วิธีการแยกคำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล ที่รวมอยู่ในช่องเดียวกันใน Microsoft Excel

ในการใช้งาน Microsoft Excel เราคงจะเคยเจอปัญหาที่ข้อมูลมีทั้งคำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล รวมอยู่ในช่องเดียวกัน แต่การนำไปใช้งานของเราต้องการที่จะแยกคำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุลออกจากกันเป็นคนละช่อง วันนี้จะขอนำเสนอสูตรเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น มาดูกันเลยคะว่าทำยังไง ในการแก้ปัญหานี้จะต้องใช้ฟังก์ชันหลายฟังก์ชัน รวมทั้งเทคนิคการคำนวณแบบ Array ของ Excel ผสมผสานกันโดยเริ่มจาก STEP 1 : สร้างคอลัมน์สำหรับการแสดงผล และสร้าง List รายการคำนำหน้าชื่อที่คอลัมน์ I STEP 2 : ทำการแปลง TITLE_LIST เป็นตาราง เพื่อความสะดวกในการจัดการข้อมูลคำนำหน้าชื่อและการอ้างอิงข้อมูล STEP 3 : ทำการแยกเฉพาะคำนำหน้าชื่อมาแสดงที่คอลัมน์ D ด้วยฟังก์ชัน SEARCH , MATCH และ INDEX =INDEX(TITLE[TITLE_LIST],MATCH(1,SEARCH(TITLE[TITLE_LIST],B2),0)) ฟังก์ชัน SEARCH : ค้นหาสตริงข้อความหนึ่งภายในสตริงข้อความที่สอง และส่งกลับตัวเลขที่เป็นตำแหน่งเริ่มต้นของสตริงข้อความแรกจากอักขระแรกของสตริงข้อความที่สอง ไวยากรณ์ : SEARCH(find_text,within_text,[start_num]) กรณี ฟังก์ชัน MATCH : ค้นหารายการที่ระบุช่วงในเซลล์ แล้วส่งกลับตําแหน่งสัมพันธ์ของรายการนั้นในช่วง ตัวอย่างเช่น ถ้าช่วง A1:A3 มีค่า 5, 25 และ 38 สูตร =MATCH(25,A1:A3,0) จะส่งกลับตัวเลข 2 เนื่องจาก 25 เป็นรายการที่สองในช่วง ไวยากรณ์ : MATCH(lookup_value, lookup_array, [match_type]) ฟังก์ชัน INDEX : ส่งกลับค่าจากภายในตารางหรือช่วงข้อมูล ไวยากรณ์ : INDEX(array, row_num, [column_num]) STEP 4 : ทำการแยกชื่อและนามสกุลออกจากคำนำหน้าชื่อมาแสดงที่คอลัมน์ C ด้วยฟังก์ชัน SUBSTITUTE =SUBSTITUTE(B2,D2,””) ฟังก์ชัน SUBSTITUTE : ใช้แทนที่ข้อความเดิม old text ด้วยข้อความใหม่ new text ส่วน instance_num ใช้เพื่อระบุตำแหน่งการแทนที่ ซึ่งถ้าไม่ระบุ old text จะถูกเปลี่ยนด้วย new text ทั้งหมด ไวยากรณ์ : SUBSTITUTE(text, old_text, new_text, [instance_num]) STEP 5 : ทำการแยกชื่อมาแสดงที่คอลัมน์ E ด้วยฟังก์ชัน LEFT และ SEARCH =LEFT(C2,SEARCH(” “,C2,1)-1) ฟังก์ชัน LEFT : ส่งกลับอักขระจำนวนหนึ่งที่อยู่ในลำดับแรกๆ ในสตริงข้อความ ตามจำนวนอักขระที่ระบุ ไวยากรณ์ : LEFT(text, [num_chars]) STEP 6 : ทำการแยกนามสกุลมาแสดงที่คอลัมน์ F ด้วยฟังก์ชัน RIGHT , LEN และ SEARCH =RIGHT(C2,LEN(C2)-SEARCH(” “,C2,1)) ฟังก์ชัน RIGHT : ส่งกลับอักขระสุดท้ายจำนวนหนึ่งในสตริงข้อความ ตามจำนวนอักขระที่ระบุ ไวยากรณ์ : RIGHT(text,[num_chars]) ฟังก์ชัน LEN :  ส่งกลับเป็นจำนวนอักขระในสตริง ไวยากรณ์ : LEN(text) STEP 7 : แยกคำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล ที่รวมอยู่ในช่องเดียวกันใน Microsoft Excel เรียบร้อยแล้วค่ะ ^_^ หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ

Read More »

มารู้จักเครื่องมือ Smart Facebook URL ที่สามารถเปิด Facebook ตามอุปกรณ์ที่ใช้งานปัจจุบัน

ทุกท่านเคยเป็นกันไหมค่ะ เมื่อเพื่อนของเราส่งลิงก์ Facebook มาให้เราดู แต่เมื่อเราเปิดใช้งานบนมือถือ มันก็จะเด้งไปหน้าเบราว์เซอร์ แล้วระบบก็จะให้เรา Login ซึ่งคนทั่วไปจะใช้งานบน App Facebook หากเราใช้งานผ่านมือถือ และจะใช้ผ่านเบราว์เซอร์เมื่อเราใช้ผ่านคอมพิวเตอร์ ***มาดูตัวอย่างการเปิดลิงก์ Facebook Fan Page เมื่อเพื่อนส่งมาให้*** ตัวอย่างการส่งลิงก์ Facebook ให้เพื่อนช่วยกดไลค์แฟนเพจ เมื่อเราคลิกลิงก์จากข้อความ ระบบปฏิบัติการ Android จะเปิดมาที่ เบราว์เซอร์ เป็น m.facebook หากต้องการใช้งานก็จะต้อง Login Facebook ใหม่ ซึ่งปกติเราก็มักจะลืม Username หรือ Password ระบบปฏิบัติการ iOS มีข้อความแจ้งเตืนอว่าจะให้เปิดผ่าน Faceook หรือไม่ หากกดปุ่ม “เปิด” จะเป็นไปยัง App ให้ทันที่ แต่หากกดปุ่ม “ยกเลิก” จะเปิดมาที่ เบราว์เซอร์ เป็น m.facebook ก็จะต้อง Login Facebook ใหม่ ระบบปฏิบัติการ iOS จะเปิดมาที่เบราว์เซอร์ เป็น m.facebook หากต้องการใช้งานก็จะต้อง Login Facebook ใหม่เช่นเดียวกับ ระบบปฏิบัติการ Android **** ซึ่งเมื่อเราจะส่งลิงก์ URL ให้เพื่อน เราจะไม่ทราบว่าเพื่อนใช้ Smart phone ระบบปฏิบัติการอะไร ดังนั้นเรามีวิธีการดังนี้….=>> เข้าเว็บไซต์ : URL สมาร์ทสำหรับ Facebook (piliapp.com) ******เมื่อเราได้ URL ที่ต้องการแล้ว ส่งให้เพื่อนอีกครั้ง แล้วให้เพื่อนเปิดดูเลยค่ะ****** ระบบปฏิบัติการ Android เมื่อคลิก URL แล้วจะเลือก “Android” ให้อัตโนมัติ ระบบปฏิบัติการ Android เลือก “facebook app” ให้อัตโนมัติ ระบบปฏิบัติการ Android จะเข้า “Facebook App” ให้อัตโนมัติ สามารถกดไลค์แฟนเพจได้ทันที ระบบปฏิบัติการ iOS เมื่อคลิก URL แล้วจะเลือก “iPhone” ให้อัตโนมัติ ระบบปฏิบัติการ iOS เลือก “Facebook App” ให้อัตโนมัติ ระบบปฏิบัติการ iOS จะเข้า “Facebook App” ให้อัตโนมัติ สามารถกดไลค์แฟนเพจได้ทันที การใช้งานผ่าน Computer เมื่อคลิก URL แล้วจะเลือก “คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล” ให้อัตโนมัติ การใช้งานผ่าน Computer เลือก “เบราว์เซอร์” ให้อัตโนมัติ การใช้งานผ่าน Computer จะเข้า “เบราว์เซอร์” ให้อัตโนมัติ สามารถกดไลค์แฟนเพจได้ทันที

Read More »

Create a feedback form with NotionForms

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน มาค่ะ เรามาต่อกันใน Blog ที่ 4 ของรอบ TOR นี้ ซึ่งผู้เขียนขอพาไปรู้จักกับ NotionForms ถ้าพร้อมแล้ว ไปค่ะ ไปเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน 😜 NotionForms 💬NotionForms was created to help Notion users to achieve more with their favourite tool. Need a contact form? Doing a survey? Create a form in 3 minutes and receive responses directly in Notion. 💡 หมายเหตุ : แบบฟอร์มที่เราสร้างขึ้นด้วย NotionForms ข้อมูลการตอบกลับจะถูกเก็บไว้ใน Notion Step 1 ก่อนอื่นเราต้องสร้างฐานข้อมูลหรือตารางสำหรับจัดเก็บข้อมูลแบบฟอร์มของเราขึ้นมาก่อน ตัวอย่างใน Blog นี้ผู้เขียนขอสร้างตารางชื่อ Admission Feedback เก็บข้อมูล 4 column – name (type = text)– feedback (type = text)– the system is easy to use (type = select)– How do you feel after using the system (type = select) โดย column ที่อยู่ในรูปแบบ select เราก็จะเพิ่ม option เข้าไป เช่น column “How do you feel after using the system” ก็จะมี 2 option1. 👍 ฉันถูกใจสิ่งนี้ 2. 👎 ฉันไม่ถูกใจ 📌 วิธีการสร้าง Table เก็บข้อมูลใน notion สามารถตามไปอ่านได้ใน Blog ก่อนหน้า จัดการข้อมูลง่ายๆ ด้วย Database Notion Step 2 ไปยัง NotionForms คลิก Create Form จากนั้น Register ข้อมูล โดยใช้ Email เดียวกับตอนสมัครเว็บไซต์ Notion Step 3 คลิก Create a new form Step 4 ให้เลือก Notion Database Name สำหรับขั้นตอนนี้ให้เราระบุชื่อ Database ที่เราสร้างไว้ใน Notion (ตามในขั้นตอนที่ 1) จากตัวอย่างเราจะเลือก Database ที่ชื่อ Admission Feedback Step 5 NotionForms จะดึงข้อมูล Column ทั้งหมดที่เราสร้างไว้ใน Admission Feedback จาก Notion ขึ้นมาแสดง เราสามารถปรับแต่งการแสดงผลของ Forms ได้ตามต้องการ (setting ได้ภายใต้ฟังก์ชันที่ใช้ฟรีอะนะทุกคน 😜) Step 6 แนะนำให้เพื่อนๆ เลื่อนลงมาในส่วนของการ Custom Block เราสามารถกำหนดการแสดงผลข้อมูล Column ของเราได้ เช่น

Read More »

จัดการข้อมูลง่ายๆ ด้วย Database ใน Notion

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน สำหรับ Blog ที่ 3 ในรอบ TOR นี้ ผู้เขียนขอแนะนำการสร้าง Database เก็บข้อมูลบน Notion กันค่ะ 📍 Blog นี้จะไม่ลงลึกในส่วนการสมัครใช้งาน notion แต่จะเน้นในส่วนของการสร้าง Table เพื่อเก็บข้อมูล Notion 💬 Notion is a workspace with lots of tools to help you stay organized and productive. You can use notes, tasks, wikis and databases to manage projects, tasks, ideas and more. 📲 More than a doc. Or a table. Customize Notion to work the way you do. 📢 หากผู้อ่านอยากรู้ว่า Notion คืออะไร สามารถไปอ่านได้ที่ More than noting “Notion” ซึ่งมีสมาชิกผู้ร่วมอุดมการณ์เขียนแบบย่อๆ เอาไว้เรียบร้อยแล้ว มาค่ะ เรามาเริ่มขั้นตอนการสร้าง Database Notion กัน —>> สมัครใช้งาน Notion คลิกที่นี่ 📌 ตัวอย่าง Blog นี้จะแนะนำการสร้าง Table สำหรับเก็บข้อมูลบันทึกการแจ้งปัญหาการใช้งานจากลูกค้า 📝 Step 1 — เมื่อเราสมัครใช้งานให้เรียบร้อยแล้ว ให้เราเลือก Add a page ขึ้นมาจาก Sidebar ด้านซ้ายมือ 📝 Step 2 — ตั้งชื่อ Page ตามต้องการ ตัวอย่างนี้ขอตั้งชื่อ “Report Problem” และเลือก Database รูปแบบ “Table” 📝 Step 3 — เลือก New database เพื่อเริ่มต้นกำหนดและสร้าง Table เพื่อเก็บข้อมูลในรูปแบบที่เราต้องการ 📝 Step 6 — เมื่อสร้างรายการเรียบร้อยแล้ว เรามาลองนำข้อมูลรายการดังกล่าวที่อยู่ในมุมมอง Table ไปแสดงในมุมมองอื่นๆ –>> ให้เราคลิกสัญลักษณ์ + 📝 Step 7 — เราสามารถเลือก View ได้หลายมุมมอง เช่น Calendar, Board, Timeline, List หรือ Gallery ตัวอย่างนี้ขอทดลองแสดงในรูปแบบ Calendar ละกันนะ 💡 เราสามารถ Customize การแสดงผลข้อมูลในหน้าดังกล่าวเพิ่มเติมได้นะ ให้คลิกตรงจุด 3 จุดหน้าปุ่ม New ตามในรูป จากนั้น หน้าต่าง notion ก็จะ View Option ขึ้นมาให้เราสามารถกำหนด หรือปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ 📌 สะดวก ใช้งานง่าย มี Template มากมาย รวมทุกฟังก์ชันไว้ในที่เดียว แนะนำ Notion นะทุกคน ! 📌 📢 สุดท้าย ท้ายสุด ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ แล้วพบกันใหม่ Blog หน้า จะมาแนะนำการสร้าง Notion Form

Read More »

การเชื่อมต่อกับ WSUS (Windows Server Update Services) บน Windows 11/10

“ทำยังไงให้โหลด Windows Update ได้เร็วขึ้นบ้าง แถมยังไม่เปลืองแบนวิชมหาลัยอีกต่างหาก”          กลับมาอีกครั้งในปี 2022 จากการเปิดบริการ WSUS ก่อนหน้าพบปัญหาเรื่อง Database Corrupt และ เนื้อที่เต็ม มารอบนี้จึงปรับไปใช้เครื่อง Physical (ของเดิม VM) ถึงแม้เครื่องจะเก่าหน่อยแต่แรมเยอะและ Disk ก็เยอะเช่นเดียวกัน จึงมีความคิดว่าจะรวม Windows Server มาให้บริการด้วย เพราะหลัง ๆ Update ใหญ่จริง ๆ  โดยใช้ Server เป็น Windows 2022 พร้อมการ Tunning รับโหลดที่ได้มากขึ้น โดยบริการคร่าว ๆ มีเบื้องต้นดังนี้ Windows 10/11 ทุก Version 32,64 bit (ไม่มี Windows XP/7/8/8.1) Windows Server 2016/2019 Windows Subsystem for Linux (Kernel Update) Microsoft Office 2013,2016,Microsoft 365 Apps/Office 2019 Microsoft Visual Studio 2015/2017/2019/202 Microsoft Edge Microsoft Defender Antivirus วิธีการติดตั้งบน Windows 11 (Version 22H2) กดปุ่ม Windows+R สั่งคำสั่ง gpedit.msc ใน Run หรือ Cmd ก็ได้ครับ เลือก Local Computer Policy -> Administrative Templates -> Windows Components จากนั้นเลือก Windows Update -> เลือกหัวข้อ Specify intranet Microsoft update service location เลือก Edit policy setting -> ติก Enabled ตั้งค่าดังนี้Set the intranet update service for detecting updates: EnabledSet the intranet statistics server : https://wsus.psu.ac.thSet the alternate download server : https://wsus.psu.ac.th จากนั้นทำการ Windows Update ตามปกติ Note :* สามารถเลือก Update จากข้างนอกได้ (ในกรณีอยู่นอกมหาวิทยาลัย หรือเชื่อมต่อเครื่อง WSUS ไม่ได้) แค่คลิก Check online for updates from Microsoft Update **  ถ้าต้องการ Update Product อื่น ๆ ของ Microsoft เช่น Microsoft Office ให้เลือก Give me updates for other Microsoft products when I update Windows. ในหน้า Advanced Option *** และถ้าต้อง Update Driver ด้วยก็สามารถเลือกได้ Receive updates for other Microsoft product และ

Read More »