Category: Browsers

  • How to InPrivate/Incognito Edge and Chrome by default

    • เหมาะสำหรับเครื่องในห้องปฎิบัติการ จะได้ไม่ต้องลบค่าบางอย่าง เช่น MS Teams ล็อคอินค้าง, อีเมลล็อคอินค้างไว้
    • เริ่ม
    • คลิกขวา properties ที่ shortcut ของ edge หรือ chrome
    • คลิกที่แท็บ shortcut ในช่อง target สำหรับ Microsoft Edge เพิ่ม -inprivate ต่อท้ายสุด แล้วคลิก Ok ดังภาพ
    • สำหรับ Google Chrome เพิ่ม -incognito ต่อท้ายสุด ดังภาพ
    • ทดสอบเปิด
    • สำหรับ Firefox จะสร้าง shortcut สำหรับเข้า Private browsing ไว้อยู่แล้วไม่ต้องดัดแปลงอะไร
    • ต้องแก้ shortcut ทุกที่หากอยากให้เป็นเหมือนกันทุก shortcut
    • จบขอให้สนุก
  • มารู้จักเครื่องมือ Smart Facebook URL ที่สามารถเปิด Facebook ตามอุปกรณ์ที่ใช้งานปัจจุบัน

    ทุกท่านเคยเป็นกันไหมค่ะ เมื่อเพื่อนของเราส่งลิงก์ Facebook มาให้เราดู แต่เมื่อเราเปิดใช้งานบนมือถือ มันก็จะเด้งไปหน้าเบราว์เซอร์ แล้วระบบก็จะให้เรา Login ซึ่งคนทั่วไปจะใช้งานบน App Facebook หากเราใช้งานผ่านมือถือ และจะใช้ผ่านเบราว์เซอร์เมื่อเราใช้ผ่านคอมพิวเตอร์

    ***มาดูตัวอย่างการเปิดลิงก์ Facebook Fan Page เมื่อเพื่อนส่งมาให้***

    ตัวอย่างการส่งลิงก์ Facebook ให้เพื่อนช่วยกดไลค์แฟนเพจ เมื่อเราคลิกลิงก์จากข้อความ

    ระบบปฏิบัติการ Android

    จะเปิดมาที่ เบราว์เซอร์ เป็น m.facebook หากต้องการใช้งานก็จะต้อง Login Facebook ใหม่ ซึ่งปกติเราก็มักจะลืม Username หรือ Password

    ระบบปฏิบัติการ iOS

    มีข้อความแจ้งเตืนอว่าจะให้เปิดผ่าน Faceook หรือไม่ หากกดปุ่ม “เปิด” จะเป็นไปยัง App ให้ทันที่ แต่หากกดปุ่ม “ยกเลิก” จะเปิดมาที่ เบราว์เซอร์ เป็น m.facebook ก็จะต้อง Login Facebook ใหม่

    ระบบปฏิบัติการ iOS

    จะเปิดมาที่เบราว์เซอร์ เป็น m.facebook หากต้องการใช้งานก็จะต้อง Login Facebook ใหม่เช่นเดียวกับ ระบบปฏิบัติการ Android

    **** ซึ่งเมื่อเราจะส่งลิงก์ URL ให้เพื่อน เราจะไม่ทราบว่าเพื่อนใช้ Smart phone ระบบปฏิบัติการอะไร
    ดังนั้นเรามีวิธีการดังนี้….=>>

    1. นำ URL ที่เราต้องการ เช่น https://www.facebook.com/PSUDIIS
    2. คลิกปุ่ม “สร้าง Smart URL”

    เมื่อดำเนินการเรียบร้อยจะได้ URL ใหม่ ดังนี้

    1. http://pili.app/fb/SP4FHeHc
    2. คลิกปุ่ม “คัดลอก”

    ******เมื่อเราได้ URL ที่ต้องการแล้ว ส่งให้เพื่อนอีกครั้ง แล้วให้เพื่อนเปิดดูเลยค่ะ******

    ระบบปฏิบัติการ Android

    เมื่อคลิก URL แล้วจะเลือก “Android” ให้อัตโนมัติ

    ระบบปฏิบัติการ Android

    เลือก “facebook app” ให้อัตโนมัติ

    ระบบปฏิบัติการ Android

    จะเข้า “Facebook App” ให้อัตโนมัติ สามารถกดไลค์แฟนเพจได้ทันที

    ระบบปฏิบัติการ iOS

    เมื่อคลิก URL แล้วจะเลือก “iPhone” ให้อัตโนมัติ

    ระบบปฏิบัติการ iOS

    เลือก “Facebook App” ให้อัตโนมัติ

    ระบบปฏิบัติการ iOS

    จะเข้า “Facebook App” ให้อัตโนมัติ สามารถกดไลค์แฟนเพจได้ทันที

    การใช้งานผ่าน Computer

    เมื่อคลิก URL แล้วจะเลือก “คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล” ให้อัตโนมัติ

    การใช้งานผ่าน Computer

    เลือก “เบราว์เซอร์” ให้อัตโนมัติ

    การใช้งานผ่าน Computer

    จะเข้า “เบราว์เซอร์” ให้อัตโนมัติ สามารถกดไลค์แฟนเพจได้ทันที

  • Google Chrome Update to 108.0.5359.95

    ปรับปรุงความปลอดภัย Google Chrome โดย
    To update Chrome, head to Settings → About Chrome → Wait for the download of the latest version to finish → Restart the program.

    2Dec2022@ Update เป็นรุ่น 108.0.5359.95 ปรับปรุงความปลอดภัย ระดับสูง 1 รายการ
    [$NA][1394403] High CVE-2022-4262: Type Confusion in V8

    อ้างอิงจาก
    Google Chrome Update to 108.0.5359.95
    2Dec2022
    https://chromereleases.googleblog.com/2022/12/stable-channel-update-for-desktop.html

    ข่าวเก่า
    https://sysadmin.psu.ac.th/2022/11/28/google-chrome-update-to-107-0-5304-122/

  • Google Chrome Update to 108.0.5359.72


    30Nov2022@0919 Update เป็นรุ่น 108.0.5359.72 ด้วยระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ปรับปรุงความปลอดภัย 28 รายการ

    https://chromereleases.googleblog.com/2022/11/stable-channel-update-for-desktop_29.html

    28Nov2022@0936 ผมได้โพสข้อความข้างล่าง
    แจ้งเตือนผู้ใช้ Google Chrome Web Browser บน Windows, Linux และ Mac ให้ Update เป็นรุ่น
    107.0.5304.122 เพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ตามรายละเอียด

    To update Chrome, head to Settings → About Chrome → Wait for the download of the latest version to finish → Restart the program.

    27Nov2022
    https://www.channelnewsasia.com/singapore/google-chrome-update-singcert-zero-day-vulnerability-3103136

    25Nov2022
    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-pushes-emergency-chrome-update-to-fix-8th-zero-day-in-2022/

    24Nov2022
    https://chromereleases.googleblog.com/2022/11/stable-channel-update-for-desktop_24.html

    ฉบับข้อความแปลเป็นภาษาไทยแล้วโดย สกมช. https://webboard.nsoc.ncsa.or.th/category/12/cyber-security-news

  • วิธีใช้งานเว็บไซต์เก่าๆ ที่รองรับแค่ IE ด้วยโหมด Internet Explorer Compatibility บน Microsoft Edge

    หลักจากที่ทาง Microsoft ได้ประกาศหยุดบริการ Internet Explorer (IE) อย่างถาวร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ก็ทำให้กระทบกับการใช้งานบางเว็บไซต์ (เก่าๆ) หลายเว็บไซต์ ที่ออกแบบหรือพัฒนาให้ใช้งานได้ดีบน IE แต่ต้องหันไปใช้งานบราวเซอร์อื่น เช่น กดเมนูไม่ได้บ้าง กดปุ่มแล้วไม่ทำงานบ้าง เป็นต้น

    ซึ่งเราจะหันไปใช้บราวเซอร์อื่นแทนก็ไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ที่เก่าๆ นั้นได้อย่างราบรื่นหรือสมบูรณ์อยู่ดี พอจะใช้ Microsoft edge ก็พบปัญหาแบบเดียวกัน ก็….เว็บไซต์มันเก่าแล้วอ่ะเธอออออ

    แต่ Microsoft ก็ไม่ทอดทิ้งอะไรที่ว่าเก่าๆ แบบไม่ใยดีผู้ใช้ขนาดนั้นนะคะ เพราะจริงๆ เรายังสามารถเปิดใช้งานเว็บไซต์ที่ว่าเก่าๆ นั้น (ย้ำจังเลย) ใน IE Compatibility View เพื่อให้ใช้งานในมุมมองดังกล่าวได้ผ่าน Microsoft Edge แต่ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้อีก 7 ปี (ถึงปี 2029) เท่านั้นนะคะ

    ซึ่งวันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมขั้นตอนเพื่อให้สามารถใช้งานเว็บไซต์ในโหมด IE Compatibility View บน Microsoft Edge มาแนะนำกันค่า

    ก่อนอื่นเลย ตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ให้กับ Microsoft Edge กันก่อน
    1. เปิด Microsoft Edge ขึ้นมาแล้ว กดคีย์ลัด Alt + F แล้วเลือก เมนู Settings ดังรูป
    (หรือไป ที่ edge://settings/defaultbrowser)

    2. ในหน้าจอ Settings ที่แถบด้ายนซ้ายให้เลือกเมนู “Default browser” จะแสดงส่วนของการตั้งค่า Internet Explorer Compatibility ให้กดเลือก Allow ในหัวข้อ “Allow sites to be reloaded in Internet Explorer mode (IE mode)” เพื่ออนุญาตให้สามารถโหลดเว็บไซต์ในโหมด Internet Explorer Compatibility ตอนใช้งานได้
    หลังจากที่ได้ตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ****อย่าลืมปิดและเปิดบราวเซอร์ขึ้นมาใหม่นะคะ


    มาดูวิธีการโหลดใช้งานเว็บไซต์ในโหมด Internet Explorer Compatibility กันค่า
    เมื่อเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา ให้กดคีย์ลัด Alt + F แล้วเลือก “Reload in Internet Explorer mode” โลดดด

    ถ้าไม่เจอ Reload …. อนุญาตให้ตกใจนิดหน่อย แต่ ไม่เห็นไม่เจอใช่ว่าจะม่ายยยยมีน่ะ เพราะถ้าหากใช้ Microsoft Edge เวอร์ชั่น 92 หรือเก่ากว่านี้ ก็ให้เลือก More tools   ก็จะพบกับ Reload in Internet Explorer Mode คร่าาา

    เท่านี้ก็ใช้งานเว็บไซต์ในโหมด Internet Explorer Compatibility ได้แล้วละค่า (หากต้องการปิดการใช้งานในโหมดนี้ ก็กดคีย์ลัด Alt + F แล้วเลือก Exit in Internet Explorer mode ) โดย

    • จะพบ Icon โลโก้ IE ที่ website address ดังรูป แสดงว่าเรากำลังใช้งานเว็บไซต์นี้ในโหมด Internet Explorer Compatibility อยู่
    • จะมี  dialog box ขึ้นมาให้จัดการ

    เป็นยังไงกันบ้างค่า เว็บไซต์เก่าๆ ที่รองรับการใช้งานด้วย IE นั้น เราก็ไม่ต้องกังวลกันจะใช้งานกันไม่ได้ เพียงแค่ทำตามวิธีข้างต้นค่ะ 🙂

    บางอย่างเก่าแต่ยังเก๋าอยู่น่ะ
    (ลาก่อนและขอบคุณน่ะ Internet Explorer)

    ขอขอบคุณ : https://www.addictivetips.com/windows-tips/compatibility-view-settings-edge/
    https://droidsans.com/how-to-use-ie-mode-on-microsoft-edge/
    Internet Explorer mode in Microsoft Edge

  • คูล ๆ รู้ค่าสีด้วย ColorPick Eyedropper

    วันนี้เราจะมารู้จักและใช้งานส่วนขยายของบราวเซอร์เพิ่มกันอีกซักตัวนะคะ โดยส่วนขยายที่จะมานำเสนอในวันนี้นั้น เป็นส่วนขยายที่จะช่วยให้สายออกแบบ/กราฟฟิก สวย ๆ คูล ๆ อย่างพวกคุณ รู้ได้อย่างง่ายดายเลยว่าสีที่สนใจบนเว็บนั้น มีค่าสีอะไร

    เพียงแค่ชี้ไปบริเวณที่ต้องการ ค่าสีก็จะโผล่ขึ้นมาให้ทราบเลยค่า โดยระบบสีได้ที่มาจะเป็นแบบ RGB นะคะ ซึ่งเป็นระบบสีที่เค้าศึกษากันมาแล้วว่าเหมาะสมกับการใช้แสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และสื่อดิจิตอลต่าง ๆ ค่ะ

    RGB คืออะไร RGB ย่อมาจากสีพื้นฐาน ได้แก่ สีแดง (Red) เขียว (Green) และน้ำเงิน (Blue)  พอผสมสีทั้งสามในสัดส่วนต่างๆ จะได้เฉดสีอีกมากมายที่มีความสวยสดใสบนหน้าจอถึงประมาณ 16.8 ล้านเฉดกันเลยทีเดียว

    อ่ะ ไปติดตั้ง ColorPick Eyedropper ให้กับ Google Chrome ของเรากันดีกว่าค่ะ ซึ่ง Blog นี้ขอรวบรัดวิธีการติดตั้งกันเลยนะคะ

    ไปที่ https://chrome.google.com/webstore/detail/colorpick-eyedropper/ohcpnigalekghcmgcdcenkpelffpdolg แล้วกดปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” ค่ะ เท่านี้ ต้าวก้อนสี โผล่ขึ้นมาแบบนี้ก็เป็นอันติดตั้งเรียบร้อยแล้วละค่า

    วิธีการใช้งาน ก็คลิกบน ต้าวก้อนนนสี แล้วก็ นำเมาส์ไปจิ้มตรงบริเวณที่ต้องการ เท่านี้ ค่าสีก็จะโผล่มาให้เราทราบค่ะ

    ขอบคุณความรู้ดีดีจาก :
    https://www.octopus.co.th/blogs/how-to/rgb-vs-cmyk
    https://www.nupress.grad.nu.ac.th/cmyk-and-rgb/

  • บันทึกภาพจากเว็บไปยัง Google Drive ของเราโดยตรง ด้วยส่วนขยาย “Save to Google Drive”

    วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำส่วนขยายของบราวเซอร์ (Extension) ที่น่าใช้กันอีกซักตัวนะคะ นั่นก็คือ “Save to Google Drive” ซึ่งเป็นส่วนขยายที่จะช่วยให้เราสามารถบันทึกภาพที่มีอยู่บนเว็บไซต์ต่างๆ ที่เราต้องการไปยัง Google Drive ของเราโดยตรงได้ทันทีค่ะ

    เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ เพิ่มส่วนขยายนี้ให้กับ Google Chrome ของเรากันก่อน กด URL นี้ https://chrome.google.com/webstore/detail/save-to-google-drive/gmbmikajjgmnabiglmofipeabaddhgne?hl=th แล้วกดปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” ค่ะ

    รอจนติดตั้งเรียบร้อย ก็จะพบ ICON นี้โผล่ขึ้นมา ซึ่งการเพิ่มส่วนขยาย Save to Google Drive ให้กับ Chrome ของเราก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมใช้งานแล้วละค่า

    าใช้งานกันค่ะ

    เพียงแค่คลิกขวาบนภาพที่เราต้องการบันทึกไปยัง Google Drive แล้วเลือก “บันทึกภาพไปที่ Google ไดรฟ์” เท่านี้ภาพที่เราต้องการก็จะจัดเก็บลงไปยัง Google Drive ของเราค่ะ (เข้าใช้งานบัญชี Google ไว้แล้ว)

    โดยเริ่มต้นภาพนั้นจะถูกบันทึกไปยัง “ไดรฟ์ของฉัน” นะคะ

    แต่หากเราต้องการจัดเก็บไปยังโฟลเดอร์อื่นบน Google Drive ก็ให้สร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการให้เรียบร้อยก่อนค่ะ
    โดยการเปลี่ยนโฟลเดอร์ปลายทางที่เราจะเก็บภาพนั้น ก็ให้กด (เปลี่ยน) ในกล่องบันทึกไปยัง Google Drive ซึ่งจะมีหน้าจอให้เราตั้งค่าต่างๆ ขึ้นมาให้ ให้คลิกที่ “เปลี่ยนโฟลเดอร์ปลายทาง” นะคะ

    ก็จะมีหน้าจอให้เราเลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่เราต้องการบันทึกภาพ ให้เราเลือกโฟลเดอร์บน Google Drive ที่เราได้สร้างไว้แล้ว และต้องการจัดเก็บภาพ แล้วกดปุ่ม “Select” ได้เลยค่ะ

    สำหรับครั้งต่อๆไป การบันทึกภาพก็ไม่ต้องเลือกโฟลเดอร์ใหม่แล้วนะคะ จะตั้งต้นโฟลเดอร์ที่เราเลือกไว้ให้เลยค่ะ (ยกเว้นว่า อยากจะเก็บโฟลเดอร์อื่น ก็ต้องเปลี่ยนกันใหม่ค่ะ)

    ส่วนใครที่ต้องการแก้ไขชื่อไฟล์ ให้คลิก “เปลี่ยนชื่อ” แล้วแก้ไขชื่อไฟล์ กดปุ่ม “ใช้” ได้เลยนะคะ ชื่อไฟล์ก็จะถูกเปลี่ยนให้เราตามที่ต้องการค่ะ

    เท่านี้ไฟล์ภาพที่เราต้องการก็ถูกบันทึกด้วยชื่อ และไปยังโฟลเดอร์บน Google Drvie ที่เราต้องการค่า

    เป็นไงกันบ้างค่ะ ผู้เขียนคิดว่าเป็นส่วนขยายที่ดีงามมากเลยทีเดียว

    https://chrome.google.com/webstore/detail/save-to-google-drive/gmbmikajjgmnabiglmofipeabaddhgne?hl=en

  • โหมดไม่ระบุตัวตน ?

    สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน Blog ปิดท้ายของเดือนพฤษภาคม ปี 64 นี้ ผู้เขียนขอเล่าในเรื่องของความรู้เพิ่มเติมในการใช้ Browser ละกันเนอะ

    จากการใช้งานท่องเว็บของเราในแต่ละวัน คาดว่าผู้อ่านแต่ละท่าน คงจะคุ้นเคยกับคำว่า โหมดไม่ระบุตัวตนกันมาบ้างแล้ว

    จริงๆ ในแต่ละ Browser เนี่ย ชื่อเรียกมันก็จะต่างกันนะ เช่น Incognito , Private หรือ Inprivate เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็คือ โหมดไม่ระบุตัวตนนั่นแหละ

    โหมดไม่ระบุตัวตน คืออะไร ?

    เอาแบบภาษาบ้านๆ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็น Feature นึงที่มีอยู่ในทุกๆ Browser โดยโหมดนี้ จะทำให้ Browser ของเราจะไม่จัดเก็บข้อมูลของเว็บที่เราเข้า ไม่มีที่อยู่ ไม่มี cookie ไม่มีข้อมูลที่เราป้อนก่อนหน้า ก็คือไม่มีอะไรเลย ! มันก็คงคล้ายๆ กับการทำให้ Browser ของเราความจำเสื่อมชั่วคราวนั่นแหละนะ

    คราวนี้มาขยายความแบบทางการกันหน่อย

    • Browser จะไม่เก็บประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์
    • Browser จะไม่เก็บ cookie ของเว็บไซต์ และ ข้อมูลที่กรอกในฟอร์มต่างๆ
    • แต่ถ้ามีการ bookmarks หรือดาวน์โหลดไฟล์ระหว่างใช้งาน ข้อมูลเหล่านั้นก็จะยังคงอยู่ ถึงแม้จะเราจะปิดโหมดนี้ไปแล้ว
    • ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตยังคงเห็นการเข้าใช้งานของเราตามปกติ
    • IP ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ ไม่ว่าจะโหมดปกติ หรือโหมดไม่ระบุตัวตน ยังเป็น IP เดียวกัน และโหมดไม่ระบุตัวตนมันไม่ได้ซ่อนที่อยู่ IP ของเราให้นะทุกคนนนน !!
    • การใช้งานโหมดนี้ในเครื่องสาธารณะ หรือเครื่องที่มีความเสี่ยง โหมดนี้ไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงเหล่านั้นลดน้อยลง

    พออ่านไปอ่านมาจนถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านคงรู้สึก เอ๊ะ ! แล้วนี่มันเป็นการท่องเว็บแบบส่วนตัวจริงเหรอ ทำไมรู้สึกเหมือนๆ จะไม่ส่วนตัวยังไงยังงั้นกันใช่มั้ย … เอาจริงๆ ผู้เขียนมองว่า เราก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องกันก่อน ว่าโหมดไม่ระบุตัวตนตัวนี้เนี่ย เหมาะกับการใช้งานแบบไหน ขอบเขตการทำงานของมันเป็นยังไง

    แล้วมันเหมาะ หรือไม่เหมาะ กับการใช้งานแบบใดกันละ ?

    ถ้าตามความเข้าใจของผู้เขียน ผู้เขียนเข้าใจว่า

    1. เหมาะกับกรณีที่เราไปใช้งานตามร้าน Internet cafe หรือ เครื่องสาธารณะ ที่เราไม่ต้องการให้ Browser มีการเก็บประวัติการเข้าใช้งาน
    2. เหมาะกับกรณีที่เราต้องการเข้าใช้บริการต่างๆ พร้อมกันมากกว่า 1 account
    3. ข้อนี้ส่วนตัว แหะๆ ผู้เขียนคิดว่ามันเหมาะกับงานของผู้เขียน คือ ใช้สำหรับใช้ทดสอบระบบ หรือเว็บที่เราพัฒนา เนื่องจากจะไม่มีการจำ cache ใด ให้เราปวดหัว ^^
    4. ไม่เหมาะกับกรณีที่เราไปใช้งานในทางที่ไม่ดี เพราะมันยังสามารถโดนติดตามได้อยู่ … อย่าลืมระวังข้อนี้ด้วยนะ !!
    5. หากสิ่งที่ท่านผู้อ่านต้องการ ที่ไม่ใช่แค่ไม่เก็บประวัติ ไม่เก็บ cookie เหล่านี้ ทางผู้เขียนขอแนะนำให้ไปศึกษาใช้การ VPN หรือ Proxy ควบคู่ไปกับการใช้โหมดไม่ระบุตัวตน

    สุดท้ายแล้ว เจ้าโหมดไม่ระบุตัวตนนี้ ก็ยังคงเป็นอีกตัวเลือกที่ง่าย และยังคงมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และสภาพแวดล้อมของแต่ละคน ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะยังคงเพิ่มความเข้าใจ ให้ความกระจ่างกับผู้อ่านในเรื่องของ โหมดไม่ระบุตัวตน ได้ไม่มากก็น้อยแหละเนอะ

    ขอบคุณแหล่งข้อมูลข่าวสาร และความรู้ >>> https://www.techhub.in.th/

  • เขียนโค้ดแก้ปัญหา browser block popup แบบง่ายๆ ใช้งานได้จริง

    เดี๋ยวนี้การเปิดหน้าเวบของผู้ใช้งานทั่วไปมักใช้มือถือแทนคอมพิวเตอร์แล้ว แล้วตอนนี้ browser ทั่วไปจะทำการ block popup JavaScript ใน function window.open ดังนั้นทำให้ง่ายที่สุดคือใช้ link ให้เป็นประโยชน์ โดยใช้ properties href ในการเรียกใช้ตามโค้ดตัวอย่างข้างล่างนี้

    เท่านี้สั้นๆ ง่ายๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนเขียนโค้ดและผู้ใช้งานไม่ต้องปิด block popup ที่เครื่องตัวเองอีกต่อไป