Tag: Google Form

  • การตั้งรหัสผ่าน ใน Google Form

    ทำไมต้องใส่รหัสผ่าน!!  อย่างเช่นบางทีเราทำแบบทดสอบออนไลน์ ลงทะเบียนออนไลน์ หรือต้องการให้ใครกรอกข้อมูลเฉพาะกลุ่มที่เราต้องการ โดยไม่ให้คนอื่นมากรอกมั่ว หรือกรอกเล่น เราจะต้องมีรหัสผ่านก่อนที่จะเข้าไปกรอกฟอร์ม มีวิธีการยังไง มาดูกันค่ะ

    1.สร้างฟอร์มขึ้นมา 1 ฟอร์ม กำนหดค่าต่าง ๆ ดังรูป

    หมายถึงต้องกรอกรหัสผ่านของฟอร์มชุดนี้คือ “abc123” หากกรอกผิดจะแสดงข้อความ “คุณกรอกรหัสผิดค่ะ!!!”

    2. Add Section เพื่อเป็นการลงชื่อเข้าใช้ ดังรูป

    3. มาทดสอบกัน กรณีกรอกรหัสผ่านผิด จะกดปุ่ม “Next” ก็ไม่ไปไหน

    4. กรณีกรอกรหัสผ่านถูกต้อง

    กดปุ่ม Next ก็จะสามารถเข้าไปยังหน้าฟอร์มถัดไปได้

    นี่คือเทคนิคการทำรหัสผ่านในการทำฟอร์ม เพื่อให้มีรหัสผ่าน จะทำให้ฟอร์มของเรานี้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ

  • วิธีใช้งาน Google Form ให้เฉพาะผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะตอบแบบฟอร์มได้ โดยต้องไม่บังคับ Login ด้วย Google Account ด้วย

    Google Form เป็นเครื่องมือสร้างแบบสำรวจยอดฮิต สร้างง่าย ใช้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่เปิดให้ใครก็ได้ สามารถตอบแบบสอบถาม

    แต่ ถ้าต้องการให้เฉพาะคนในองค์กรซึ่งใช้ G Suite (เช่น กรณีของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ใช้ G Suite for Education โดเมน psu.ac.th เป็นต้น) ตอบแบบสอบถามเท่านั้น ก็พอจะทำได้ แต่ก็จะเจอปัญหาคือ ผู้ใช้ในองค์กรอาจจะ Login ด้วย Web Browser ซึ่ง Sign-In ด้วย Gmail ส่วนตัว ก็จะยุ่งยากหน่อย ต้องสลับ Account เป็นต้น แล้วยิ่งบางคน ใช้ LINE เพื่อ Scan QR Code แล้วก็ไปใช้ In-App Browser ซึ่งก็ไม่รู้ว่า Sign-In ด้วย Account ไหน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเป็นการไปใช้งานนอกสถานที่ที่ใช้ประจำ Google ก็มักจะ Challenge โดยการ ให้ระบุ เบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ Email ที่ใช้ Recovery สร้างความวุ่นวายได้เป็นอย่างมาก

    แล้ว ก็มี Requirement “ง่าย ๆ” มาให้คิด

    • ต้องการออกแบบระบบ ลงคะแนน ให้คณะกรรมการ ซึ่งอยู่ทั้งในและนอกองค์กร
    • ท่าน ๆ เหล่านี้ ล้วน … ทรงคุณวุฒิ และ วัยวุฒิ
    • ใช้อุปกรณ์หลากหลาย
    • ส่งแบบฟอร์มไปให้กรอก โดยผ่าน Email ท่าน ๆ ซึ่งเป็น @yahoo.com, @hotmail.com, @gmail.com, @xxx.edu, @xxxxxxxxx
    • บางท่าน ไม่มี Email แต่มี LINE เท่านั้น
    • การลงคะแนน ต้องมั่นใจว่า กรรมการแต่ละท่าน เป็นผู้ลงคะแนนจริง ๆ
    • ท่าน ๆ ลงคะแนนได้ 1 เสียงเท่านั้น
    • เปลี่ยนใจได้ด้วย คือ ตอนแรกจะลงคะแนนอย่างนึง แล้วก็ Submit ไปแล้ว แต่ก็คิดว่า เอ๊ะ เปลี่ยนใจแระ (ในกรอบเวลา)
    • ไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นผู้ลงคะแนนได้ (โดยง่าย)

    แนวทางการแก้ปัญหา

    Google Form มี Feature นึง ที่บางคนไม่เคยใช้ นั่นคือ “Get pre-filled link”

    Pre-filled Link กล่าวคือ ทำการกรอกข้อมูลบางอย่างใน Google Form แล้วส่งให้ผู้ใช้ เช่น เรารู้อยู่แล้วว่า จะส่งแบบฟอร์มนี้ ไปทาง Email ของกรรมการท่านนี้ ก็แทนที่ต้องให้ท่าน กรอกชื่อตัวเอง เราก็กรอกไปให้ท่านเลย อะไรทำนองนั้น

    Idea ของเราคือ จะสร้าง “Question” ชื่อ Token ขึ้นมา (จะตั้งว่าอะไรก็ได้นะ)

    แล้วคลิกที่ “Get Pre-filled Link”

    จะได้แบบฟอร์มพร้อมกรอกอย่างนี้ เราก็จะ Mark ตำแหน่งที่จะแทนค่า Token ด้วยการใส่คำอะไรก็ได้ แต่ในที่นี้ จะใส่เป็นคำว่า “token” ตัวพิมพ์เล็ก ไปใส่ แล้วคลิกปุ่ม Get Link จากนั้น คลิกปุ่ม COPY LINK

    Link ที่ได้ จะเป็นแบบนี้

    https://docs.google.com/forms/d/e/XXXXXXXXXX/viewform?usp=pp_url&entry.625502761=token

    จากนั้นแค่ค่า ข้อความ “token” ด้วยค่า Hash เช่น เอาชื่อ นามสกุล และ email address ของแต่ละคนมาเข้ารหัส MD5 (จะกล่าวถึงวิธีการได้มาในตอนท้าย) เช่น ได้เป็น

    b4771c1c4d65442b32d7029d13fb6e41

    ก็จะได้ URL ที่จะส่งให้ท่านกรรมการ อย่างนี้

    https://docs.google.com/forms/d/e/XXXXXXXXXX/viewform?usp=pp_url&entry.625502761=b4771c1c4d65442b32d7029d13fb6e41

    เมื่อผู้รับคลิก Link ก็จะได้หน้าตาฟอร์มแบบนี้

    คราวนี้ ในภาพใหญ่ ก็ต้องหาทางทำสร้าง Hash ของกรรมการแต่ละท่าน อันนี้เป็นตัวอย่าง

    ต่อไปนี้เป็นวิธีการหาค่า Hash (เขียนด้วย Google App Script)
    Source: https://www.answiz.com/questions/2594/hash-of-a-cell-text-in-google-spreadsheet

    function MD5 (input) {
      var rawHash = Utilities.computeDigest(Utilities.DigestAlgorithm.MD5, input);
      var txtHash = '';
      for (i = 0; i < rawHash.length; i++) {
        var hashVal = rawHash[i];
        if (hashVal < 0) {
          hashVal += 256;
        }
        if (hashVal.toString(16).length == 1) {
          txtHash += '0';
        }
        txtHash += hashVal.toString(16);
      }
      return txtHash;
    }

    จากนั้นก็เขียน Script ส่ง Email / LINE แจ้งข้อความที่ต้องการ พร้อม Link ที่กรอกข้อมูล Hash ของแต่ละท่าน

    เป็นอันเรียบร้อย …

    เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ความซับซ้อน

    คราวนี้ ท่าน ๆ ก็ลงคะแนนกันมา แต่ว่า

    • ช่อง Token นั้น บน Google Form มันแก้ไขได้ ไม่มีทาง Lock ทำให้บางท่าน เอ่อ เผลอ แก้ไข/ลบ/ทดลอง
    • บางท่าน ก็ ลงคะแนน Submit แล้ว อยากเปลี่ยนใจทำไงดี ?

    ดังนั้น ต้องหาทางทำให้

    • ถ้า Hash ไม่ตรงกับข้อมูลที่มี ไม่นับคะแนน
    • ถ้า Hash ตรง แต่ซ้ำ ๆ มา ให้นับคะแนนจาก Record ล่าสุด

    ก็มาร่าย Formula กันหน่อย

    หน้าตา Google Sheets ซึ่งเป็นผลการลงคะแนนที่ได้จาก Google Form

    ไปเขียนสูตรใน Column D โดย จะนำค่าจาก Column C ไปตรวจสอบกับ Hash ซึ่งขอยกตัวอย่างว่า อยู่ที่ Sheet2 ใน Column A โดยใช้สูตร

    =IF(ISNA(VLOOKUP(C2,Sheet2!A:A,1,false)),"Not Match","Match")

    จากภาพแสดงให้เห็นว่า แถว 5 นั้น ค่า Hash ไม่ตรง จึงขึ้นคำว่า “Not Match”

    ต่อไป ก็ Filter เฉพาะที่ Match แล้ว Sort ตาม Timestamp

    สูตรประมาณนี้

    =sort(filter(A2:D6,D2:D6="Match"),3,True)

    คราวนี้ เราจะรู้ต้องหาว่า อันไหนหล่ะ ที่เป็น Record ล่าสุดในแต่ละกลุ่ม

    ใช้สูตรประมาณนี้

    =if(C14=C15,"","1")

    กล่าวคือ พอเรียงลำดับแล้ว ก็หาว่า บรรทัดไหน เป็นขอบของกลุ่ม ว่างั้น (อธิบายยากจัง) ก็แสดงค่า 1

    สุดท้าย จะก็ได้ผลสรุป Record ที่ Hash ตรง และเป็นการ Submit ล่าสุดของแต่ละกลุ่ม

    สูตรประมาณนี้

    =filter(A14:E17,E14:E17="1")

    ก็เอาไปทำ Chart สรุป ได้แล้ว

    หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ

  • [GAFE] ใช้ Google Forms เพื่อ Upload ไฟล์ได้แล้ว

    Google Forms เป็นเครื่องมือในการสร้างแบบสำรวจ แบบสอบถาม และแบบทดสอบที่ใช้งานได้ง่าย ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง

    แต่ที่ผ่านมา ก็มีข้อจำกัดที่ยังด้อยกว่าการสร้าง Web Form นั่นคือ การใช้งาน Google Forms เพื่อ Upload ไฟล์ เช่น แบบฟอร์มการรับสมัคร แล้วต้องการให้ผู้ใช้ ส่งสำเนาบัตรประชาชนมาด้วย

    และแล้ว … ปลายปี 2559 Google Forms ก็เพิ่มความสามารถนี้เข้ามา แต่ “ให้ใช้เฉพาะ Google Apps” เท่านั้น หมายความว่า ผู้ที่ใช้ Free Gmail Account จะไม่สามารถใช้งานได้

    ขั้นตอนการใช้งาน

    1. สร้าง Google Forms ด้วย Google Apps Account
    2. สร้างคำถามตามปรกติ
      แล้วในส่วนของการ Upload ไฟล์ คลิก Option ของชนิดของคำถามแล้วเลือกเป็น File Upload
    3. จากนั้นยอมรับเงื่อนไข โดยคลิก Continue
    4. จากนั้น สามารถ กำหนดขนาดสูงสุดของไฟล์ได้
    5. กำหนดชนิดของไฟล์ก็ได้ คลิก แล้ว Apply
    6. กำหนดจำนวนของไฟล์ที่จะ Upload ก็ได้
    7. เมื่อมีผู้ส่งไฟล์เข้ามา
      ก็จะเก็บไว้ใน Google Drive ขึ้นต้นด้วยชื่อไฟล์ แล้ว มีชื่อ (ตาม Email address)  ของผู้ส่ง
    8. แต่ไม่ต้องห่วง หากมีการส่งชื่อไฟล์ซ้ำกัน จากคนๆเดียวกัน
      ไฟล์ใน Google Drive จะแยกจากกันด้วย Unique ID เราสามารถเห็นความแตกต่างได้จากเวลา
    9. และในส่วนของ Response ก็จะมองเห็นว่า ใครส่งไฟล์อะไรมา

    ครับ

  • สร้างแบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ด้วย Google Form ให้ปิดการลงทะเบียนแบบอัตโนมัติเมื่อครบตามจำนวนที่ต้องการ

    อีกหนึ่งปัญหาของการใช้งาน Google Form เพื่อสร้างแบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ ที่ผมได้เจอมากับตัวเองคือ ไม่สามารถจำกัดจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนแบบออนไลน์ได้ ทั้ง ๆ ที่การจัดอบรม/สัมมนาต่าง ๆ เราประกาศว่า “รับจำนวนจำกัด” จึงเป็นที่มาของการหาคำตอบในครั้งนี้ครับ ว่า…

    “ทำอย่างไร ให้แบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ (Google Form)
    สามารถปิดการลงทะเบียนได้
    เมื่อมีผู้สมัครครบตามจำนวนที่ต้องการ ?”


    ** หมายเหตุ **

    การใช้ Script : formLimiter v.1.0.2 นี้ จะสามารถใช้ได้กับ Google Spreadsheets “เวอร์ชั่นเก่า” เท่านั้นครับ เวอร์ชั่นปัจจุบัน ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจาก Google ได้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานของ Script ใหม่จาก Script Gallery ไปเป็น Add-ons ครับ

    Script Gallery ==> Add-ons

    ซึ่ง formLimitter นั้น ผู้พัฒนายังไม่ได้พัฒนาเข้าไปอยู่ใน Add-ons  จึงทำให้หลาย ๆ ท่าน ที่สร้าง Google Spreadsheets ด้วยเวอร์ชั่นปัจจุบัน ไม่สามารถใช้งาน Script อันนี้ได้ครับ

    ดังนั้น หากผู้ใช้งาน ต้องการใช้ Script ดังกล่าว แนะนำว่าให้สร้าง Google Spreadsheets ด้วยเวอร์ชั่นเก่า นะครับ สามารถเข้าไปสร้างผ่านลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับผม

    goo.gl/pprjA5

    1. ไปที่มุมมองของ View responses
    googleform_004googleform_005

    จากนั้น คลิกเมนู Tools > เลือก Script gallery…
    googleform_023
    แล้วค้นหา Script ที่ชื่อว่า “formLimiter” ในช่อง Search แล้วคลิกปุ่ม Search
    เมื่อปรากฎ  “formLimiter v.1.0.2” ให้ดำเนินการติดตั้ง โดยคลิกปุ่ม Installgoogleform_024

    คลิกปุ่ม Continue > ปุ่ม Accept > และปุ่ม Close เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
    googleform_025
    googleform_026
    googleform_027

    2. จะเห็นว่ามีเมนูที่ชื่อว่า formLimiter ปรากฎเพิ่มขึ้นมาใหม่
    จากนั้นให้ คลิกเมนู formLimiter > เลือก Run initial configuration เพื่อเปิดการใช้งาน Script
    googleform_028

    เมื่อเปิดการใช้งานเรียบร้อย เมนูย่อยจะเปลี่ยนไปดังภาพด้านล่าง ให้ คลิกเลือก Settings
    googleform_029

    3. ในส่วนนี้จะเป็นการกำหนดเงื่อนไขของการ “ปิดแบบฟอร์มการลงทะเบียนออนไลน์”
    ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 เงื่อนไขให้เลือกใช้ ดังนี้
    googleform_033

     3.1  date and time – ใช้ในกรณีที่กำหนดให้ปิดการลงทะเบียนเป็นช่วงของเวลา โดยไม่จำกัดจำนวนผู้สมัคร
    googleform_030

    3.2  max number of form response – ใช้ในกรณีที่ต้องการรับผู้สมัครแบบจำกัดจำนวน
    googleform_031

    3.3  spreadsheet cell value – ใช้ตรวจสอบเงื่อนไขตามค่าของข้อมูลใน cell
    จะปิดการลงทะเบียนเมื่อข้อมูลใน cell ตรงกับค่าที่ได้กำหนดไว้
    googleform_032

    ในส่วนนี้ผมขอให้เลือกเป็น spreadsheet cell value นะครับ
    โดยให้กำหนดเงื่อนไขในลักษณะดังนี้

    ช่องแรก ให้ระบุ Cell ที่ใช้เป็น “Sheet2!A1” และ
    ช่องสอง ให้ระบุจำนวนที่ต้องการรับลงทะเบียน (ในที่นี้ผมกำหนดรับที่ 50 คน)
    googleform_043

    แนะนำว่า ให้นำเครื่องหมายถูกออก เนื่องจากระบบจะทำการส่งเมลทุกครั้งที่มีการลงทะเบียน
    อาจทำให้เกิดอีเมลขยะจากการแจ้งเตือนเป็นจำนวนมากได้ (กรณีที่รับผู้สมัครจำนวนมาก)

    จากนั้น คลิกปุ่ม Save settings เป็นอันเสร็จสิ้น
    googleform_044

    4. ขณะนี้เรายังอยู่ในหน้าของ View response
    ให้ทำการสร้าง “Sheet2” เพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง เพื่อใช้ในการนับจำนวนผู้สมัคร (ดังภาพ)
    โดยให้กำหนดเงื่อนไขใน Cell A1 ดังนี้  =COUNTUNIQUE('Form Responses'!B2:B1000)

    ในส่วนนี้จะเป็นการแก้ปัญหา กรณีที่ผู้สมัครลงทะเบียนซ้ำหลาย ๆ ครั้ง (ซึ่งมีอยู่บ่อยครั้ง)
    เงื่อนไขนี้จะทำการนับจำนวนจากชื่อ-นามสกุลของผู้สมัคร หากซ้ำกันจะนับเป็น 1 คน
    (*ยกเว้นในกรณีที่ผู้ลงทะเบียน พิมพ์ชื่อ-นามสกุลในแต่ละครั้ง ไม่เหมือนกัน)
    เมื่อครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ ระบบจะทำการปิดแบบฟอร์มลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ

    googleform_045

    5. จากนั้นให้กลับมาที่มุมมองของ Edit questions ซึ่งเป็นหน้าเริ่มต้นของการสร้างแบบฟอร์ม
    googleform_016

    คลิกที่เมนู Response > เลือก Accepting responses
    googleform_021

    จากนั้นจะปรากฎ กล่อง This form has been turned off. ขึ้นมาให้
    ซึ่งกล่องนี้จะปรากฎขึ้น เมื่อมีผู้สมัครลงทะเบียนครบตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้
    ดังนั้น ให้กำหนดข้อความแสดงการ “ปิดรับการลงทะเบียน” เพื่อแจ้งให้ผู้สนใจได้รับทราบ
    ดังตัวอย่างข้อความในภาพ
    googleform_039

    เมื่อกำหนดข้อความดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
    ให้กลับไปคลิกที่เมนู Response > เลือก Accepting responses อีกครั้ง
    เพื่อปิดกล่องดังกล่าว (หากไม่ปิด หน้าแบบฟอร์มลงทะเบียนจะมีลักษณะดังภาพด้านล่าง)
    และทำให้ผู้สมัคร ไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้

    ลักษณะของหน้าแบบฟอร์มลงทะเบียน เมื่อมีผู้สมัครลงทะเบียนครบตามจำนวนที่กำหนดไว้
    googleform_038

  • สร้างแบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ด้วย Google Form ให้ตอบรับผ่านทางอีเมลโดยอัตโนมัติ

    เนื่องจากว่ามีผู้สอบถามถึงการใช้งานแบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์ แบบให้สามารถตอบรับผ่านทางอีเมลโดยอัตโนมัติไปยังผู้สมัครเมื่อเข้ามาลงทะเบียน ผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับ Admin หรือผู้ใช้งาน Google Form หลาย ๆ ท่าน จึงได้สรุปเป็นขั้นตอน ตามที่ผมได้ทำมา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุก ๆ ท่านนะครับ


    ** หมายเหตุ **

    เนื่องจาก Google ได้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานของ Script ใหม่
    จาก Script Gallery ไปเป็น Add-ons ครับ

    Script Gallery ==> Add-ons

    ซึ่งบทความที่ผมเขียนขึ้นนี้ ขออ้างอิงเมนูและการใช้งาน Google Spreadsheets เวอร์ชั่นเก่านะครับ
    ดังนั้น หากผู้ใช้งาน ต้องการใช้งาน Google Spreadsheets เวอร์ชั่นเก่า สามารถเข้าไปสร้างผ่านลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับผม

    goo.gl/pprjA5

    1. คลิก Form  เพื่อสร้างแบบฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์

    googleform_001googleform_002

    2. กำหนดรายละเอียดข้อมูลของแบบลงทะเบียนตามที่ต้องการ
    (ในส่วนนี้จะไม่ขออธิบายรายละเอียดในการสร้างแบบฟอร์ม นะครับ)
    googleform_016

    3. คลิก View response เข้าสู่มุมมองของ View responses เพื่อกำหนดต่าง ๆ

    4. คลิกเมนู Tools > เลือก Script manager… (เป็นส่วนจัดการ Script ต่าง ๆ)
    จากนั้น คลิกปุ่ม New เพื่อสร้าง Script สำหรับการส่งอีเมลแบบอัตโนมัติ
    googleform_006googleform_007

    ตั้งชื่อไฟล์ Script ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “sendEmail”
    googleform_009-2

    จากนั้น Copy Script ด้านล่างนี้ วางไว้ดังภาพข้างต้น
    ** ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลจำลอง เพื่อให้สามารถเข้าใจในรายละเอียดของ Script ได้
    เมื่อผู้ใช้งานนำไปใช้จริง สามารถแก้ไขรายละเอียดได้ตามความเหมาะสม **

    function sendEmail(e) {
     var userEmail = e.values[4];
     var firstName = e.values[1];
     var trainingTitle = "อบรมการใช้โปรแกรม Smart Notebook sympodium & Smart board สำหรับการจัดการเรียนการสอนทางไกล";
     var infoLink = "http://clpd.psu.ac.th/clpd_2012";
     var emailAdd = "clpdpsu@psu.ac.th";
     var subject = "ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ ม.อ. : ตอบรับเข้าร่วมอบรมโครงการเชิงปฏิบัติการ"
     var emailBody = "เรียนคุณ: "+firstName+"\n\n ท่านได้ทำการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ"+
     "หัวข้อ \"" + trainingTitle + "\""+
     " ในวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.00-16.00 น."+
     " ณ ห้องอบรม ชั้น 8 อาคารศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ อาคาร 1 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่"+
     "\n ทางศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตอบรับการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้วค่ะ"+
     "\n"+
     "\n ติดตามการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมอบรมโครงการอีกครั้งได้ที่: " + infoLink + 
     "\n"+
     "\n"+
     "\nขอบคุณสำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการค่ะ"+
     "\n"+
     "\nศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"+
     "\nโทรศัพท์ : 074-289203-4"+
     "\nE-mail : " + emailAdd;
     MailApp.sendEmail(userEmail , subject, emailBody); 
    }

    หมายเหตุ
    อักษรสีแดง คือ ข้อความที่สามารถแก้ไขได้
    อักษรสีฟ้า คือ ชื่อตัวแปร ที่ใช้สำหรับเก็บค่าต่าง ๆ ที่กำหนดไว้
    * สามารถปรับแก้ไข Script ได้ตามข้อมูลของแบบฟอร์มที่ได้สร้างขึ้น
    ซึ่ง Script นี้ อ้างอิงตามแบบฟอร์มลงทะเบียนในข้อที่ 2

    5. เมื่อกำหนดรายละเอียดข้อมูลการตอบรับ (Script) เสร็จเรียบร้อยแล้ว
    จากนั้น คลิกเมนู Resources > เลือก Current Project’s triggers
    googleform_010

    และคลิก No triggers setup. Click here to add one now.
    googleform_011

    เลือก On form submit แล้วคลิกปุ่ม Save / ปุ่ม Continue และ ปุ่ม Accept
    เป็นอันเสร็จสิ้นการสร้าง Script สำหรับการตอบรับอีเมลแบบอัตโนมัติ
    googleform_012
    googleform_013
    googleform_014

    คลิกปุ่ม Close (หากต้องการแก้ไข Script ให้คลิกปุ่ม Edit… ด้านบน)
    googleform_015

    6. ทดสอบการตอบรับการลงทะเบียน
    ว่า Script ที่สร้างไว้ มีข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถตอบรับทางอีเมลแบบอัตโนมัติได้

    ไปที่มุมมอง View live form เพื่อทดสอบการลงทะเบียนจริง
    googleform_040
    googleform_017

    จากนั้นให้ตรวจสอบดูในมุมมอง View responses ว่ามีข้อมูลปรากฎให้เห็นหรือไม่
    และตรวจสอบอีเมลที่ได้ระบุไว้ ว่ามีการตอบรับจากระบบหรือไม่
    googleform_019
    googleform_020

    หมายเหตุ  หากพบว่าไม่มีการส่งอีเมลโดยอัตโนมัติจากระบบ อาจต้องทำการตรวจสอบ Script ใหม่อีกครั้ง เพื่อตรวจหาข้อผิดพลาด