จับภาพ แชร์ภาพ ด้วย shareX Ep 3

ต่อจาก Blogก่อนหน้า Blog นี้ เรามาว่ากันด้วยเรื่องของการ upload file และสั่งให้โปรแกรม Generate QR code กัน หลังจากที่เราบันทึกวีดีโอเสร็จแล้ว และเราอยาก upload file ขึ้นไปเก็บไว้ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเช่น “บันทึกวีดีโอเสร็จแล้ว upload file ขึ้น youtube เมื่อ upload เสร็จ ให้แสดง QR Code ขึ้นมา” โอเคมั้ย โจทย์ประมาณนี้นะ งั้นไป … เราไปเริ่มกันเลย !!! ลำดับแรกคลิกเลือก “Destinations” จากนั้นเลือกไปที่ “File uploader” เลือกเป็น “Youtube” เน้อออ จากนั้นก็มาเริ่มตั้งค่ากันเลย ให้ไปที่ “Destination” อีกรอบนึง แต่คราวนี้เลือกไปที่ข้อความ “Destination settings….” โปรแกรมก็จะเปิดหน้าต่างให้เราตั้งค่า เลือกที่เป็นประเภท File uploader จากนั้นเลือก youtube ขวามือจะแสดง ให้เรา authorize ไปยัง youtube ของเรา คลิกเลือกตรง Step 1 : Open authorize page จากนั้นก็จะเจอหน้าจอดังรูป ให้เราเลือกเลย กรณีเรามีบัญชีมากกว่า 1 ก็เลือกว่าจะใช้บัญชีไหน เมื่อเลือกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะแสดงหน้าจอตามรูปด้านล่างเลย ก็ให้เลือก “อนุญาต” เมื่ออนุญาตการเข้าถึงบัญชีของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ code ยาวๆ มา หน้าตาประมาณรูปด้านล่าง ให้เรา copy code ที่ได้ไว้นะ จากนั้นให้เอา code ที่ได้กลับมาวางในหน้าของโปรแกรมแกรม shareX ตรง ช่อง “Verification code” เสร็จแล้วรอแป๊บนึง เมื่อโปรแกรมตรวจสอบและ verify code แล้วว่าถูกต้องก็จะแจ้งเราว่า login successful. ถือว่าครบถ้วนกระบวนความ โดยในหน้านี้ เราสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ เช่น Private type: เลือกได้ว่าต้องการเป็นแบบใด public, private เป็นต้น และสามารถระบุได้ว่า link ที่ได้ต้องการเป็นแบบ shortened link หรือไม่ ต่อมาตะกี้แผนของเราคือ upload ขึ้น youtube เสร็จแล้วให้แสดง QR Code ใช่มั้ย ก็ไปตั้งค่าเพิ่มกันอีกนิดนึง ให้ไปตรงเมนู “After upload task….” จากนั้นเลือก QR Code เมื่อตั้งค่าเสร็จทุกอย่างครบถ้วนกระบวนความแล้ว คราวนี้มาดูผลลัพธ์กัน ก็ลองบันทึกวีดีขึ้นมาสักอันนึง เมื่อบันทึกวีดีโอเสร็จแล้วให้ “คลิกขวา” บนไฟล์วีดีโอของเราจากนั้นเลือก Upload เมื่อเลือก upload แล้วก็รอสักครู่ จนโปรแกรมบอกเราว่า upload 100% พร้อม ๆ กับแสดงหน้าต่าง QR Code ขึ้นมาให้เราทันที ก็ลอง Scan QR Code กันดูได้ มันก็จะวิ่งไปที่วีดีโอของเราที่อัพขึ้น youtube นั่นแหละ เป็นยังไงกันบ้าง ง่ายมั้ย ดูเหมือนยาก แต่มันไม่ยากนะ แถม Destination ที่มีให้เราเลือกอัพก็มีมากมายซะเหลือเกิน ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้ลองเล่นกันดู มันมีประโยชน์จริงๆ เล่นไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องรีบร้อนกันนะ สบาย สบายยยยยยย วันนี้ผู้เขียนก็ขอจบ Blog แต่เพียงเท่านี้ และก็ขอจบในเรื่องราวของเจ้า shareX ตัวนี้แต่เพียงเท่านี้ หากผู้อ่านมีข้อสงสัย สามารถถามเข้ามาได้นะ ถ้ารู้ก็จะบอก แต่ถ้าไม่รู้ก็จะพยายามหาคำตอบมาให้ 55+ ส่วน Blog หน้าจะมาเล่าเรื่องอะไร รอติดตามกันนะทุกคนนนน …. บุ้ยบุ่ย ^___^

Read More »

จับภาพ แชร์ภาพ ด้วย shareX Ep 2

Blog นี้ ขอมาต่อในส่วนของโปรแกรม shareX โดยจะมาว่ากันในเรื่องของการบันทึกหน้าจอในรูปแบบ VDO กันค่ะ สำหรับการบันทึกภาพหน้าจอเป็นวิดีโอ ผู้ใช้สามารถทำได้ทั้งแบบเต็มหน้าจอ หรือจะเลือกเป็นพื้นที่ก็ได้เช่นกัน แต่ก่อนที่เราจะบันทึกภาพหน้าจอแบบวิดีโอด้วย shareX ได้นั้น เครื่องของเราก็ต้องมี plugin ที่ชื่อ “FFmpeg” ติดตั้งอยู่ในเครื่องก่อน แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องตกใจหรอก เพราะว่าพอเราเลือกฟังก์ชันบันทึกภาพหน้าจอแบบวิดีโอ (Screen recording) โปรแกรมก็จะบอกเราว่า เราไม่มี plugin ตัวนี้ จะไปดาวน์โหลดมาติดตั้งเลยมั้ย ก็ให้ตอบตกลงไปเลย แค่นี้เราก็สามารถใช้งานการบันทึกภาพหน้าจอได้แล้ว หรืออีกวิธีนึง !!! เราสามารถไปดาวน์โหลดด้วยตัวเองก่อนก็ได้ โดยไปที่ “Task settings” จากนั้นก็ปรากฏหน้าจอดังรูป ให้เลือก “Screen recorder” –> “Screen recording options….” –> คลิก Download รอสักครู่ ไฟล์ไม่ใหญ่ โหลดไม่นาน หน้าตาก็ประมาณนี้น่ะ เพิ่มเติมอีกนิดนึง นอกจากเราจะบันทึกการจับภาพการเคลื่อนไหวของหน้าจอเป็นแบบวิดีโอแล้วเรายังสามารถบันทึกในแบบ  GIF Animation ได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้คือดีมากๆ เลย อะ มาๆ เรามาลองบันทึกภาพเคลื่อนไหวจริงๆ กันเลย Step 1 : เลือก capture –> Screen recording  Step 2 : โปรแกรมก็จะให้เราเลือกพื้นที่ ที่เราต้องการจะบันทึก เราก็ลองลากเลือกเลยว่าจะบันทึกตรงไหน ตัวอย่างตามรูปด้านล่างนะ เมื่อเลือกพื้นที่ได้แล้วก็ให้สังเกตุ โปรแกรมจะขึ้นเส้นประรอบๆ พื้นที่ที่เราเลือก พร้อมทั้งเริ่ม Record หน้าจอของเราละ Step 3 : เราก็เริ่มต้นทำงานบนหน้าจอของเราได้เลย โปรแกรมจะบันทึกวีดีโอเก็บไว้ เมื่อเราดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ก็ให้คลิกปุ่ม “Stop” เพื่อหยุดการบันทึกได้เลย โปรแกรมก็จะแสดงให้เราเห็นว่าบันทึกวีดีโอเสร็จแล้ว จากรูป สามารถคลิกบนลิงค์เพื่อ Play วีดีโอของเราได้เลย หรือหากไม่คลิกจากลิงค์ ก็สามารถเข้าไปดูใน Folder ตาม path ที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ก็ได้นะ ได้ทั้ง 2 วิธีนั่นแหละ หรือใครไม่รู้ว่าไปตั้ง path ได้จากไหน ก็ทำตามวิธีนี้ดูนะ คลิกเลือก Application settings …… –> เลือก path –> คลิก Browse เพื่อเลือกที่เก็บไฟล์ได้เลย ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้ลองเล่นเจ้า shareX ตัวนี้จริงๆ นี่ขนาดผู้เขียนลองเล่น ลองใช้มาจะสัปดาห์นึงละ ยังทำความรู้จักเจ้าโปรแกรมตัวนี้ได้แค่ผิวเผิน เท่านั้นเอง ลูกเล่นเค้าเยอะดีจริงๆ เยอะจนบางทีก็ทำให้เราสับสน งงๆ ได้เหมือนกันนะ 55 เอาเป็นว่า เดี๋ยว Blog หน้า Ep 3 จะมาเล่าต่อนะ ว่าหลังจากบันทึกวีดีโอ หรือรูปภาพเสร็จแล้วสามารถสั่งให้โปรแกรมทำอะไรต่อได้บ้าง วันนี้ก็ลากันไปเท่านี้ก่อน อย่าลืม อ่านแล้ว ลองเล่นดูนะ ^__^

Read More »

จับภาพ แชร์ภาพ ด้วย shareX Ep1

Blog ที่4 นี้ขอนำเสนอโปรแกรมจับภาพหน้าจอฟรี ย้ำนะว่าฟรี !! มีชื่อว่า shareX ซึ่งสามารถจับภาพหน้าจอเพื่อนำไปใช้งานต่อในหลากหลายรูปแบบ เช่น ทำคู่มือ ทำวีดีโอ เอาไปลงในเว็บไซต์ หรื่ออื่นๆ ถือเป็นโปรแกรมฟรีแบบ Open Source ที่จัดเต็มในเรื่องของเครื่องมือต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้แบบครบครันนนนนน จริงๆแล้วโปรแกรมฟรีที่สามารถจับภาพหน้าจอ record วีดีโอนี่ก็มีมากมายเลยแหละ อยู่ที่ใครชอบแบบไหน เอาเป็นว่าวันนี้ลองมาทำความรู้จักกับอีก 1 ตัว ที่มีชื่อว่า shareX กันหน่อยละกันนะ “จะได้รู้ว่าดีกว่าที่ใช้อยู่เนี่ย มันก็มีนะ !!” (อันนี้ผู้เขียนบอกตัวเองนะ 55+) shareX สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://getsharex.com/ หรือจะหาผ่าน window store ก็ได้เหมือนกัน เมื่อดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการติดตั้งบนเครื่องของเราได้เลย สำหรับ shareX ก็จะมี feature หลักๆ คือ รองรับการจัดภาพหน้าจอแบบเต็มจอ เฉพาะหน้าต่าง หรือเฉพาะส่วน สามารถตั้งให้เปิดแก้ไขภาพในโปรแกรมอื่นๆ ก่อนที่จะอัพโหลดได้ save file อัตโนมัติเอาไว้ในเครื่อง upload ภาพขึ้นไปยัง services ต่างๆ สามารถ copy code ต่างๆได้จากในตัวโปรแกรม เช่น html สำหรับแทรกภาพ หรือ BBCode สำหรับแปะในเว็บบอร์ด รองรับการย่อ URL ในตัว รองรับการ upload ข้อความขึ้นเว็บ รองรับการ upload file ขึ้นอินเตอร์เน็ต แชร์สิ่งที่อัพโหลดไปยังแหล่งอื่นๆ ได้ ตั้งค่า hotkey สำหรับจับภาพได้ เหล่านี้ถือเป็น feature คร่าวๆ ของเจ้า shareX นะ จริงๆ แล้ว services ต่างๆที่ตัวโปรแกรมเชื่อมต่อได้นั้นมีเยอะมากๆ เดี๋ยวเราจะลองไปดูกัน เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะเจอกับหน้าตาเจ้าตัว shareX ประมาณนี้ ….. จะเห็นได้ว่าข้อความที่ขึ้นบอกไว้นั้นคือ ปุ่มใช้งานมาตรฐานที่โปรแกรมกำหนดมาให้ หากเราต้องการปุ่มอื่นๆ ถามว่าเปลี่ยนได้มั้ย ตอบเลยว่า …. ได้ !! แต่เดี๋ยวจะอธิบายไว้ในส่วนของ Hotkey settings ด้านล่างนะ ——————————————————————————————————————————————– Capture มากันที่ Feature หลักอันแรกคือ “Capture” หรือการจับภาพหน้าจอนั่นเอง shareX จะรองรับการจับภาพในหลายรูปแบบ ย้ำว่าหลากหลาย จริงๆ Fullscreen          จับภาพหน้าจอแบบ Fullscreenwindow               จับภาพหน้าจอแบบ Window ซึ่งสามารถเลือกได้จากหน้าจอทั้งหมดที่เราเปิดไว้ในเครื่องได้เลยmonitor               หากมีมากกว่า 1 จอ ก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะจับหน้าจอใดRegion                 จับภาพหน้าจอแบบเลือกเฉพาะส่วนLast region        จับภาพในส่วนล่าสุดที่เราเพิ่งจับภาพไปScreen recording      บันทึกภาพหน้าจอScreen recording (GIF)           บันทึกภาพหน้าจอแบบ GIFScrolling capture        จับภาพหน้าจอที่มีความยาวมากเกินกว่าที่จะสามารถแสดงบนหน้าจอได้ทีเดียวหมด (ต้อง Scroll mouse ขึ้นลงนั่นเอง)Text capture (OCR)    จับภาพโดยเลือกเฉพาะตัวอักษรในภาพนั้นAuto capture           สามารถตั้งเวลาได้ ว่าจะให้จับภาพหน้าจอ ทุกๆ กี่วินาทีShow Cursor          สามารถเลือกได้ว่าภาพหน้าจอที่เรา capture ไปเนี่ย จะให้แสดง cursor หรือไม่Screenshot delay: 0s สามารถเลือกความ delay ของการ capture หน้าจอได้ Upload Feature Workflows แสดง Hotkey นั่นแหละ โดยส่วนหลักตัวโปรแกรมก็จะกำหนดมาให้อยู่แล้ว แต่เราสามารถปรับเปลี่ยน Hotkey ได้เอง และยังสามารถเพิ่ม workflows ได้อีกด้วยตัวอย่างจะอธิบายในส่วนของ Hotkey settings นะ Capture region คือการจับภาพโดยเลือกพื้นที่ ๆ เราต้องการ Capture entire screen คือการจับภาพแบบเต็มหน้าจอ Capture active window คือการจับภาพจากหน้าต่างที่เราเลือก หรือกำลังทำงาน

Read More »

Bitly สายย่อ

ย่อ ย่อ ย่อ (เอ๊ะ เค้ามีกันแต่ โย่ว โย่ว โย่ว รึเปล่าหว่า) ย่อในความหมายของผู้เขียนรอบนี้นี่คือ ย่อลิงค์ที่มันย๊าว ยาววววววว ให้สั้นลง เพื่อที่เวลาจะส่งใน chat หรือแปะในหน้าเว็บ หรือเอาไปใช้งานต่อ มันจะได้ดูง่ายๆ ไง๊ ตัวช่วยที่ว่านี้ก็คือ Bitly extension บน google chrome นั่นเอง แน่ะ … อยากรู้กันแล้วใช่มั้ย ปะ ไปกันเลย ปกติแล้วมันก็จะมีวิธีที่เราแปลงลิงค์ให้สั้นกันอยู่แล้วไง ใช่มั้ย ทุกคนน่าจะคิดกันแบบนี้น่ะ แต่ที่ว่าปกติที่เราทำกันเนี่ย มันหลายขั้นตอนไงละ ต้อง copy ลิงค์ เปิดหน้าเว็บช่วยแปลง วางลิงค์ กดแปลงลิงค์ให้สั้น กว่าจะได้ เห็นมั้ย หลายขั้นตอน !! มาใช้วิธีติดตั้ง Bitly extension กันเถอะ เหลือแค่ 2 คลิก เท่านั้นเอง !!! โอยยยย ชีวิตดีขึ้นมาทันทีเลย ขั้นตอนแรกนะ ติดตั้งกันก่อนเลย Step 1 เข้าไปดาวน์โหลด Bitly ผ่าน chrome webstore กันได้เลย เมื่อเจอแล้วให้คลิก “Add to Chrome” เลยน๊าาาา Step 2 เมื่อเราติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตุมุมบนด้านขวาของหน้าจอนะ เห็นมั้ย สัญลักษณ์สีแดงเล็กๆ นั่นน่ะแหละ คลิกลงไป 1 ครั้ง Step 3 หลังจากคลิกปุ๊บ ก็จะปรากฏหน้าจอขึ้นมาตามรูป ก็ให้เราเลือก Sign in ได้เลย ว่าจะเข้าใช้งานด้วย Account ใด Step 4 เมื่อ Sign in เรียบร้อยแล้วก็จะเห็นหน้าจอแบบนี้นะ bitly ยินดีต้อนรับเราแล้วววว!! Step 5 จากนั้นให้คลิกที่ icon bitly ที่มุมบนด้านขวาอีกครั้งนึง ก็จะแสดงหน้าจอให้เรา allow การเข้าถึงข้อมูลของเรา หน้าตาประมาณนี้นะ เมื่อเห็นก็คลิก “Allow” ได้เลย Step 6 มาลองใช้งานกันดีกว่า จากตัวอย่างผู้เขียนจะทดสอบเปิดหน้าเว็บที่มีลิงค์ย๊าววว ยาว ขึ้นมาในหน้าต่าง (ตามรูปเล้ย) จากนั้น คลิก icon bitly บน browser ตรงมุมบนด้านขวานั่นเลย Step 7 ให้สังเกตุนะ พอเรากด icon bitly ปุ๊บ ก็จะแสดงหน้าต่างด้านขวาขึ้นมา ซึ่งจะขึ้น short link ที่แปลงจากลิงค์ย๊าววว ยาว ตะกี้ให้สั้นลง เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้งานต่อได้ง่ายขึ้น ถ้าจะเอาไปส่งในแชท หรือเอาไปใช้ต่อ คลิก “copy” เพื่อคัดลอกลิงค์ได้เลย เป็นยังไงกันบ้างทุกคน ง่ายขึ้นมั้ย มันช่วยให้การทำงานของเราเร็วขึ้นจริงๆ นะ ติดตั้งเถอะ ! แนะนำ แนะนำ แนะนำ นี่แนะนำ 3 times เลยนะ ดีจริง จริ๊ง จึงนำมาบอกเล่าเก้าสิบกันต่อ หวังว่าทุกคนจะไปลองใช้กันดูนะ วันนี้ก็ขอจบ Blog ที่ 3 ไปเพียงเท่านี้เน้ออออออ อ้างอิง : http://bit.ly/2N3Tut7

Read More »

สร้างสื่อเสมือนจริงง่ายๆ ด้วย Pixlive maker

Blog ก่อนหน้าเราได้ทำความรู้จักกับ สื่อเสมือนจริง หรือที่เราเรียกกันว่า AR กันไปแล้ว ภาคต่อใน Blog นี้จะพาไปเจาะลึกมากขึ้นอีก Step นึง ก็คือ เราจะมาดูกันว่า AR เนี่ย สร้างกันอย่างไร สำหรับผู้เขียน Blog นี้ขอเลือกใช้งานการสร้าง AR ง่ายๆ ผ่านเว็บ VIDINOTI ละกันนะ ปะ ไปดูกันเลย เริ่มต้นด้วยไปที่เว็บ https://www.vidinoti.com/home/ เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บเรียบร้อยแล้ว ก็สมัครเข้าใช้งานกันก่อนเลย คลิกเลือกที่ Free Sign up มุมบนด้านขวา จากนั้นก็กรอกข้อมูลเพื่อสมัครเข้าใช้งาน ตัวอย่างตามรูปด้านล่างนะทุกคน เมื่อ Register เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไป Activate จาก link ที่ส่งไปยัง e-mail ที่เราได้สมัครเอาไว้นะ เมื่อ Activate แล้วก็ Log in เพื่อใช้งานกันโลดดดดดดด !! หน้าแรกจะมีการแนะนำขั้นตอนเบื้องต้นบอกเราว่า เราต้องทำการดาวน์โหลด App V-Player นะ จะต้อง Scan QR Code นะ และก็มีวีดีโอแนะนำการใช้งานให้เราได้ดูกัน อ่านเสร็จแล้วก็กด “OK” ได้เลย หน้าแรกของระบบจะประกอบด้วย ซ้ายมือจะเป็นกลุ่มเมนูการจัดการต่างๆ ตรงกลางเป็นส่วน Plan ซึ่งเราสามารถดูได้ว่าเราทำไปกี่ content แล้ว หรือ publish ไปแล้วกี่ content รวมถึงสามารถ upgrade account ได้ด้วยน๊าาาาาา (ระดับเราแล้ว ฟรี อย่างเดียว !!) มุมล่างด้านขวาของหน้าจอจะเป็น QR Code ซึ่งประโยชน์ของมันก็คือ คนที่จะมองเห็นงาน AR ของเรานั้น จะต้องทำการเปิด App V-Player จากนั้นนำมาส่ง QR Code ตัวนี้เพื่อจะดูผลงานของเรานั่นเองหมายเหตุ : ให้บันทึก QR Code เก็บไว้ก่อนนะ แล้วค่อยนำรูปไปแปะไว้ในงานของเรา มาเริ่มสร้างงาน AR ของเรากันเถอะ !! Step 1จากหน้าแรก ให้คลิกเลือก “Create new content” Step 2เลือก “Image AR” จากนั้นให้เราทำการ Drop file หรือ Browse file ที่เราได้สร้างหรือออกแบบเอาไว้ เข้ามาในระบบ Step 3เมื่อเลือกรูปที่ต้องการ upload เสร็จแล้ว ให้กด “Continue” จากนั้นระบบก็จะแสดงหน้าถัดไป ให้ตั้งชื่อ “content name” และ “Description” (อันหลังนี่จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้นะ) จากนั้นกด “Continue” อีกรอบนึงนะ ปุ่มจะอยู่ด้านล่างขวาของหน้าจอนั่นแหละ Step 4เมื่อเจอหน้าจอดังรูปด้านล่าง ให้เราคลิกที่รูปในหน้าจอได้เลย ระบบจะพาเราไปยังหน้า Pixlive editor Step 5 ครั้งแรกที่เข้ามาในส่วน Pixlive editor ก็มีการแนะนำการใช้งาน คลิก “take the tour!” ก็คลิกๆ ตามๆ ที่เค้าชี้ไปเรื่อยๆ เมื่อครบแล้วก็โปรดรอสักครู่ ! ก็จะเจอกับหน้าจอดังรูป ซ้ายของหน้าจอคือ content ต่างๆ ไว้ให้เราเลือกใช้ ตรงกลางส่วนแสดงผล สามารถเลือกมุมมองสลับไปมาได้ระหว่าง Scene View หรือ Scenario มี % การแสดงผล ขวาของหน้าจอก็จะเป็น Properties ของแต่ละ Scene ที่เราโฟกัสอยู่นั่นเอง Step 6ก่อนอื่นเรามามองภาพรวมก่อนการสร้างงานกันสักนิดนึง ตามตัวอย่างที่ผู้เขียนออกแบบงานของผู้เขียนไว้คือ “จะมีเมนู 5 เมนู ซึ่ง 3 เมนูแรกจะเชื่อมโยงไปยัง VDO เมนูถัดมาจะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บที่ได้มีไฟล์แขวนเอาไว้ ส่วนสุดท้ายจะเป็นส่วนแสดงช่องทาง Contact มายังผู้จัดทำ

Read More »