Author: kanakorn.h

  • [Google Calendar] วิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    1. โดยค่าเริ่มต้น ปฏิทิน (Calendar) ของทุกคนในองค์กร จะตั้งค่าให้สามารถเห็นรายละเอียดของเหตุการณ์ (Event) ได้
    2. จากตัวอย่าง ด้านขวามือ เป็นปฏิทินของ Boss
      ด้านซ้ายมือ เป็นปฏิทินของ Staff คนหนึ่ง
    3. เมื่อ Staff เรียกดูปฎิทินของ Boss จะเห็นรายละเอียดต่างๆได้
    4. เมื่อสร้างเหตุการณ์ (Event) ใหม่ เช่น “10:00-12:00 หมอนัดตรวจ”
      ให้ตั้งค่า
      Show me as ⇒ Busy
      Visibility ⇒ Private
    5. ผลทำให้เฉพาะ Event นี้ มีความเป็นส่วนตัว
    6. หากต้องการให้ทั้งปฏิทิน เป็นส่วนตัว
      ให้คลิกที่ Share this calendar
      เลือก See only free/busy (hide details)
      แล้วคลิก Save
    7. ผลทำให้ทั้งปฏิทินนี้ มีความเป็นส่วนตัวทั้งหมด
  • [Google Calendar] วิธีหาเวลาว่างที่ตรงกัน สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมหลายๆคน

    1. ใน Google Calendar สร้าง Event ใหม่ ตั้งชื่อ และกำหนดเวลาที่ต้องการ เช่น ต้องการเวลาประชุม 2 ชั่วโมง
    2. เชิญผู้เข้าร่วมประชุม โดยใส่ Email Address ทีละคน
      หรือ ใส่ชื่อ Group ใน Contact
      หรือ ใส่ชื่อ Google Groups ที่สร้างไว้ก็ได้
    3. คลิก Find a time เพื่อหาเวลาว่างที่ตรงกัน คลิกที่ Day
      หากเวลาที่ตั้งไว้ตอนแรกชนกับนัดของคนอื่น ก็สามารถเลื่อนไปมา เพื่อหาเวลาที่ลงตัวได้
    4. หากในวันดังกล่าว ไม่มีเวลาว่างตรงกันเลย ให้คลิกที่ Weekเพื่อหาเวลาว่างในวันอื่นๆได้

     

  • ได้นามบัตรมา จะแปลงเป็น Google Contact ได้อย่างไร

    เจ้านายได้นามบัตรมามากมาย ครั้นจะต้องพกไปไหนมาไหนตลอดคงไม่สะดวก ค้นหาก็ยาก เลขาอย่างเราจะช่วยอย่างไรดี ?

    ขั้นตอนการมอบหมาย (Delegate) การจัดการ Contact ให้เลขา

    1. จาก Google Mail คลิก Apps แล้วคลิก Contact
    2. คลิก More
      คลิก Manage Delegation Settings
    3. ใส่ email address ของเลขา แล้วคลิก Send
    4. จาก Google Drive Apps บน Smart Phone เปิด Folder ที่ตกลงกันไว้
    5. แล้วคลิก +
      เลือก Upload ภาพนามบัตร
    6. เลขา สามารถดูภาพจาก  Google Drive
    7. คลิก Shared with me
      เปิด Folder ที่ตกลงกันไว้
    8. คลิก Apps
      แล้วคลิก Contact
    9. คลิก ชื่อของเจ้านาย(ใต้ Delegated Contacts)
      แล้วคลิก NEW CONTACT
    10. ใส่ชื่อ และรายละเอียดต่างๆ
      แล้วคลิก Saved Now
  • วิธีใช้งาน PSU Email ด้วยโปรแกรม Mozilla Thunderbird

    แสดงขั้นตอนการใช้ PSU Email ด้วยโปรแกรม Mozilla Thunderbird ทีละขั้นตอนตั้งแต่การดาวน์โหลดโปรแกรมรุ่นล่าสุดมาใช้ การตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ การตั้งค่าการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ และการตั้งค่าภาษาไทยที่ถูกต้อง

  • การตั้งค่า Redirect PSU Email ไปยัง PSU GAFE

    เมื่อมีอีเมลฉบับใหม่เข้ามาที่ @psu.ac.th แล้วต้องการให้ส่งต่อไปยัง PSU GAFE ผู้ใช้จะต้องตั้งค่าดังต่อไปนี้

    คำเตือน: ควรตั้งกฏเพื่อกรองจดหมายที่ควรจะเป็นความลับของทางราชการไทย ไม่ให้ส่งออกไปภายนอกก่อนจะดำเนินการต่อไป ขั้นตอนต่อไปจากนี้เป็นความรับผิดชอบของเจ้าของบัญชีนั้นๆ หากเกิดความเสียหายใดๆต่อทางราชการ เจ้าของบัญชีจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

    ขั้นตอนการตั้งค่า Redirect Email
    1) Login เข้าใช้งาน https://webmail.psu.ac.th
    2) คลิก “Filters”
    3) คลิก “Add a new Rule”
    4) คลิก “Header” แล้วเลือก “All”
    5) คลิก “Redirect”
    6) ใส่ Email Address ของท่าน แต่ให้ลงท้ายด้วย @g.psu.ac.th แทน @psu.ac.th
    7) หากต้องการให้เก็บอีเมลไว้ที่ PSU Email ด้วย ให้คลิก
    Keep a local copy as well
    8) คลิก “Add New Rule”

  • เริ่มต้นใช้งาน PSU GAFE – Password Setting ที่ PSU Webmail

    PSU GAFE (Google Apps for Education) เป็นบริการเสริมจากบริการ PSU Email บุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    ที่ประสงค์จะใช้งาน PSU GAFE จะต้องทำการ “ตั้งรหัสผ่าน” ของบริการ PSU Email ก่อน จึงจะใช้งานได้

    ขั้นตอนการตั้งรหัสผ่าน บริการ PSU Email
    1) เปิดเว็บไซต์ https://webmail.psu.ac.th
    2) คลิก “Password Setting”
    3) ยืนยันตัวตนด้วย PSU Passport และ ตั้งรหัสผ่านของบริการ PSU Email
    ช่องที่ 1. และ 2. เป็นข้อมูล PSU Passport
    ส่วนช่องที่ 3. และ 4. เป็นรหัสผ่าน PSU Email ที่ต้องการ
    ซึ่งต้องตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด (ด้านขวามือ ต้องเป็นสีเขียวทั้งหมด)
    แล้วคลิกปุ่ม “Change Password”
    4) เมื่อดำเนินการถูกต้อง จะปรากฏข้อความ Change Password Successfully ก็จะสามารถใช้งาน PSU GAFE ได้แล้ว