theerayuth.p
ETL (Extract, Transform, Load) ประโยชน์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ ============================ ETL Tools ตอนนี้มีอยู่หลายค่ายหลายโปรแกรม ทั้งฟรีและขาย สามารถนำมาประยุกร์ใช้งานได้ ตัวอย่างเช่น ========================== ต้องตรวจสอบอะไรบ้างเมื่อท่านต้องทำ ETL 1. Metadata Testing เป็นการทดสอบส่วนประกอบของข้อมูลพวกชนิดของข้อมูล ขนาดและเงื่อนไขต่างๆของข้อมูล2. Data Completeness Testing ความสมบูรณ์ของข้อมูลต้องสุ่มทดสอบข้อมูล เช่น คีย์ที่ใช้เชื่อมข้อมูลระหว่างตารางไม่ควรจะเป็น NULL 3. Data Quality Testing คุณภาพของข้อมูล เช่นข้อมูลชื่อประเทศเดียวกันต้องสะกดเหมือนกันทั้งหมด การหาข้อมูลซ้ำซ่อนแบบไม่ปกติ4. Data Transformation Testing ดักจับ error ระหว่างการถ่ายโอนข้อมูล5. ETL Regression Testing ทดสอบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการในการทำ ETL6. Reference Data Testing การทดสอบกับข้อมูลที่เป็นสากลทั่วไปใช้กัน เช่น ชื่อ ตำบล อำเภอ จังหวัด ควรต้องตรงกันกับข้อมูลของราชการเท่านั้น7.…
>> Read More <<
jakkrit.ch
แนะนำวิธีการแปลงรูปภาพ เป็น base64 เพื่อเก็บข้อมูล มีขั้นตอนดังนี้ 1) สร้าง Project ผ่าน Visual Studio 2019 เลือก Blazor Server App 2) เลือก Framework เป็น .NET 5.0 3) ติดตั้ง Add-on ชื่อ System.Drawing.Common ผ่านทาง NuGet 4) เปิดไฟล์ Index.razor จากนั้นเขียน Code ดังนี้ 5) หน้าจอแสดงปุ่ม “การแปลง (ไฟล์รูปภาพ เป็น Base64)” 6) ผลลัพธ์จากการแปลงไฟล์รูปภาพ เป็น Base64 หมายเหตุ: นามสกุลไฟล์รูปภาพ (picture.png) ต้องตรงกับ data:image/png;base64 สำหรับแสดงผล
parnchanok.j
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน Blog ปิดท้ายของเดือนพฤษภาคม ปี 64 นี้ ผู้เขียนขอเล่าในเรื่องของความรู้เพิ่มเติมในการใช้ Browser ละกันเนอะ จากการใช้งานท่องเว็บของเราในแต่ละวัน คาดว่าผู้อ่านแต่ละท่าน คงจะคุ้นเคยกับคำว่า โหมดไม่ระบุตัวตนกันมาบ้างแล้ว จริงๆ ในแต่ละ Browser เนี่ย ชื่อเรียกมันก็จะต่างกันนะ เช่น Incognito , Private หรือ Inprivate เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็คือ โหมดไม่ระบุตัวตนนั่นแหละ โหมดไม่ระบุตัวตน คืออะไร ? เอาแบบภาษาบ้านๆ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็น Feature นึงที่มีอยู่ในทุกๆ Browser โดยโหมดนี้ จะทำให้ Browser ของเราจะไม่จัดเก็บข้อมูลของเว็บที่เราเข้า ไม่มีที่อยู่ ไม่มี cookie ไม่มีข้อมูลที่เราป้อนก่อนหน้า ก็คือไม่มีอะไรเลย ! มันก็คงคล้ายๆ กับการทำให้ Browser ของเราความจำเสื่อมชั่วคราวนั่นแหละนะ คราวนี้มาขยายความแบบทางการกันหน่อย Browser จะไม่เก็บประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์ Browser จะไม่เก็บ…
suttipong.u
ปกติวิธี Install Windows Service ที่เขียนด้วย VS.Net เป็นดังนี้ InstallUtil.exe MyService.exe และคำสั่ง Uninstall Windows Service ที่เขียนด้วย VS.Net เป็นดังนี้ InstallUtil.exe /u MyService.exe อย่างเช่นมีไฟล์ Windows Service ชื่อ KillLoginSession โดยจะมีทั้ง file exe และ file config ไว้ใน folder C:\service1 ดังรูป เมื่อ run คำสั่งดังนี้ %WINDIR%\Microsoft.NET\Framework\v2.0.50727\InstallUtil.exe c:\service1\KillLoginSession.exe แล้วเปิด Services ของ Windows ขึ้นมา จะมี Service KillLoginSession ปรากฎดังรูป ซึ่ง Service ตัวนี้จะมี Properties ดังนี้ คือมี Service…
ekaphon.t
Layer of shadows คือจำนวนชั้นของเงา ปกติโดยทั่วไปเราจะใช้งานกันประมาณ 1-2 layer ซึ่งจำนวนของชั้นเงานี้จะสัมพันธ์กับตัวปรับแต่งด้านล่าง เช่นในรูปตั้งไว้ที่ 4 layers หรือเงา 4 ชั้น เราก็จะสามารถปรับกราฟการไล่เงาซึ่งจะแบ่งไว้ 4 ช่วงของแสงไล่ตั้งแต่ขาวไปดำ 4 ระดับ ถ้าปรับเป็น 7 layers ระบบก็จะซอยช่วงเทาเพิ่มมามากขึ้น ก็จะไล่จากขาวไปดำ 7 ระดับ Final transparency คือความเข้ม/ความโปร่งใสของเงา ค่ายิ่งน้อยเงาของเราจะยิ่งโปร่งแสง(จางขึ้น) ค่ายิ่งมากเงาของเราก็จะยิ่งทึบแสง(เข้มขึ้น) ส่วนของกราฟจะแสดงถึงการไล่แสงของเงา โดยเราจะสามารถดึงจุดวงกลมสีชมพูได้ เพื่อปรับความโค้งของกราฟ เงาก็จะมีการไล่แสงที่ต่างกันออกไป และส่วนของ Reverse alpha คือการกลับกันของเงา ไล่จากขาวไปดำ Final vertical distance คือการไล่แสงในแนวตั้ง ซึ่งจะสามารถไล่แสงได้แค่ทิศทางเดียวคือ แสงจากบนลงล่าง เงาด้านล่างของวัตถุ ยิ่งเพิ่มค่ามากเงาก็จะเพิ่มมาด้านล่างมากขึ้น ค่าลดลงเงาในแนวตั้งก็จะน้อยลง ส่วนกราฟจะแสดงปริมาณของเงาในแต่ละ layer สามารถดึงวงกลมสีชมพูเพื่อปรับแต่งได้ Final blur strength…
wachirawit.j
ข้อความแจ้งเตือนการดำเนินการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ Success, Error, Warning หรือ Information ภายในแอพ เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่มีการนำมาใช้งานบ่อยๆ เพื่อทำให้ระบบน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ในการเขียนแอพด้วย Blazor ก็มีของฟรีให้ติดตั้งและใช้งานได้เลย ชื่อว่า Blazored Toast ซึ่งเป็น JavaScript ที่ได้รับการ Implement ให้ใช้งานกับ Blazor ได้ ตัวอย่างการใช้ Blazored Toast ก่อนอื่นให้สร้าง Blazor Server App Project ตามขั้นตอนใน Blog(เขียนเว็บแอพแบบ SPA ด้วย Blazor (C#)) ก่อน จากนั้นทำตามขั้นตอนดังนี้ ติดตั้ง Blazored Toast ผ่าน NuGet package manager 1. คลิกเมนู Project 2. คลิก Manage NuGet Packages…
kanokgul.s
การประยุกต์ใช้ Google forms ในการใช้ทำแบบสอบถาม แบบฟอร์มต่างๆ และให้ผู้กรอกแบบสอบถามสามารถเซ็นชื่อในเอกสาร สามารถใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Signature มาดูกันว่ามีวิธีการอย่างไร 1. เปิด Google Drive เลือกสร้าง Google Forms เพื่อสร้างแบบสอบถาม ดังรูป 2. สร้างแบบสอบถาม ตัวอย่างเป็นฟอร์มรายงานตัวออนไลน์ ที่ให้กรอก ชื่อ-สกุล และเบอร์โทร ดังรูป 5. เมื่อเราสร้างแบบสอบถามเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาติดตั้ง Add-ons โดยคลิก “Add-ons” ดังรูป 6. ส่วนนี้จะเป็น Add-ons ของ Google ทั้งหมด ซึ่งหากใครต้องการเลือก Add-ons ที่มาใช้งานก็มาเลือกจากส่วนนี้ได้ แต่ในที่นี่เราจะใช้ Signature เพื่อนำไปใช้เป็นลายเซ็นของเอกสารของเรา เลือกค้นหาคำว่า “Signature” และคลิกเพื่อติดตั้ง ดังรูป 9. เลือก User ที่ต้องการติดตั้ง ดังรูป 11. ติดตั้งเรียบร้อย…
cheerasak.s
สำหรับนักพัฒนาแอปพลิเคชันในตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Flutter อย่างแน่นอนนะครับ ซึ่งตอนนี้ก็ออกเวอร์ชัน 2.2 มาแล้ว สำหรับผมเองที่เพิ่งเริ่มศึกษาก็ขอเริ่มด้วยการทดสอบดึงข้อมูลจาก API เป็นอย่างแรกนะครับ เพราะแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานด้านต่างๆ ในองค์กรมักจะต้องใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล โดยการเชื่อมต่อผ่าน API เป็นหลักครับ ขั้นตอนการติดตั้งบน Windows และเตรียมเครื่องมือสามารถอ่านได้ที่ https://flutter.dev/docs/get-started/install/windows ในบทความนี้ผมใช้ Visual Studio Code นะครับโดยติดตั้ง Extention เพิ่มเติมดังนี้ เปิด Visual Studio Code คลิกเมนู View > Command Palette พิมพ์ “install”, จากนั้นเลือก Extensions: Install Extensions. พิมพ์ “flutter” เลือก install พิมพ์ “dart” เลือก install เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยจะมีรายการ Extention ดังรูปครับ จากนั้นทำการสร้างโปรเจค ดังนี้ครับ คลิกเมนู…
duangthida.c
เวลานี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน เรามักจะได้ยินคำว่า “Dashboard” บ่อยมาก แล้ว Dashboard มีประโยชน์และสร้างอย่างไร วันนี้เรามีวิธีการสร้าง Dashboard ง่ายๆ เพื่อใช้ในการติดตามโครงการมานำเสนอค่ะ โดยจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Azure DevOps โดยเราต้องสร้างโครงการบน Azure DevOps ก่อนนะคะ (ครั้งหน้าจะมาแนะนำการสร้างโครงการบน Azure DevOps รอติดตามกันนะคะ) หลังจากสร้างโครงการบน Azure DevOps แล้ว ในการบริหารโครงการจะมีการแบ่งงานออกเป็น Work Item ในแต่ละ Work Item ก็จะมีการมอบหมายงานหรือ Assigned ให้กับผู้ร่วมโครงการแต่ละคน จากนั้นจะมีการติดตามว่าได้ดังเนินการไปถึงไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ ตัวอย่างการสร้าง Work Item ตามภาพ ข้างล่าง เมื่อมีการมอบหมายงานเรียบร้อย เราก็สามารถติดตามสถานะการดำเนินงานต่างๆ ได้ โดยการสร้าง Dashboard ซึ่งให้เลือกโครงการที่ต้องการติดตาม จากนั้นไปที่ “Dashboards” และกดปุ่ม “New Dashboard” ซึ่งจะมี Template…