Tag: Firefox

  • How to InPrivate/Incognito Edge and Chrome by default

    • เหมาะสำหรับเครื่องในห้องปฎิบัติการ จะได้ไม่ต้องลบค่าบางอย่าง เช่น MS Teams ล็อคอินค้าง, อีเมลล็อคอินค้างไว้
    • เริ่ม
    • คลิกขวา properties ที่ shortcut ของ edge หรือ chrome
    • คลิกที่แท็บ shortcut ในช่อง target สำหรับ Microsoft Edge เพิ่ม -inprivate ต่อท้ายสุด แล้วคลิก Ok ดังภาพ
    • สำหรับ Google Chrome เพิ่ม -incognito ต่อท้ายสุด ดังภาพ
    • ทดสอบเปิด
    • สำหรับ Firefox จะสร้าง shortcut สำหรับเข้า Private browsing ไว้อยู่แล้วไม่ต้องดัดแปลงอะไร
    • ต้องแก้ shortcut ทุกที่หากอยากให้เป็นเหมือนกันทุก shortcut
    • จบขอให้สนุก
  • Byeๆ TLS1.0 TLS1.1

    ใช้ Firefox beta อยู่เลยจะได้รับ Feature อะไรใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ จนเมื่อ beta 73 กว่าๆ เริ่มเข้าเว็บบางเว็บในมหาวิทยาลัยไม่ได้ จะปรากฏหน้าดังนี้

    เว็บสามัญประจำบ้านแห่งหนึ่ง

    อ่านดูถึงได้รู้ว่าออ เค้าจะเลิก TLS1.0 และ TLS1.1 แล้วจริงประกาศไว้นานละว่าจะเลิกปีนี้!! สำหรับ Firefox จะเลิกในรุ่น 74 และ Chrome น่าจะรุ่น 81 ส่วน Microsoft และ Safari ก็จะปิดในครึ่งปีแรก ในปีนี้เช่นกัน

    https://www.techtalkthai.com/old-tls-protocol-has-been-dropped-by-all-major-browsers-in-2020/

    เอ้าเลยเช็คเว็บตัวเองสักหน่อยเริ่มจาก ทดสอบกับเว็บที่เคยได้ A+ ผลเป็นดังรูป

    ม่ายยย

    อัยย่ะละก๊ะ…. เหลือ B เพราะเปิด TLS1.0 และ TLS1.1 เอาไว้ ปิดให้ไว

    วิธีการคือ (สำหรับ Apache2)

    แก้ไขแฟ้ม /etc/apache/mod-enabled/ssl.conf หาข้อความว่า

     SSLProtocol All -SSLv3

    (บางคนอาจจะมี -SSLv2 ด้วยแต่ apache2 ไม่สนับสนุน SSLv2 โดยปริยาย (default) แล้ว) เปลี่ยนข้อความข้างต้นเป็น

    SSLProtocol All -SSLv3 -TLSv1 -TLSv1.1

    บันทึกแล้ว restart apache ให้เรียบร้อย เมื่อไปตรวจใหม่ได้ผลตามภาพ

    เย่ กลับมา A+ แล้ว จบขอให้สนุก

    เกี่ยวข้อง

    https://sysadmin.psu.ac.th/hardening-your-http-response-headers/

    https://sysadmin.psu.ac.th/เปลี่ยน-certificate/

  • ตั้งค่าให้ใช้ IPv6 ที่ Firefox web browser

    เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากผมใช้ Linux Mint และจะทดสอบว่า network ที่ทำงานสามารถใช้งานเว็บไซต์ที่รองรับ IPv6 แล้วได้หรือไม่ พบว่า ไม่สามารถเข้าถึงได้

    ff-linuxmint-02

    ลองทดสอบกับ Firefox บน Windows อ้าว ใช้งานได้  และในขณะเดียวกัน Google Chome ใช้ได้ทั้งบน Linux และ Windows

    ค้นหาดูใน google search ได้คำตอบว่าหากจะใช้งาน IPv6 ให้ตั้งค่า network.dns.disableIPv6 เป็น false โดยเข้าไปตรวจสอบหรือแก้ไขที่ URL about:config

    จึงตรวจสอบดู พบว่า Firefox บน Linux Mint ตั้งค่าตัวเลือก network.dns.disableIPv6 เป็น true ในขณะที่ Firefox บน Windows เป็นค่า false ซึ่ง ค่า false ทำให้ใช้งานเว็บไซต์ที่เป็น IPv6 ได้

    ff-linuxmint-01

    แก้ไขตั้งค่า network.dns.disableIPv6 เป็น false ทำให้ใช้งานเว็บไซต์ที่เป็น IPv6 ได้

    ff-linuxmint-04

    ผมยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมค่า default จึงตั้งไว้อย่างนั้น ซึ่งแตกต่างกันระหว่าง Firefox บน Linux Mint กับ Firefox บน Windows ส่วน Google Chome นั้นไม่มีให้เลือก จึงใช้งานได้ทันทีที่ network ที่ใช้งานรองรับ IPv6

    การทดสอบว่าเครื่องเราใช้งาน IPv6 ได้ สามารถทดสอบได้กับเว็บไซต์
    http://www.v6.psu.ac.th
    http://www.kame.net
    http://whatismyipv6address.com/
    http://test-ipv6.com/

    ff-linuxmint-06

    See also:
    http://techglimpse.com/disable-enable-ipv6-firefox-chrome-browser/
    http://ask.xmodulo.com/disable-ipv6-linux.html

  • ทำไม PSU Webmail ส่ง email ที่มีไฟล์แนบเป็น Microsoft Word ง่ายๆ ไปให้คนอื่น แล้วเขาไม่ได้รับ

    วันนี้ มีผู้ใช้โทรศัพท์มาสอบถามปัญหา : ทำไมส่ง email ที่มีไฟล์แนบเป็น Microsoft Word ง่ายๆ ไปให้คนอื่น แล้วเขาไม่ได้รับ

    ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าส่งไม่ได้จริงๆ จึง เดินไปดูหน้างาน (คณะทันตะ)

    พบว่า ผู้ใช้ใช้ Firefox ในการใช้งาน PSU Webmail, เมื่อผู้ใช้ Compose จดหมายใหม่ แล้วเลือก Browse เพื่อเลือกไฟล์ นามสกุล .doc แล้วกดปุ่ม Add เพื่อแนบไฟล์ ก็จะได้ผลว่า ระบบมองเป็น text/xml ดังภาพ เป็นผลให้ ระบบกรอง email ทำงานผิดพลาด และไม่ยอมให้ส่ง

    ทดลองเปลี่ยนไฟล์ สร้างไฟล์ใหม่ ปิด Antivirus แล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม, เปลี่ยนไป Login ด้วย Account อื่นแล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม

    จึงทดลองส่ง email แบบไม่แนบไฟล์ ก็พบว่า ส่งได้

    จากนั้น จึงเอาไฟล์เดียวกัน แต่ใช้งานผ่าน PSU Webmail ด้วย IE แล้วทำการแนบไฟล์แบบเดิม พบว่า ระบบมองเป็น application/msword ถูกต้อง ดังภาพ

    ลองทดสอบกับ Chrome แล้ว ก็ได้ผลถูกต้องเช่นกัน จึงน่าจะเป็นปัญหาอะไรสักอย่างของ Firefox

    จึงลองดูการตั้งค่าต่างๆ พบว่า ใน Firefox ที่เมนู Tools > Options > Application มีการตั้งค่า “เอกสาร Microsoft Word 97-2003” มีอยู่ 3 บรรทัด และบรรทัดสุดท้าย บอกว่า text/xml เปิดด้วย Use XML Editor อยู่

    ซึ่งต่างกับการตั้งค่าใน IE ที่ใช้ Word อยู่ ดังภาพ

    วิธีการแก้ไข: จึงตั้งค่าดังกล่าวเป็น “Use Microsoft Word” เช่นกัน

    แล้วทดสอบใหม่ ปรากฏว่า ส่งได้ถูกต้อง แก้ปัญหาได้

  • How to install LibreOffice 4.0 in Ubuntu & Mint

    1. Uninstall LibreOffice รุ่นเก่าออกให้หมด
      $sudo apt-get remove --purge libreoffice*
    2. Download Libreoffice for Ubuntu ที่ LibreOffice โดยเลือกรุ่นให้ถูกต้องว่า 64 บิตหรือ 32บิต (x86 หรือ x86_64) ดูได้จากคำสั่ง
      $uname -a
      หากได้ผลลัพธ์ว่า
      Linux Enterprise 3.5.0-23-generic #35-Ubuntu SMP Thu Jan 24 13:15:40 UTC 2013 x86_64 x86_64 x86_64 GNU/Linux
      แปลว่า 64บิต สังเกตุว่ามี x86_64 ต่อท้าย ส่วนรุ่น 32บิตจะได้ว่า
      Linux ubuntu 2.6.32-34-generic-pae #77-Ubuntu SMP Tue Sep 13 21:16:18 UTC 2011 i686 GNU/Linux
      สังเกตว่ามี i686 เครื่องรุ่นเก่ากว่านี้อาจจะเป็นเลขอื่นๆ

    (more…)