Script สำหรับ หาวันที่ของไฟล์ล่าสุดใน directory

Q: ถ้าจะเขียน คำสั่ง หรือ script บน linux เพื่อหา วันที่ของ file ล่าสุดใน folder ของ user จะเขียนยังไงดี มีไอเดียไหมครับ A: สมมติ folder ของ user คือ /home/user/Documents $ ls -t /home/user/Documents จะได้ไฟล์เรียงตามลำดับวันที่/เวลาของไฟล์ โดยไฟล์ล่าสุดจะโผล่มาเป็นไฟล์แรก ถ้าเราต้องการไฟล์ล่าสุดแค่ไฟล์เดียว ก็สามารถใช้คำสั่ง head -1 เพื่อตัดให้เหลือไฟล์เดียวได้ ก็จะได้คำสั่งเป็น $ ls -t /home/user/Documents | head -1 ทีนี้ จากชื่อไฟล์ที่ได้ ถ้าต้องการวันที่ เราก็สามารถใช้คำสั่ง date โดยใช้ option -r สำหรับให้มันแสดงวันที่ของไฟล์ใดๆ ตย. เช่น ต้องการรู้วันที่ ของไฟล์ /etc/passwd ก็ใช้คำสั่ง $ date -r /etc/passwd เอาสองอย่างนี้มาใช้งานร่วมกันได้ตามนี้ครับ $ date -r `ls -t /home/user/Documents | head -1` ทีนี้ ถ้าต้องการให้ format ของวันที่ออกมาตามที่เราต้องการ อย่างเช่น ให้ format เป็น yyyy-mm-dd HH:MM:SS ก็เพิ่ม option ให้กับคำสั่ง date ประมาณนี้ “+%Y-%m-%d %H:%M:%S” รวมกันทั้งหมดเป็น $ date -r `ls -t /home/user/Documents | head -1` “+%Y-%m-%d %H:%M:%S” Q: ถ้าจะลงลึกไปหลาย level ต้องทำอะไรเพิ่มครับ A: หมายถึงต้องการไฟล์ล่าสุด ไฟล์เดียว จากใน directory นั้นและ sub directory ย่อยทั้งหมดใช่ใหมครับ? Q: ใช่ครับ A: งั้น คงต้องพึ่งพาคำสั่ง find ครับ เพื่อที่ list เอาเฉพาะไฟล์ทั้งหมดออกมาก่อน เพราะคำสั่ง ls ธรรมดามันจะไล่ไปตาม directory ทีละ directory เริ่มจาก $ find /home/user/Documents มันจะ list ทุกอย่างทั้งไฟล์ และ ไดเรคตอรี่และในไดเรคตอรี่ย่อยออกมา เราต้องการเฉพาะไฟล์ ระบุ option -type f เราต้องการให้มันแสดงวันที่ของไฟล์ออกมาด้วย อันนี้ต้องพึ่งคำสั่ง ls โดยใช้ option ของ ls เป็น –full-time $ find /home/user/Documents -type f -exec ls –full-time {} \; โดย {} เป็นการระบุว่าให้ find ใช้คำสั่ง ls –full-time กับ output ของ find ส่วน \; เป็นตัวระบุว่า จบ option ของ คำสั่ง find แค่นี้ output ที่ได้ จะเป็นไฟล์ “ทั้งหมด” โดยที่ในแต่ละบรรทัดจะมี ข้อมูลอย่างอื่นของไฟล์นั้นออกมาด้วย เช่น permission, owner, group, size ซึ่งเราไม่สนใจ เราตัดเอาข้อมูลที่อยู่ข้างหน้าเหล่านั้นออกไปได้ โดยใช้คำสั่ง cut โดยในกรณีนี้ใช้ space ‘

Read More »

การสร้าง Hybrid App ด้วย Ionic Framework

ในบทความนี้จะนำขั้นตอนการพัฒนา Hybrid App อย่างง่ายด้วย Ionic Framework เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาแก่ผู้ที่สนใจ โดยเครื่องที่ใช้ในการทดลองเป็นปฏิบัติการ Windows 10 มีขั้นตอนการติดตั้งเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้ Ionic ได้ดังนี้ ติดตั้ง js โดยดาวน์โหลดไฟล์ node-v4.4.7-x64.msi ได้จาก http://nodejs.org วิธีการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยากครับ ใช้ Next Technology ได้เลย จะมีหน้าจอขั้นตอนต่าง ๆ ดังรูป ติดตั้ง Cordova และ Ionic command line tool โดยการเปิด command prompt ของ windows ขึ้นมา แล้วรันคำสั่ง $ npm install -g ionic เริ่มต้นสร้าง App อย่างง่าย หลังจากที่เตรียมความพร้อมของเครื่องที่พัฒนาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการสร้าง App ขึ้นมา ซึ่ง Ionic ได้เตรียม template ตั้งต้นไว้ให้เราแล้ว ได้แก่ side menu, maps, salesforce, complex-list, blank เราก็ดูว่า App ของเราสามารถใช้ template ตัวไหนได้บ้าง ก็เลือกมาใช้ได้เลย รูปที่ 1 Ionic Template [ที่มา : http://ionicframework.com] ขั้นตอนการสร้าง App โดยใช้ command line tools เปิด command line ขึ้นมา แล้วกำหนด working directory เป็นที่ที่สำหรับใช้เก็บ project (ในที่นี้จะกำหนดเป็น “C:\ionic” ) สร้าง project กำหนดชื่อ myApp และใช้ tabs เป็น template ตั้งต้นโดยใช้คำสั่ง $ ionic start myApp tabs ผลลัพธ์ที่ได้จากคำสั่งนี้ จะทำให้ได้ไฟล์ต่าง ๆ ดังรูป จะพบว่ามีโฟลเดอร์ชื่อ www สำหรับเก็บโค้ด HTML, CSS, Java Script เหมือนกับการพัฒนาเว็บไซต์ ให้เราใช้ความรู้ด้านการเขียนเว็บไซต์สร้างไฟล์ต่าง ๆ เก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้ได้เลย หลังจากสร้างไฟล์ App ขึ้นมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการ Build ให้ App สามารถรันบน Platform ต่าง ๆ ได้ สำหรับในบทความนี้จะแสดงเฉพาะการ Build สำหรับ Android เพื่อให้เห็นเป็นแนวทางการพัฒนา เนื่องจากเครื่องที่ใช้ทดสอบเป็น Windows 10 หากจะ Build ให้รันบน iOS ได้ ก็ต้อง Build บนเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ในส่วนของการเตรียมความพร้อมสำหรับการ Build ให้รันบน Android ได้ เครื่องที่ใช้ในการพัฒนาจะต้องติดตั้ง Java Development Kit (JDK) 7 และAndroid Stand-alone SDK Tools หรือ Android Studio  ก่อน ซึ่งขั้นตอนการติดตั้งก็ไม่ยากครับ ใช้ Next Technology เช่นเคย Build และ Run บน Android โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ $ ionic platform add android $ ionic build android $ ionic emulate androidจะทำให้ได้ผลลัพธ์ดังรูป จากรูปเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ Tab template ซึ่งผู้พัฒนาจะต้องแก้ไขโค้ดให้เป็นไปตามที่ได้ออกแบบไว้

Read More »

สร้าง Shortcut ในการ Remote Desktop Connection

ในการพัฒนาระบบงานหลาย ๆ ระบบ ซึ่งแต่ละระบบก็ต้องมี Server ถ้าระบบมีปัญหาสิ่งแรก ๆ ที่ต้องเข้าไปดูปัญหานั่นคือการ Remote ไปยัง Server นั้น ๆ เช่นดู Process Task ต่าง ๆ มีอะไรรันอยู่ มีอะไรทำงานอยู่จึงทำให้ระบบช้า หรือทำให้ระบบมีปัญหาเป็นต้น เมื่อมีหลาย Server ครั้นจะมาจดจำ IP เครื่องที่จะ Remote ไป หรือบางเครื่องที่นาน ๆ จะเกิดปัญหาที ทางออกของปัญหามีค่ะ แค่เพียงสร้างเป็น Shortcut ในการ Remote Desktop Connection นั่นเอง มีขั้นตอนดังนี้ ที่หน้าจอ Desktop คลิกขวา New เลือกหัวข้อ Shortcut พิมพ์ข้อความดังนี้ C:\Windows\System32\mstsc.exe /v:192.168.100.170 /w:800 /h:600 –> 3.1 /v:ต่อด้วย IP Address:Port –> 3.2 /w:ต่อด้วยขนาดหน้าจอ ความกว้าง –> 3.3 /h:ต้อด้วยขนาดหน้าจอ ความสูง –> 3.4 อื่น ๆ เช่น /f หมายถึงเต็มหน้าจอ /admin หมายถึง Remote เข้าด้วย Session Admin คลิกปุ่ม Next ตั้งชื่อ Shortcut คลิก Finish จะเห็น Icon ของ Shortcut ที่ใช้ในการ Remote เพื่อเข้า Server ตามที่ได้สร้างไว้ที่หน้า Desktop

Read More »

IEEE Explore Services and IPv6

หลายวันก่อน (2016-06-28) คุณวันชัย พบปัญหาการเข้าใช้งาน web ieeexplore.ieee.org ซึ่งปัญหาที่ว่าก็คือ ปกติแล้วการเข้าไปพยายามดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บดังกล่าว ถ้าเข้าใช้งานจากเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เอง ผู้ให้บริการ (IEEE Explore) ก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เข้ามาจากเครือข่ายของมหา’ลัย ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานจากเครือข่ายของมหา’ลัย สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ แต่ครั้งนั้น อาจารย์ของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ไม่สามารถดาวน์โหลดได้ จากภายในเครือข่ายของภาคฯเอง และ ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ถ้าเปลี่ยนไปใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ในเครือข่ายของภาคฯเช่นเดียวกัน แต่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP กลับใช้งานได้ หลังจากผ่านการตรวจสอบ 2-3 ขั้นตอนก็ได้ข้อสรุปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ จากเดิมทีที่เครือข่ายของมหา’ลัย ใช้งาน IPv4 ในการเข้าถึงเครือข่ายของ IEEE (สำหรับในกรณีนี้ก็คือ ieeexplore.ieee.org) ตอนนี้ เมื่อเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมที่จะให้บริการ IPv6 เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่พร้อมที่จะใช้ IPv6 อยู่แล้ว ก็จะเปลี่ยนไปใช้ IPv6 สำหรับการติดต่อกับเครือข่ายปลายทาง สิ่งเหล่านี้ควรจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และผู้ใช้งานก็ควรที่จะใช้งานได้โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตนเองใช้งานอยู่ ติดต่อกับเครื่องปลายทางโดยใช้โปรโตคอลใด อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้ บริการของ IEEExplore และ Academic Journals อีกจำนวนมากซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นสมาชิกอยู่ (ซึ่งอาจจะเป็นสมาชิกโดยตรง หรือโดยอ้อมผ่านทาง UniNet/สกอ.) ไม่ได้เป็นบริการที่เปิดแบบ public ให้ใครๆก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกอย่าง ข้อมูลบางอย่าง เช่น ไฟล์ของบทความ จะดาวน์โหลดได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น ถ้าเป็นสมาชิกแบบบุคคล วิธีการที่ใช้ในการยืนยันตัวตน ก็คือการ login โดยใช้ username และ password แบบเดียวกับที่ใช้กับบริการบนเว็บอื่นๆทั่วไป แต่สำหรับสมาชิกแบบ “สถาบัน” แบบที่มาหวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นอยู่ แทนที่จะต้องให้ นักศึกษาและบุคคลากร แต่ละคนจะต้องมีแอคเคาท์ เป็นของตัวเอง วิธีการที่ง่ายกว่าก็คือ ใช้หมายเลข IP เป็นตัวระบุ โดยสถาบันที่เป็นสมาชิก ก็จะต้องแจ้งไปทางผู้ให้บริการว่า หมายเลข IP ใด หรือ ช่วงใดบ้างที่เป็นของสถาบันนั้นๆ แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ หมายเลข IP ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แจ้งไปจะมีเฉพาะ IPv4 และแน่นอนว่าก่อนหน้านี้ไม่มีใครแจ้งปัญหาว่าสามารถดาวน์โหลดไฟล์จาก IEEExplore ไม่ได้ … เพราะเครือข่ายส่วนใหญ่ใน มหา’ลัย ใช้งานได้เฉพาะ IPv4 [[ ซึ่ง … อาจจะทำให้ผมตั้งข้อสงสัยขึ้นมาได้ว่า แล้วหน่วยงานบางหน่วยซึ่งใช้งาน IPv6 มาได้นานก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีใครมีปัญหาบ้างเลยหรือ หรือจะเป็นเพราะว่าสมาชิกหน่วยงานเหล่านั้นไม่เคยใช้ IEEExplore เลย … แต่เนื่องจากว่า มีคำโบราณกล่าวไว้ … อะไรบางอย่าง…เกี่ยวกับการขว้างงู…และอวัยวะอะไรบางอย่างที่เป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างหัวและลำตัว… ผมก็เลยไม่ได้ตั้งข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะไม่อยากให้คอของผมมีรู … และผมก็ไม่ชอบงูด้วย! ย้ำ, ผมไม่ได้ตั้งข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นจริงๆ EDIT (2016-07-08): ข้อมูลจาก ที่นี่ ทำให้พอเชื่อได้ว่า IEEE เริ่มใช้งาน IPv6 เมื่อประมาณ 2016-06-06 นั่นคือประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ดังนั้นปัญหาในการเข้าถึงบริการของ IEEE Explore จากเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยใช้งาน IPv6 แล้วใช้งานไม่ได้ จึงไม่ได้นานมากอย่างที่ผมคิดตอนแรก ]] กลับมาที่เรื่องของการใช้งาน IEEExplore ต่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เทียบเคียงได้กับการที่ทาง มหาวิทยาลัยแจ้ง IP address ที่มีใช้งานอยู่ให้กับทางผู้ให้บริการไม่ครบ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มใช้งาน IPv6 ได้และพยายามใช้งาน IPv6 ในการติดต่อกับเครื่องที่ให้บริการปลายทาง เครื่องที่ให้บริการปลายทาง ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า หมายเลข IP address นี้อยู่ในรายการของหมายเลข IP ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ ก็เลยปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูล วิธีการแก้ปัญหา ก็คือแจ้งหมายเลข IPv6 address ที่มหา’ลัยใช้อยู่ไป เพื่อให้ทางผู้ให้บริการอนุญาตให้เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้หมายเลขเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลได้ วันนี้ (2016-07-07) คุณสงกรานต์ และ หอสมุดคุณหญิงหลงประกาศผ่านกลุ่มของ facebook ว่าสามารถใช้งานบริการของ IEEE ได้แล้วทั้ง IPv4 และ IPv6 ซึ่งในแง่ของผู้ใช้งานทั่วๆไป ควรที่จะใช้งานได้

Read More »

วิธีลดขนาดไฟล์ photo ให้เล็กลงก่อนอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์

ภาพถ่ายที่ได้จากสมาร์ทโฟนที่มีขนาดไฟล์ใหญ่เป็น 1-2 MB แล้วทำให้มันมีขนาดไฟล์เล็กลงได้ด้วย tool อะไรบ้าง เพื่อนำภาพไปแขวนบนเว็บไซต์ของเราที่ไม่มีความสามารถในการช่วยบีบอัดขนาดไฟล์ให้อัตโนมัติในขณะที่อัปโหลดภาพ เราคงจะข้ามการพูดถึงโปรแกรม Photoshop ไปไม่ได้ นั้นเป็นสิ่งที่ใครก็ตามที่มีเงินซื้อโปรแกรมมาใช้ แต่หากต้องการหา tool ที่ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จะมีมั้ยนะ ผมค้นใน google search เจอเว็บนี้ https://tinypng.com/ เป็นการนำภาพถ่ายของเราไปบีบอัดด้วย online tool ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใด ๆ (เพียงแต่หากกังวลเรื่องไม่อยากให้รูปไปถูกเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ของเขา ก็อย่าใช้ครับ) ในเนื้อหาเว็บนี้บอกไว้ว่า ภาพถ่ายที่ได้จากการบีบอัดเมื่อนำไปวางบนเว็บไซต์ มันใช้ได้หมดทุกเบราว์เซอร์ ยกเว้น IE6 ซึ่งเก่ามากแล้ว และทางเลือกที่จะติดตั้งโปรแกรมเพิ่มบน Windows ครับ ขอแนะนำติดตั้งโปรแกรม GIMP for Windows (https://www.gimp.org/windows/) ทำดังนี้ ขั้นตอน 1.เปิดไฟล์เดิม 2.แล้วเลือก export as… ตั้งชื่อไฟล์ตามต้องการ 3.แล้วคลิก export จากนั้นมันจะมี dialog ถามให้กำหนด quality 4.จากเดิม 91% ผมลองลดลงไปถึง 41% ภาพถ่ายขนาดเท่าเดิม (กว้างxยาว) แต่ขนาดไฟล์ลดลงจาก 2.1 MB เป็น 601.7KB   นอกจากนี้ ก็อาจเลือกใช้ ImageMagick (http://www.imagemagick.org/script/binary-releases.php) FastStone (http://www.faststone.org/FSResizerDetail.htm) JPEGmini (http://www.jpegmini.com/) Photoscape (http://www.photoscape.org/ps/main/index.php) ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ช่วยกันแนะนำมา และขอบคุณล่วงหน้าถ้าจะกรุณา comment มาครับ

Read More »