Author: athit.a

  • How to upgrade Windows 7 to Windows 10

    วิธีอัพเกรด Windows 7 เป็น Windows 10

    โดยปกติ Icon update เป็น Windows 10 จะไม่ปรากฏอยู่บน Taskbar ของ Windows 7 เหมือน Windows 8  ดังนี้หากเรามีความประสงค์จะอัพเกรดจาก Windows 7 ไปเป็น Windows 10 นั้น เราจำเป็นต้องใส่แผ่น DVD  Windows 10 และกดไฟล์ setup ในแผ่น  โดยเราสามารถปฏิบัติการได้ตอนที่เปิดเครื่องอยู่นั่นแหละ ไม่ต้อง restart เครื่องใหม่ โดยเราไม่สามารถจะอัพเกรด Windows ข้ามจาก 32 bit ไปเป็น 64 bit ได้ ถ้าของเดิมเป็น 32 เวลา upgrade ก็ต้องเป็น 32 bit เพราะผมลองใส่แผ่น 64 bit แล้ว ไม่ได้  ซึ่งใช้เวลาประมาณ เกือบชั่วโมง หากเลือกติดตั้งแบบอัพเดทอัตโนมัติ และเครื่องมันจะรีสตาร์ทหลายรอบมาก (เราไม่ต้องทำอะไร) แล้วผลจากการติดตั้งปรากฏว่า โปรแกรมที่ติดตั้งใน Drive C: รวมทั้งไฟล์บนหน้าจอ และใน Document ยังอยู่ครบเหมือนเดิมทุกอย่าง Driver ยังอยู่ครบ แต่ Serial ของพวก Office รวมถึง Windows เอง หายหมดเราต้องใส่ใหม่ครับ

    (ขออภัยที่ไม่มีภาพประกอบนะครับ แต่ทดลองแล้วเมื่อวานได้ผลตามนี้แหละครับ)

    จบปิ้ง.

     

     

  • How to Install VCNT Visitorcounter on joomla 3.x

    วิธีติดตั้ง VCNT Visitorcounter on Joomla 3.x

    สวัสดีครับ ในวันนี้ใครที่ใช้ Joomla 3 ที่ยังไม่มีตัวนับสถิติผู้เข้าชม ผมมีตัวนับสถิติ ที่ทำงานง่ายไม่ซับซ้อนมาแนะนำครับ โดยมันมีชื่อว่า VCNT Visitorcounter บางคนอาจจะเคยใช้ Vinaora Visitcounter มาก่อน แต่พอมา joomla 3 นี้ไอ่ตัว Vinaora ยังไม่ได้ทำ plugin มาเผื่อ joomla 3 ใครเผลอเอาไปติดตั้งเว็บของท่านอาจไม่ปรากฏอะไรซักอย่างในหน้าแรกเลยก็เป็นได้นะครับ (อย่าลองเชื่อผม) ตัวนับสถิติที่แนะนำวันนี้ก็ได้แก่  VCNT Visitorcounter ซึ่งดาวน์โหลดได้จาก http://joomla-extensions.kubik-rubik.de/vcnt-visitorcounter#backend-info  เมื่อดาวโหลดมาแล้วก็ทำการติดตั้ง มันจะไปเพิ่มอยู่ใน Module Manager ครับ

    vcnt-counter1และหากจะเข้าไป ปรับแต่งค่าให้ไปที่  Module Manager > VCNT Visitorcounter มันก็จะมีหลาย Tab ให้เราปรับเปลี่ยน ซึ่งเราvcnt-counter2ติดตั้งเสร็จแล้วเลือก Position ให้มัน มันก็จะไปปรากฏหน้าเว็บดังรูปนี้ครับ จบข่าว..

    vcnt-counter3

  • How to use Authentication Ldap in PSU แบบละเอียด

    วิธีใช้งาน Authentication – LDAP บน Joomla ใน มอ. บน Ubuntu Server 12.04.5 LTS แบบละเอียด (ผมคาดว่า version 14.04.1 LTS ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันนะ)

    สวัสดีครับไม่ได้เขียนนาน เพราะยังไม่ได้ศึกษาอะไรเพิ่มเติมมากนักเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ในช่วงที่ผ่านๆมาเนื่องจาก ทำงานทั่วไปซะเป็นส่วนใหญ่ พอดีเมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้ติดตั้งและทดลองใช้ Ldap plugin บน joomla ให้มัน ยืนยันตัวตนผ่าน PSU Passport เพื่อให้เฉพาะบุคคลภายในมหาวิทยาลัยสามารถอ่านบทความหรือเนื้อหานั้นได้ เช่น พวกรายชื่อ อีเมล์ หรือ วาระการประชุมต่างๆ เริ่มเลยนะครับ

    0.กรอกแบบฟอร์มขอใช้บริการ ldap ให้เรียบร้อย และส่งไปยังศูนย์คอมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ จัดทำ Policy ในการเข้าใช้งานให้กับเราก่อน โดยเราจะต้องลงชื่อเครื่องที่จะใช้บริการ ldap และหมายเลข IP Address และลงชื่อเป็นลายลักอักษร

    1. ติดตั้ง open-ssl ก่อนเพื่อที่จะใช้ Protocol https เพื่อเข้ารหัสข้อมูลผ่าน ssl ไม่งั้นเวลาเราใช้ ldap แบบเลือกเซิร์ฟเวอร์เป็น https จะไม่สามารถใช้งานได้ คำสั่งในการติดตั้งคือ apt-get install openssl
    2. ติดตั้ง php5-ldap ก่อน เพื่อจะใช้งาน ldap plugin บน joomla เพราะ joomla เป็น php คำสั่งในการติดตั้งคือ apt-get install php5-ldap ติดตั้งเสร็จแล้วให้ restart service apache ด้วยคำสั่ง service apache2 restart
    3. ติดตั้ง ldap-utils โดยคำสั่ง apt-get install ldap-utils
    4. แก้ไฟล์ /etc/ldap/ldap.conf โดยเพิ่มบรรทัดดังนี้

    TLS_REQCERT never

    1. ทดสอบด้วย ldapsearch ให้ติดตั้ง ldap-utils
    2. ทดสอบด้วยคำสั่ง

    ldapsearch -H “ldaps://xx.xx.xx.xx” -b “dc=psu,dc=ac,dc=th” -x

    (xxx นี่คือ server ldap ที่เราใช้ ถ้าใน มอ.จะเป็น ldaps://dc2.psu.ac.th)

    จะพบผลของการค้นหา

    # search result

    search: 2

    result: 4 Size limit exceeded

    # numResponses: 1004

    # numEntries: 1000

    # numReferences: 3

     

    ถ้าทำได้ครบดังนี้ถือว่าการเตรียมการใช้งาน ldap บนฝั่ง server เสร็จเรียบร้อย

    ————————————————————————————————————————————–

    จากนั้นเปิด joomla ของเรามาและเข้าไปที่ backend เพื่อทำการปรับแต่งค่า

    1. ไปที่ Extensions > Plugin Manager > Authentication – LDAP ของผมใช้ Joomla version 3.x.x จะได้หน้าตาแบบนี้

    Authentication-ldapให้ตั้งค่าให้ตรงตามรูปภาพ โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆใน plugin ตัวนี้ได้จาก บทความที่ คุณจัตตุพร ชูช่วย เขียนไว้ครับ http://sysadmin.psu.ac.th/2013/02/07/การเชื่อมต่อ-psu-passport-joomla-ldap/ ซึ่งมีหลากหลายเวอร์ชั่นมากตั้งแต่ Joomla 1.5.xx เป็นต้นมา จนถึง 3.x.x

    1. จากนั้นทดลองไปที่ Menus > และสร้าง Menu สำหรับยืนยันตัวตน และเลือก Menu Item type เป็นLogin Form และจัดปรับให้ Menu ที่เราจะยืนยันตัวตนแสดงในหน้าแรก

    loginmenu3.ทดลองเปิดเว็บและไปที่ Menu ยืนยันตัวตนดูครับจากนั้นลองยืนยันตัวตนดู ก็จะสามารถเข้าสู่ระบบได้เรียบร้อยแล้ว โดยหากเรามี Article ที่กำหนดให้เฉพาะสมาชิกอ่านมันก็จะปรากฏหลังจากที่เราทำการยืนยันตัวตนครับ

    login

    เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว และต้องการยกเลิกการยืนยันตัวตน ให้กดที่ Menu เดิมอีกครั้งจะปรากฏปุ่ม ออกจากระบบให้เรากดครับ

    logoutpage

     

    เสร็จสิ้นภารกิจ แนะนำอีก 2 ข้อนะครับ

    1. การเปิดหน้า login เพื่อยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบ มันจะมี Menu ให้สมัครสมาชิกอยู่ด้วยให้เราปิดส่วนนี้ซะกันคนนอกมั่วเข้ามาสมัคร โดยไปที่ System > Global configuration > User Manager และให้เราปิดการรับสมัครสมาชิกดังรูป

    closeregist2.หากต้องการเขียน Article และเปิดให้เฉพาะผู้ใช้งานภาย มอ. เห็น แนะนำให้สร้าง Article หรือ Category และเลือก parent เป็น Menu ที่เราทำเป็น Menu ยืนยันตัวตน เวลาที่ User ใช้งานจะได้มองเห็นเนื้อหา ด้านล่าง Menu ที่เรายืนยันตัวตนเลยจะได้ไม่เสียเวลาไปมองหาไกล

    appear

     

    อ้างอิง

    http://share.psu.ac.th/blog/server-dev/21929

    http://sysadmin.psu.ac.th/2013/02/07/การเชื่อมต่อ-psu-passport-joomla-ldap/

  • vvisit_counterDShelpe rDSvvisit_counter.php: failed to open stream: No such file or directory in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18

    Joomla 3.1.5

    เมื่อวันนี้ตอนเช้าทดลองเปิดหน้าเว็บหน่วยงานภายในคณะดูปรากฏว่าเว็บไม่ปรากฏอะไรเลย  ได้หน้าขาวโล่งๆ ซึ่งผมก็ตกใจครับนึกว่าอะไรจะพังอีก เลยโทรไปสอบถามอาการของผู้ดูแลเว็บ บอกว่าเปิดไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวาน  จึง ssh เข้าไปตรวจสอบ /var/www/student-affairs  ตามปกติ permission file ก็เรียบร้อยดีไม่มีไรหาย จากนั้นจึงไปเปิด log ของ apache2 ดู /var/log/apache2/error.log แล้วลอง  tail error.log | grep student-affairs ดูปรากฏว่า เจอ error ดังนี้

    root@Internal-Webhost:/var/log/apache2# tail error.log | grep student-affairs
    [Fri Nov 01 10:00:19 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Notice:  Use of undefined constant DS – assumed ‘DS’ in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:19 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Notice:  Use of undefined constant DS – assumed ‘DS’ in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:19 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Warning:  require_once(/var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counterDShelperDSvvisit_counter.php): failed
    to open stream: No such file or directory in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:19 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Fatal error:  require_once(): Failed opening required ‘/var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counterDShel
    perDSvvisit_counter.php’ (include_path=’.:/usr/share/php:/usr/share/pear’) in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:21 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Notice:  Undefined index: th-TH in /var/www/student-affairs/plugins/system/languagefilter/languagefilter.php on line 61
    [Fri Nov 01 10:00:21 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Notice:  Trying to get property of non-object in /var/www/student-affairs/plugins/system/languagefilter/languagefilter.php on line 61
    [Fri Nov 01 10:00:21 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Notice:  Use of undefined constant DS – assumed ‘DS’ in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:21 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Notice:  Use of undefined constant DS – assumed ‘DS’ in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:21 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Warning:  require_once(/var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counterDShelperDSvvisit_counter.php): failed
    to open stream: No such file or directory in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18
    [Fri Nov 01 10:00:21 2013] [error] [client 192.168.74.90] PHP Fatal error:  require_once(): Failed opening required ‘/var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counterDShel
    perDSvvisit_counter.php’ (include_path=’.:/usr/share/php:/usr/share/pear’) in /var/www/student-affairs/plugins/system/vvisit_counter/vvisit_counter.php on line 18

    ดูไปดูมาเหมือน ตัว vvisit_counter/vvisit_counter.php ไม่สามารถเปิดหรือหาไฟล์ vvisit_counterDShelperDSvvisit_counter.php  เจอจึงลองไปเปิด google ดูปรากฏว่าเหมือนมันจะมีปัญหาอยู่ ผมจึงทดลองเข้าไป database ของเว็บและไป disable plugin และ mod ดังกล่าว

    vvisit_counterจากนั้นทดลองเปิดหน้าเว็บ จึงสามารถใช้งานได้ตามปกติครับ จบข่าว

  • How to install pfSense 2.1 by newbies

    04/10/2556
    กราบสวัสดีทุกๆท่านอีกครั้งครับ

    วันนี้ผมจะมาเขียนเรื่อง วิธีการติดตั้ง pfSense ครับ ซึ่งอธิบายก่อนว่า pfSense คือ application firewall  ที่มีหลากหลาย feature มาก ไอ่ที่บอกว่ามากคือเราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ทำ hotspot ,billing , proxy,log ,vpn ,captive portal,radius, ..  ตัว pfSense นั้นเป็น BSD แต่เราแทบไม่ต้องใช้ command กับมันเลยยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริงๆ(แก้ไฟล์ระบบ) เพราะทุกอย่าง admin สามารถเข้าไปแก้ไขได้ทั้งหมดผ่านทาง webbrowser  เอาแค่นี้แหละคร่าวๆ วันนี้ผมตั้งใจจะเขียนแค่วิธีติดตั้งให้สามารถออกอินเทอร์เน็ตได้พอ ส่วนวิธีคอนฟิคทำอะไรอย่างอื่น ค่อยมาต่ออีกครั้ง เพราะมันเยอะมาก                  โอเค วันนี้สอนวิธีติดตั้ง pfSense เวอร์ชั้น 2.1 พึ่งออกเลยครับเมื่อวันที่  14 กันยายน 2556  สดๆร้อนๆ เผลอๆ บทความนี้ก็เป็นบทความแรกๆ ของ เวอร์ชั่น 2.1 ของเลยนะเนี่ย.. เอาล่ะครับถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย

    1. เปิดเว็บ  pfSense  และไปโหลด2.1 มาจาก mirror ของผมเลือก mirror ของ NYI.net   ที่     http://files.nyi.pfsense.org/mirror/downloads  เวลาโหลดเลือกแบบ  pfSense-LiveCD-2.1-RELEASE-i386.iso.gz   หรือแบบ  pfSense-LiveCD-2.1-RELEASE-amd64.iso.gz   ก็สุดแล้วแต่ cpu ของแต่ละคนจะรองรับส่วนในนี้ผมขอทดลองโหลดแบบ 32 bit ซึ่งก็คือ i386 นะ

    pfSense2 (more…)

  • How to install phpmyadmin and joomla 3.1.5 on ubuntu server 12.04.3 lts

    สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมได้ลองติดตั้งอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งได้ทำเป็นไฟล์ pdf แล้วด้วยบางส่วน แต่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งวันนี้ห่างหายไปนานกับการเขียนบล็อกเนื่องจากไม่ว่างแล้วก็งานยุ่งมาก แต่ก็มีความคิดอยากจะเขียนบทความอยู่นะ พอดีขณะนี้ได้โอกาศเลยขอมาจัดซักหน่อยหนึ่งบทความ โดยในบทความนี้ผมก็เขียนขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับการทำงานในคณะเหมือนเดิม คือ เครื่องเซิร์ฟเวอร์เครื่องเก่าเป็น windows 2003 ซึ่งอายุก็มากกว่า 7 ปีแล้ว สภาพเครื่อง cpu ram part มันหมดอายุการผลิตไม่สามารถซื้อมาอัพเกรดเพิ่มได้ จึงต้องเปลี่ยนที่อยู่ให้เว็บไซต์ภายในเครื่องใหม่ คือ ย้ายโฮสต์นั่นแหละครับ คราวนี้เปลี่ยนมาติดตั้ง virtual แทน โดย OS: Ubuntu Server 12.04.3 LTS i386  ตอนแรกว่าจะโหลดแบบ 64 bit มาใช้งานแต่กลัวมันไม่เข้ากับ software ที่จะติดตั้งตัวอื่นๆเลยใช้แบบนี้ไปก่อน  โดยอันดับแรกผมก็ติดตตั้ง ubuntu 12.04.3 LST นะ โดยไม่ได้ใช้แบบสำเร็จรูป โดยตอนเลือกติดตั้ง ผมเลือก  Package  Openssh-server และ  LAMP เพื่อนำมาทำเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ลองทดสอบเรียกหน้า localhost หรือเรียกไปที่ ip เครื่องก็จะแสดงสถานะการทำงานว่า It’s Work   apache2 ทำงานได้ ส่วน service ของ mysql ก็ทำงานได้ตามปกติแต่เวลาจะเข้าไปจัดการมันนี่สิ ถ้าไม่มี tool ก็ลำบากหน่อย จึงได้ไปโหลด script authentication ของ อาจารย์ฉัตรชัย จาก share มาใช้งาน   http://share.psu.ac.th/blog/etc/19218  ซึ่งเขียนตั้งแต่ปี 54 ปัจจุบัน 56 แล้วก็ยังใช้งานได้อยู่นะ (ของแกดีจริง ๕๕๕)

    จากนั้นมาอัพเกรด ubuntu ของเราก่อนโดย

    1.  sudo apt-get update

    2. จากนั้น ใช้คำสั่งติดตั้ง  phpmyadmin โดย      sudo apt-get install phpmyadmin  ระบบก็จะให้เราเลือกว่าเราจะใช้ host ตัวใหน ระหว่าง apache2 หรือ lighthttp  ถ้าติดตั้ง LAMP ก็เลือก apache2 นะ จากนั้นระบบจะให้เรากรอกรหัสผ่านของ mysql

    install-phpmyadmin2

    จากนั้นระบบก็จะให้เราตั้งรหัสผ่านสำหรับ root ของ phpmyadmin  และก็ให้เรายืนยันรหัสอีกครั้ง (more…)

  • How to install apache,php,mysql instead xampp on ubuntu (for newbie)

    แรกเริ่มเดินทีวันนี้ก็ไม่ได้จะเขียน Post นี้หรอกครับ เพียงแต่ว่ามี บุคลากรในที่ทำงานเจอปัญหาในการติดตั้งโปรแกรม ห้องสมุด ULIB  โดยใช้ Ubuntu 12.04.1 LTS  เป็น server แล้วติดตั้ง xampp เพื่อให้ได้ครบทุก package ในการใช้งาน แต่ไม่สามารถทำการติดตั้งโปรแกรม ULIB ได้เนื่องจากโปรแกรมฟ้องเรื่อง permission  ในการติดตั้งโปรแกรมดังข้างล่าง

     

    มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนโหมดไฟล์/File permission problem – ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง [../inc/config.inc.sv.php]
    Notice: Undefined variable: dcrs in /opt/lampp/htdocs/ULIB/install/index.php on line 239
    มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนโหมดไฟล์/File permission problem – ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง [../inc/config.inc.php]
    Notice: Undefined variable: dcrs in /opt/lampp/htdocs/ULIB/install/index.php on line 239
    มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนโหมดไฟล์/File permission problem – ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง [../inc/c.inc.php]
    Notice: Undefined variable: dcrs in /opt/lampp/htdocs/ULIB/install/index.php on line 239
    มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนโหมดไฟล์/File permission problem – ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง [../webboard/c.inc.php]
    Notice: Undefined variable: dcrs in /opt/lampp/htdocs/ULIB/install/index.php on line 239
    มีปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนโหมดไฟล์/File permission problem – ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง [../web/c.inc.php]
    Notice: Undefined variable: dcrs in /opt/lampp/htdocs/ULIB/install/index.php on line 239

    หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์บนระบบปฏิบัติการ Linux/If you are server administrator (Linux)
    Execute in command line
    chown apache:apache ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/inc/config.inc.sv.php’ ;
    chown apache:apache ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/inc/config.inc.php’ ;
    chown apache:apache ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/inc/c.inc.php’ ;
    chown apache:apache ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/webboard/c.inc.php’ ;
    chown apache:apache ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/web/c.inc.php’ ;

    * apache:apache คือชื่อ User และ Group ของโปรแกรม Apache หากเซิร์ฟเวอร์ของคุณมีการปรับแต่งเป็นอย่างอื่น ก็ต้องแก้ apache:apache ตามด้วย

     

    ผมจึงลองเปลี่ยน user และ group เป็น www-data:www-data  แล้วแต่มันก็ยังไม่สามารถติดตั้งระบบได้อยู่ดี จึงลองลบ xampp ออกจากเครื่องเลย วิธีการลบตอนแรกก็งงๆเหมือนกัน เพราะผมดันไปใช้คำสั่ง apt-get install opt  และก็ dpkg -P opt  ซึ่งมันก็ไม่สามารถลบได้ เพราะเหมือนว่าไอ่เจ้าถูก opt มองเห็นเป็นเพียง directory หนึ่งเท่านั้น ดังนั้นวิธีการลบจึงแค่ใช้คำสั่ง rm -rf /opt แทน ครับ [1]

    จากนั้นเมื่อลบแล้วจึงลองติดตั้งแบบแยกทีบะตัวดูครับโดยเริ่มจาก

    1.ติดตั้ง MySQL  ก่อนเป็นอันดับแรกเลยก็ได้ครับโดยใช้คำสั่ง   sudo  apt-get install mysql-server mysql-client   ระบบจะให้เราใส่รหัสผ่านของ root และก็ยืนยันอีกครั้ง [2]

    2.ติดตั้ง apache2  โดยใช้คำสั่ง    sudo    apt-get install apache2 apache2-doc      [3]

    3.ติดตั้ง php  โดยคำสั่ง                  sudo  apt-get install php5 libapache2-mod-php5    โดยตอนที่ระบบมันถามว่าจะเลือก server อะไรให้เราเลือก apache2  นะครับ  [4]

    4.ทำการ restart service ด้วยคำสั่ง   sudo /etc/init.d/apache2  restart    (จากนี้ลองเปิด browser แล้วทดลองเข้าไปใน localhost ดูครับว่าใช้งานได้ใหม? หากใช้ไม่ได้ต้องไปตรวจสอบ service ดูว่า apache ทำงานหรือยัง.. ) [5]

    5.หากต้องการติดตั้ง phpmyadmin เพื่อทำการคอนฟิคดาต้าเบสให้ใช้คำสั่งดังต่อไปนี้ครับ       sudo apt-get install phpmyadmin     [6]  และกรอกรหัสผ่านของ root  ใน mysql ด้วยนะครับ ซึ่งหากถูกต้องก็จะสามารถเปิด phpmyadmin เข้าไปใช้งาน database ได้ตามปกติครับ

    กลับมาที่ ULIB อีกครั้งครับ copy file  ULIB เข้าไปไว้ใน   var/www/   และทำการเปลี่ยน

    chown www-data:www-data ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/inc/config.inc.sv.php’ ;
    chown www-data:www-data ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/inc/config.inc.php’ ;
    chown www-data:www-data ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/inc/c.inc.php’ ;
    chown www-data:www-data ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/webboard/c.inc.php’ ;
    chown www-data:www-data ‘/opt/lampp/htdocs/ULIB/web/c.inc.php’ ;

    จากนั้นเมื่อเปิด browser  ไปที่  localhost/ULIB/install  ก็จะสามารถติดตั้งโปรแกรมผ่านได้เลยครับ !!!!

    หากผู้ที่กำลังเจอปัญหาเรื่อง ULIB  สนใจ   หรือผู้ที่สนใจจะไม่ใช้   xampp หรือ appserv  สามารถดำเนินการติดตั้งแบบผมก็ได้นะครับเพราะผมเคยเจอตอนจะ update phpmyadmin แล้วกลัวมีปัญหา ซึ่งตอนนั้นติดตั้ง  appserv  จึงเกิดปัญหาว่าหากเราติดตั้ง phpmyadmin ตัวใหม่ไปมันจะสามารถใช้งานแทนตัวเก่าได้หรือไม่และจะมีผลอะไรต่อจากนั้นหรือเปล่า ตอนนั้นกว่าจะแก้ได้ก็เหงื่อตกเลยครับ..

     

     

    อ้างอิง

    1.http://www.apachefriends.org/en/xampp-linux.html#388

    2.http://www.howtoforge.com/installing-apache2-with-php5-and-mysql-support-on-ubuntu-12.04-lts-lamp

    3.http://opensource.cc.psu.ac.th/ติดตั้ง_apache_บน_ubuntu

    4.http://www.howtoforge.com/installing-apache2-with-php5-and-mysql-support-on-ubuntu-12.04-lts-lamp

    5.http://www.howtoforge.com/installing-apache2-with-php5-and-mysql-support-on-ubuntu-12.04-lts-lamp

    6.http://opensource.cc.psu.ac.th/ติดตั้ง_phpmyadmin

  • How to setup automatic start in virtual box,Hyper-v

    เนื่องจากเครื่องสำรองไฟในคณะมักจะสำรองได้แค่ชั่วโมงนิดหน่อยเวลาไฟดับเกินกว่านั้นจะทำให้ server ที่เป็น virtual ที่อยู่บน virtualbox และ hyper-v ของผมใช้งานไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีแก้ไขโดยวันนี้มีวิธีมาแนะนำครับ (ผมทดลองกับ MS เท่านั้นนะ)

    อันดับแรกเริ่มที่ Hyper-v ก่อนเลยครับ

    เปิดไปที่ Server Manager>Roles>Hyper-v>Hyper-V Manager> แล้วเลือกที่ Hyper-v >Setting ทางขวามือครับแล้วเลือก Automatic Start Action ดูตามรูปก็ได้ครับ

     

    Virtualbox

    กรณีของ Virtualbox ใน windows เราต้องสร้าง  batfile ครับเพราะมันยังไม่มีปุ่มให้เรากดเหมือน Hyper-v แต่มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรครับอันดับแรกสร้าง batfile ก่อน  ต่อมาให้พิมพ์ข้อความใน batfile ดังนี้

    cd “C:\Program Files\Oracle\VirtualBox\”
    VBoxManage.exe startvm “vm1”
    VBoxManage.exe startvm “vm2”
    VBoxManage.exe startvm “vm3”
    VBoxManage.exe startvm “vm4”

    เช่นของผม

    cd “C:\Program Files\Oracle\VirtualBox\”
    VBoxManage.exe startvm “ubuntu-desktop”

    จากนั้นก็นำไฟล์ .bat ของเราไปวางไว้ใน startup ซึ่งของ win7  หายากหน่อย อยู่ที่  C:\ProgramData\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Startup  จากนั้นก็วางไฟล์ .bat ของเราไว้ในนั้นลองเปิดเครื่องอีกครั้ง virtual  ของเราก็จะทำงานเองโดยอัตโนมัติครับ

     

    Ref.
    https://forums.virtualbox.org/viewtopic.php?f=2&t=18794
    http://seoroot.com/blog/howto/how-to-autostart-a-virtual-machine-in-virtualbox.html

  • วิธีการแก้ปัญหา JAuthentication::__construct: Could not load authentication libraries ใน joomla 2.5

    สวัสดีครับวันนี้มาเขียนเรื่องการแก้ปัญหา joomla version 2.5 ที่ผู้ใช้ไม่สามารถ login เข้า back end ได้ ดัง error ที่ปรากฏดังนี้ JAuthentication: :__construct: Could not load authentication libraries ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นหากเป็น joomla version 1.5.xx  เก่าๆ ก็ไป jos_login  ซึ่งหาเจอง่ายมาก แต่นี่เวอร์ชั่นใหม่มันไปหลบซ่อนอยู่ที่   rwyai_extensions > plg_authentication_joomla (อยู่หน้าที่3)>เลือก edit ปรับ enable จาก 0 ให้เป็น 1 และก็ save จากนั้นท่านก็จะสามารถเข้าไปใช้งานฝั่ง back end ของ joomla 2.5 ได้เหมือนเดิมแล้วครับ