Tag: #extension

  • Checker Plus for gmail ~ ชีวิตที่ง่ายขึ้น

    สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน … Blog วันนี้ผู้เขียนจะขอนำเสนอ Extension ที่มีชื่อว่า Checker Plus for gmail ซึ่งมีไว้สำหรับช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย (หรือไม่ก็ช่วยเพิ่ม level ความขี้เกียจ อันนี้ก็ไม่แน่ใจนะ 55+)

    คำถามถัดมา แล้วมันน่าสนใจตรงไหน ?

    ก็ต้องขอบอกก่อนว่าคงเป็น Extension อีกตัวที่เหมาะกับการทำงานของหลายๆ ท่าน ที่ในแต่ละวันต้องเช็ค Email ตอบกลับ รับแจ้งปัญหา ต่างๆนาๆ อยู่เป็นประจำ เช่น งานบริการถาม-ตอบปัญหา ให้กับลูกค้า ดังเช่นผู้เขียน เป็นต้น

    เจ้า Checker Plus for gmail ก็จะถือว่าค่อนข้างสะดวกมากเลยแหละ สำหรับคนที่อยากเช็ค Email แต่ไม่อยากเปิด Tab ใหม่  ดังนั้นเมื่อเราติดตั้งเจ้า Extension ตัวนี้ไว้ ทุกครั้งที่เราจะเช็ค Email ก็สามารถกดที่ Checker Plus ที่เราติดตั้งได้เลย มันก็จะแสดง Email ทั้งหมดในกล่อง Inbox ของเรานั่นเองงงงง

    วิธีการก็ง่ายมากๆ ปะ … เรามาเริ่มกันเล้ย

    ขั้นตอนที่ 1 ในหน้า Browser google chrome เข้าไปที่ More tool –> เลือก Extensions

    ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นให้เข้า Open Chrome web store ค้นหาคำว่า “Checker Plus for gmail”

    ขั้นตอนที่ 3 เราก็มาเริ่มต้นการติดตั้งกันเลย คลิก “Add to chrome”

    ขั้นตอนที่ 4 เมื่อติดตั้งสำเร็จ ให้สังเกตุมุมบนด้านขวาของ Browser ได้เลย แท่น แท่น แท๊นนน … สีแดงๆ นั่นแหละ พระเอกของเราในวันนี้

    ขั้นตอนที่ 5 ลองคลิกเข้าไปดูได้เลย เราก็จะเห็น Inbox ใน gmail ของเราทั้งหมด หลังจากนี้เราก็ไม่ต้องมานั่งกังวลอีกต่อไป ว่าต้องเปิด Tab ใหม่ทุกครั้งที่ต้องการเช็ค Email

    เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ผู้เขียนว่ามันอำนวยความสะดวกสำหรับงานของตัวผู้เขียนเองมากๆ จึงอยากจะมาแนะนำให้ทุกๆ คนได้ทดลองใช้งานกันดู และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะยังคงมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่าน ไม่มากก็น้อย เน้อออออ …

    ขอขอบคุณข่าวสารดีๆ จาก : https://www.techhub.in.th/

  • Open Google Calendar

    หลังจากครั้งก่อนได้แนะนำ extension สำหรับสร้างตารางนัดหมายบน Google Calendar ผ่านโปรแกรมเมล์ยอดนิยมตลอดกาล นั่นคือ Thunderbird นั่นเอง!!! อ่านได้ที่ Thunderbird Return วันนี้ก็จะมาเล่าถึง Extension อีกตัวทำงานอย่างเดียวกันแต่รอบนี้ไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวาย extension ชื่อเหมือนบทความคือ Open Google Calendar ขอข้ามวิธีติดตั้งเลยละกัน ติดตั้งเหมือน extension ตัวเก่ากลับไปอ่านบทความก่อนหน้าได้นะครับ

    เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะมีปุ่มเพิ่มขึ้นมาที่มุมบนขวาดังรูป

    คลิกที่ Open Google Calendar แล้ว Sign In เข้าระบบให้เรียบร้อย จะได้ดังภาพ.

    Google Calendar

    สามารถเพิ่มอีเว้นท์อีไม่เว้นท์ได้เหมือนเปิดเว็บ กรั่กๆ ง่ายกว่าวิธีเก่า พอสมควรแก่การใช้งานบนเครื่องที่เราใช้คนเดียว!! ย้ำคนเดียว เพราะยังหาวิธี sign out ไม่เจอ 555

    วันนี้สั้นๆ แค่นี้ครับ จบขอให้สนุก…

  • ฝึกภาษาด้วย Mate Translate

    สวัสดี หนีห่าวววว ท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทางผู้เขียนมี extension ดีๆ ที่ลงตัว มาแนะนำให้ได้รู้จักกันอีกแล้วเน้อ ไม่ต้องเกริ่นมาก ไปดูกันเลยดีกว่า

    จริงๆ แล้ว ณ ปัจจุบัน ถ้าจะพูดถึงการแปลภาษา extension หรือเว็บที่เราคุ้นชินกันมาก ถึงมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น google translate กันใช่มั้ย ซึ่งการทำงานของ เจ้าตัว google translate เนี่ยก็ถือว่าดีอยู่แล้วเช่นเดียวกัน แต่ก็นะ ชีวิตนี้จะรู้จักแค่อันนี้อันเดียวก็คงจะดูโลกแคบไปหน่อยนึง วันนี้ผู้เขียนเลยอยากจะลองนำเสนอ extension แปลภาษาดีๆ อีกสักตัวนึง ให้ทุกคนได้รู้จัก เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า “Mate Translate” นั่นเอง

    Mate Translate จะเหมาะกับผู้ใช้ที่เน้นอ่านบทความต่างประเทศ ฝึกภาษา และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ สำหรับใครที่ชื่นชอบการดู Netflix และฝึกภาษาจากการดูหนังดูซีรีย์ เชื่อเถอะเจ้า Mate Translate จะช่วยให้การแปลภาษาในระหว่างการดูหนังง่ายขึ้นไปอี๊กกกก เพียงแค่ คลิกบนคำศัพท์ หรือข้อความในส่วน subtitles ที่ขึ้นบนหน้าจอ ตัว extension Mate ก็จะแปลความหมายของคำนั้นขึ้นมาให้เราอ่าน ง่ายม๊ากกก เพียงแค่คลิกเดียวจริงๆ นะเออ

    ไม่ใช่แค่เพียงภาษาอังกฤษนะ ตัวช่วยตัวนี้สามารถแปลภาษา คำ วลี ประโยค ได้ถึง 103 ภาษา แถมยังสามารถฟังการออกเสียงอย่างถูกต้องได้ด้วย ปะ ติดตั้งกันเลย

    1. เข้าไปที่ webstore ของ google chrome ได้เลย หรือ ตามนี้นะ https://chrome.google.com/webstore/category/extensions จากนั้นค้นหาคำว่า Mate Translate (ตัวที่หน้าตาสีเขียวๆ นั่นแหละ)

    2. คลิกปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” หรือ “Add to Chrome” ได้เลย

    3. ระบบก็จะถามซ้ำอีกครั้ง เราก็เลือกปุ่ม “เพิ่มส่วนขยาย” เพื่อยืนยันการติดตั้งไปอีกครั้ง

    4. เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะปรากฏ icon เล็กๆ ตรงมุมบนด้านขวาของหน้าจอ

    เมื่อคลิกครั้งแรกก็จะปรากฏหน้าต่างให้เรายอมรับเงื่อนไข จากนั้นก็คลิก Continue ต่อได้เลย

    5. เรามาทดลองตั้งค่าก่อนการใช้งานกันก่อนเลยละกัน คลิกบน icon จากนั้นเลือก “ตั้งค่า” (ตรงสัญลักษณ์ฟันเฟืองนะ) เมื่อเราคลิกแล้วก็จะได้หน้าตาประมาณนี้

    ปล..ระดับเราๆแล้ว ไม่ต้อง upgrade หรอก ใช้ version ฟรีนั่นแหละ 55+

    หลักๆ ก็จะมาดูในส่วนของ on-page ละกัน ตัวอย่างเช่น

    • double click translation ก็เปิด on ได้เลย เวลาเราเจอคำที่ต้องการแปลก็แค่ double click ไปบนคำนั้น ตัวช่วยก็จะแปลความหมายขึ้นมาให้เราเองทันที ไม่ต้อง copy แล้วว่าง
    • tooltip size ก็สามารถเลือกได้ว่าหน้าจอที่แสดงคำแปลเนี่ย จะเอาขนาดไหน
    • translate Netflix subtities ก็คือเมื่อเราคลิกบนคำใน subtitles บนหนัง หรือ วีดีโอที่ดูใน Netflix มันก็จะแปลความหมายขึ้นมาให้เราเลย ***เหมาะมากสำหรับคนที่ฝึกภาษาด้วยซีรีย์เนี่ยยย !!

    จริงๆ แล้วอยากให้ลองดูกันนะ ตัวช่วยแปลดีๆเนี่ย ไม่ได้มีแค่ google translate นะจ๊ะทุกคนนนนน อย่างไรก็ตามทางผู้เขียนหวังว่า blog นี้จะช่วยเหลือ หรือมีประโยชน์กับผู้อ่านได้ ไม่มากก็น้อยแหละนะ พบกันใหม่ครั้งหน้า สำหรับวันนี้ บ๊ายยยยย !!

    ขอบคุณแหล่งอ้างอิงดีๆ มา ณ ที่นี้ด้วยแง๊บ
    – https://www.9tana.com/node/5-chrome-extensions/

  • Bitly สายย่อ

    ย่อ ย่อ ย่อ (เอ๊ะ เค้ามีกันแต่ โย่ว โย่ว โย่ว รึเปล่าหว่า) ย่อในความหมายของผู้เขียนรอบนี้นี่คือ ย่อลิงค์ที่มันย๊าว ยาววววววว ให้สั้นลง เพื่อที่เวลาจะส่งใน chat หรือแปะในหน้าเว็บ หรือเอาไปใช้งานต่อ มันจะได้ดูง่ายๆ ไง๊

    ตัวช่วยที่ว่านี้ก็คือ Bitly extension บน google chrome นั่นเอง แน่ะ … อยากรู้กันแล้วใช่มั้ย ปะ ไปกันเลย

    ปกติแล้วมันก็จะมีวิธีที่เราแปลงลิงค์ให้สั้นกันอยู่แล้วไง ใช่มั้ย ทุกคนน่าจะคิดกันแบบนี้น่ะ แต่ที่ว่าปกติที่เราทำกันเนี่ย มันหลายขั้นตอนไงละ ต้อง copy ลิงค์ เปิดหน้าเว็บช่วยแปลง วางลิงค์ กดแปลงลิงค์ให้สั้น กว่าจะได้ เห็นมั้ย หลายขั้นตอน !! มาใช้วิธีติดตั้ง Bitly extension กันเถอะ เหลือแค่ 2 คลิก เท่านั้นเอง !!! โอยยยย ชีวิตดีขึ้นมาทันทีเลย

    ขั้นตอนแรกนะ ติดตั้งกันก่อนเลย

    Step 1 เข้าไปดาวน์โหลด Bitly ผ่าน chrome webstore กันได้เลย เมื่อเจอแล้วให้คลิก “Add to Chrome” เลยน๊าาาา

    Step 2 เมื่อเราติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตุมุมบนด้านขวาของหน้าจอนะ เห็นมั้ย สัญลักษณ์สีแดงเล็กๆ นั่นน่ะแหละ คลิกลงไป 1 ครั้ง

    Step 3 หลังจากคลิกปุ๊บ ก็จะปรากฏหน้าจอขึ้นมาตามรูป ก็ให้เราเลือก Sign in ได้เลย ว่าจะเข้าใช้งานด้วย Account ใด

    Step 4 เมื่อ Sign in เรียบร้อยแล้วก็จะเห็นหน้าจอแบบนี้นะ bitly ยินดีต้อนรับเราแล้วววว!!

    Step 5 จากนั้นให้คลิกที่ icon bitly ที่มุมบนด้านขวาอีกครั้งนึง ก็จะแสดงหน้าจอให้เรา allow การเข้าถึงข้อมูลของเรา หน้าตาประมาณนี้นะ เมื่อเห็นก็คลิก “Allow” ได้เลย

    Step 6 มาลองใช้งานกันดีกว่า จากตัวอย่างผู้เขียนจะทดสอบเปิดหน้าเว็บที่มีลิงค์ย๊าววว ยาว ขึ้นมาในหน้าต่าง (ตามรูปเล้ย) จากนั้น คลิก icon bitly บน browser ตรงมุมบนด้านขวานั่นเลย

    Step 7 ให้สังเกตุนะ พอเรากด icon bitly ปุ๊บ ก็จะแสดงหน้าต่างด้านขวาขึ้นมา ซึ่งจะขึ้น short link ที่แปลงจากลิงค์ย๊าววว ยาว ตะกี้ให้สั้นลง เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้งานต่อได้ง่ายขึ้น ถ้าจะเอาไปส่งในแชท หรือเอาไปใช้ต่อ คลิก “copy” เพื่อคัดลอกลิงค์ได้เลย

    เป็นยังไงกันบ้างทุกคน ง่ายขึ้นมั้ย มันช่วยให้การทำงานของเราเร็วขึ้นจริงๆ นะ ติดตั้งเถอะ ! แนะนำ แนะนำ แนะนำ นี่แนะนำ 3 times เลยนะ ดีจริง จริ๊ง จึงนำมาบอกเล่าเก้าสิบกันต่อ

    หวังว่าทุกคนจะไปลองใช้กันดูนะ วันนี้ก็ขอจบ Blog ที่ 3 ไปเพียงเท่านี้เน้ออออออ

    อ้างอิง : http://bit.ly/2N3Tut7

  • เช็คฟอนต์สวย ด้วย WhatFont ~ Extension

    อะ แฮ่ม และแล้วก็เดินมาถึง Blog สุดท้ายในรอบ TOR ของปีนี้จนได้ แต่กว่าจะได้ฤกษ์เขียนได้ก็ปาเข้าไปกลางปีกันเลยทีเดียว (55+)

    มาๆๆ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ต้องบอกว่าหลายครั้งที่เราได้เข้าเว็บไซต์นู้นนั่นนี่ แล้วเห็น font สวยๆ แต่ไม่รู้ว่านั่นน่ะมันคือ font อะไร ชนิดไหน … วันนี้ทางผู้เขียนขอนำเสนอ Chrome Extension (อีกแล้วเหรอ !) ที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง นั่นคือ * WhatFont *

    WhatFont คืออะไร ???

    WhatFont เป็นหนึ่งในส่วนขยายของ Google Chrome ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดูได้ว่า Font ที่ใช้หรือแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซต์ต่างๆ นั้น คือ Font ชนิดอะไร ขนาดเท่าไหร่ และมีค่าสี เป็นอะไร อ๊ะๆ ยังไม่หมดนะ มันสามารถระบุได้แม้กระทั่งความหนา ความบาง ของ Font นั้นๆ กันเลยทีเดียว เพียงแค่เรานำเมาส์ไปวางบนตัวอักษรที่เราต้องการจะดูรายละเอียดเท่านั้นเอง

    วิธีการติดตั้ง

    • ดาวน์โหลดได้จาก Chrome เว็บสโตร์ คลิก จากนั้นให้คลิกปุ่ม “เพิ่มใน CHROME” หรือ Add to Chrome
    • ระบบจะแสดง pop up ขึ้นมาให้คลิกเลือก “เพิ่มส่วนขยาย”
    • เมื่อเราติดตั้งเรียบร้อยแล้ว หน้าจอก็จะแสดง pop up ขึ้นมาแจ้งให้เราทราบว่าได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว
    • สำหรับวิธีการใช้งาน ให้เข้าเว็บที่เราต้องการ จากนั้นให้คลิกที่ Icon ที่มุมบนด้านขวาของ Browser
    • ให้นำเมาส์ไปวางไว้บนข้อความ / ตัวอักษร ที่เราต้องการจะรู้ว่าเป็น font อะไร
    • และหากต้องการจะดูรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ขนาด สี ความหนา ความบาง ก็ให้คลิกเลือกบนข้อความดังกล่าว จากนั้นจะมีส่วนแสดงข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาให้เราได้ดูกัน

    เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ข้อมูลอันนี้นี่พอจะช่วยผู้อ่านได้บ้างมั้ย ??

    ยังไงก็แล้วแต่ทางผู้เขียนอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองใช้กันดูนะ ง่ายดี ฟรีด้วย แทนที่เรา จะมานั่งคาดเดา หรือมโน กันเองว่า เอ๊ ! ตัวนี้นี่มันเป็น font อะไรแล้วน๊าา แบบนั้นมันล้าสมัยไปแล้ว เสียเวลาเปล่าๆ ติดตั้งตัวนี้กันเลย ง่าย ครบ จบในตัวเดียว 55+

    อย่าลืมลองเล่นกันดูนะ ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ เราจะมาเจอกันอีกใน Blog ถัดๆ ไปเน้ออออ

    ขอบคุณแหล่งอ้างอิง http://photoloose.com/what-font-chrome-extension/

  • StayFocusd ~ Extension

    สำหรับ Blog ที่2 ในรอบปีงบนี้ จะขอว่าด้วยเรื่อง Extension บน Chrome ที่เรียกว่า StayFocusd !!

    StayFocusd คืออะไร แล้วเจ้าตัวนี้เนี่ยมันทำอะไรได้บ้าง ? มา ไม่ต้องเกริ่นไปเกริ่นมามากมาย เรามาเริ่มทำความรู้จักกันเลยดีกว่า

    StayFocusd เป็น Extension อีกตัวนึงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราด้วยการ “บังคับ” และ “จำกัด” เวลาที่ตัวเราเองใช้ไปกับเว็บไซต์ต่างๆ ที่ทำให้เราเสียเวลา เว็บที่หัวหน้าเรามองว่าไม่มีประโยชน์ (แต่มันมีประโยชน์ทางจิตใจกับเราไง หัวหน้าไม่เข้าใจหนูหรอกกกกกก T T)

    extension อันนี้เหมาะมาก สำหรับใครที่ติด Social Network เปิด youtube อัพเดทสถานะบน facebook ดูซีรีย์เกาหลีออนไลน์ ดูละครย้อนหลังผ่าน line tv เข้า shopee lazada บลาๆ จนถึงระดับที่ทำให้เสียการเสียงาน ลองมาใช้ StayFocusd กันดูเถอะ

    เบื้องต้นมันจะให้เรานำเว็บไซต์ที่เรามองละ ว่ามีแนวโน้มที่จะสูบเวลาของเราไปโดยเปล่าประโยชน์ ไปใส่ไว้ใน List แล้วก็ให้ตั้งเวลาในการที่เราจะไม่สามารถเข้าเว็บนั้นๆ ไม่ได้ชั่วคราว (ตามเวลาที่เราระบุไว้) เพื่อให้ ณ ห้วงเวลาดังกล่าว เราสามารถกลับมามีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานได้ 100% แทน

    *** ลองมาดูการติดตั้ง และใช้งานแบบคร่าวๆ กันเถอะ

    ขั้นตอนที่ 1. เข้า Chrome web store และค้นหาเลย StayFocusd หรือคลิกที่นี่ เพื่อติดตั้ง

    ขั้นตอนที่ 2. เมื่อ Add to Chrome เรียบร้อยแล้ว มุมซ้ายของ Browser ก็จะมีสัญลักษณ์กลมๆ สีฟ้าๆ แสดงขึ้นมา ตามรูปเลย

    ขั้นตอนที่ 3. เข้าไปตั้งค่าการใช้งาน โดยคลิกเลือก Settings

    ขั้นตอนที่ 4. ตั้งค่าการใช้งานตามต้องการ เช่น Active Days, Active Hours, Blocked Site, Option ว่าเราต้องการให้การตั้งค่าที่ระบุไว้ทำงานในวันไหน ช่วงเวลาใด และสิ้นสุดเมื่อไหร่ รวมถึง site ที่ต้องการ Block หรือแม้กระทั้งการ customize ข้อความที่จะแสดงเมื่อเราเข้าใช้ในช่วงเวลาที่เว็บดังกล่าวโดน Block เป็นต้น

    ขั้นตอนที่ 5. เมื่อเราทดลองกำหนดตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว และลองเข้าใช้งานดูก็จะพบกับหน้าจอประมาณนี้

    สำหรับครั้งนี้ทางผู้เขียนก็ขอจบการแนะนำเพียงเท่านี้ หวังว่า Blog สั้นๆ อันนี้จะมีประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้อ่าน แต่ก็นะ ไม่ใช่ว่า block ผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หยิบมือถือขึ้นมาเปิด app ช้อปปิ้งออนไลน์ เล่น facebook แทนนะ แบบนั้นมันก็ …….. เอาเป็นว่า ตั้งใจทำงานกันเถิดพี่น้องชาวไทยยยยย ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าเน้อ 🙂