เมื่อติดตั้ง Oracle Database Gateway เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการสร้าง database link บนฐานข้อมูล Oracle เพื่อทำการเรียกดูข้อมูลบน MS SQL Server ผ่านทาง database link ที่สร้างขึ้นมา
รูปแบบคำสั่งในการสร้าง Database Link เป็นดังนี้
CREATE PUBLIC DATABASE LINK DBLinkName
CONNECT TO sa IDENTIFIED BY password
USING ‘dg4msql’;
DbLinkName คือ ชื่อของ database link
sa คือชื่อของ user บน MS SQL Server (อาจจะเป็น user อื่นก็ได้)
password คือ รหัสผ่านสำหรับ user บนฐานข้อมูล MS SQL Server
5. การเรียกดูข้อมูล สามารถเรียกดูข้อมูลผ่าน database link ที่สร้างขึ้นโดยใช้คำสั่ง sql เช่น
ต่อเนื่องจากตัวอย่างก่อนหน้านี้ user3 สามารถใช้คำสั่ง with grant option ต่อให้กับ user4 ได้ หาก user2 ได้ grant ให้ user3 ด้วยคำสั่ง with grant option
ข้อควรระวัง
จะเห็นว่าในการใช้คำสั่ง grant with grant option นั้น จะทำให้ user ที่ได้รับสิทธิ์นี้ สามารถ grant สิทธิ์ต่อ ๆ กันไปให้กับ user อื่น ๆ เป็นทอด ๆ ด้วยคำสั่ง with grant option เช่นกัน
เมื่อ user อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของ object ที่ถูก grant ได้รับสิทธิ์ในการ grant with option จะเห็นว่าจะทำให้การควบคุมการให้สิทธิ์ทำได้ยาก หรืออาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นจึงไม่ควรให้สิทธิ์แบบ with grant option นั่นเอง
ซึ่งใน Oracle 11 เป็นต้นไป หลังจากติดตั้งและสร้าง Database แล้ว ใน Default Profile จะมีการตั้งค่าเริ่มต้นไว้ดังรูป โดย Default Profile จะมีผลกับ user ที่ถูกสร้างใหม่ และค่าที่ทำให้ user หมดอายุโดยอัตโนมัติก็คือ “Expire in (days)” นั่นเอง จึงเป็นที่มาของการที่ user expire เองโดยที่ไม่ได้มีการเข้าไปแก้ไขข้อมูลใด ๆ ของ user นี้
7. การแก้ไขไม่ให้ user ที่สร้างใหม่ expire อัตโนมัติ ทำได้โดยการแก้ค่า “Expire in (days)” ให้เป็น UNLIMITED
เมื่อแก้ไขแล้ว user ใหม่ที่ถูกสร้างหลังจากนี้ก็จะใช้งานได้ตลอดไม่มีวัน expire แต่ส่วนของ user ที่เคยสร้างไปก่อนหน้านี้ ผู้พัฒนาจะต้องเข้าไปปรับแก้วันที่ expire เป็นราย user ไป
ในการนำเสนอข้อมูลจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปยัง Projector บางครั้งอาจจะต้องมีอุปกรณ์พิเศษในการส่งข้อมูลภาพ แต่มีอีกวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้หากมี PC ที่ติดตั้ง Windows 10 นั่นคือ การส่งข้อมูลหน้าจอจากโทรศัพท์มือถือไปยัง PC จากนั้นจึงส่งภาพจากหน้าจอ PC ขึ้นไปยัง Projector อีกต่อหนึ่ง ซึ่งวิธีนี้ผู้นำเสนอก็จะสามารถนำเสนอได้ทั้งข้อมูลจากหน้าจอมือถือ และข้อมูลอื่น ๆ ที่อยู่บน PC ด้วย
สำหรับในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการดังกล่าว โดยจะเป็นการส่งภาพหน้าจอจากโทรศัพท์มือถือระบบ Android ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใด ๆ เพิ่มบนโทรศัพท์มือถือ หรือบน PC
สิ่งที่ควรรู้ก่อนการตั้งค่า
เนื่องจากวิธีการนี้เป็นการส่งผ่านข้อมูลถึงกันผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย หรือ WiFi ดังนั้นทั้งอุปกรณ์ Android และ PC ควรเชื่อมต่อผ่าน WiFi บน Access Point ชื่อเดียวกัน เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดจากการที่อุปกรณ์ทั้งสองหากันไม่เจอ
ขั้นตอนการตั้งค่าบน Windows 10
บน PC ไปที่ Setting
2. เลือก System จะปรากฏเมนูด้านซ้ายมือ จากนั้นเลือก Projecting to this PC
3. การตั้งค่าลำดับแรก “Some Windows and Android devices can project this PC when you say it’s OK” จะมี 3 ตัวเลือก
ให้ตั้งค่าเป็นตัวเลือก Available everywhere on secure networks หรือ Available everywhere ส่วนตัวเลือก Always Off เป็นการเลือกที่จะไม่ให้มีการเชื่อมต่อเข้ามา
4. การตั้งค่า “Ask to project to this PC”
เป็นการตั้งค่าให้มีข้อความแจ้งบน PC เมื่อมีการขอเชื่อมต่อเข้ามาจากโทรศัพท์มือถือ โดยบนฝั่ง PC จะเป็นการเลือกว่าจะยอมรับการเชื่อมต่อหรือไม่
โดยเมื่อมีการขอเชื่อมต่อเข้ามายัง PC จะมีกล่องข้อความแจ้งเตือนดังรูป
ตัวเลือก First time only เป็นการตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนครั้งแรกที่ขอเชื่อมต่อเข้ามาเท่านั้น หากมีการขอเชื่อมต่อหลังจากนี้ครั้งต่อไปจะสามารถทำการเชื่อมต่อได้เลย (ตอนยอมรับการเชื่อมต่อต้องเลือก Always allow ด้วย หลังจากนี้หากมีการขอเชื่อมต่ออีกก็จะไม่มีข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาอีก)
ตัวเลือก Every time a connection is requested เป็นการตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนทุกครั้ง เมื่อมีการเชื่อมต่อ
update day_of_week t1 set day_tha = (select day_full from day_of_week_thai where day_of_week_thai.id = t1.id), day_tha_short = (select day_short from day_of_week_thai where day_of_week_thai.id = t1.id);
แบบที่ 2
update day_of_week t1 set (day_tha, day_tha_short) = (select day_full, day_short from day_of_week_thai where day_of_week_thai.id = t1.id);
ถ้าเครื่องที่ใช้เป็น Windows 64 bit ให้ทดลองทำตามดังนี้ คือ
ไปที่เมนู TOOLS –> Options
จะปรากฏหน้าต่าง Options
เมนูด้านซ้ายมือของหน้าต่าง Options เลือกเมนูย่อย Projects and Solutions และภายใต้เมนูนี้ เลือกเมนูย่อย Web Projects จะเห็นตัวเลือกด้านขวามือสองตัวเลือก ให้เลือกเครื่องหมายถูกตัวเลือกแรก คือ Use the 64 version…
คลิกปุ่ OK และทดลอง run project และ debug คำสั่งที่พบปัญหาอีกครั้ง