Xamarin.Forms : Binding ข้อมูลด้วย MVVM pattern

“MVVM is the best way to architecture mobile apps” Asfend Yar Hamid ซึ่งเป็น Microsoft MVP developer ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ เค้าคือใครน่ะเหรอ ผู้เขียนรู้จักเค้าผ่าน Udemy (คอร์สเรียนออนไลน์ที่เค้ากำลังฮอต ราคาถูก คุณภาพดี แอบรีวิว 555) ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำการ Binding ข้อมูลของ Xamarin.Form app ด้วย MVVM pattern กันนะคะ MVVM pattern คืออะไร MVVM หรือ Model View ViewModel เป็น design pattern หรือรูปแบบในการวาง architecture ในการเขียน code นั่นเอง โดย Model คือ ส่วนที่เก็บข้อมูลของ Application เรา ตัวอย่างเช่น Entity Class หรือไฟล์ POCO Class ของ object ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจะอยู่ที่ส่วนนี้ View คือ ส่วนที่ติดต่อกับ user ซึ่งเป็นส่วนไว้แสดงหน้า app ของเรานั่นเอง ซึ่งView จะไม่รู้อะไรเลยนอกจากการแสดงผล ส่วน Logic อื่นๆจะอยู่ใน ViewModel ViewModel คือ ส่วนที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทั้งหมดที่ View ต้องการ โดย View จะติดต่อ ViewModel ผ่าน Data-binding ซึ่งหาก View มีการเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลต่อ ViewModel ในทางกลับกันหาก ViewModel มีการเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลถึง View ด้วยเช่นกัน ทำไมต้องใช้ MVVM กับ mobile app ? MVVM ทำให้เราสามารถ separate หรือแยกส่วนการทำงานของ code ออกจากกันได้ชัดเจนตามหน้าที่ของมัน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจัดการ รองรับต่อการเปลี่ยนแปลง เหมาะสำหรับการพัฒนา Application ที่มีการเปลี่ยนแปลง UI บ่อยครั้ง เนื่องจากทุกการเปลี่ยนแปลงในส่วน view จะไม่กระทบต่อ ViewModel ที่เป็น business logic และยังมี Binder ซึ่งเป็นตัวช่วยจัดการการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลใน View หรือใน ViewModel ทำให้ไม่จำเป็นต้องเขียน Code ในการควบคุม View เพื่อให้เปลี่ยนแปลงตาม เริ่มกันเลยดีกว่า เกริ่นไปเยอะแล้ว เรามาลองสร้าง app เพื่อ binding ข้อมูลในรูปแบบ MVVM ดูกันเลยค่ะStep 1 : สร้าง Xamarin.Forms project ขึ้นมาก่อน (วิธีสร้างและเลือก template สามารถอ่านได้จากบทความที่แล้ว => สร้าง Hello World app ง่ายๆด้วย Xamarin.Forms) ซึ่งจะได้ project structure ดังรูป ทีนี้เราจะไม่ไปยุ่งในส่วน specific platform project (Android และ iOS) เราจะมาสร้าง MVVM ที่ share project กัน Step 2 : สร้างโฟลเดอร์ Model, View และ View Model ขึ้นมา ดังรูป Step 3: สร้าง class ชื่อ Employee.cs ลงในโฟลเดอร์ Model โดย code ข้างในมีดังนี้

Read More »

บริหารจัดการ App Passwords บน Office 365

App passwords คือ password ที่จำเป็นต้องใช้บนแอพพลิเคชั่นใดๆ ก็ตามที่ไม่สามารถผ่าน Multi-factor authentication ได้ เช่น Outlook, Lync เป็นต้น เริ่ม…ได้ เข้าระบบที่ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th คลิกที่รูปโปรไฟล์ที่มุมบนขวา (หรือชื่อย่อ หลังปุ่มกระดิ่ง) เลือก My account จะได้ดังรูป คลิก Security & privacy คลิก Additional security verification คลิก Create and manage app passwords จะเปิดหน้าต่างใหม่ ซึ่งสามารถจำหน้านี้ไว้ใน Bookmark ได้เลย https://account.activedirectory.windowsazure.com/AppPasswords.aspx คลิก create ตั้งชื่อที่เราเข้าใจว่าคือ app ไหน คลิก Next จะได้ password สำหรับใช้งานได้ทันที ก็เอาไปใช้ได้เลยแล้วคลิก close จะเห็นว่า password ยาวมาก และเป็นพาสเวิร์ดที่สร้างขึ้นมาครั้งเดียว จำไม่ได้ต้องสร้างใหม่ แล้วของเก่าทิ้งโดยการกด Delete หลัง password ที่ไม่ใช้งาน ชื่อ app เป็นเพียงชื่อที่ใช้สื่อความหมายว่าเอาพาสเวิร์ดไปใช้กับ app อะไรเท่านั้น password สามารถใช้ได้ตราบใดที่ยังไม่ลบออก ถึงแม้จะจำไม่ได้ถ้ากรอกไว้และให้โปรแกรมที่ใช้งาน password นี้จำไว้ก็จะใช้ได้ตลอด จบขอให้สนุก

Read More »

Download and install Office365

ปัจจุบันนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สามารถใช้งาน Office365 ได้แล้ว โดยมีเงื่อนไขดังนี้ PC (Windows) หรือ Macs สามารถติดตั้งรวมกันได้ 5 เครื่อง Tablets ติดตั้งได้ 5 เครื่อง (Android, iPadOS) โทรศัพท์ ติดตั้งได้ 5 เครื่อง (Android, iOS) email account ภายใต้โดเมน @email.psu.ac.th ขนาด 50GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูล One drive ขนาด 5TB สำหรับนักศึกษา สามารถเข้าระบบได้ที่ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th โดย username จะเป็น [รหัสนักศึกษา]@email.psu.ac.th ยกตัวอย่าง เช่น 62111111111@email.psu.ac.th รหัสผ่านคือรหัสเดียวกับ PSU Passport สำหรับบุคลากร ต้องขอเปิดใช้บริการก่อนที่ https://passport.psu.ac.th หลังจากขอเปิดใช้บริการ ต้องรอ 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถใช้งานได้ สามารถเข้าระบบได้ที่ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th โดย Username จะเป็น [log in ของ PSU passport]@email.psu.ac.thยกตัวอย่าง เช่น username.s@email.psu.ac.th รหัสผ่านคือรหัสเดียวกับ PSU Passport เริ่ม…ได้ เปิดเว็บ http://email.psu.ac.th หรือ https://outlook.com/email.psu.ac.th หากเป็นการเข้าระบบครั้งแรก ระบบจะให้ทำการตั้งค่า Multi-factor authentication จะเป็นหน้า Additional security verification หากต้องการความง่ายให้เลือกตามรูป แล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ของเราลงไป คลิก Next แล้วรอรับ SMS (**อาจใช้เวลานานกว่า SMS จะมา) กรอกตัวเลขจาก SMS แล้วกด Next

Read More »

Windows 10, Version 1903, May 2019 Update installation

Windows 10, Version 1903, May 2019 Update เป็นรุ่นปรับปรุงที่ออกเมื่อ พฤษภาคม 2562 การติดตั้งเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยดังนี้ จะพูดถึงการติดตั้งใหม่เท่านั้น ใครจะอัพเดตผ่าน Windows update ก็สามารถอัพเดตได้เลย สำหรับนักศึกษา Windows 10 ที่สามารถติดตั้งได้คือ Windows 10 Education เท่านั้น เนื่องจากหมายเลขผลิตภัณฑ์ (Product key) ที่ได้จาก Microsoft Azure เป็น Windows 10 Education โหลดได้จาก Microsoft Azure และ https://licensing.psu.ac.th/windows-10/ การ activate สามารถทำได้เพียงวิธีเดียวคือใช้ Product key จาก Microsoft Azure เท่านั้น เมื่อติดตั้งจะมีหน้าจอให้เลือกว่าจะติดตั้งรุ่นไหน ก็ให้เลือก Windows 10 Education เท่านั้น สำหรับบุคลากร เลือกติดตั้งได้ 3 รุ่นได้แก่ Windows 10 Education, Windows 10 Pro และ Windows 10 Pro for workstation เท่านั้น รุ่น Enterprise และรุ่นที่มี N ต่อท้ายติดตั้งไม่ได้ การ activate สามารถทำได้ 2 วิธี คือ กดรับ Product key ได้ที่ CD-Key ซึ่งเป็นคีย์กลางของมหาวิทยาลัย ใช้ร่วมกันทั้งมหาวิทยาลัย activate 1 ครั้งนับ 1 ครั้ง ฉะนั้นก่อน activate ควรติดตั้ง Software ตัวอื่น ๆ ให้เสร็จเรียบร้อยจนแน่ใจว่าจะไม่ติดตั้ง Windows ใหม่ในระยะเวลา 6 เดือน activate ผ่าน KMS ของมหาวิทยาลัย วิธีนี้เหมาะสำหรับห้องปฏิการคอมพิวเตอร์ และเครื่องในสำนักงาน ที่เปิดใช้งานทุกวัน (หรืออย่างน้อย 1 ครั้งใน 6 เดือน) และเชื่อมต่อกับเครือข่ายของมหาวิทยาลัยตลอดเวลา เริ่ม…ได้ ดาวน์โหลดแผ่นได้ที่ https://licensing.psu.ac.th/windows-10/ สร้าง flash drive สำหรับบูต (flash drive ต้องมีขนาดอย่างน้อย 8GB) ด้วย Rufus https://rufus.ie/ หรือเขียนแผ่น DVD ให้เรียบร้อย เปิดเครื่องบูตด้วย flash drive หรือ DVD ที่สร้างเตรียมไว้แล้ว

Read More »

เช็คฟอนต์สวย ด้วย WhatFont ~ Extension

อะ แฮ่ม และแล้วก็เดินมาถึง Blog สุดท้ายในรอบ TOR ของปีนี้จนได้ แต่กว่าจะได้ฤกษ์เขียนได้ก็ปาเข้าไปกลางปีกันเลยทีเดียว (55+) มาๆๆ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ต้องบอกว่าหลายครั้งที่เราได้เข้าเว็บไซต์นู้นนั่นนี่ แล้วเห็น font สวยๆ แต่ไม่รู้ว่านั่นน่ะมันคือ font อะไร ชนิดไหน … วันนี้ทางผู้เขียนขอนำเสนอ Chrome Extension (อีกแล้วเหรอ !) ที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง นั่นคือ * WhatFont * WhatFont คืออะไร ??? WhatFont เป็นหนึ่งในส่วนขยายของ Google Chrome ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดูได้ว่า Font ที่ใช้หรือแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซต์ต่างๆ นั้น คือ Font ชนิดอะไร ขนาดเท่าไหร่ และมีค่าสี เป็นอะไร อ๊ะๆ ยังไม่หมดนะ มันสามารถระบุได้แม้กระทั่งความหนา ความบาง ของ Font นั้นๆ กันเลยทีเดียว เพียงแค่เรานำเมาส์ไปวางบนตัวอักษรที่เราต้องการจะดูรายละเอียดเท่านั้นเอง วิธีการติดตั้ง ดาวน์โหลดได้จาก Chrome เว็บสโตร์ คลิก จากนั้นให้คลิกปุ่ม “เพิ่มใน CHROME” หรือ Add to Chrome ระบบจะแสดง pop up ขึ้นมาให้คลิกเลือก “เพิ่มส่วนขยาย” เมื่อเราติดตั้งเรียบร้อยแล้ว หน้าจอก็จะแสดง pop up ขึ้นมาแจ้งให้เราทราบว่าได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับวิธีการใช้งาน ให้เข้าเว็บที่เราต้องการ จากนั้นให้คลิกที่ Icon ที่มุมบนด้านขวาของ Browser ให้นำเมาส์ไปวางไว้บนข้อความ / ตัวอักษร ที่เราต้องการจะรู้ว่าเป็น font อะไร และหากต้องการจะดูรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ขนาด สี ความหนา ความบาง ก็ให้คลิกเลือกบนข้อความดังกล่าว จากนั้นจะมีส่วนแสดงข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาให้เราได้ดูกัน เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ข้อมูลอันนี้นี่พอจะช่วยผู้อ่านได้บ้างมั้ย ?? ยังไงก็แล้วแต่ทางผู้เขียนอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองใช้กันดูนะ ง่ายดี ฟรีด้วย แทนที่เรา จะมานั่งคาดเดา หรือมโน กันเองว่า เอ๊ ! ตัวนี้นี่มันเป็น font อะไรแล้วน๊าา แบบนั้นมันล้าสมัยไปแล้ว เสียเวลาเปล่าๆ ติดตั้งตัวนี้กันเลย ง่าย ครบ จบในตัวเดียว 55+ อย่าลืมลองเล่นกันดูนะ ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ เราจะมาเจอกันอีกใน Blog ถัดๆ ไปเน้ออออ ขอบคุณแหล่งอ้างอิง http://photoloose.com/what-font-chrome-extension/

Read More »