เขียน CSS Selectors อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ?
ในการเขียน css selectors นั้น เรารู้ดีว่ามี selectors แบบไหนให้เราเลือกใช้ได้บ้าง และแต่ละแบบนั้นมีวิธีการใช้งานอย่างไร แต่หลายๆ คน อาจไม่รู้ว่าการเขียน selectors ในแต่ละแบบนั้น มันมีผลต่อ performance ด้วย Web Browsers แบ่ง CSS Rules ออกเป็นกลุ่มๆ เรามาทำความเข้าใจถึงหลักการทำงานของ web browsers กันก่อน ไม่ว่าเราจะเขียน css rules อย่างไร web browsers จะแบ่ง rules ของเราออกเป็น 4 กลุ่ม ด้วยกัน ดังนี้ IDใช้เวลาในการหาน้อยที่สุด Classใช้เวลาในการหามากกว่า ID เล็กน้อย Tagใช้เวลาในการหามากกว่า Class Universalใช้เวลาในการหามาก ซึ่งการจะดูว่า rule นี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มไหนนั้นจะดูจาก “key selector” หรือ selector ที่อยู่ขวาสุดนั่นเอง กลุ่ม ID rule ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้จะต้องมี id selector เป็น key selector #latest-news { } ul#latest-news { } #latest-news[title=”Latest News”] { } section > div > ul#latest-news:first-child { } จากโค้ดด้านบน จะได้ว่า rules ทั้ง 4 แบบ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม id ทั้งหมด กลุ่ม Class rule ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้จะต้องมี class selector เป็น key selector .list-item { } #latest-news .list-item { } div ul li.list-item { } ul > .list-item:hover { } จากโค้ดด้านบน จะได้ว่า rules ทั้ง 4 แบบ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม class ทั้งหมด กลุ่ม Tag ถ้า key selector ของ rule นั้นไม่ใช่ทั้ง id selector และ class selector ให้ดูว่ามีการระบุ tag เอาไว้หรือไม่ ถ้ามี จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม tag a { } li > a { } #latest-news div[class*=”post”] { } ul#latest-news li.list-item a:hover { } จากโค้ดด้านบน จะได้ว่า rules ทั้ง 4 แบบ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม tag ทั้งหมด กลุ่ม Universal หาก rule นั้นไม่ตรงกับ 3 กลุ่มข้างต้นเลย จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม universal * { } [id*=”post”] { } .home [class*=”entry”] { } form > [type=”text”] { } จากโค้ดด้านบน จะได้ว่า rules ทั้ง 4 แบบ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม universal