกดให้ Sign in และยอมรับ 20. กด Finish 21. ก็จะได้ปฏิทินเพิ่มมาตามต้องการ 22. ทั้งหมดนี้ทำบน Ubuntu 14.10 บน Windows ก็น่าจะทำเหมือนกัน 23. สามารถเพิ่มลบเหตุการณ์ผ่าน Thunderbird ได้เลยไม่ต้องเข้าเว็บอีก … 24. จากที่ทดสอบหนึ่ง Profile ของ Thunderbird สามารถมี Google Calendar ได้เพียง account เดียว 25. ขอให้สนุกครับ

Read More »

วิธีใช้ฟอนต์ TH SarabanPSK บน Google Drive

ในที่สุด Google ประเทศไทยก็เอาฟอนต์ราชการขึ้นไปให้ใช้ได้สำเร็จ ต่อจากนี้ เราก็สามารถลดการพึ่งพิง Microsoft Office ซึ่งผูกขาดมายาวนานได้ “บ้าง” แล้ว เพราะที่ผ่านมา เอกสาร .doc และ .docx ไม่สามารถใช้งานกับ Office Suite ค่ายอื่นได้อย่างราบรื่นเพราะคนไทยเราไม่ใช้ฟอนต์เดียวกัน ยังไปใช้ Angsana, Cordia ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Microsoft ทำให้รูปแบบเอกสารที่จัดด้วย Microsoft Office จะเพี้ยนๆเมื่อไปเปิดกับค่ายอื่นๆ ตอนนี้ก็เหลือแต่ คนไทยเรานี่แหล่ะ ที่ต้องรณรงค์ใช้ฟอนต์แห่งชาติ เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างเสรี สำหรับ Google Drive เองก็มี Office Suite ซึ่งทำงานได้บนเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งอะไรในเครื่อง จากการทดลองใช้มายาวนาน พบว่า ถ้าเราเอาคำว่า “พอเพียง” ไว้ในใจได้แล้ว เครื่องมือชิ้นนี้ ดีเกินพอสำหรับงานสำนักงานทั่วไป และหากใครต้องการซื้อความสามารถเพิ่มก็สามารถซื้อแยกได้ ไม่ต้องถูกยัดเยียดสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้ มาในราคาซอฟต์แวร์ที่แพงลิ่ว หรือ สามารถพัฒนาเพิ่มเติมเองได้ผ่าน Add-Ons ครับ สำหรับการใช้งานภาษาไทย และฟอนต์ไทย TH SarabanPSK ก็ทำได้ง่ายโดย 1. สร้าง หรือ เปิดเอกสาร Google Docs 2. ไปที่เมนู File > Language แล้วเลื่อนมาด้านล่างๆ จะพบคำว่า ไทย 3. จากนั้น ฟอนต์ TH SarabanPSK ก็จะมีให้ใช้งานทันทีครับ 4. การเก็บไฟล์ในรูปแบบ Google Docs ทาง Google จะไม่คิดพื้นที่จัดเก็บครับ แสดงว่าเราสร้างได้มากเท่าที่ต้องการ แต่ถ้าเอา .docx ไปใส่ ก็จะกินเนื้อที่ที่มีให้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ

Read More »

วิธีการตั้งค่า CNAME และ TXT เพื่อ Verification กับ Google Site

Google Site เป็บบริการหนึ่งของ Google ซึ่งให้เราสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายๆ เหมาะสำหรับการงานที่ต้องการความรวดเร็วในการสร้าง และสามารถประสานกับเครื่องมือต่างๆของ Google ได้มากมาย เช่น จะสร้างแบบฟอร์มรับสมัครเข้าร่วมโครงการ, ทำรายงานผู้ที่ชำระเงินแล้ว, ผนวกกับ Google Map เพื่อแสดงตำแหน่งที่จัดงาน และสถานที่ท่องเที่ยว หรือ อื่นๆอีกมากมาย (วิธีการสร้าง จะกล่าวในบทความต่อๆไป)  ในบทความนี้ เป็นการสร้าง เว็บไซต์ของงาน ประชุมสภาข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างแห่งประเทศ (ปขมท) ๒๕๕๗ และเน้นที่ การเชื่อม Domain Name ของมหาวิทยาลัย ซึ่งใช้ Bind DNS เข้ากับ Google Site โดย Google Site ที่แสดงในตัวอย่าง สร้างที่ https://sites.google.com/site/cuast57/ ซึ่ง ชื่อจะจำได้ยาก จึงขอใช้ Domain Name สั้นๆชื่อ cuast57.psu.ac.th วิธีการมีดังนี้ 1. ไปที่ Setting > Manage Site 2. คลิกที่ Web Address แล้วใส่ cuast57.psu.ac.th จากนั้นคลิกปุ่ม Add 3. จะขึ้น error ด้านบน “You have not verfified domain ownership with Google. please follow these instructions” ให้คลิกที่ “these instructions”  4. เลื่อนลงไปล่าสุดของหน้าจอ คลิกที่ “Webmaster Tools home page” (สมมุติว่าท่านเคยใช้งาน Google Webmaster Tools อยู่แล้ว) 5. คลิกที่ Add A Site ให้ใส่ Domain Name ที่ต้องการ ในที่นี้คือ cuast57.psu.ac.th แล้วคลิก Continue 6. คลิกที่ Alternate Methods > Domain name provider แล้วเลือก อันล่างสุด คือ other เพราะ Google Site ไม่เปิดให้เรา Upload File ขึ้นไป, ไม่สามารถแก้ไข Header หรืออะไรทำนองนั้นได้ จึงต้องใช้วิธีการนี้ ซึ่งจะต้องอธิบายตรงนี้เพื่อความเข้าใจ  ในการที่เราคุม Domain Name แต่ใช้ Google Site นั้น สิ่งที่ต้องทำคือ สร้าง CNAME ไปยัง Google Site และ ทำการ Verification 6.1 สร้าง CNAME ไปยัง ghs.googlehosted.com. เพื่อบอกว่า cuast57.psu.ac.th จะใช้บริการของ Google Site 6.2 ต้องทำการ Verification โดยสามารถทำได้ 2 วิธีคือ 1) ถ้าเราได้ Delegate Zone มา ก็จะสามารถใส่ TXT Record ลงไปได้ โดยใช้ค่าดังภาพ  2) แต่ถ้าเราไม่ได้ Delegate Zone ก็จะต้องสร้าง CNAME ให้คลิกที่ “Add a CNAME record” ดังภาพ ให้เลือกวิธีการเอา แต่ในตัวอย่างนี้ เลือกวิธีการ 2) เพราะไม่ Delegate Zone มา และไปทำข้อ 7. ก่อน แล้วจึงกลับมาคลิกปุ่ม Verify

Read More »

สมัยนี้เขาไม่แนบไฟล์ใหญ่ๆกันแล้ว (Google Drive)

มีผู้ใช้ถามมาว่า “จะส่งภาพงานอบรมให้เพื่อน ที่ Gmail แต่ทำไมส่งไปไม่ได้ ไม่กี่ภาพเอง ถามเพื่อนเขาก็ว่าพื้นที่เขาไม่เต็ม ทำไม PSU เราไม่ให้ส่งหล่ะ ?!?!?!” … ตรวจสอบพบว่า … ไม่กี่ภาพ แต่ขนาดรวมทั้งสิ้น 125 MB, และ Gmail ก็มีข้อจำกัด ไม่ให้ส่ง email ที่มีขนาดรวมไฟล์แนบเกิน 25 MB ในขณะที่ PSU เองไม่ได้จำกัดการส่งออกครับ แล้ว … ทำไงดี ??? ต่อไปนี้เป็นหนึ่งในหลายๆวิธีครับ นั่นคือ ใช้ Google Drive เพื่อการแชร์ไฟล์ โดยจะใช้วิธีสร้าง Folder แล้วแชร์ทั้งหมด ให้กับผู้อื่น แบบไม่ต้องใช้ Google Account ในการเข้ามาดู วิธีการใช้งานมีดังนี้ 0. ท่านต้องมี Google Account (Gmail Account นั่นแหล่ะ) 1. Login ที่ https://drive.google.com 2. คลิกที่ Create แล้วเลือก Folder   3. ตั้งชื่อ “ภาพของฉัน”   4. Upload ภาพไปเก็บใน “ภาพของฉัน” โดยคลิกที่ “ภาพของฉัน” แล้วคลิกที่ Upload (ภาพลูกศรชื้ขึ้น) แล้วเลือก Files, จากนั้น เลือกภาพที่ต้องการ เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Open 5. รอให้ Upload เสร็จ 6.  คลิกที่เมนูด้านหลัง “ภาพของฉัน” แล้วคลิก Share … > Share 7. หากต้องการแชร์ให้ผู้อื่น “ที่มี Link” ดูได้ โดยไม่ต้อง Login ให้เลือก Anyone with the link แล้วเลือก Can View ดังภาพ แล้วคลิก Save (หากต้องการให้ Login ด้วย Google Account เลือก Private หากต้องการให้ทุกคน เห็นได้ เลือก Public on the Web)   8.ใส่ email address ผู้รับลงไป คั่นด้วย Comma (,) หากต้องใส่ข้อความด้วย ก็สามารถทำได้ จากนั้นคลิก Share & Save 9. ผลคือ จะมี email ส่งไปถึงผู้รับ คล้ายอย่างนี้ 10. เมื่อผู้รับคลิก “ภาพของฉัน” ก็จะได้ผลดังนี้ (มาที่ Google)   จึงเรียนมาเพื่อทราบ

Read More »