การติดตั้งเว็บไซต์ ที่พัฒนาด้วย ASP.NET บน IIS
สำหรับนักพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน ที่จะต้องทำหน้าที่ครบวงจร (Full Stack Programer) สิ่งที่ต้องทำหลังจากพัฒนาเว็บขึ้นมาเสร็จแล้ว คือการติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ (Deploy) ในบทความนี้จะเล่าขั้นตอนหลักๆ ในการติดตั้งเว็บไซต์ ที่พัฒนาด้วย ASP.NET (ไม่ว่าจะพัฒนาด้วย .Net Framework เวอร์ชันไหนก็ขั้นตอนเดียวกัน เปลี่ยนแปลงแค่ .Net Runtime ที่ใช้งาน) บนวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ โดยใช้ IIS (Internet Information Services) ซึ่งหน้าตาอาจเปลี่ยนแปลงไปตามเวอร์ชันของ IIS แต่ขั้นตอนการตั้งค่ายังคงคล้ายคลึงกัน Publish เว็บไซต์ (กรณีใช้ Visual Studio) 1.คลิกขวาที่ชื่อโปรเจ็ค เลือก Publish 2.จะได้หน้าจอเลือกประเภทในบทความนี้เลือกเป็น Folder เพื่อใช้วิธีการ Deploy แบบนำไฟล์ไปวางที่ Server เอง ดังรูป 3. เลือกที่ตั้งไฟล์ กด Finish 4. ตั้งค่าการ Publish จากในรูปคือให้ลบไฟล์ที่มีอยู่ก่อน และใช้รูปแบบ Release ในการ Compile 5. ตัวอย่างไฟล์ที่ทำการ Publish เสร็จแล้ว 6. ทำการ Copy ไฟล์ทั้งหมดไปวางใน wwwroot บน Server ติดตั้ง Component ต่างๆ 1.ในบทความนี้ใช้ Windows Server 2016 Datacenter เป็นตัวอย่าง ซึ่งการติดตั้ง Component ต่างๆ สามารถทำได้ผ่าน Server Manager > Manage > Add Roles and Features ได้เกือบทั้งหมด ยกเว้น Runtime อื่นๆที่เว็บไซต์มีการนำมาใช้งานเพิ่มเติม 2. ติดตั้ง IIS , ASP.NET และ Component ที่เกี่ยวข้อง โดยไปที่ Server Role > Web Server (IIS) และทำการเลือก Component ต่างๆดังรูป จากนั้นกด Next 3. ติดตั้ง .Net Framework เวอร์ชันที่เว็บไซต์ใช้งาน ในตัวอย่างใช้ .Net Framework 4.6 โดยสามารถเลือกจาก เมนู Features ดังรูป 4. เท่านี้ก็จะมี Component ที่จำเป็นในการติดตั้งเว็บไซต์ที่พัฒนาด้วย ASP.NET แล้ว สร้าง และตั้งค่า Application Pool 1.เปิดโปรแกรม IIS โดยไปที่ Start > Windows Administrative Tools > Internet information Services (IIS) จะได้หน้าจอดังรูป 2. เลือกเมนู Application Pool จากนั้นคลิก Add Application Pool จะได้หน้าจอการตั้งค่าดังรูป โดยที่ .Net CLR Version จะแยกเป็น 2.0.xxx และ 4.0.xxx โดยหากต้องการใช้งาน .Net Runtime 3.5 – 4.x สามารถเลือกเป็น 4.0.x ได้ทั้งหมด 3. เมื่อสร้างสำเร็จ จะมีรายการ Application Pool ที่เราสร้างดังรูป สร้าง และตั้งค่าเว็บไซต์ ทดสอบเรียกใช้งาน 1.ในการสร้างไซต์นั้น หากบน Server นั้นยังไม่มีเว็บไซต์ใดๆ สามารถใช้ Default Web Site ได้เลย แต่ถ้ามีเว็บไซต์อื่นๆอยู่ก่อนแล้ว จะต้องพิจารณาว่าจะให้บริการในแบบใด เป็น Application ที่อยู่ภายใต้เว็บไซต์เดิม