Author: kanokgul.s

  • รูปเยอะ พื้นที่เต็ม อยากจะย้ายรูปจากบัญชี Google Account ไปอีกบัญชี Google Account ทำอย่างไร

    รูปเยอะ พื้นที่เต็ม อยากจะย้ายรูปจากบัญชี Google Account ไปอีกบัญชี Google Account ทำอย่างไรดีนะ….

    สำหรับชาว PSU ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่าพวกเรามี Google Account ทุกคน โดยการเข้าใช้งานด้วย ชื่อ PSUPassport@psu.ac.th แค่นี้ง่ายๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

    ผู้ใช้งานบางคนมีการเชื่อมต่อบนมือถือระบบปฏิบัติการ Android ด้วยบัญชี Google Account ซึ่งสามารถ Upload รูปภาพไปจัดเก็บที่ Google Photos ให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องกลัวว่าเมื่อมือถือหาย มือถือพัง รูปจะหาย ไฟล์จะเสีย…แต่….เมื่อมือถือ Upload รูปภาพไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ก็ไม่มีการ Upload อีกแล้ว เมื่อตรวจสอบพบว่าพื้นที่จัดเก็บเต็ม ทำอย่างไรดีเนี้ย รูปก็สำคัญ เรามีวิธีการย้ายรูปจากบัญชี Google Account ไปอีกบัญชี Google Account ด้วยวิธีง่าย ๆ มาดูกันว่าทำกันอย่างไรนะคะ
    1. เปิด Google Account ที่พื้นที่เต็มต้องการย้ายรูป ชื่อว่า Account_1 และ Google Account ที่ต้องการย้ายรูปไปชื่อว่า Account_2 ค่ะ
    ตัวอย่าง Account_1 : ที่มีพื้นที่เต็ม

    ตัวอย่าง Account_2 : ที่มีพื้นที่เหลือ


    2. เลือกรูปที่ต้องการ จะเลือกทีละรูป หรือเลือกทั้งวันของรูปภาพ
    1. เลือกรูปภาพย้ายไปยัง Account_2
    2. กดปุ่ม “Share”


    3. เลือก Account_2 ที่ต้องการย้ายรูปภาพ

    4. ตรวจสอบความถูกต้องของรูปภาพ แล้วกดปุ่ม “ส่งภาพ”



    5. เมื่อกดปุ่ม “ส่งภาพ” รูปภาพเรียบร้อยแล้ว จะแสดงรูปภาพทั้งหมดให้อีกครั้ง


    6. เปิด Account_2 จะพร้อมคลิกปุ่ม “Sharing”


    7. คลิกปุ่ม “Sharing” จะแจ้งไฟล์รูปภาพที่มีการ share มาให้



    8. กดปุ่ม save


    9. เมื่อบันทึกเรียบร้อยแล้วแสดง Saved



    10. เมื่อมาตรวจสอบที่ Google Photos ก็จะมีรูปภาพที่มีแชร์มา ดังรูป


    11. เมื่อย้ายรูปภาพมา ตรวจสอบความถูกต้องแล้วก็สามารถลบรูปภาพ Account_1 เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้ว่างสำหรับรูปที่ Upload มาเพิ่มค่ะ

    *** หมั่นตรวจสอบ หมั่นลบให้เป็นนิสัยจะได้ไม่มีไฟล์ขยะให้พื้นที่เต็มนะคะ หวังว่าเรื่องนี้เป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แก่คนทั่วๆ ลองทำตามกันดูนะคะ

  • การใส่ลายเซ็น (Signature) ในเอกสาร Google Forms

    การประยุกต์ใช้ Google forms ในการใช้ทำแบบสอบถาม แบบฟอร์มต่างๆ และให้ผู้กรอกแบบสอบถามสามารถเซ็นชื่อในเอกสาร สามารถใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Signature มาดูกันว่ามีวิธีการอย่างไร

    1. เปิด Google Drive เลือกสร้าง Google Forms เพื่อสร้างแบบสอบถาม ดังรูป

    2. สร้างแบบสอบถาม ตัวอย่างเป็นฟอร์มรายงานตัวออนไลน์ ที่ให้กรอก ชื่อ-สกุล และเบอร์โทร ดังรูป

    3. เมื่อสร้าง Google Forms เรียบร้อยแล้ว ให้ไปสร้าง Google Sheet สำหรับจัดเก็บเป็นฐานข้อมูล ดังรูป
    4. เมื่อสร้าง Google Sheet จะได้ ดังรูป

    5. เมื่อเราสร้างแบบสอบถามเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาติดตั้ง Add-ons โดยคลิก “Add-ons” ดังรูป

    6. ส่วนนี้จะเป็น Add-ons ของ Google ทั้งหมด ซึ่งหากใครต้องการเลือก Add-ons ที่มาใช้งานก็มาเลือกจากส่วนนี้ได้ แต่ในที่นี่เราจะใช้ Signature เพื่อนำไปใช้เป็นลายเซ็นของเอกสารของเรา เลือกค้นหาคำว่า “Signature” และคลิกเพื่อติดตั้ง ดังรูป

    7. ต้องการติดตั้ง Add-ons คลิก “Install” ดังรูป
    8. คลิก “CONTINUE” เพื่อติดตั้ง Signature ดังรูป

    9. เลือก User ที่ต้องการติดตั้ง ดังรูป

    10. คลิก “Allow” ดังรูป

    11. ติดตั้งเรียบร้อย ไปใช้งานกันเลย คลิก “NEXT” ดังรูป

    12. เริ่มใช้งานคลิกเลือก “Signature” ดังรูป

    13. คลิก “Start” ดังรูป
    14. คลิก “Login” ดังรูป
    15. เลือก “Multiple Signatures (new)” ดังรูป

    16. คลิก “Submit” ดังรูป

    17. คลิก “Confirm” ดังรูป

    18. การใช้งานแบบสอบถามที่ต้องการให้มีลายเซ็น จะต้องใช้ลิงก์จากการคลิก “Get Link” เท่านั้น ดังรูป

    19. เมื่อนำลิงก์มาใช้งานจะปรากฎดังรูป หากผู้อ่านอยากลองใช้านสามารถทดลองจาก ตัวอย่าง

    20. เขียนลายเซ็น และคลิก “บันทึก” ดังรูป

    21. เมื่อลงลายเซ็นและบันทึกเรียบร้อยแล้ว จะให้ยืนยันอีกครั้ง คลิก “ยืนยัน” ดังรูป

    22. ต้องการกลับไปยังหน้าแบบสอบถาม คลิก “1.คัดลอก” “2.กลับสู่แบบฟอร์ม” ตามลำดับ ดังรูป

    23. เมื่อกลับมายังหน้าแบบฟอร์ม ให้วางที่ลายเซ็น จะได้ลิงก์จากที่ Copy ก่อนหน้า ดังรูป

    24. เมื่อไปดูจาก Google Sheet จะแสดงลิงก์ที่ช่องของ ลายเซ็น ดังรูป คลิกลิงก์เพื่อไปตรวจสอบการกรอกข้อมูล ดังรูป

    25. เมื่อบันทึกเรียบร้อยการแสดงผลจะได้ ดังรูป

    จากตัวอย่างที่ได้ทำมาทั้งหมด เป็นการประยุกต์ที่แบบง่าย ที่ใครๆ ก็ทำได้ ลองทำกันดูนะคะ

  • การสร้างแบบสอบถามอย่างง่ายจาก Mentimeter

    การสร้างแบบสอบถามอย่างง่ายโดยใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Mentimeter ลองมาดูกันว่าวิธีการง่าย ทำกันอย่างไร

    1. เข้าใช้งานไปที่ เว็บไซต์ https://www.mentimeter.com/ เมื่อเข้ามาให้คลิก “Sign up” เพื่อเข้าสู่ระบบ

    2. จะแสดงหน้าให้ Create a free account แบบง่าย ก็ให้เลือกผ่าน Facebook หรือผ่าน Google ดังรูป

    3. ในตัวอย่างโดยใช้ Facebook ดังรูป

    4. เมื่อ Login เข้ามาแล้วจะเจอประเภทที่ให้เลือก ในตัวอย่างนี้จะใช้แบบ “Workshops”

    5. ให้เลือกรูปแบบของการใช้งาน ตัวอย่างนี้เลือกแบบ Free โดยคลิก “Continue with free

    6. เลือก “+New presentation

    7. จะมีประเภท (Type) ให้เลือก ตัวอย่างนี้เลือกแบบ “Word Cloud

    8. สามารถสร้างคำถาม ตัวอย่างถามว่า “คุณชอบกินอะไร” และเลือกคำตอบที่สามารถตอบได้ 3 ข้อ หลักจากนั้นคลิกปุ่ม “Share” ดังรูป

    9. เมื่อคลิก “Share” จะมีให้เลือก จะเอาลิงก์ไปใส่ในหน้าเว็บอื่นๆ หรือจะสร้างเป็น QR code ในตัวอย่างสร้างเป็น QR code ดังรูป

    10. เมื่อคลิกปุ่ม “Download” จะได้ QR code สำหรับเอาไปใส่ในเว็บต่างๆ QR code นี้สามารถใช้งานได้จริง ลองสแกน แล้วเข้าไปกรอกดูนะคะ

    11. เมื่อสแกน QR code ผ่านมือถือจะได้คำถาม ดังรูป

    12. ให้กรอกคำตอบได้ 3 ข้อ แล้วกรอกคำตอบที่ต้องการ แล้วคลิกปุ่ม “Submit”

    13. เมื่อกรอกครบทั้ง 3 ข้อ จะแสดงข้อความขอบคุณในการตอบคำถาม

    14. เมื่อผู้ตอบคำถาม จะแสดงมาให้หน้าเว็บของฝั่งของผู้จัดทำแบบสอบถาม ดังรูป

    จากที่เล่ามาด้านบนทั้งหมด เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งที่ตั้งคำถาม คำตอบแบบให้กรอกคำตอบแบบปลายเปิด ผู้ตอบแบบสอบถามสามารถเลือกบันทึกเองได้ แต่หากต้องการแบบสอบถามที่มีคำตอบชัดเจน ก็สามารถเลือกรูปแบบการทำแบบสอบถามได้ ดังนั้น นี่เป็นแค่ตัวอย่างง่ายๆ ที่คิดว่าทุกคนสามารถสร้างได้ ทำได้ และสามารถเอาไปประยุกต์ในงานต่างๆ ได้ แต่ข้อเสียคือ จะสามารถทำแบบสอบถามได้ 2 ข้อ หากต้องการคำถามที่เยอะกว่านี้ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น

  • การเชื่อมต่อ AwesomeTable กับ Google Site

    ต่อเนื่องจาก Blog : การใช้งานโปรแกรม AwesomeTable แบบง่าย
    เมื่อสร้าง AwesomeTable เรียบร้อยแล้ว สามารถนำมาใช้งานบน Google Site ได้ ลองมาดูวิธีการทำกันนะคะ

    1. ต้องการนำ AwesomeTable ไปเชื่อมต่อกับ Google site โดยคลิกที่ “EMBED”

    2. เลือกแท็บ Direct Link ให้คลิกปุ่ม “Copy”

    3. เปิด Google Site ที่ผู้ใช้ต้องการนำ AwesomeTable ไปใช้งาน คลิก “Embed”

    4. วาง Embed แล้วคลิกปุ่ม “Insert”

    5. ข้อมูล AwesomeTable ที่ได้สร้างไว้ ก็จะมาอยู่ใน Google site ผู้ใช้สามารถปรับการใช้งานได้ เช่น FQAs โดยแบ่งเป็นระบบ ระบบย่อย ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลได้ และหากต้องการเพิ่มข้อมูลต้องไปเพิ่มใน Google Sheet

    หวังว่า Blog นี้ผู้ใช้จะได้รับความรู้ที่เป็นระบบที่ใช้งานแบบง่ายให้สามารถปรับใช้งานให้เข้ากับที่ต้องการได้ค่ะ

  • การใช้งานโปรแกรม AwesomeTable แบบง่าย

    เป็นเว็บที่จัดทำเป็น Data Table มีการใช้งานผ่าน Google sheet ที่มีรูปแบบ Template หลากหลายให้เลือกใช้งานได้ และสามารถนำไปใช้งานกับ Google site ได้ทันที

    เว็บไซต์ : https://awesome-table.com/
    สามารถอ่านรายละเอียดจาก AwesomeTable : https://support.awesome-table.com/hc/en-us

    ตัวอย่างนี้จะเป็นการใช้จาก Template ที่มีให้เลือก ลองมาดูกันเลยว่าทำกันอย่างไร ง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ

    1. เข้าเว็บไซต์ : https://awesome-table.com/ เลือก “TEMPLATE GALLERY”

    2. แสดง Template ที่ให้เลือกใช้งานได้มากมาย ผู้ใช้สามารถเลือกตัวอย่าง Template ที่รูปแบบลักษณะคล้ายกับงานที่ต้องการ แล้วค่อยมาปรับแก้ เป็นแนวทางที่ใช้งานง่ายที่สุด

    3. ตัวอย่างนี้จะใช้ Template ที่มีชื่อว่า “Editable List with Google Forms”

    4. แสดงข้อมูลตาม Template ที่ได้เลือกไว้ หากเราต้องการใช้งานให้คลิก “USE TEMPLATE”

    5. แสดงตัวอย่างข้อมูล การ Filters ข้อมูลตามรูป หากต้องการปรับแก้ข้อมูล หรือการ Filters สามารถไปปรับได้ที่ Google Sheet คลิก “OPEN” เพื่อไปแก้ไขตามที่ผู้ใช้ต้องการ

    6. เมื่อเปิดแล้วจะได้ไฟล์ Google Sheet ดังรูป โดยเราสามารถปรับส่วนของการ Filters ข้อมูลได้

    7. หากต้องการปรับแก้การ Filters ดูตัวอย่างได้จาก
    URL : https://support.awesome-table.com/hc/en-us/articles/115001068189-Filters-select-data-to-display
    การ Filter จะมีดังนี้ สามารถศึกษาได้จาก url
    1. StringFilter
    2. NumberRangeFilter
    3. DateFilter
    4. CategoryFilter
    5. csvFilterAnd
    6. csvFilterOr
    7. Dependency filters
    8. Filter captions

    8. ตัวอย่างที่นำไปใช้งานกับการทำ FAQs ให้สามารถค้นหาตามระบบ ระบบย่อย หรือคำค้นได้

    9. ตัวอย่างการ Filter ใน Google Sheet