Category: chrome

  • How to InPrivate/Incognito Edge and Chrome by default

    • เหมาะสำหรับเครื่องในห้องปฎิบัติการ จะได้ไม่ต้องลบค่าบางอย่าง เช่น MS Teams ล็อคอินค้าง, อีเมลล็อคอินค้างไว้
    • เริ่ม
    • คลิกขวา properties ที่ shortcut ของ edge หรือ chrome
    • คลิกที่แท็บ shortcut ในช่อง target สำหรับ Microsoft Edge เพิ่ม -inprivate ต่อท้ายสุด แล้วคลิก Ok ดังภาพ
    • สำหรับ Google Chrome เพิ่ม -incognito ต่อท้ายสุด ดังภาพ
    • ทดสอบเปิด
    • สำหรับ Firefox จะสร้าง shortcut สำหรับเข้า Private browsing ไว้อยู่แล้วไม่ต้องดัดแปลงอะไร
    • ต้องแก้ shortcut ทุกที่หากอยากให้เป็นเหมือนกันทุก shortcut
    • จบขอให้สนุก
  • Google Chrome Update to 108.0.5359.95

    ปรับปรุงความปลอดภัย Google Chrome โดย
    To update Chrome, head to Settings → About Chrome → Wait for the download of the latest version to finish → Restart the program.

    2Dec2022@ Update เป็นรุ่น 108.0.5359.95 ปรับปรุงความปลอดภัย ระดับสูง 1 รายการ
    [$NA][1394403] High CVE-2022-4262: Type Confusion in V8

    อ้างอิงจาก
    Google Chrome Update to 108.0.5359.95
    2Dec2022
    https://chromereleases.googleblog.com/2022/12/stable-channel-update-for-desktop.html

    ข่าวเก่า
    https://sysadmin.psu.ac.th/2022/11/28/google-chrome-update-to-107-0-5304-122/

  • Google Chrome Update to 108.0.5359.72


    30Nov2022@0919 Update เป็นรุ่น 108.0.5359.72 ด้วยระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ปรับปรุงความปลอดภัย 28 รายการ

    https://chromereleases.googleblog.com/2022/11/stable-channel-update-for-desktop_29.html

    28Nov2022@0936 ผมได้โพสข้อความข้างล่าง
    แจ้งเตือนผู้ใช้ Google Chrome Web Browser บน Windows, Linux และ Mac ให้ Update เป็นรุ่น
    107.0.5304.122 เพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ตามรายละเอียด

    To update Chrome, head to Settings → About Chrome → Wait for the download of the latest version to finish → Restart the program.

    27Nov2022
    https://www.channelnewsasia.com/singapore/google-chrome-update-singcert-zero-day-vulnerability-3103136

    25Nov2022
    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-pushes-emergency-chrome-update-to-fix-8th-zero-day-in-2022/

    24Nov2022
    https://chromereleases.googleblog.com/2022/11/stable-channel-update-for-desktop_24.html

    ฉบับข้อความแปลเป็นภาษาไทยแล้วโดย สกมช. https://webboard.nsoc.ncsa.or.th/category/12/cyber-security-news

  • คูล ๆ รู้ค่าสีด้วย ColorPick Eyedropper

    วันนี้เราจะมารู้จักและใช้งานส่วนขยายของบราวเซอร์เพิ่มกันอีกซักตัวนะคะ โดยส่วนขยายที่จะมานำเสนอในวันนี้นั้น เป็นส่วนขยายที่จะช่วยให้สายออกแบบ/กราฟฟิก สวย ๆ คูล ๆ อย่างพวกคุณ รู้ได้อย่างง่ายดายเลยว่าสีที่สนใจบนเว็บนั้น มีค่าสีอะไร

    เพียงแค่ชี้ไปบริเวณที่ต้องการ ค่าสีก็จะโผล่ขึ้นมาให้ทราบเลยค่า โดยระบบสีได้ที่มาจะเป็นแบบ RGB นะคะ ซึ่งเป็นระบบสีที่เค้าศึกษากันมาแล้วว่าเหมาะสมกับการใช้แสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และสื่อดิจิตอลต่าง ๆ ค่ะ

    RGB คืออะไร RGB ย่อมาจากสีพื้นฐาน ได้แก่ สีแดง (Red) เขียว (Green) และน้ำเงิน (Blue)  พอผสมสีทั้งสามในสัดส่วนต่างๆ จะได้เฉดสีอีกมากมายที่มีความสวยสดใสบนหน้าจอถึงประมาณ 16.8 ล้านเฉดกันเลยทีเดียว

    อ่ะ ไปติดตั้ง ColorPick Eyedropper ให้กับ Google Chrome ของเรากันดีกว่าค่ะ ซึ่ง Blog นี้ขอรวบรัดวิธีการติดตั้งกันเลยนะคะ

    ไปที่ https://chrome.google.com/webstore/detail/colorpick-eyedropper/ohcpnigalekghcmgcdcenkpelffpdolg แล้วกดปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” ค่ะ เท่านี้ ต้าวก้อนสี โผล่ขึ้นมาแบบนี้ก็เป็นอันติดตั้งเรียบร้อยแล้วละค่า

    วิธีการใช้งาน ก็คลิกบน ต้าวก้อนนนสี แล้วก็ นำเมาส์ไปจิ้มตรงบริเวณที่ต้องการ เท่านี้ ค่าสีก็จะโผล่มาให้เราทราบค่ะ

    ขอบคุณความรู้ดีดีจาก :
    https://www.octopus.co.th/blogs/how-to/rgb-vs-cmyk
    https://www.nupress.grad.nu.ac.th/cmyk-and-rgb/

  • บันทึกภาพจากเว็บไปยัง Google Drive ของเราโดยตรง ด้วยส่วนขยาย “Save to Google Drive”

    วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำส่วนขยายของบราวเซอร์ (Extension) ที่น่าใช้กันอีกซักตัวนะคะ นั่นก็คือ “Save to Google Drive” ซึ่งเป็นส่วนขยายที่จะช่วยให้เราสามารถบันทึกภาพที่มีอยู่บนเว็บไซต์ต่างๆ ที่เราต้องการไปยัง Google Drive ของเราโดยตรงได้ทันทีค่ะ

    เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ เพิ่มส่วนขยายนี้ให้กับ Google Chrome ของเรากันก่อน กด URL นี้ https://chrome.google.com/webstore/detail/save-to-google-drive/gmbmikajjgmnabiglmofipeabaddhgne?hl=th แล้วกดปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” ค่ะ

    รอจนติดตั้งเรียบร้อย ก็จะพบ ICON นี้โผล่ขึ้นมา ซึ่งการเพิ่มส่วนขยาย Save to Google Drive ให้กับ Chrome ของเราก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมใช้งานแล้วละค่า

    าใช้งานกันค่ะ

    เพียงแค่คลิกขวาบนภาพที่เราต้องการบันทึกไปยัง Google Drive แล้วเลือก “บันทึกภาพไปที่ Google ไดรฟ์” เท่านี้ภาพที่เราต้องการก็จะจัดเก็บลงไปยัง Google Drive ของเราค่ะ (เข้าใช้งานบัญชี Google ไว้แล้ว)

    โดยเริ่มต้นภาพนั้นจะถูกบันทึกไปยัง “ไดรฟ์ของฉัน” นะคะ

    แต่หากเราต้องการจัดเก็บไปยังโฟลเดอร์อื่นบน Google Drive ก็ให้สร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการให้เรียบร้อยก่อนค่ะ
    โดยการเปลี่ยนโฟลเดอร์ปลายทางที่เราจะเก็บภาพนั้น ก็ให้กด (เปลี่ยน) ในกล่องบันทึกไปยัง Google Drive ซึ่งจะมีหน้าจอให้เราตั้งค่าต่างๆ ขึ้นมาให้ ให้คลิกที่ “เปลี่ยนโฟลเดอร์ปลายทาง” นะคะ

    ก็จะมีหน้าจอให้เราเลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่เราต้องการบันทึกภาพ ให้เราเลือกโฟลเดอร์บน Google Drive ที่เราได้สร้างไว้แล้ว และต้องการจัดเก็บภาพ แล้วกดปุ่ม “Select” ได้เลยค่ะ

    สำหรับครั้งต่อๆไป การบันทึกภาพก็ไม่ต้องเลือกโฟลเดอร์ใหม่แล้วนะคะ จะตั้งต้นโฟลเดอร์ที่เราเลือกไว้ให้เลยค่ะ (ยกเว้นว่า อยากจะเก็บโฟลเดอร์อื่น ก็ต้องเปลี่ยนกันใหม่ค่ะ)

    ส่วนใครที่ต้องการแก้ไขชื่อไฟล์ ให้คลิก “เปลี่ยนชื่อ” แล้วแก้ไขชื่อไฟล์ กดปุ่ม “ใช้” ได้เลยนะคะ ชื่อไฟล์ก็จะถูกเปลี่ยนให้เราตามที่ต้องการค่ะ

    เท่านี้ไฟล์ภาพที่เราต้องการก็ถูกบันทึกด้วยชื่อ และไปยังโฟลเดอร์บน Google Drvie ที่เราต้องการค่า

    เป็นไงกันบ้างค่ะ ผู้เขียนคิดว่าเป็นส่วนขยายที่ดีงามมากเลยทีเดียว

    https://chrome.google.com/webstore/detail/save-to-google-drive/gmbmikajjgmnabiglmofipeabaddhgne?hl=en

  • Chrome ~ Live Caption

    กราบสวัสดีคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านนนน … blog วันนี้ ผู้เขียนจะขอว่าด้วยเรื่องของ Google Chrome Live Caption !!

    คาดว่าหลายๆ ท่านอาจจะเคยเจอปัญหาเช่นเดียวกับผู้เขียน เช่น เมื่อเราต้องการดูข้อมูลวิธีการอะไรสักอย่างนึง เราก็จะ Search google เพื่อหาข้อมูล บ่อยครั้งที่ข้อมูลที่เราได้จะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอ ซึ่งมีผู้รู้หลายๆ ท่านมาแชร์เอาไว้

    และก็บ่อยครั้งอีกเช่นเดียวกัน ที่ความรู้เหล่านั้นอยู่ในรูปแบบภาษาอังกฤษ (ซึ่งทักษะภาษาอังกฤษของผู้เขียนก็ … นะ T T)

    ปัญหาของผู้เขียนก็คือ ฟังไม่ทัน ฟังไม่เข้าใจ เค้าพูดอะไร !! 55+ ดังนั้นผู้เขียนจึงหาข้อมูล หาวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยให้ตัวเองสามารถเข้าใจในข้อมูลเหล่านั้นได้เพิ่มมากขึ้น ในระยะเวลาที่จำกัด ค้นไปค้นมา นั่นแน่ … ก็มาเจอกับ Feature ใหม่ของ Google Chrome

    ที่มีชื่อว่า Live Caption นั่นเอง

    Live Caption บน Google Chrome แปลง่ายๆ เลยก็คือ มันจะช่วยขึ้น Subtitle ให้เราสามารถอ่านตามไปได้ และสามารถใช้งานได้ดีกับวิดีโอบน youtube หรือแม้กระทั่ง Podcast (แต่ปัจจุบันยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษ เท่านั้นนะ)

    คำถามถัดมา แล้วเราจะทำยังไงให้ Google Chrome ของเรา แสดง Live Caption ได้ละ … ไป ไปเริ่มตั้งค่ากันเลย

    step 1 : เปิด Browser google chrome ขึ้นมาก่อน จากนั้นไปที่จุด 3 จุด มุมขวาบนของ Browser —> เลือก Settings

    step 2 : เลือกเมนู Advance

    step 3 : เลือก Accessibility

    step 4 : สุดท้ายเลือก on คำสั่ง live caption ตามในรูปเล้ยยยย

    เมื่อเราตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาดูผลลัพธ์กัน ว่าจะเป็นยังไง หน้าตาที่ได้ก็ประมาณตามวิดีโอตัวอย่างด้านล่างนี้นะ

    จริงๆ แล้วจากที่หาข้อมูลพบว่า Feature Live Caption ตัวนี้เนี่ย เค้าออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้มีปัญหาทางการได้ยิน แต่เอาจริงๆ นะ ผู้เขียนมองว่ามันมีประโยชน์ไม่น้อยเลยกับคนทั่วไป ถึงแม้ตอนนี้จะยังคงรองรับเพียงแค่ภาษาอังกฤษ แต่นั่นผู้เขียนก็มองว่ามันดีมากๆ แล้ว แถมยังสามารถใช้ได้ทั้งการดูวิดีโอแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์ เลยด้วย ดีมากจริงๆ

    ยังไงก็แล้วแต่ ผู้เขียนก็หวังเหมือนเดิมอีกเช่นเคย หวังว่า blog นี้จะยังคงมีประโยชน์กับหลายๆ คน ไม่มากก็น้อย แนะนำให้ลองไปใช้กันดูนะทุกคน

    ขอบคุณแหล่งที่มา : ข่าวไอทีใน https://www.techhub.in.th/ ไว้น่ะที่นี้แง๊บบบบ

  • Remote ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นด้วย Chrome Browser

    การใช้งานเทคโนโลยีการทำงานระยะไกลหรือการ remote จากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่อง นับว่ามีความจำเป็นเพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน ซึ่งตัวระบบปฏิบัติการเองก็มีเครื่องมือรองรับ เช่น ใน Windows จะมี Remote Desktop นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่รองรับการทำงานลักษณะนี้ เช่น TeamViewer หรือ AnyDesk ซึ่งบางซอฟต์แวร์หากใช้งานในลักษณะฟรี ก็อาจจะมีข้อจำกัดในการใช้งานบ้าง ดังนั้นในบทความนี้จะนำเสนอการใช้งาน remote ผ่าน chrome browser ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรี และค่อนข้างจะรองรับการทำงานทั่ว ๆ ไปได้ โดยไม่จำกัดเรื่องการเข้าใช้งาน (บางซอฟต์แวร์อาจจะมีการจำกัดจำนวนครั้งในการใช้งานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เป็นต้น)

    เตรียมการเบื้องต้นก่อนการใช้งาน

    1. ติดตั้ง chrome browser ทั้งฝั่งเครื่องต้นทางและฝั่งเครื่องปลายทาง
    2. เตรียมบัญชีผู้ใช้งานสำหรับ google หรือ google account เพื่อใช้สำหรับ remote

    ขั้นตอนการติดตั้งและตั้งค่า Extensions “Chrome Remote Desktop”

    1. การใช้งาน remote ผ่าน chrome browser นั้น อันดับแรกจะต้องทำการติดตั้ง Extensions เพิ่มก่อน ซึ่งก็คือ Chrome Remote Desktop ซึ่งช่องทางการดาวน์โหลดสามารถทำได้จากเมนูที่อยู่ในหน้าจอ chrome ได้เลยดังรูป โดยการกดที่เมนู Apps

    ถ้าไม่เจอเมนู Apps ให้ไปที่เมนู Bookmarks และเลือก Show bookmark bar ดังรูป

    จะปรากฏแถบว่าง ๆ ใต้ช่อง URL ซึ่งแถบนี้ก็คือ bookmark bar นั่นเอง

    คลิกขวาที่ bookmark bar จากนั้นเลือกเมนู Show apps shortcut

    เมื่อกดเลือกเมนู Apps แล้ว ในหน้าจอ chrome จะปรากฏรายการดังนี้

    เลือก Web Store เพื่อเข้าไปดาวน์โหลด Chrome Remote Desktop

    2. ในช่อง Search the store พิมพ์ chrome remote desktop เพื่อค้นหา

    กดเลือก Chrome Remote Desktop จะเข้าสู่หน้าจอการติดตั้ง extension นี้เพิ่มเติมให้กับ chrome browser

    เมื่อกดปุ่ม Add to Chrome จะมีกล่องข้อความถามเพื่อยืนยันการติดตั้ง ให้กดปุ่ม Add extension เพื่อยืนยัน

    เมื่อติดตั้งสำเร็จจะมีข้อความแจ้งดังรูป

    สังเกตว่าหลังช่อง URL จะปรากฏไอคอน

    ซึ่งมีไว้สำหรับแสดงและเรียกใช้งาน extensions ที่ติดตั้งไปนั่นเอง

    3. ทำการติดตั้ง Chrome Remote Desktop ทั้งฝั่งเครื่องต้นทางและปลายทางที่ต้องการ remote

    4. การเรียกใช้งานสามารถทำได้ดังรูป

    จากนั้นเลือก Chrome Remote Desktop

    5. ก่อนที่จะทำการ remote หรือตั้งค่าการ remote จะต้องทำการ login บน chrome browser ก่อนด้วยบัญขี google ที่ได้เตรียมไว้

    6. เริ่มต้นการตั้งค่าครั้งแรกโดยเลือก Remote Access ซึ่งครั้งแรกสุดจะต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมก่อน

    กดตรงไอคอนดังรูป เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งเพิ่มเติม

    ไฟล์ติดตั้งชื่อ chromeremotedesktophost.msi

    รันไฟล์นี้เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรม หรือกดยอมรับและติดตั้งจากหน้าจอ chrome browser ดังรูป

    ในขั้นตอนการติดตั้งจะมีให้ตั้งชื่อเครื่อง

    จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนในการสร้างรหัส PIN โดย PIN นี้ใช้สำหรับให้เครื่องต้นทางที่ต้องการ remote เข้ามา ทำการกรอกเพื่อเชื่อมต่อ

    เมื่อตั้งค่าเสร็จสิ้นทั้งเครื่องต้นทางและปลายทางแล้ว ในบัญชี google เดียวกัน จะเห็นเครื่องที่เราได้ตั้งค่า remote ไว้ดังรูป

    7. สามารถแก้ไขชื่อเครื่องและตั้งค่ารหัส PIN ใหม่โดยเลือกที่ไอคอน

    จะเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าดังรูป

    8. การปิดการเชื่อมต่อระยะไกล สามารถทำได้โดยการเลือกที่ไอคอน

    เมื่อปิดการเชื่อมต่อแล้วสามารถกลับมาเปิดใหม่ได้อีกครั้งดังรูป

    9. เริ่มต้นการ remote โดยเลือกรายการที่เป็น อุปกรณ์ระยะไกล

    จากนั้นจึงใส่รหัส PIN ที่ได้ตั้งค่าไว้สำหรับเครื่องนั้น ๆ (เครื่องปลายทาง) ก็จะสามารถ remote เข้าไปที่เครื่องปลายทางได้

    เมื่อ remote สำเร็จแล้ว สามารถควบคุมการทำงานจากเครื่องต้นทางได้เสมือนไปทำงานอยู่ที่เครื่องปลายทาง

    ส่วนด้านขวาของหน้าจอจะมีสัญลักษณ์คล้ายหัวลูกศร สำหรับใช้เพื่อเรียกเมนูสำหรับปรับแต่งและควบคุมการทำงานของหน้าจอ remote

    การตั้งค่าการควบคุมระยะไกล หรือ Remote Support

    การตั้งค่าการควบคุมระยะไกล หรือ Remote Access ที่ได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ เป็นการตั้งค่าสำหรับการรีโมต โดยอาศัยบัญชี google บัญชีเดียวกันเพื่อ remote ไปมาระหว่างเครื่องสองเครื่องหรือมากกว่า แต่หากต้องการ remote โดยใช้บัญชี google อื่นสามารถตั้งค่าได้ในส่วนของ Remote Support ซึ่งการใช้งานในลักษณะนี้เหมาะกับการที่จะให้ผู้ที่ทำงานอยู่อีกเครื่องทำการ remote เข้ามาช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาที่หน้าจอของอีกฝ่าย เช่น ผู้ดูแลระบบ remote ไปช่วยดูปัญหาที่เครื่องของผู้ใช้ โดยทั้งผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ต่างก็มีบัญชี google เป็นของตัวเอง

    1. ลักษณะการใช้งาน Remote Support จะเป็นการสร้างรหัส PIN สำหรับการเข้าถึงเป็นครั้ง ๆ ไป
    2. หน้าจอการใช้งาน จะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ฝั่งรับการสนับสนุน และฝั่งให้การสนับสนุน

    3. ฝั่งเครื่องที่ที่ต้องการรับการสนับสนุน ต้องทำการสร้างรหัสสำหรับให้เครื่องที่จะเข้ามาสนับสนุนทำการกรอกดังรูป

    4. ฝั่งเครื่องที่จะเข้ามาสนับสนุน หรือ remote เข้ามาช่วยเหลือ จะต้องได้รับแจ้งรหัสตัวเลขที่ทางฝั่งเครื่องปลายทางแจ้งมา เพื่อนำมากรอกในส่วนของ ให้การสนับสนุน

    จากนั้นกดปุ่มเชื่อมต่อ

    5. เมื่อฝั่งเครื่องที่จะเข้ามาสนับสนุนกรอกรหัสและกดปุ่มเชื่อมต่อ ฝั่งเครื่องที่ขอรับการสนับสนุน จะปรากฏข้อความให้ยืนยันว่าจะยอมรับการเชื่อมต่อหรือไม่

    เมื่อตอบ Share แล้ว ฝั่งเครื่องที่จะ remote เข้ามาก็จะสามารถเชื่อมต่อเข้ามาที่เครื่องที่ขอรับการสนับสนุนได้

    และฝั่งผู้รับการสนับสนุนสามารถหยุดการเชื่อมต่อได้โดยเลือก Stop Sharing จากแถบเมนูด้านล่าง

    เบื้องหลังการทำงาน

    สำหรับการทำงานเบื้องหลัง จะมี Service ที่ชื่อ Chrome Remote Desktop Service ที่คอยตรวจสอบและจัดการเรื่องการเชื่อมต่อ

    ดังนั้น หากมีปัญหาเชื่อมต่อไม่ได้อาจจะตรวจสอบว่า service นี้ยังทำงานอยู่หรือไม่

    อ้างอิง สามารถดูข้อมูลการตั้งค่าและการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่

    https://support.google.com/chrome/answer/1649523?co=GENIE.Platform%3DDesktop&hl=en

  • Print หน้าเว็บ Clean Clean ด้วย Print Friendly & PDF

    บทความนี้จะมาแนะนำ Extension กันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้ขอนำเสนอ Print Friendly & PDF ค่ะ

    Extension ที่จะทำให้เรา Print หน้าเว็บที่สนใจได้แบบ Clean Clean และยังสามารถจัดการรูปแบบได้ตามที่ต้องการก่อนพิมพ์ได้ด้วย
    ภาพโฆษณาต่างๆ จะไม่มีให้รก และเรายังสามารถลบข้อความหรือรูปภาพที่ไม่ต้องการออกไปได้ก่อนที่จะพิมพ์ ซึ่งต่างการจาก Print หน้าเว็บแบบเดิมที่เราไม่สามารถจัดการหน้าเว็บก่อนที่จะพิมพ์ได้

    Extension ตัวนี้จึงช่วยทำให้เราประหยัดน้ำหมึกและกระดาษที่จะใช้ Print ค่ะ (งานรักษ์โลกก็มา) การใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ ^^

    Features มีอะไรบ้าง

    • Print Preview -> ปรับและแสดงเนื้อหาของการพิมพ์ให้เหมาะสมที่สุด
    • Edit Before Printing  – >ปรับแต่งขนาดของรูปภาพ และข้อความ หรือจะลบรูปภาพ ข้อความที่ไม่ต้องการออกไปได้ (เลือกพิมพ์เฉพาะสิ่งที่เราต้องการ)
    • Print or Save as PDF -> Print ทันที หรือจะบันทึกเป็น PDF ไว้ก็ได้ หรือจะส่งอีเมลก็ได้ (น่าจะเพิ่มมาตอนหลังมั้ง)

    เร่ิ่มจากติดตั้ง Extension ตัวนี้ให้กับ ฺBrowser ของเรากันก่อนนะคะ โดยเมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเราก็จะพบว่ามี icon ของ Print Friendly & PDF เขียว ๆ ขึ้นมา ก็เป็นอันติดตั้งส่วนขยายให้กับ Browser ของเราเรียบร้อยแล้วละค่า

    มาเริ่มใช้งานกันดีกว่าค่ะ วันนี้ผู้เขียนอยากจะ print นิทานไปฝากเด็ก ๆ ค่ะ เจอนิทานบนเว็บ kapook ที่สนใจแล้วค่ะ เรื่อง นิทานดาวลูกไก่ https://baby.kapook.com/view227107.html

    ไปที่หน้าเว็บที่สนใจจะ Print (หรือใครจะส่ง Email หรือจัดเก็บเป็น PDF ก่อนก็ได้) แล้วก็กด icon ของ Print Friendly & PDF ได้เลยค่ะ

    เมื่อกด Print Friendly & PDF แล้ว เอกสารจะแสดงขึ้นมาให้ ซึ่งจะเห็นว่า ภาพโฆษณาไม่มีติดมาเลย และได้มีการปรับและแสดงเนื้อหาของการพิมพ์ให้เหมาะสม ซึ่งเราก็ยังสามารถที่จะจัดการเนื้อหาและรูปภาพก่อนที่จะ Print ได้ตามต้องการอีก ดังนี้

    • ปรับขนาดของตัวอักษร และขนาดของรูปภาพ
    • ลบข้อความ หรือรูปภาพที่ไม่ต้องการออไป

    หลังจากปรับแต่งตามที่ต้องการ (ผู้เขียนลดขนาดภาพลงหน่อย และลบข้อความบางส่วนออกไป) แล้วก็เป็นอันเสร็จ เราจะสั่ง Print เอกสารเลย หรือจะส่งเป็น Email หรือจะ บันทึกเป็น PDF ก็ได้นะคะ

    เดีี่ยวลองสั่ง Print นะคะ ผลลัพธ์ก้จะได้ออกมาแบบ นี้ดีงามมาก ๆ เลยละค่า ฮรี่ๆๆ

    ในส่วนของการส่ง Email และบันทึก PDF ก็ลองไปใช้งานกันดูนะคะ สำหรับบทความนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ จุ๊บบายยย

    Ref : https://www.printfriendly.com/about

  • เก่งจริงจริงเลยนะ ตัวแค่เนี้ยะ – บันทึกข้อมูลด้วย Noteblock กล่องจิ๋วแต่แจ๋ว

    กลับมาพบกันอีกแล้วค่า หลังจากที่ห่างหายไปอันเนื่องมาจากเทศกาลที่มีมากมายซะเหลือเกินค่ะ ไหนจะปีใหม่เอย ตรุษจีนเอย อีกทั้งงานราช งานหลวงก็มะรุมมะตู้มเข้ามาแบบพร้อมใจกันให้ผู้เขียนหายใจแบบหืดขึ้นคอจนไม่ได้มีเวลามาขีด ๆ เขียน ๆ เลยละค่ะ

    บทความนี้ว่ากันด้วยเรื่องของ Extension บน Chrome กันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้ขอนำเสนอ Extension ที่มีชื่อว่า Noteblock ค่ะ

    เจ้าตัว Extension ตัวนี้เป็น Extension ขนาดเล็ก (จิ๋ว) แต่ความสามารถไม่ได้เล็ก ๆ ตามขนาดนะคะ (แต่แจ๋ว) เพราะเจ้า Noteblock นั้น เป็นกล่องบนบราวเซอร์ที่จะมาช่วยให้เรา note ข้อมูลที่เราต้องการแบบที่ว่ามี idea อะไร อยากจะเก็บข้อมูลอะไร ก็พิมพ์พิมพ์ไว้ก่อน ได้แบบรวดเร็วเลยละค่า

    อย่างผู้เขียนเนี่ย จะใช้ Noteblock เป็น Tool อีกตัวนึง ด้วยความที่ต้องรับเรื่อง/รับปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานระบบต่าง ๆ จาก User ในแต่ละวัน จากแต่ก่อนก็ใช้ Notepad note ข้อมูล (ด้วยภาษาที่เราเข้าใจแบบคนเดียว &743%@^&%$@) ไว้ก่อนบันทึกเข้าระบบเก็บสถิติบริการถาม-ตอบ ซึ่งต้องเสียเวลาในการ save เก็บไว้ในเครื่อง บวกกับนิสัย (ไม่น่ารัก) ที่จะชอบเก็บอะไร ๆ (โยนปึ้ง !) ไว้ก่อนบน Desktop เสมอ ก็จะรกหน้าจอเต็มไปหมดเลย

    และด้วยความที่ต้องเข้าออก Web App อยู่แล้ว ก็เลยหยิบเอา Noteblock มาใช้ซะเลย พอใช้ Noteblock แทน Note ของเราจะไม่ถูกแปะเอาไว้บน Desktop ให้รกแล้ว แถมยังไม่ต้องเสียเวลาในการ save ด้วย เพราะว่า Noteblock นั่นจะบันทึก Note ของเราบนเว็บบราวเซอร์ด้วยวิธี local storage แบบถาวรเอาไว้ โดยข้อมูลจะหายไปก็ต่อเมื่อเราไป clear เท่านั้นค่ะ
    แถมการเก็บข้อมูลที่แบ่งออกเป็น tab ได้นั้น ยังช่วยให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูลอีกด้วยนะคะ

    ไม่เพียงเท่านี้ Noteblock นั้นยังมีความสามารถอื่น ๆ อีกนะคะ ดังนี้

    • ส่ง Note ที่เราบันทึกไว้ไปยังอีเมลได้
    • ดาวน์โหลด Note ที่บันทึกไว้ ออกมาเป็น ไฟล์ .txt ได้
    • จัดการ Note ของเราแยกเป็น tab และตั้งชื่อ tab เหล่านั้นได้ ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการจัดการ Note ของเราค่ะ
    • ปรับเปลี่ยนขนาดของกล่อง Note ได้

    รู้จัก Noteblock กันพอประมาณแล้ว ใครที่สนใจอยากจะลองใช้งานดู เรามาเริ่มจาก ติดตั้งเจ้า Noteblock กันก่อนค่ะ

    ติดตั้ง Noteblock ให้ Chrome

    1. ไปที่ลิงก์ https://chrome.google.com/webstore/category/extensions ค้นหาส่วนขยาย Noteblock และกดปุ่ม Add to Chrome เพื่อเริ่มการติดตั้ง Noteblock ให้กับ Chrome

    2. Chrome แสดงกล่องยืนยันการติดตั้ง Noteblock กดปุ่ม Add extension เพื่อยืนยันการติดตั้ง และรอจนกว่าจะสิ้นสุดการติดตั้ง

    เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว จะมี icon Noteblock ที่มุมขวาบนของ Chrome โผล่ขึ้นมาเพื่อให้กดใช้งานค่ะ

    เริ่มใช้งาน Noteblock กัน!

    วิธีการใช้งาน Noteblock ง่าย ๆ ก็คือ คลิก icon Noteblock ก็จะมีกล่อง Noteblock โผล่ขึ้นมาบนบราวเซอร์ให้เราได้บันทึกข้อมูล ใครที่เป็นห่วงว่าเมื่อปิดบราวเซอร์ไปข้อมูลที่บันทึกไว้จะหายไปนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ข้อมูลก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ อย่างที่บอกไว้ว่า Noteblock จะจัดเก็บข้อมูลของเราด้วยวิธี local Storage ข้อมูลจะถูก clear เมื่อเราลบออกไปเองค่ะ

    • หากต้องการเพิ่ม tab ข้อมูล tab ใหม่ ให้คลิกเครื่องหมาย + ก็จะมี tab Document พร้อมพื้นที่ว่าง ๆ ขึ้นมาให้เราค่ะ
    • หากต้องการเปลี่ยนชื่อ tab ก็ Double Click บน tab นั้น ๆ จะมีกล่องขึ้นมาให้ป้อนชื่อ tab ตามที่ต้องการแล้วก็กดปุ่ม SAVE เท่านี้ก็เป็นอันเปลี่ยนชื่อ tab เรียบร้อยแล้วล่ะคะ
    • ส่วนใครอยากส่ง note ที่เราได้บันทึกไว้ ไปทางอีเมล ก็คลิกปุ่ม Email แล้วก็ดำเนินการส่งได้เลยนะคะ
    • และหากต้องการดาวน์โหลดออกมาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ก็คลิกปุ่ม Download จะได้ไฟล์ชื่อตามชื่อ tab ที่ตั้งไว้ (แก้ไขชื่อไฟล์ได้) นามสกุล .txt มาเก็บไว้ในเครื่องของเราค่ะ
    • หากต้องการลบข้อมูลใน tab ไหนออกไป ก็คลิกเลือก tab นั้น ๆ แล้วกดปุ่มเครื่องหมาย x ก็เป็นอันลบเรียบร้อยแล้วแล้วละคะ

    เป็นอย่างไรบ้างคะ ใช้งานง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยคะ ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ น่าจะเป็น Extension อีกตัวหนึ่งที่มีประโยชน์กับเราค่ะ ใครจะ Note อะไรก็ได้ตามใจชอบ

    แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ