วิธี Convert Multiple email to Adobe PDF ด้วย MS Outlook

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ เอาจริงๆ ทางผู้เขียนห่างหายไปนานมากๆ กับการเขียน Blog นานมากกกกจริงๆ นะ 😊 ต้องขอเล่าก่อนว่า ตั้งแต่สิงหาคม 2564 จนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา การทำงานของผู้เขียนในตำแหน่ง Customer Support ค่อนข้างจะหนักหนาเอาการเลยทีเดียวแหละ 55+ ดังนั้นปัญหาที่ตามมาคือการตอบคำถามให้กับนักศึกษาทั้ง 5 วิทยาเขตของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งช่องทางหลักๆ หนึ่งในการให้บริการคือ ถาม-ตอบปัญหาผ่านทาง Email ค่ะ สำหรับปัญหาของผู้เขียนคือ จะทำยังไง??? ที่จะเอา Email ในรอบ 4-5 เดือนที่ถาม-ตอบไปทั้งหมดออกมาเพื่อให้ทางผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ สามารถตรวจสอบได้ว่าเนื้อหา หรือปัญหาที่พบเจอมีอะไรบ้าง (คร่าวๆ ก็เกือบๆ 2000 ฉบับแหละ หื้ม) มาค่ะ เรามาเริ่มกันเลย …. วันนี้ทางผู้เขียนจะมาขอแบ่งปันเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เกี่ยวกับการ export ข้อมูลจาก Email บน Microsoft outlook ให้อยู่ในรูปแบบ PDF กันค่ะ โดยผู้เขียนจะขอพูดถึงในส่วนที่ผู้เขียนทราบและได้ทดสอบใช้งานจริงค่ะ ปล … จริงๆ แล้ว Microsoft Outlook มันก็มีวิธีให้เรา Export ข้อมูลในตัวของมันอยู่แล้ว แต่อาจจะอยู่ในรูปแบบของ .pst ซึ่งไม่ใช่แบบ pdf ที่ทางผู้เขียนต้องการเท่านั้นเอง แหะๆ (แต่จริงๆ อาจจะมีวิธีที่ทำได้มากกว่าวิธีที่ผู้เขียนจะแชร์ก็ได้นะ) Export ข้อมูล Email ทั้ง Folder ออกจาก Microsoft Outlook ให้อยู่ในรูปแบบ PDF ขั้นตอนที่ 1 : อย่างแรกเลยคือ เครื่องของผู้ใช้งานจะต้องติดตั้งหรือมี Adobe acrobat pro DC ก่อนนะ (วิธีดาวน์โหลดติดตั้งโปรแกรม สามารถค้นหาผ่าน google ได้เลยนะทุกคน) ขั้นตอนที่ 2 : เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วก็ Sign in เข้าไปด้วย Adobe Account กันเลย เมื่อขั้นตอนของการติดตั้ง Sign in เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ในส่วนของ Microsoft Outlook กันค่ะ ขั้นตอนที่ 3 : จากนั้นให้ผู้ใช้งานเปิดโปรแกรม Microsoft Outlook ขึ้นมาเลยค่ะ (จากรูปผู้เขียนใช้ Office 365 นะ)จะสังเกตได้ว่า จะมีเมนู Acrobat เพิ่มเข้ามาตามในรูปเลย ขั้นตอนที่ 4 : จากนั้นหากผู้ใช้ต้องการดำเนินการใน Folder ไหน ก็ให้คลิกขวาที่ Folder นั้นได้เลยค่ะ อย่างในรูปผู้เขียนจะดำเนินการใน Folder ที่ชื่อว่า “อว.ลดค่าเทอม” เมื่อเราคลิกขวา จะปรากฏเมนูที่ชื่อว่า “Convert อว.ลดค่าเทอม to Adobe PDF” ขั้นตอนที่ 5 : คลิกเลือกเมนู “Convert อว.ลดค่าเทอม to Adobe PDF” ได้เลยค่ะ จากนั้น ก็เลือก Location สำหรับบันทึกไฟล์ดังกล่าว เมื่อยืนยันเรียบร้อยแล้ว Microsoft Outlook ก็จะทำการ Convert ข้อมูลใน Folder ดังกล่าวออกมาให้ค่ะ ปล…สำหรับของผู้เขียนรอนานมากกกกกกกค่ะ เพราะมีข้อมูลเกือบๆจะ 2000 ฉบับแน่ะ !!! ขั้นตอนที่ 6 : เมื่อเรียบร้อยแล้วเราก็จะได้ข้อมูลเป็นไฟล์ PDF ออกมาค่ะ ก็ลอง Double Click เปิดไฟล์ดูได้เลยค่ะ จะได้หน้าตาประมาณนี้นี่เอง ง่าย และสะดวกกกกกก ไม่ต้องนั่งทำผ่าน Email ที่ละฉบับ เป็นยังไงกันบ้างค่ะ พอจะช่วยเหลือการทำงานให้กับผู้อ่านได้บ้างรึเปล่าเอ่ย ??? แต่ยังไงก็ตามผู้เขียนก็ยังคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ เจอกันใหม่อีกทีใน Blog หน้า Coming

Read More »

โหมดไม่ระบุตัวตน ?

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน Blog ปิดท้ายของเดือนพฤษภาคม ปี 64 นี้ ผู้เขียนขอเล่าในเรื่องของความรู้เพิ่มเติมในการใช้ Browser ละกันเนอะ จากการใช้งานท่องเว็บของเราในแต่ละวัน คาดว่าผู้อ่านแต่ละท่าน คงจะคุ้นเคยกับคำว่า โหมดไม่ระบุตัวตนกันมาบ้างแล้ว จริงๆ ในแต่ละ Browser เนี่ย ชื่อเรียกมันก็จะต่างกันนะ เช่น Incognito , Private หรือ Inprivate เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็คือ โหมดไม่ระบุตัวตนนั่นแหละ โหมดไม่ระบุตัวตน คืออะไร ? เอาแบบภาษาบ้านๆ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็น Feature นึงที่มีอยู่ในทุกๆ Browser โดยโหมดนี้ จะทำให้ Browser ของเราจะไม่จัดเก็บข้อมูลของเว็บที่เราเข้า ไม่มีที่อยู่ ไม่มี cookie ไม่มีข้อมูลที่เราป้อนก่อนหน้า ก็คือไม่มีอะไรเลย ! มันก็คงคล้ายๆ กับการทำให้ Browser ของเราความจำเสื่อมชั่วคราวนั่นแหละนะ คราวนี้มาขยายความแบบทางการกันหน่อย Browser จะไม่เก็บประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์ Browser จะไม่เก็บ cookie ของเว็บไซต์ และ ข้อมูลที่กรอกในฟอร์มต่างๆ แต่ถ้ามีการ bookmarks หรือดาวน์โหลดไฟล์ระหว่างใช้งาน ข้อมูลเหล่านั้นก็จะยังคงอยู่ ถึงแม้จะเราจะปิดโหมดนี้ไปแล้ว ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตยังคงเห็นการเข้าใช้งานของเราตามปกติ IP ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ ไม่ว่าจะโหมดปกติ หรือโหมดไม่ระบุตัวตน ยังเป็น IP เดียวกัน และโหมดไม่ระบุตัวตนมันไม่ได้ซ่อนที่อยู่ IP ของเราให้นะทุกคนนนน !! การใช้งานโหมดนี้ในเครื่องสาธารณะ หรือเครื่องที่มีความเสี่ยง โหมดนี้ไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงเหล่านั้นลดน้อยลง พออ่านไปอ่านมาจนถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านคงรู้สึก เอ๊ะ ! แล้วนี่มันเป็นการท่องเว็บแบบส่วนตัวจริงเหรอ ทำไมรู้สึกเหมือนๆ จะไม่ส่วนตัวยังไงยังงั้นกันใช่มั้ย … เอาจริงๆ ผู้เขียนมองว่า เราก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องกันก่อน ว่าโหมดไม่ระบุตัวตนตัวนี้เนี่ย เหมาะกับการใช้งานแบบไหน ขอบเขตการทำงานของมันเป็นยังไง แล้วมันเหมาะ หรือไม่เหมาะ กับการใช้งานแบบใดกันละ ? ถ้าตามความเข้าใจของผู้เขียน ผู้เขียนเข้าใจว่า เหมาะกับกรณีที่เราไปใช้งานตามร้าน Internet cafe หรือ เครื่องสาธารณะ ที่เราไม่ต้องการให้ Browser มีการเก็บประวัติการเข้าใช้งาน เหมาะกับกรณีที่เราต้องการเข้าใช้บริการต่างๆ พร้อมกันมากกว่า 1 account ข้อนี้ส่วนตัว แหะๆ ผู้เขียนคิดว่ามันเหมาะกับงานของผู้เขียน คือ ใช้สำหรับใช้ทดสอบระบบ หรือเว็บที่เราพัฒนา เนื่องจากจะไม่มีการจำ cache ใด ให้เราปวดหัว ^^ ไม่เหมาะกับกรณีที่เราไปใช้งานในทางที่ไม่ดี เพราะมันยังสามารถโดนติดตามได้อยู่ … อย่าลืมระวังข้อนี้ด้วยนะ !! หากสิ่งที่ท่านผู้อ่านต้องการ ที่ไม่ใช่แค่ไม่เก็บประวัติ ไม่เก็บ cookie เหล่านี้ ทางผู้เขียนขอแนะนำให้ไปศึกษาใช้การ VPN หรือ Proxy ควบคู่ไปกับการใช้โหมดไม่ระบุตัวตน สุดท้ายแล้ว เจ้าโหมดไม่ระบุตัวตนนี้ ก็ยังคงเป็นอีกตัวเลือกที่ง่าย และยังคงมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และสภาพแวดล้อมของแต่ละคน ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะยังคงเพิ่มความเข้าใจ ให้ความกระจ่างกับผู้อ่านในเรื่องของ โหมดไม่ระบุตัวตน ได้ไม่มากก็น้อยแหละเนอะ ขอบคุณแหล่งข้อมูลข่าวสาร และความรู้ >>> https://www.techhub.in.th/

Read More »

Checker Plus for gmail ~ ชีวิตที่ง่ายขึ้น

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน … Blog วันนี้ผู้เขียนจะขอนำเสนอ Extension ที่มีชื่อว่า Checker Plus for gmail ซึ่งมีไว้สำหรับช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย (หรือไม่ก็ช่วยเพิ่ม level ความขี้เกียจ อันนี้ก็ไม่แน่ใจนะ 55+) คำถามถัดมา แล้วมันน่าสนใจตรงไหน ? ก็ต้องขอบอกก่อนว่าคงเป็น Extension อีกตัวที่เหมาะกับการทำงานของหลายๆ ท่าน ที่ในแต่ละวันต้องเช็ค Email ตอบกลับ รับแจ้งปัญหา ต่างๆนาๆ อยู่เป็นประจำ เช่น งานบริการถาม-ตอบปัญหา ให้กับลูกค้า ดังเช่นผู้เขียน เป็นต้น เจ้า Checker Plus for gmail ก็จะถือว่าค่อนข้างสะดวกมากเลยแหละ สำหรับคนที่อยากเช็ค Email แต่ไม่อยากเปิด Tab ใหม่  ดังนั้นเมื่อเราติดตั้งเจ้า Extension ตัวนี้ไว้ ทุกครั้งที่เราจะเช็ค Email ก็สามารถกดที่ Checker Plus ที่เราติดตั้งได้เลย มันก็จะแสดง Email ทั้งหมดในกล่อง Inbox ของเรานั่นเองงงงง วิธีการก็ง่ายมากๆ ปะ … เรามาเริ่มกันเล้ย ขั้นตอนที่ 1 ในหน้า Browser google chrome เข้าไปที่ More tool –> เลือก Extensions ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นให้เข้า Open Chrome web store ค้นหาคำว่า “Checker Plus for gmail” ขั้นตอนที่ 3 เราก็มาเริ่มต้นการติดตั้งกันเลย คลิก “Add to chrome” ขั้นตอนที่ 4 เมื่อติดตั้งสำเร็จ ให้สังเกตุมุมบนด้านขวาของ Browser ได้เลย แท่น แท่น แท๊นนน … สีแดงๆ นั่นแหละ พระเอกของเราในวันนี้ ขั้นตอนที่ 5 ลองคลิกเข้าไปดูได้เลย เราก็จะเห็น Inbox ใน gmail ของเราทั้งหมด หลังจากนี้เราก็ไม่ต้องมานั่งกังวลอีกต่อไป ว่าต้องเปิด Tab ใหม่ทุกครั้งที่ต้องการเช็ค Email เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ผู้เขียนว่ามันอำนวยความสะดวกสำหรับงานของตัวผู้เขียนเองมากๆ จึงอยากจะมาแนะนำให้ทุกๆ คนได้ทดลองใช้งานกันดู และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog นี้จะยังคงมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่าน ไม่มากก็น้อย เน้อออออ … ขอขอบคุณข่าวสารดีๆ จาก : https://www.techhub.in.th/

Read More »

Youtube ~ Checks !!

Hi ผู้อ่านทุกๆ ท่านนนนนนน ช่วงนี้เป็นช่วงการระบาดระลอกใหม่ ของ COVID-19 ซึ่งเรื่องที่ตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เรื่องนึงเลยก็คือ การต้องทำงานแบบ WFH นั่นเอง !! (เฮ้อ ….) ส่วนตัวของผู้เขียนงานหลักๆ ในช่วงนี้ก็จะเป็นการอบรมออนไลน์ และสร้างสื่อวิดีโอ เพื่อแนะนำการใช้งานง่ายๆ ของระบบที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบ โดยผู้เขียนเลือกจะที่ใช้ช่องทางการเผยแพร่วิดีโอ ผ่าน Youtube ซึ่งสะดวก และง่ายต่อการเข้าถึง ล่าสุด Youtube เหมือนจะมีเครื่องมือใหม่คือ Youtube Studio ที่มีส่วนเข้ามาช่วยตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ของวิดีโอ ตั้งแต่ในส่วนขั้นตอนการอัปโหลด ก่อนการเผยแพร่ออกไป ซึ่ง … เฮ้ย มันโอเคเลยนะ ที่เราจะรู้ว่าวิดีโอเรามีการละเมิดลิขสิทธิ์ใดๆ หรือไม่ ไม่ใช่อัปโหลดแล้ว คนอื่นมาดูแล้ว แต่เพิ่งได้รับแจ้งว่าเนื้อหาภายในมีการละเมิดลิขสิทธิ์ !! (ตัวผู้เขียนเองก็เคยโดนอยู่บ่อยๆ แหะๆ) แล้วขั้นตอนการตรวจสอบทีว่าเพิ่มเข้ามาเนี่ย มันอยู่ตรงไหน ? งั้นไป ไปดูกันเลย …. ขอเริ่มต้นด้วยขั้นตอนหลักๆ ในการอัปโหลดวิดีโอ กันก่อนนะ ทุกคน ขั้นตอนที่ 1 เลือก “อัปโหลดวิดีโอ” ขั้นตอนที่ 2 เลือกวิดีโอที่ต้องการอัปโหลด ขั้นตอนที่ 3 อัปโหลดวิดีโอ เตรียมเผยแพร่ ทุกคนสังเกตุ เห็นอะไรมั้ย …. นั่นไง ส่วนที่เขียนว่า “ตรวจสอบ” (Checks) เมื่อระบบประมวลผลเรียบร้อยแล้ว หากวิดีโอของเราที่อัปโหลดขึ้นไป ได้รับการตรวจสอบเบื้องต้น และพบว่าผ่าน ตรงส่วน “การตรวจสอบ” ดังกล่าวจะขึ้นเครื่องหมายถูก เหมือนตัวอย่างในภาพ จากนั้นให้เรากดปุ่ม “ถัดไป” เมื่อเราคลิกมาจนถึงส่วนของการตรวจสอบ ภายในก็จะมีข้อความบอกเราถึงรายละเอียดในการตรวจสอบลิขสิทธิ์ พบ/ไม่พบปัญหา และเราก็ยังสามารถคลิก “ดูข้อมูลเพิ่มเติม” เพื่อศึกษารายละเอียดได้มากยิ่งขึ้นด้วยนะ เจ้าตัวเครื่องมือ Checks เนี่ย หลักๆ เลยจะทำหน้าที่ตรวจสอบวิดีโอที่เราอัปโหลด ว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาด้านลิขสิทธิ์หรือไม่ ที่พบโดยส่วนใหญ่เลยคือพวกเพลงที่ใช้ประกอบในวิดีโอของเรานั่นแหละ ข้อดี ของเจ้าตัวเครื่องมือใหม่นี้ จะช่วยให้เราๆ หรือชาว youtuber, creator ได้มีโอกาสแก้ปัญหาในวิดีโอของเราก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการเผยแพร่ จะแสดงให้เราเห็นรายละเอียดของปัญหา และผลกระทบที่จะมีตามมาได้ หรือง่ายๆ เลย Checks จะช่วยปกป้องตัวเราให้ไม่ต้องไปเผชิญกับปัญหาการร้องเรียนการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยมิได้ตั้งใจนั่นเอง ผู้เขียนหวังว่า blog สั้นๆ ที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟังนี้จะช่วยให้ผู้อ่านหลายๆ ท่าน ได้รับรู้ข้อมูล และนำไปใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยแหละเนอะ ขอบคุณแหล่งที่มา : youtube.com มานะที่นี้ด้วยแง๊บบบบ

Read More »

Chrome ~ Live Caption

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านนนน … blog วันนี้ ผู้เขียนจะขอว่าด้วยเรื่องของ Google Chrome Live Caption !! คาดว่าหลายๆ ท่านอาจจะเคยเจอปัญหาเช่นเดียวกับผู้เขียน เช่น เมื่อเราต้องการดูข้อมูลวิธีการอะไรสักอย่างนึง เราก็จะ Search google เพื่อหาข้อมูล บ่อยครั้งที่ข้อมูลที่เราได้จะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอ ซึ่งมีผู้รู้หลายๆ ท่านมาแชร์เอาไว้ และก็บ่อยครั้งอีกเช่นเดียวกัน ที่ความรู้เหล่านั้นอยู่ในรูปแบบภาษาอังกฤษ (ซึ่งทักษะภาษาอังกฤษของผู้เขียนก็ … นะ T T) ปัญหาของผู้เขียนก็คือ ฟังไม่ทัน ฟังไม่เข้าใจ เค้าพูดอะไร !! 55+ ดังนั้นผู้เขียนจึงหาข้อมูล หาวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยให้ตัวเองสามารถเข้าใจในข้อมูลเหล่านั้นได้เพิ่มมากขึ้น ในระยะเวลาที่จำกัด ค้นไปค้นมา นั่นแน่ … ก็มาเจอกับ Feature ใหม่ของ Google Chrome ที่มีชื่อว่า Live Caption นั่นเอง Live Caption บน Google Chrome แปลง่ายๆ เลยก็คือ มันจะช่วยขึ้น Subtitle ให้เราสามารถอ่านตามไปได้ และสามารถใช้งานได้ดีกับวิดีโอบน youtube หรือแม้กระทั่ง Podcast (แต่ปัจจุบันยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษ เท่านั้นนะ) คำถามถัดมา แล้วเราจะทำยังไงให้ Google Chrome ของเรา แสดง Live Caption ได้ละ … ไป ไปเริ่มตั้งค่ากันเลย step 1 : เปิด Browser google chrome ขึ้นมาก่อน จากนั้นไปที่จุด 3 จุด มุมขวาบนของ Browser —> เลือก Settings step 2 : เลือกเมนู Advance step 3 : เลือก Accessibility step 4 : สุดท้ายเลือก on คำสั่ง live caption ตามในรูปเล้ยยยย เมื่อเราตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาดูผลลัพธ์กัน ว่าจะเป็นยังไง หน้าตาที่ได้ก็ประมาณตามวิดีโอตัวอย่างด้านล่างนี้นะ จริงๆ แล้วจากที่หาข้อมูลพบว่า Feature Live Caption ตัวนี้เนี่ย เค้าออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้มีปัญหาทางการได้ยิน แต่เอาจริงๆ นะ ผู้เขียนมองว่ามันมีประโยชน์ไม่น้อยเลยกับคนทั่วไป ถึงแม้ตอนนี้จะยังคงรองรับเพียงแค่ภาษาอังกฤษ แต่นั่นผู้เขียนก็มองว่ามันดีมากๆ แล้ว แถมยังสามารถใช้ได้ทั้งการดูวิดีโอแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์ เลยด้วย ดีมากจริงๆ ยังไงก็แล้วแต่ ผู้เขียนก็หวังเหมือนเดิมอีกเช่นเคย หวังว่า blog นี้จะยังคงมีประโยชน์กับหลายๆ คน ไม่มากก็น้อย แนะนำให้ลองไปใช้กันดูนะทุกคน ขอบคุณแหล่งที่มา : ข่าวไอทีใน https://www.techhub.in.th/ ไว้น่ะที่นี้แง๊บบบบ

Read More »