Category: Desktop Computer (PC, linux, windows, mac)

  • How to upgrade Windows 7 to Windows 10

    วิธีอัพเกรด Windows 7 เป็น Windows 10

    โดยปกติ Icon update เป็น Windows 10 จะไม่ปรากฏอยู่บน Taskbar ของ Windows 7 เหมือน Windows 8  ดังนี้หากเรามีความประสงค์จะอัพเกรดจาก Windows 7 ไปเป็น Windows 10 นั้น เราจำเป็นต้องใส่แผ่น DVD  Windows 10 และกดไฟล์ setup ในแผ่น  โดยเราสามารถปฏิบัติการได้ตอนที่เปิดเครื่องอยู่นั่นแหละ ไม่ต้อง restart เครื่องใหม่ โดยเราไม่สามารถจะอัพเกรด Windows ข้ามจาก 32 bit ไปเป็น 64 bit ได้ ถ้าของเดิมเป็น 32 เวลา upgrade ก็ต้องเป็น 32 bit เพราะผมลองใส่แผ่น 64 bit แล้ว ไม่ได้  ซึ่งใช้เวลาประมาณ เกือบชั่วโมง หากเลือกติดตั้งแบบอัพเดทอัตโนมัติ และเครื่องมันจะรีสตาร์ทหลายรอบมาก (เราไม่ต้องทำอะไร) แล้วผลจากการติดตั้งปรากฏว่า โปรแกรมที่ติดตั้งใน Drive C: รวมทั้งไฟล์บนหน้าจอ และใน Document ยังอยู่ครบเหมือนเดิมทุกอย่าง Driver ยังอยู่ครบ แต่ Serial ของพวก Office รวมถึง Windows เอง หายหมดเราต้องใส่ใหม่ครับ

    (ขออภัยที่ไม่มีภาพประกอบนะครับ แต่ทดลองแล้วเมื่อวานได้ผลตามนี้แหละครับ)

    จบปิ้ง.

     

     

  • How to use bitlocker?

    หลังจาก Truecrypt ไม่ปลอดภัย ? คนความลับเยอะจะใช้อะไรเข้ารหัส HDD กันดี ทางเลือกหนึ่งคือใช้ bitlocker ที่มาพร้อมกับ Windows 7/8/8.1/10 (รุ่น Professional, Enterprise, Education, Enterprise LTSB เท่านั้น) และ Windows Server 2008/2008R2/2012/2012R2/(2016?)

    • เพื่อความสะดวกจึงสร้าง Virtual Hard Disk ดังนี้
      • เปิด Disk Management (Start > RUN > diskmgmt.msc)
        rundiskmgmt.msc
      • จะได้ Disk Management
        diskmanagementconsole
      • คลิกที่เมนู Action เลือก Create VHD
        createvhd
      • จะได้หน้าต่าง Create and Attach Virtual Hard Disk
        createandattachvhd
      • เลือกที่เก็บ ขนาดและชนิดได้ตามชอบใจ VHD และ VHDX ต่างกันตามคำอธิบายนะครับ ดังนั้นตามตัวอย่างนี้จะได้ดังรูป
        createvhdx
      • เลือกเรียบร้อยกด OK จะได้ HDD ลูกใหม่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในสถานะ Not Initialize เหมือนเราเอา HDD ลูกใหม่ที่เพิ่งซื้อ (สดๆ :p ) มาเสียบ
        newdiskattach
      • คลิกขวาที่ HDD ลูกใหม่นี้เลือก Initialize Disk
        initializedisk
      • เลือกชนิดพาทิชั่นที่ต้องการว่าจะเป็น MBR หรือ GPT อันนี้ปล่อยตามค่าที่ถูกเลือกไว้แต่แรกเลยก็ได้ อย่าลืมอ่าน Note: ด้านล่างด้วยนะครับ (จะเป็น MBR หรือ GPT ขึ้นอยู่กับว่าลง Windows มาในโหมดไหน UEFI หรือ BIOS)
        initializenewdisk
      • สร้าง Partition ใหม่ ตัวอย่างนี้เลือกเป็น GPT Partition Table จะเรียกเป็น Simple Volume คลิกขวาที่พื้นที่ Unallocated เลือก New Simple Volume…
        newsimplevolume
      • เลือกขนาด Partiton ให้เป็นพื้นที่ทั้งหมดไปเลย แล้วกด Next ไปเรื่อยๆ
        newsimplevolumewizard
      • จนถึงขั้นตอน Format สามารถเลือกได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น FAT32 หรือ NTFS ตามตัวอย่างนี้เลือก NTFS กด Next แล้ว Finish
        format
      • จะได้ HDD ลูกใหม่ที่มี Partition ชื่อ Bitlocker เพิ่มขึ้นมาแล้ว (H:)
        drivebitlocker
      • เปิดดูด้วย Windows Explorer จะเห็น Drive H เพิ่มขึ้นมาแล้ว เป็นอันเสร็จสำหรับการสร้าง Virtual Hard Disk
        windowsexplorer
    • คลิกขวาที่ Drive H เลือก Turn on Bitlocker
      turnonbitlocker
    • จะได้หน้าต่าง Bitlocker Drive Encryption (H:) (ชื่อ Drive อาจต่างไปจากนี้แล้วแต่เครื่องนะครับ)
      bitlockerdriveencryption
    • เลือก Use a password to unlock the drive แล้วตั้ง Password ตามต้องการ กด Next
      passwordcreate
    • จะได้หน้าสำหรับ Backup recovery key เลือกได้เลยว่าจะเก็บไว้ในรูปแบบไหน (ในตัวอย่างเลือก Save to a file ไว้ก่อนเนื่องจากไม่ได้เข้าวินโดวส์ด้วย Microsoft account) เลือกเสร็จแล้วกด Next
      backuprecoverykeyจะได้ TXT file ชื่อขึ้นต้นด้วย BitLocker Recovery Key*.txt ให้เก็บไว้ให้ดีเผื่อกรณีฉุกเฉิน (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ recovery key ได้โดยคลิกที่ What is a recovery key?)
    • คลิก Start encrypting
      startencrypting
    • รอสักครู่เมื่อไปดูที่ Windows Explorer จะเป็นว่ามีรูปแม่กุญแจขึ้นที่ Drive H แล้ว
      bitlockersuceed
    • คลิกขวาที่ Drive H เลือก Eject
      eject
    • Drive H หายไปแล้ว
      nonh
    • ไปยังที่เก็บแฟ้มที่สร้างไว้ ในข้อ ๑ หัวข้อย่อย ๕ (E:\aa.vhdx)
      aa
    • คลิกขวาที่ aa.vhdx เลือก Mount
    • ดูที่ Windows Explorer จะเห็นว่า Drive H ถูกล็อคไว้อยู่
      lock
    • คลิกขวาที่ Drive H เลือก Unlock Drive… จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้นให้ใส่พาสเวิร์ดที่ตั้งไว้
      unlock
      enterpasswordtounlock
    • Unlocked
      bitlockersuceed
    • สามารถใช้ได้เหมือน HDD ปกติ และ HDD ปกติสามารถเปิดใช้ Bitlocker ได้ด้วยวิธีการเดียวกัน โดยไม่ต้องสร้าง Virtual Hard Disk ก็ได้
    • Eject Drive H ทุกครั้งที่งานเสร็จ
    • จบ ขอให้สนุกครับ

    อ้างอิง
    http://truecrypt.sourceforge.net/
    http://www.neowin.net/news/truecrypt-audit-reveals-vulnerabilities-but-no-backdoors

  • Dual Boot Ubuntu 14.04 & Windows 8.1 in UEFI

    • เหตุการณ์สมมติจึงใช้ VirtualBox
    • ตั้งค่า VirtualBox ดังภาพ (ขอข้ามวิธีการสร้างเครื่องใหม่บน VirtualBox ไปเลยนะครับ คิดซะว่าชำนาญแล้ว โดยขนาด HDD ที่ต้องการ 100GB เป็นอย่างน้อย) โดยเลือก option ที่เขียนว่า Enable EFI (special OSes Only) และในช่อง  Boot Order: ให้เลื่อนเป็น Optical แล้วตามด้วย Hard Disk แล้วกด OK
      uefi1
    • เมื่อเปิดเครื่องจะได้หน้าจอดังภาพ แสดงว่า BIOS ของเรากลายเป็น UEFI เรียบร้อยแล้ว
      uefi2
    • เลือกแผ่น Ubuntu 14.04 ให้ต่อเข้ากับ Device
      uefi3
    • reset เครื่อง
      uefi4
    • เลือก *Try Ubuntu without installing
      uefi5
    • รอจนได้ Windows Manager แล้วดับเบิ้ลคลิก Install Ubuntu 14.04.2 LTS บน Desktop เข้าสู่กระบวนการติดตั้ง Ubuntu ปกติทั่วไปสามารถใช้ Next Technology ได้เลยไปเรื่อยๆ จนถึงหน้า Installation type ให้เลือกหัวข้อ Something else แล้วกด Continue
      uefi6
    • คลิก New Partition Table… คลิก Continue จะได้ดังภาพ
      uefi7
    • คลิกคำว่า free space แล้วคลิกเครื่องหมายบวก (+) สร้าง Partition ขนาด 512MB มีชนิดเป็น EFI boot partition (ควรดูด้วยว่าพาทิชั่นที่ได้เมื่อสร้างเสร็จมีขนาด 512MB จริงๆ โดยใน VM ที่สร้างนี้ตอนสร้างใส่ไป 514MB) และกด + เพื่อสร้าง swap ในตัวอย่างกำหนดแรมไว้ 4GB สามารถสร้าง Swap เท่าแรมได้เลย และ / (root ขนาด 50GB) ตามลำดับโดยจะเหลือพื้นที่เปล่าไว้ด้วย
      uefi8
    • ภาพแสดงพาทิชั่นเมื่อสร้างเสร็จแล้ว
      uefi9
    • คลิก Install Now และคลิก Continue ที่เหลือหลังจากนี้สามารถกลับสู่โหมด Next Technology ได้เลยจนจบ
      uefi10
      uefi11
    • สิ้นสุดคลิก Restart Now
      uefi12
    • เอาแผ่นออกแล้วกด Enter (ปกติจะเอาออกให้อัตโนมัติ)
      uefi13
    • ลองบูตดูจนได้หน้า Log In
      uefi14
    • เลือก Devices แล้ว Optical Drives แล้วเลือกแผ่น Windows 8.1
      uefi15
    • คลิกรูปเฟืองที่มุมบนขวา เลือก Shutdown แล้วคลิก Restart
      uefi16
    • เมื่อ VM กำลัง Shutdown ให้สังเกตุดูว่า โลโก้ Ubuntu หายไปให้รีบ ESC ทันทีจะได้ดังภาพ
      uefi17
    • เลื่อน Cursor ลงมาที่ Boot Manager แล้วกด Enter จะได้ดังภาพ
      uefi18
    • เลื่อน Cursor ลงมาที่คำว่า EFI DVD/CDROM แล้วจะมีข้อความว่า Press any key to boot from CD or DVD….
      uefi19
    • เมื่อกดปุ่มใดๆ จะเข้าสู่วินโดวส์เพื่อเริ่มติดตั้ง
      uefi20
    • เมื่อได้หน้าเลือกภาษาให้เลือกดังภาพ แล้วคลิก Next
      uefi21
    • คลิก Install now
      uefi22
    • คลิกเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ I accept the license terms คลิก Next
    • เลือก Custom: Install Windows only (advanced)
      uefi23
    • จะเห็นพื้นที่ดิสก์ที่เราใช้งานอยู่ในตอนนี้จะเห็นว่ามีที่เหลืออยู่ 48GB ที่เป็น Unallocated Space (และถูกเลือกโดยอัตโนมัติไว้อยู่แล้ว) ในตัวอย่างนี้เราจะสร้างเพียงไดรฟ์ซีเพียงอย่างเดียวให้คลิก Next
      uefi24
    • เข้าสู่การติดตั้ง Windows รอไปจนเสร็จ…
      uefi25
    • เมื่อติดตั้ง Windows  เสร็จแล้วจะถูกบังคับเข้าวินโดวส์ทันที Ubuntu หายไปแล้ว… เพราะ Boot Manager ของ Ubuntu ถูกเขียนทับไปนั่นเอง ให้ตั้งค่า Windows ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วชัตดาวน์เครื่อง เลือก Devices แล้วเลือก Optical Drives เลือกแผ่น Ubuntu อีกครั้ง เมื่อได้ Menu ให้เลือก *Try Ubuntu without installing
      uefi26
    • เมื่อได้หน้า Windows Manager กด Ctrl+alt+T พิมพ์ข้อความดังนี้  และในขั้นตอนนี้ต้องแน่ใจว่าเครื่องเชื่อมต่อ Internet ได้เรียบร้อยแล้ว
      sudo add-apt-repository ppa:yannubuntu/boot-repair
      sudo apt-get update
      sudo apt-get install -y boot-repair
    • แล้วต่อด้วยคำสั่ง sudo boot-repair จะได้ดังภาพ
      uefi27
    • คลิกที่ Recommended repair จะได้ดังภาพ ให้รอไปจนเสร็จ
      uefi28
    • เมื่อได้หน้าจอดังภาพกด OK แล้วสั่งรีบูตได้เลยuefi29
    • เมื่อบูตขึ้นมาจะได้หน้าเมนูที่คุ้นเคยสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าอะไร
      uefi30
    • จบขอให้สนุกครับ

    อ้างอิงเพิ่มเติม

    https://help.ubuntu.com/community/Boot-Repair

  • วิดีโอแนะนำการติดตั้ง PSU12-Sritrang Server โปรแกรมสำหรับการจัดการห้องบริการคอมพิวเตอร์ (cloning & control PC)

    วิดีโอแนะนำการติดตั้ง PSU12-Sritrang Server โปรแกรมสำหรับการจัดการห้องบริการคอมพิวเตอร์ (cloning & control PC)
    โดย  Wiboon Warasittichai on youtube

    01 PSU12-sritrang install (ตอนที่ 1 วิธีติดตั้ง)
    PSU12-sritrang-t01
    https://youtu.be/GAhZhGCciY0

    02 PSU12-sritrang cloning (ตอนที่ 2 วิธีโคลนนิ่งฮาร์ดดิสก์)
    PSU12-sritrang-t02
    https://youtu.be/CegdT_LtE4k

    03 PSU12-sritrang features (ตอนที่ 3 คุณสมบัติของแต่ละเมนู)
    PSU12-sritrang-t03
    https://youtu.be/Dw_wAyMa3vA

    04 PSU12-sritrang control (ตอนที่ 4 การควบคุมเครื่องวินโดวส์ send, restart, shutdown, wakeonlan)
    PSU12-sritrang-t04
    https://youtu.be/o801BZ9ye0Y

    05 PSU12-sritrang prnews (ตอนที่ 5 ประชาสัมพันธ์ข่าวด้วยภาพ เมื่อ boot from network)
    PSU12-sritrang-t05
    https://youtu.be/FA2X182oKXo

    06 PSU12-sritrang windows master (ตอนที่ 6 เตรียมวินโดวส์ต้นฉบับที่ติดตั้ง cygwin)
    PSU12-sritrang-t06
    https://youtu.be/9XkLQQ-niz4

    07 PSU12-sritrang windows computer name (ตอนที่ 7 เปลี่ยนชื่อเครื่อง)
    PSU12-sritrang-t07
    https://youtu.be/TuW8_Z2U7V4

    08 PSU12-sritrang windows pgina freeradius (ตอนที่ 8 ตั้ง login ใช้ RADIUS server)
    PSU12-sritrang-t08
    https://youtu.be/58Pw-dbxljw

    09 PSU12-sritrang windows partitions (ตอนที่ 9 เตรียมฮาร์ดดิสก์ของวินโดวส์ต้นฉบับ)
    PSU12-sritrang-t09
    https://youtu.be/jP4oSqRNvCo

    10 PSU12-sritrang linuxmint master (ตอนที่ 10 เตรียมลินุกซ์มินท์ต้นฉบับ)
    PSU12-sritrang-t10
    https://youtu.be/zpR0UQbTy_U

    11 PSU12-sritrang control linuxmint (ตอนที่ 11 การควบคุมเครื่องลินุกซ์มินท์)
    PSU12-sritrang-t11
    https://youtu.be/bVtfc4x-kKU

    12 PSU12-sritrang server backup (ตอนที่ 12 สำเนาไฟล์เก็บไว้)
    PSU12-sritrang-t12
    https://youtu.be/dA7-pWjy35I

    และมีเอกสารแนะนำอยู่ที่ http://opensource.psu.ac.th/PSU-Open-server

  • iTALC 2.0.2 โปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน

    italc-installation-2-window
    มาแนะนำกันอีกสักรอบสำหรับ iTALC 2.0.2 โปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน เป็นซอฟต์แวร์ชนิดโอเพนซอร์สที่บางคนก็ได้ลองใช้ในเวอร์ชั่นแรก ๆ ไปบ้างแล้ว ผมลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ผู้สร้างโปรแกรมก็เห็นว่ายังคงอัปเดตปรับปรุงโปรแกรมกันอยู่ถึงปัจจุบัน ก็เลยสนใจลองทดสอบดูครับ

    iTALC ทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น ผู้สอนสามารถ Lock หน้าจอเครื่องผู้เรียน สามารถส่งภาพหน้าจอเครื่องผู้สอนไปยังหน้าจอเครื่องผู้เรียนได้ สามารถรีโมทคอนโทรลเข้าไปเครื่องผู้เรียนได้ สั่งปิดเครื่องทุกเครื่องได้ หรือ สั่งเปิดเครื่องได้หาก BIOS พร้อมใช้งาน

    ดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่ http://italc.sourceforge.net/
    italc-installation-1-file

    ติดตั้งเสร็จจะได้ไอคอนที่หน้า Desktop ดังรูป
    italc-installed-desktop-window
    และไอคอนที่หน้า Apps ดังรูป
    italc-installed-apps-window
    โปรแกรม iTALC Management Console
    italc-management-4-export-key-1-window
    เครื่องผู้สอน จะเรียกว่า master computer ในขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรมที่เครื่องผู้สอน ให้เลือก component iTALC service และ iTALC master และให้เลือก Create new access keys
    italc-installation-3-choose-window
    เครื่องผู้เรียน จะเรียกว่า client computer ในขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรมที่เครื่องผู้เรียน ให้เลือก component iTALC service แต่ไม่เลือก iTALC master และให้เลือก Import public key
    italc-management-4-export-key-2-window

    วิธีที่จะทำให้เครื่องผู้สอนควบคุมเครื่องผู้เรียนได้ก็คือการ export public key ซึ่งจะได้ไฟล์ชื่อ italc_public_key.key.txt ด้วยโปรแกรม iTALC Management Console นั้นเช่นกัน
    italc-management-4-export-key-4-window
    แล้วนำไปใส่เข้าในเครื่องผู้เรียนด้วยโปรแกรมเดียวกัน
    italc-management-import-key-3-window
    เมื่อทำขั้นตอนติดตั้งเสร็จแล้ว ก็เป็นการตั้ง classroom ว่าชื่ออะไร และมีคอมพิวเตอร์ใดบ้าง (IP) อยู่ใน classroom นี้ แล้วก็ใช้งานซึ่งการใช้งานง่ายมากเลย
    italc-setting-classroom-finished

    ผมเขียนวิธีการสำหรับ Windows 8.1 ที่นี่ครับ
    http://opensource.cc.psu.ac.th/โปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน

    และวิธีการสำหรับ Linux Mint 17.1 ที่นี่ครับ
    http://opensource.cc.psu.ac.th/ติดตั้ง_iTALC_บน_Linux_Mint

    คำถามยอดฮิตคือ แล้วมันใช้ควบคุมได้กี่เครื่อง อันนี้ผมยังไม่ได้ทดสอบครับ ฮ่า ฮ่า รอท่านทดสอบแล้วบอกผมด้วยนะครับ

    หวังว่าคงจะมีประโยชน์ อย่างน้อยที่สุดเอามาใช้ควบคุมเครื่องที่อยู่ในความดูแลไม่กี่เครื่องก็ใช้ได้นะ

  • How to: PSU OpenVPN Ubuntu 14.04/15.04/15.10/Linux Mint 17/17.1/17.2

    • ติดตั้ง net-workmanager-openvpn

    Screenshot from 2014-06-24 10:53:42

    • คลิก Ubuntu Button แล้วพิมพ์ netw เลือก Network Connections

    Screenshot from 2014-06-24 11:15:39

    • ได้ดังภาพ คลิก Add

    Network Connections_002

    • ได้ดังภาพ

    Screenshot from 2014-06-24 09:58:04

    • เลือก OpenVPN แล้วคลิก Create…

    Screenshot from 2014-06-24 10:00:06

    Screenshot from 2014-06-24 10:11:33

    • คลิก Advanced เลือกดัังภาพ

    Screenshot from 2014-06-24 13:34:37

    • กด OK ออกมาแล้วคลิกที่ IPv4 Settings ตั้งค่าตามภาพ

    Screenshot from 2014-06-24 10:21:34

    • คลิก IPv6 Settings ตั้งค่าตามภาพ

    Screenshot from 2014-06-24 13:43:54

    • กลับมาแท็บ VPN คลิก Save… ได้ดังภาพ คลิก Close

    Screenshot from 2014-06-24 10:11:58

    • เหลือบมองมุมขวาบนจะมีรูปภาพ Screenshot from 2014-06-24 13:46:19 หรือ Screenshot from 2014-06-24 14:11:36 ให้คลิกที่รูปนี้แล้วเลือก VPN Connection -> PSU

    Screenshot from 2014-06-24 13:48:27

    • รอจนมีข้อความดังภาพปรากฎที่มุมบนขวา เป็นอันเสร็จ

    Screenshot from 2014-06-24 13:54:27สำหรับ Linux Mint 17

    • ติดตั้ง network-manager-openvpn-gnome แทน นอกนั้นเหมือนกัน

    เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถคลายแฟ้ม vpn_package_for_all_xp-vista-7.exe ได้ต้องติดตั้งโปแกรมเหล่านี้เพิ่มเติม p7zip-rar, p7zip-full, unace, unrar, zip, unzip, sharutils, rar, uudeview mpack, arj, cabextract, file-roller โดยพิมพ์คำสั่ง

    sudo apt-get install p7zip-rar p7zip-full unace unrar zip unzip sharutils rar uudeview mpack arj cabextract file-roller

    จบจริงๆ … ขอให้สนุกครับ

  • วิธีแก้ปัญหา windows 8.1 กับ Powerpoint 2013 ที่มีความสามารถ Presenter View แล้วภาพสั่น

    วิธีแก้ปัญหา windows 8.1 กับ Powerpoint 2013 ที่มีความสามารถ Presenter View ซึ่งทำให้ผู้บรรยายสามารถ รู้ว่า สไลด์ต่อไปเป็นภาพอะไร และมี Note ต่างๆ แถมยังสามารถ เลือก Slide ที่จะ show เบื้องหลัง ก่อนจะแสดงให้ผู้ชมเห็นทาง Projector ได้ด้วย

    หน้าจอ Presenter View จะเป็นประมาณนี้
    presentation-view

    ปัญหา: เราเอา Notebook ไปต่อกับ Projector แล้วทำเป็นแบบ Duplicate ตอนแสดง Desktop ก็เห็นสวยงามดี ไม่สั่น แต่พอเปิด Powerpoint 2013 แล้ว กด F5 เพื่อ Present ก็พบว่า ภาพบน Projector สั่น หรือได้สัดส่วนไม่พอดี

    เหตุ: Presenter View นั้น จะแอบสลับไปใช้ Secondary Screen Resolution นั่นเอง ถ้า ใครเคยตั้งไว้สูงลิ่ว เช่น 1920×1080 เพราะ ที่โต๊ะมี 2 จอ ให้ใช้ ก็จะทำให้เวลา Present เกิดอาการภาพสั่น

    วิธีแก้ไข: ให้ปรับ Resolution ของ Secondary Screen ให้เป็นแบบเดียวกับ Primary Screen ที่ดีอยู่แล้ว เช่น เป็น 1366×768 เท่ากัน

    solution

    แล้วจะทำให้การ Present ด้วย Powerpoint 2013 แบบ Presenter View ราบรื่น

    หรือถ้าจะให้ง่าย คือใช้เป็นแบบ Primary Screen อย่างเดียว โดย

    1. ไปที่ Presentation
    2. เลือก Primary Screen
    3. Uncheck “Use Presenter View”

    ดังภาพ

    powerpoint-presentation-setting

  • การเพิ่ม Wireless Profile PSU WiFi (802.1x) บน Windows 8/8.1

    “บทความนี้ไม่ใช่บนความใหม่ แค่เป็นวิธีลงบน Windows 8/8.1 เท่านั้นนะครับ ใครชำนาญแล้วให้ข้ามไปได้เลยครับ”

    ทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ

    1. เปิดหน้า Network and Sharing Center เลือก Set up a new connection or network2013-12-10_132923

    2. เลือก Manually connection to a wireless network2013-12-10_133122

    3. ให้ตั้งค่าดังรูป
    2013-12-10_133236
    *ขอแนะนำให้ใส่ชื่อ Network name ตัวเล็กตัวใหญ่แป๊ะ ๆ นะครับ มีวรรค 1 วรรคหน้า ( ด้วยนะครับ

    4. หลังจากนั้นให้เลือก Change connection settings
    2013-12-10_133259
    *ถ้ามันบอกว่ามีอยู่แล้วให้ลบ profile ทิ้ง วิธีลบด้วย command line อ่านบทความได้ที่นี่ครับ
    (http://sysadmin.psu.ac.th/2013/12/10/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-wireless-profile-%E0%B8%9A%E0%B8%99-windows-88-1-%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99-command-line/)

    5. เลือก Tab Security จากนั้นเลือกหัวข้อ Settings2013-12-10_133352

    6. ให้ ติก Verify the server…. ออก จากนั้นกด OK
    2013-12-10_133440

    7. จากนั้นเลือก Advance Settings ต่อ
    2013-12-10_133527

    8. ให้ติกในส่วนของ Specify authentication mode : และเลือกให้ authen แบบ User authentication ในกรณีที่เป็นเครื่องส่วนตัวสามารถเลือก Save credentials (Save Username Password) จะได้ไม่ต้องกรอกทุกครั้งที่ต่อครับ 
    2013-12-10_133646
    * ในการ Save credentials ในกรณีเปลี่ยนรหัสผ่านต้องมาเปลี่ยนที่นี่ด้วยครับไม่งั้น Windows จะ authen ผิดถี่จนระบบ PSU Passport ทำการ lock account ของท่านครับ (ระบบจะปลด lock อัตโนมัติหลังจากหยุด login จากทุกระบบ 20-30 นาทีโดยประมาณ)

    9. หน้าจอสำหรับ Save credentials
    2013-12-10_133747

    10. เป็นอันเสร็จ ปิดหน้าต่างที่เปิดไว้ให้หมดครับ แล้วลองกลับไปเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งก็จะขึ้นหน้าให้ Login ดังรูปครับ ถ้าหน้าตาต่างจากนี้แสดงว่า Set ผิดครับ
    2013-12-10_134049