Month: January 2020

  • ปัญหา “A potentially dangerous Request.Form value was detected from the client (ctl00$ContentPlaceHolder1$txtAbstractEng="…ontrol ” แก้ไขได้อย่างไร

    ในการป้อนข้อมูลลงในเว็บ บางครั้งเราอาจจะพบปัญหาว่าไม่สามารถบันทึกข้อมูลที่ป้อนได้ ทั้งๆ ที่ปกติก็บันทึกได้อยู่ แล้วมันเกิดจากอะไร เรามาดู ปัญหา สาเหตุ และวิธีการแก้ไขกันค่ะ เผื่อจะเป็นปัญหาเดียวกัน

    ปัญหา :

    ในการบันทึกข้อมูลลงบางเว็บไซต์เราจะอาจจะพบปัญหาว่าหลังจากเราป้อนข้อมูลเสร็จแล้ว แต่ทำไมไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้ เกิด error เช่น

    เมื่อบันทึกจะมีข้อความขึ้นดังภาพข้างล่าง ป้อนใหม่บันทึกใหม่ก็ยังไม่ได้ โอ๊ยเครียด จะทำยังไงดี

    สาเหตุ :

    อาจจะเนื่องมาจากมีการ copy ข้อมูลมาจากแหล่งอื่นที่มีตัวอักษรพิเศษบางตัว  เช่น ? ติดมาด้วย ทำให้เราจะไม่สามารถบันทึกข้อมูลลงฐานได้ เราจะทำอย่างไร

    การแก้ไข : สามารถแก้ไขได้หลายวิธี คือ

    1. ในกรณีที่เป็นผู้ใช้งาน เราสามารถแก้ไขง่ายๆ ได้โดยการ นำ ? ออกจากข้อความ ดังรูปข้างล่าง แล้วบันทึกใหม่

    2. ในกรณีที่เป็นผู้พัฒนาระบบ เราจะเพิ่มข้อความ ValidateRequest=”false” ลงใน source ของหน้าจอที่ error ดังรูปข้างล่าง

    เพียงเท่านี้ปัญหาดังกล่าวก็จะหมดไปแล้วค่ะ ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ

    แล้วพบกันใหม่ค่ะ

  • แชร์ประสบการณ์การสอบวิทยานิพนธ์ออนไลน์ผ่านระบบวิดีโอคอลด้วยงบประมาณศูนย์บาท (Zoom)

    สืบเนื่องจากที่ได้ไปอบรมการใช้งานโปรแกรม Zoom ณ ศูนย์คอมพิวเตอร์ ม.อ. ที่ผ่านมาประกอบกับนโยบายของคณะที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าเดินทางของผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อมาสอบวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาบัณฑิตศึกษา จึงได้ทดลองใช้จัดสอบวิทยานิพนธ์ออนไลน์ผ่านระบบวิดีโอคอลด้วยงบประมาณศูนย์บาทโดยใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่แล้ว ดังนี้

    เครื่องมือ

    1. เครื่องคอมพิวเตอร์ Lenovo all in one c340 ที่ติดตั้งในห้องเรียนอยู่แล้วกับเครื่องโปรเจกตอร์
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ lenovo all in one c240
    1. กล้อง WebCam Microsoft LifeCam Studio พร้อมขาตั้งกล้อง
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ microsoft webcam
    1. ไมโครโฟนไร้สาย Boya BY-WM8 Pro K2
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Boya BY-WM8 Pro K2

    ผลการใช้งานระบบ

    • โปรแกรม Zoom สามารถใช้งานได้ดี ระบบมีความเสถียรในเรื่องของสัญญาณภาพและเสียง ให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยโต้ตอบแบบ RealTime ไม่ดีเลย์แม้ใช้งานบนเครือข่าย WIFI 2.4 GHz
    • ภาพและเสียงคมชัดทั้งสองฝ่าย สามารถแชร์ภาพจากหน้าจอได้
    • โปรแกรมใช้งานง่าย โดยที่ผู้ทรงฯ สามารถใช้งานได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ช่วย

    ข้อจำกัดและอุปสรรคที่พบ

    • โปรแกรมใช้งานได้แค่ 40 นาที สำหรับบัญชีแบบ Basic
    • คุณภาพจากกล้อง WebCam ดีระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถซูมภาพได้
    • ไมโครโฟนไร้สายที่การใช้งานจริงยังไม่คล่องตัวเท่าไรหากใช้สนทนาแบบกลุ่ม ควรเปลี่ยนเป็นไมโครโฟนวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่สามารถดูดเสียงได้รอบทิศทาง
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไมโครโฟนวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

    ภาพบรรยายกาศในวันสอบ…

  • ฝึกภาษาด้วย Mate Translate

    สวัสดี หนีห่าวววว ท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทางผู้เขียนมี extension ดีๆ ที่ลงตัว มาแนะนำให้ได้รู้จักกันอีกแล้วเน้อ ไม่ต้องเกริ่นมาก ไปดูกันเลยดีกว่า

    จริงๆ แล้ว ณ ปัจจุบัน ถ้าจะพูดถึงการแปลภาษา extension หรือเว็บที่เราคุ้นชินกันมาก ถึงมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น google translate กันใช่มั้ย ซึ่งการทำงานของ เจ้าตัว google translate เนี่ยก็ถือว่าดีอยู่แล้วเช่นเดียวกัน แต่ก็นะ ชีวิตนี้จะรู้จักแค่อันนี้อันเดียวก็คงจะดูโลกแคบไปหน่อยนึง วันนี้ผู้เขียนเลยอยากจะลองนำเสนอ extension แปลภาษาดีๆ อีกสักตัวนึง ให้ทุกคนได้รู้จัก เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า “Mate Translate” นั่นเอง

    Mate Translate จะเหมาะกับผู้ใช้ที่เน้นอ่านบทความต่างประเทศ ฝึกภาษา และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ สำหรับใครที่ชื่นชอบการดู Netflix และฝึกภาษาจากการดูหนังดูซีรีย์ เชื่อเถอะเจ้า Mate Translate จะช่วยให้การแปลภาษาในระหว่างการดูหนังง่ายขึ้นไปอี๊กกกก เพียงแค่ คลิกบนคำศัพท์ หรือข้อความในส่วน subtitles ที่ขึ้นบนหน้าจอ ตัว extension Mate ก็จะแปลความหมายของคำนั้นขึ้นมาให้เราอ่าน ง่ายม๊ากกก เพียงแค่คลิกเดียวจริงๆ นะเออ

    ไม่ใช่แค่เพียงภาษาอังกฤษนะ ตัวช่วยตัวนี้สามารถแปลภาษา คำ วลี ประโยค ได้ถึง 103 ภาษา แถมยังสามารถฟังการออกเสียงอย่างถูกต้องได้ด้วย ปะ ติดตั้งกันเลย

    1. เข้าไปที่ webstore ของ google chrome ได้เลย หรือ ตามนี้นะ https://chrome.google.com/webstore/category/extensions จากนั้นค้นหาคำว่า Mate Translate (ตัวที่หน้าตาสีเขียวๆ นั่นแหละ)

    2. คลิกปุ่ม “เพิ่มใน Chrome” หรือ “Add to Chrome” ได้เลย

    3. ระบบก็จะถามซ้ำอีกครั้ง เราก็เลือกปุ่ม “เพิ่มส่วนขยาย” เพื่อยืนยันการติดตั้งไปอีกครั้ง

    4. เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะปรากฏ icon เล็กๆ ตรงมุมบนด้านขวาของหน้าจอ

    เมื่อคลิกครั้งแรกก็จะปรากฏหน้าต่างให้เรายอมรับเงื่อนไข จากนั้นก็คลิก Continue ต่อได้เลย

    5. เรามาทดลองตั้งค่าก่อนการใช้งานกันก่อนเลยละกัน คลิกบน icon จากนั้นเลือก “ตั้งค่า” (ตรงสัญลักษณ์ฟันเฟืองนะ) เมื่อเราคลิกแล้วก็จะได้หน้าตาประมาณนี้

    ปล..ระดับเราๆแล้ว ไม่ต้อง upgrade หรอก ใช้ version ฟรีนั่นแหละ 55+

    หลักๆ ก็จะมาดูในส่วนของ on-page ละกัน ตัวอย่างเช่น

    • double click translation ก็เปิด on ได้เลย เวลาเราเจอคำที่ต้องการแปลก็แค่ double click ไปบนคำนั้น ตัวช่วยก็จะแปลความหมายขึ้นมาให้เราเองทันที ไม่ต้อง copy แล้วว่าง
    • tooltip size ก็สามารถเลือกได้ว่าหน้าจอที่แสดงคำแปลเนี่ย จะเอาขนาดไหน
    • translate Netflix subtities ก็คือเมื่อเราคลิกบนคำใน subtitles บนหนัง หรือ วีดีโอที่ดูใน Netflix มันก็จะแปลความหมายขึ้นมาให้เราเลย ***เหมาะมากสำหรับคนที่ฝึกภาษาด้วยซีรีย์เนี่ยยย !!

    จริงๆ แล้วอยากให้ลองดูกันนะ ตัวช่วยแปลดีๆเนี่ย ไม่ได้มีแค่ google translate นะจ๊ะทุกคนนนนน อย่างไรก็ตามทางผู้เขียนหวังว่า blog นี้จะช่วยเหลือ หรือมีประโยชน์กับผู้อ่านได้ ไม่มากก็น้อยแหละนะ พบกันใหม่ครั้งหน้า สำหรับวันนี้ บ๊ายยยยย !!

    ขอบคุณแหล่งอ้างอิงดีๆ มา ณ ที่นี้ด้วยแง๊บ
    – https://www.9tana.com/node/5-chrome-extensions/

  • PSU Webmail ทำไมลบ email ออกไปตั้งเยอะแล้ว แต่ Quota ยังเต็ม ?

    เหตุ: แบ่งเป็น 4 กรณี

    (1) ลบแล้ว แต่ยังไม่ Expunge

    ก่อนหน้านี้ เคยตั้งค่าให้ Delete แล้วก็ให้ลบหายไปเลย แต่ก็มีบางคน (หลายคน) แจ้งว่า อยากให้แค่ Mark Delete กล่าวคือ … ลบแล้ว แต่ให้เปลี่ยนใจได้ จึง … ทำให้คนอื่น ๆ เมื่อลบแล้ว ก็ต้องกดปุ่ม Expunge ด้วย เพื่อให้ลบถาวร

    *** ระบบ PSU Email เมื่อลบและกด Expunge แล้วจะเป็นการลบ ถาวร ไม่สามารถกู้คืนได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ***

    (2) ลบแต่จดหมายเล็ก ๆ

    บางที เราก็มีจดหมายไม่กี่ฉบับ แต่ว่า แต่ละฉบับ อาจจะแนบไฟล์ขนาดใหญ่ ๆ ทั้งนั้น วิธีการคือ สั่งให้ PSU Webmail แสดง ขนาดของ email แต่ละฉบับ โดยไปที่

    Options > Index Order

    จากนั้นคลิกปุ่ม Add ข้าง ๆ Size แล้ว คลิก Inbox อีกครั้ง

    จะปรากฏ Column “Size” ด้านขวามือ ให้คลิกเรียงลำดับ ตามขนาดของ email ให้เลือกลบฉบับที่มีขนาดใหญ่ ๆ ก่อน แล้ว *** และเมื่อลบแล้ว ก็อย่าลืม Expunge และ อย่าลืม เรียงลำดับใหม่ด้วย มิฉะนั้น จะไม่เห็นอีเมลใหม่สุด อยู่บนสุด *** เพราะระบบกำลังแสดงผลแบบเรียงลำดับตาม ขนาดของอีเมลอยู่

    (3) ลบใน Inbox หมดแล้ว แต่พื้นที่ยังเต็ม เป็นเพราะ มันเต็มใน Folder อื่น

    ให้คลิกที่ Folder Size ด้านล่างซ้ายของ PSU Webmail

    จะแสดงผลให้เห็นว่า จริง ๆ แล้ว Folder ใดที่กินพื้นที่ เมื่อทราบแล้ว ก็ไปจัดการให้ถูกที่

    (4) ทำตามข้อ 1-3 แล้ว ยังเต็ม ก็เป็นเพราะมี Folder “Trash” ซึ่งซ่อนอยู่

    มันมาได้ไง ?? มาจากการใช้ Mail Client บน โทรศัพท์มือถือ แล้วต่อ IMAP มายัง PSU Email Server มักจะสร้าง “Trash” Folder ไว้ เมื่อผู้ใช้ ลบอีเมล ก็จะย้ายไปไว้ใน Trash นี้ (ไม่ใช่ INBOX.Trash ของระบบ) ซึ่งจะมองเห็นได้บนโทรศัพท์มือถือ แต่ มักจะมองไม่เห็นบน PSU Webmail

    วิธีการแก้ไขคือ เลือกให้แสดง Folder นี้ โดยคลิกที่

    Folders > Trash > Subscribe

    แล้วกด Refresh folder list

    ก็จะปรากฏ Trash อยู่ในรายการด้าน ซ้ายมือ ให้ทำการลบได้ตามปรกติ

  • การติดตั้ง Android Emulator : MuMu เพื่อใช้งานร่วมกับ Expo CLI

    กำลังพัฒนา Mobile Apps อยากได้ Android EMU สักตัวที่กินแรมน้อย ๆ เปิดโปรแกรมได้เป็น Tab เปิด ๆ ปิด ๆ โปรแกรมบ่อยไม่ต้องกดเมนูเข้าออกให้เหนื่อยต้องลอง MuMu (สาวกเกมส์ Ragnarok M ข้ามการติดตั้งได้เลยครับ คงชำนาญกันอยู่แล้ว)

    • Installation Version
      • MuMu App Player V1.1.0.2
    • ติดตั้ง MuMu App Player (เมื่อก่อนตัวติดตั้งเป็นภาษาจีนล้วนเดี๋ยวนี้มีแบบภาษาอังกฤษแล้ว)
      https://mumu.163.com/global/download/en/index.html
    • การติดตั้งจะใช้ VirtualBox ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วย
    • เปิด Play Store จากนั้น Login เหมือนมือถือ Android ปกติ (จะเห็นว่าเห็นเป็น Tab สามารถปิดโปรแกรมโดยกดกากบาทด้านบนได้เลย หรือจะสลับ App ไปมาได้อย่างง่ายดาย โดย App ไม่หยุดทำงาน)
    • ติดตั้งโปรแกรม Expo
    • เปิดโปรแกรม
    • ไปที่ Tab Profile เพื่อ Login ใครยังไม่มี Account ให้สร้างได้ที่นี่
    • ทำการ Login บน expo cli start console ด้วย
    • ปิดโปรแกรม บน MuMu เปิดใหม่อีกครั้งจะเห็น Recenly in development ขึ้น Project ที่เราพัฒนาอยู่ (Emulator อื่นอาจจะเปิด USB Debug ได้ แต่ MuMu ยังไม่รองรับ จากการทดสอบเปิดแล้วไม่ขึ้น จึงใช้วิธี Login ให้เห็น Project แทน)
    • อย่าลืมว่าต้องอยู่ Network วงเดียวกัน

    หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับ Mobile Apps อื่นที่ต้องการนำไปใช้ทดสอบด้วยนะครับ

  • วิธีติดตั้ง Expo CLI สำหรับพัฒนา Mobile App ด้วย React Native

    สำหรับผู้พัฒนาที่ต้องการพัฒนา Mobile App แต่รู้สึกว่ายังไม่พร้อมศึกษา React Native แบบจริงจัง สามารถใช้งาน Expo Framework โดยสามารถใช้ได้ทั้งในการพัฒนา หรือ Build ขึ้น Store ได้เลยทั้ง iOS/Android ด้วยภาษา JavaScript/TypeScript

    โดยวันนี้จะเริ่มด้วยแนะนำวิธีติดตั้ง Tools สำหรับพัฒนาชื่อ Expo CLI ครับ

    • Reference : https://docs.expo.io/versions/latest/
    • Installation Version
      • windows 10 version 1909 64 bit
      • npm 12.14.0 LTS
      • python 3.8
      • Expo SDK 36
    • ติดตั้ง Node Js (โหลดติดตั้งแบบ LTS)
      https://nodejs.org/en/
    • ถ้ามีแจ้งไฟล์ไม่ปลอดภัยกดข้ามไป
    • จะมีให้เลือกว่าจะลง Chocolatey หรือเปล่า เพื่อติดตั้ง Module เพิ่มเติม และแนะนำติดตั้ง Node-Gyp ซึ่งจะต้องติดตั้งเองภายหลัง
    • ติดตั้ง Python ก่อนติดตั้ง Node-Gyp ผ่าน Windows Store (หลังกด Get ไม่ต้อง Sign In ก็ได้)
    • เปิด windows cmd (Run as Administrator หรือไม่ก็เลือก Start->Node.js command prompt)
    • ติดตั้ง node-gyp
      npm install -g node-gyp
    • ติดตั้ง Expo CLI ด้วย npm
      npm install -g expo-cli
    • ทดสอบสร้างโปรเจ๊คใหม่ดังนี้
      • expo init
    • สั่งรัน Web สำหรับ Debug จะพบว่า Error
    • สำหรับ Expo SDK 36 ต้องแก้ \node_modules\metro-config\src\defaults\blacklist.js ดังนี้
      var sharedBlacklist = [
      /node_modules[\/\\]react[\/\\]dist[\/\\].*/,
      /website\ /node_modules\/.*/,
      /heapCapture\/bundle\.js/,
      /.*\/__tests__\/.*/
      ];

    สามารถทดสอบเปิดได้ผ่านโปรแกรม Expo ใน Android/IOS หรือ Emulator Android หรือจะผ่าน USB Debug Android ก็ได้ครับ โดยได้ทั้ง QR-Code หรือ Exp URL Copy ไปแป๊ะในโปรแกรมได้ครับ (ต้องอยู่ในวง Network เดียวกันยกเว้นทดสอบโดยใช้ Tunnel)