กรณีศึกษา การสำรองข้อมูล Neo4j Graph Database

สวัสดีครับ บทความนี้เป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูล Neo4j Graph Database เรื่องมันมีอยู่ว่า สำนักนวัตกรรมดิจิทัลและระบบอัจฉริยะ หรือชื่อเดิมคือ ศูนย์คอมพิวเตอร์ ได้พัฒนาระบบเอกสารอิเล็คทรอนิกส์ เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งได้เปลี่ยนเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลมาใช้ Neo4j Graph Database แทนของเดิมที่ใช้ Microsoft SQL Server จึงต้องมีการวางแผนความเสี่ยงในเรื่องของการสำรองข้อมูล คราวนี้ตัวผมเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญหรือรู้จักกับ Neo4j Graph Database มากเท่าไหร่ แต่น้องที่สำนักนวัตกรรมที่เป็นผู้พัฒนาระบบและเรียนรู้การใช้งานก็ได้ไปศึกษา ทดสอบวิธีการส่งออกและนำเข้าข้อมูลจนมีความรู้ ความเข้าใจ ก็ได้มาถ่ายทอดต่อ ส่วนตัวผมเองก็นำวิธีการนี้ไปบวกกับความรู้เรื่อง Batch Script + PowerShell เล็กน้อย ทำเป็นระบบสำรองข้อมูลขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ได้ทดสอบมาประมาณ 1 เดือนก็ยังสามารถทำงานได้ จึงจะขอมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้ครับ ข้อมูลที่ได้รับมาก็คือ 1. Neo4j Graph Database ที่ใช้เป็นรุ่น Community ข้อดีคือ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่จะมีข้อจำกัดคือ ในการส่งออกและนำเข้าไฟล์ฐานข้อมูลนั้นจะไม่มีเครื่องมือให้ใช้งานมากมายจะต้องใช้คำสั่่งผ่านทาง Command Line 2. ข้อจำกัดอีกอย่างคือ การส่งออกไฟล์นั้นจะทำในขณะ Neo4j ทำงานอยู่ไม่ได้ ต้องหยุดการทำงานก่อนเสร็จแล้วจึงทำการสตาร์ท Neo4่j ขึ้นมาทำงานใหม่ นำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการเขียน Script – เมื่อได้รับวิธีการสำรองข้อมูลมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากทราบก็คือ ระยะเวลาในการสำรองใช้เวลาเท่าไหร่ ตั้งแต่เริ่มต้นหยุดการทำงานไปจนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการ จึงต้องมีการเขียน Log ไฟล์เอาไว้ด้วย เพื่อแสดงเวลาให้เห็น – เนื่องจากมีหลายขั้นตอนในการทำงานจีงใช้วิธีเขียนไฟล์ Script แยกการทำงานออกไป เช่น Batch File ชื่อ neo4j-stop.bat เอาไว้หยุดการทำงาน Neo4j Batch File ชื่อ neo4j-dump.bat เอาไว้ส่งออกไฟล์ฐานข้อมูล Neo4j ออกมา เมื่อได้รับข้อมูลและวางแผนการทำงานเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มต้นเขียน Script ตามลำดับขั้นตอนดังนี้ 1. สร้าง Batch File ชื่อ neo4j-stop.bat เอาไว้สำหรับหยุดการทำงานของ Neo4j จะมีคำสั่งที่เขียน ดังนี้ @echo off for /f %%a in (‘powershell -Command “Get-Date -format ‘HH:mm:ss’”‘) do set “TimeStart=%%a”echo === Start Backup Neo4j On %DATE% %TimeStart% === > log.txt net stop neo4j >> log.txt call neo4j-dump.bat อธิบายได้ดังนี้– เริ่มต้นจะมีการรับค่าวันและเวลาปัจจุบัน คือ %DATE% และ %TimeStart%– จากนั้นจึงเริ่มใช้คำสั่งหยุดการทำงานของ Neo4j– สังเกตว่าทุกคำสั่งจะมีการส่งออกไปเก็บที่ log.txt– เสร็จแล้วจะมีการเรียก Batch Script neo4j-dump.bat ให้ทำงานต่อ 2. สร้าง Batch File ชื่อ neo4j-dump.bat เอาไว้สำหรับส่งออกไฟล์ Neo4j จะมีคำสั่งที่เขียน ดังนี้ @echo off for /f %%a in (‘powershell -Command “Get-Date -format ‘HH:mm:ss’”‘) do set “TimeDumpStart=%%a” echo == Start Dump Database On %TimeDumpStart% == >> log.txt neo4j-admin dump –database=neo4j –to=C:\neo4j_dump\backup_%date:~10,4%%date:~4,2%%date:~7,2%.dump > logtmp.txt 2>> log.txt & call neo4j-start.bat อธิบายได้ดังนี้– จะมีคำสั่ง dump ฐานข้อมูล Neo4j ออกมาเก็บไว้ที่ C:\neo4j_dump ตั้งชื่อไฟล์ว่า

Read More »

วิธี Backup PSU Email ด้วย Thunderbird

เนื่องจาก PSU Email ให้พื้นที่ปัจจุบัน 1GB ซึ่ง อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บางท่าน หรือ บางท่านต้องการสำรองข้อมูล Email เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งสามารถทำได้ โดยใช้งานผ่านโปรแกรม Mozilla Thunderbird เชื่อมต่อกับ PSU Email ด้วย IMAP อีกทั้ง สามารถส่ง Email ออกได้จากทั่วโลกผ่าน smtp2.psu.ac.th และ ตัวอย่างต่อไปนี้ จะสร้างพื้นที่จัดเก็บบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ไว้ใน D:\MyBackup (รายละเอียดของ PSU Email สามารถอ่านได้ที่ http://www.cc.psu.ac.th/staffemail) มีวิธีการดังนี้ 1. Download Mozilla Thunderbird (รุ่นล่าสุด 24.3.0) จาก http://www.mozilla.org/en-US/thunderbird/   คลิกที่ Thunderbird Free Download แล้ว Save File ลงเครื่อง 2. Double Click ไฟล์ ที่ Download มา (Thunderbird Setup 24.3.0.exe) 3. จากนั้น ใช้ Next Technology คือ Yes, Next, Next, Install และ Finish 4. จากหน้านี้ คลิก Set as Default  5. คลิก Skip this and use my existing email 6. กรอกข้อมูล ให้ครบ แล้ว คลิก Continue แล้ว คลิก Manual Config 7. กรอกข้อมูลตามนี้ แล้ว คลิก ปุ่ม Advanced Config 8. คลิกที่ Local Folder, คลิก Browse แล้ว เลือก D:\MyBackup (แล้วแต่จะสร้าง Folder) 9. หน้าต่างนี้ คลิก Restart 10. ด้านขวามือ คลิกขวา ที่ Local Folders แล้ว คลิก New Folder ….   11. ตั้งชื่อ PSUEmail แล้วคลิก Create Folder  12. เมื่อต้องการ เก็บสำเนา (Copy) หรือ ย้าย (Move) จดหมายจาก INBOX ของ PSU Email มาเก็บไว้ใน Local Folders บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเท่าน ก็ให้ทำการเลือกจดหมายที่ต้องการ แล้ว คลิกขวา (Right Click) แล้ว เลือก Copy To หรือ Move To ไปยัง Local Folder > PSUEmail เท่านี้ ก็ สามารถ เก็บจดหมายที่ต้องการไว้ในเครื่องได้แล้ว และสามารถทำการ สำรอง D:\MyBackup เอาไว้ใน Handy Drive, DVD หรือ External Hard disk ได้ 13. เมื่อต้องการนำมาใช้งาน ก็เพียงแค่ Copy ลงไปในเครื่อง แล้ว ทำตามขั้นตอน ข้อ 8 และ 9

Read More »

วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #11

ตั้งแต่ วิธีตรวจสอบเว็บไซต์ที่โดน Hack #1 เป็นต้นมา เป็นการแสดงให้เห็นถึง ปัญหา, การตรวจสอบ, การค้นหา หลังจากเกิดปัญหาแล้วทั้งสิ้น ก็จะเห็นได้ว่า ยุ่งยาก และเป็นเรื่องยากมาก ที่จะค้นหา Backdoor ให้หมด และการจะกำจัดให้หมดนั้นเป็นภาระอย่างมาก ในบทความนี้ จะกล่าวถึง การสำรองข้อมูลไว้ พร้อมๆกับ สามารถตรวจสอบได้ว่า มี Backdoor ใดเกิดขึ้น, มีการแก้ไขไฟล์เพื่อวาง Backdoor ไว้บ้าง, มีการเปลี่ยนแปลงไฟล์ของระบบเป็น Backdoor บ้างหรือไม่ และยังสามารถ กู้ระบบกลับมาได้ แล้วจึงดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกได้ การสำรองข้อมูล หรือการ Backup มี 2 แบบ Full Backup: สำรองทุกไฟล์และไดเรกทอรี่ Incremental Backup: สำรอง “เฉพาะ” ไฟล์และไดเรกทอรี่ ที่มีการเพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลง เท่านั้น เครื่องมือในการ Backup มีหลายอย่าง ในบทความนี้ ขอใช้ tar เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย โดยยกตัวอย่าง เป็นการ Backup /var/www/joomla15 1. Full Backup ทำได้โดยการสร้างไฟล์ fullbackup.sh และมีข้อมูลดังนี้ d=$(date “+%Y%m%d%H%M%S”) cp /dev/null joomla15.snar tar -zcvf joomla15-full-$d.tar.gz -g joomla15.snar /var/www/joomla15 2. Incremental Backup ทำได้โดยการสร้างไฟล์ incrementalbackup.sh และมีข้อมูลดังนี้ d=$(date “+%Y%m%d%H%M%S”) tar -zcvf joomla15-inc-$d.tar.gz -g joomla15.snar /var/www/joomla15 โดยคำสั่ง tar มีคำสั่งเพิ่มเติม เล็กน้อย คือ -g ตามตัว joomla15.snar ซึ่ง จะเก็บสถานะของการ Backup ล่าสุดเอาไว้ ทำให้สามารถทราบได้ว่า มีต้อง Backup ไฟล์ใดบ้าง, ส่วน ชื่อไฟล์ .tar.gz ก็จะนำหน้าด้วย วันเวลานาที ของการทำ backup ไว้ เมื่อทำคำสั่ง sh fullbackup.sh จะได้ไฟล์นี้ joomla15-full-20140105004433.tar.gz ต่อมา สมมุติ มีการโจมตี Joomla ด้วยช่องโหว่ของ JCE แบบนี้ เมื่อใช้คำสั่ง find /var/www/ -name “*.php” -type f | grep ‘images/stories’ ได้ผลดังนี้ /var/www/joomla15/images/stories/0day.php และ สมมุติ Hacker ใช้งาน Backdoor 0day.php ดังกล่าวทาง URL http://localhost/joomla15//images/stories/0day.php และ แก้ไขไฟล์ /var/www/joomla15/CREDITS.php ดังนี้ สรุปคือ Hacker สามารถ สร้างและเปลี่ยนแปลงไฟล์ /var/www/joomla15/images/stories/0day.php /var/www/joomla15/CREDITS.php เมื่อใช้คำสั่ง sh incrementalbackup.sh จะได้ไฟล์ joomla15-inc-20140105021906.tar.gz วิธีตรวจสอบ ไฟล์ที่เพิ่มเข้ามา และมีการเปลี่ยนแปลง ใช้คำสั่ง diff โดยเอารายการของไฟล็ใน .tar.gz มาเปรียบเทียบกัน ด้วยคำสั่ง diff <(tar -ztvf joomla15-full-20140105004433.tar.gz) <(tar -ztvf joomla15-inc-20140105021906.tar.gz) |grep ‘>’ ผลที่ได้คือ จะทราบว่ามีไฟล์ ต่อไปนี้ เพิ่ม/เปลี่ยนแปลง > -rw-r–r– www-data/www-data 15571 2014-01-05 02:10 var/www/joomla15/CREDITS.php > -rw-r–r– www-data/www-data 14315 2014-01-05 01:55

Read More »

hands on backup joomla website and restore

เรื่อง hands on backup joomla website and restore นี้จัดเตรียมโดยใช้ Oracle VM VirtualBox เพื่อฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการ backup website ในตัวอย่างจะใช้ joomla web site ซึ่งการ backup คงจะมีหลายแบบตามชนิดของการตั้ง website ในกรณีนี้ก็จะเป็นแบบตั้ง server เองแล้วใช้ apache web server + mysql server ที่ติดตั้งเอง สภาพแวดล้อมที่เตรียมมีดังนี้ ubuntu router: มี Fix IP Address 10.0.100.1 (แจก DHCP IP Address ให้แก่ server1, server2 และ client) server1: 10.0.100.206 (joomla website รันบน apache web server) server2: 10.0.100.207 (backup) client: 10.0.100.205 (เพื่อใช้งาน ssh ผ่านทาง terminal และเพื่อใช้งาน firefox web browser) รูปภาพระบบทดสอบนี้   การเตรียม VM ดาวน์โหลด [ ubunturouter-dhcp.ova  1.1GB ]  [ ubuntuserver-lamp.ova  1.2GB ] [ linuxmint15-live.ova 81KB]  [ linuxmint-15-mate-dvd-32bit.iso  1.0GB ] หรือได้รับแผ่น DVD ไฟล์ทั้งหมดนี้ แล้วทำดังนี้ 1. ทำ import ไฟล์ ubunturouter-dhcp.ova ตั้งชื่อว่า ubuntu router ตั้ง network adapter1: NAT, ตั้ง network adapter2: internal network (ตั้ง name: intnet1) 2. ทำ import ไฟล์ ubuntuserver-lamp.ova ตั้งชื่อว่า server1 ตั้ง network adapter1: internal network (ตั้ง name: intnet1) 3. ทำ import ไฟล์ ubuntuserver-lamp.ova อีกครั้ง ตั้งชื่อว่า server2 ตั้ง network adapter1: internal network (ตั้ง name: intnet1) 4. ทำ import ไฟล์ linuxmint15-live.ova ตั้งชื่อว่า client ตั้ง network adapter1: internal network (ตั้ง name: intnet1) และตั้งค่า Storage ใช้ CD/DVD ด้วยไฟล์ linuxmint-15-mate-dvd-32bit.iso หมายเหตุ เครื่อง 1,2 และ 3 เปิดเครื่องเข้าใช้ด้วย login mama / password 123456 การเตรียมทำ joomla site ทดสอบ 1. สร้าง database ที่ต้องการติดตั้ง ตัวอย่าง สร้าง database ชื่อ testdatabase ใช้คำสั่ง mysql -uroot -p123456 -e “CREATE DATABASE testdatabase CHARACTER

Read More »