Raspberry Pi 3 [Assemble & OS Installation]

ใน part นี้ขอพูดในส่วนของการติดตั้ง heat sink, ประกอบลงใน enclosure และติดตั้ง OS Raspbian ครับ

 

Heat Sink จำเป็นไหม

โดยส่วนตัวผมว่าจำเป็นครับ เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อมีการทำงาน จะก่อให้เกิดความร้อน ความร้อนทำให้เกิดการเสื่อมของอุปกรณ์ และจากการหาข้อมูล พบว่าการติดตั้ง Heat Sink + พัดลม จะทำให้อุณหภูมิของอุปกรณ์ (โดยเฉพาะ CPU และ GPU) นั้นไม่สูงเกินไปครับ (อ้างอิงจาก https://www.youtube.com/watch?v=e6okZKRwnTQ)

 

 

Heat Sink อลูมิเนียมสีดำขนาดเล็ก เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป

 

ติดตั้งด้วยการใช้เทปกาวสองหน้าแบบนำความร้อน (ติดมากับ Heat Sink) แปะลงไปบนตัว CPU และ GPU ได้เลย
** กรณีที่ไม่มีเทปกาวสองหน้านำความร้อน ให้ใช้กาวซิลิโคน นำความร้อน แทนครับ **

 

Enclosure หรือกล่อง จำเป็นหรือไม่ ?

บอกเลยว่า ขึ้นอยู่กับบุคคลครับ ซึ่ง Enclosure ก็มีหลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งแบบเป็นกล่องเดี่ยวๆ (แบบที่จะแสดงให้ดูนี้), แบบที่เป็น Stack, แบบอลูมิเนียมเพื่อระบายความร้อนแบบ Passive และอีกมากมายครับ ประเด็นคือ เลือกให้ตรงกับความต้องการดีกว่าครับ ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นระเบียบและเรียบร้อยของอุปกรณ์นั่นเองครับ

 

 

ผมเลือกใช้เคสที่เป็นอะคริลิค พร้อมช่องพัดลม เพื่อติดตั้งไว้ระบายความร้อนของ Heat Sink อีกทีนึงครับ

 

 

ประกอบเรียบร้อยพร้อมติดตั้งพัดลมครับ
** ผมติดตั้งพัดลมแบบดูดเข้านะครับ เพื่อให้ลมเย็นจากภายนอกปะทะกับ Heat Sink โดยตรง **

** พัดลมติดตั้งโดยใช้ไฟจาก GPIO PIN 4 (+5V) และ 6 (GND) ครับ **

 

พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานครับ ต่อไปเตรียม microSD สำหรับติดตั้ง OS กันครับ

ถ้าหลายท่านเคยผ่านตา จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรม SD Card Formatter ครับ แต่ผมจะใช้อีกตัวนึงตามคำแนะนำของ raspberrypi.org

นั่นคือ Etcher ครับ

สิ่งที่ต้องมีคือ

  • SD Card 8GB ขึ้นไป (Class 4 หรือ 10 แล้วแต่ท่านสะดวกเลยครับ ผมลองแล้ว ความเร็ว ไม่ต่างกันเท่าไหร่)
  • Card Reader และ microSD Adapter *ถ้าจำเป็น
  • 7-Zip หรือโปรแกรมสำหรับ Extract Zip File
  • โปรแกรม Etcher ดาวน์โหลดได้ที่นี่
  • ผมติดตั้ง Raspbian เพราะงั้นต้องมี image file ซึ่ง ดาวน์โหลดได้ที่นี่

** เมื่อเข้าไปหน้าดาวน์โหลด ท่านจะเป็น NOOBS และ RASPBIAN ให้เลือก RASPBIAN นะครับ ซึ่งจะได้ Latest Version **

** NOOBS (New Out Of the Box Software) คือตัวติดตั้งที่ออกมาจาก Official Raspberry Pi เอง โดยจะมีพื้นฐานจาก Raspbian นั่นเอง แต่มีการปรับให้สามารถทำการติดตั้งได้ง่ายขึ้น พร้อมโปรแกรมอื่นๆ สามารถเลือกติดตั้งได้ทันทีจาก internet **

 

Flash SD Card

   1.ทำการใส่การ์ดใน Card Reader จากนั้นเปิดโปรแกรม Ether

2.เลือก Image File จากนั้นกด Flash

         

3.รอจนเสร็จ

4.นำ microSD Card ไปใส่ใน Raspberry Pi จากนั้นทำการต่อสายอุปกรณ์ให้เรียบร้อย (Power, HDMI, Keyboard + Mouse)

** เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับ microSD Card ให้ทำการ Power Off ทุกครั้งก่อนถอด/ใส่ การ์ดนะครับ **

 

5.พร้อมแล้วสำหรับการ Power On (Raspberry Pi จะไม่มีสวิตซ์สำหรับเปิดนะครับ แค่เสียบเสีย micro USB ที่มีไฟ ก็จะทำการเปิดเองโดยอัตโนมัติ)

** เนื่องจากผมไม่มี Monitor ที่ Input HDMI ได้โดยตรง จึงต้องใช้ตัวแปลงจาก HDMI –> VGA ครับ **

 

    

รูปซ้าย รูประหว่างการ boot (ถ่ายไม่ค่อยทัน)

รูปขวา แสดงหน้า Desktop พร้อมใช้งานได้ทันทีครับ

 

ตอนหน้า จะเป็นเรื่องของการเซ็ตอัพทั่วๆไป, การเชื่อมต่อ Wi-Fi และการติดตั้งโปรแกรมพื้นฐานอย่างง่ายครับ

 

ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ครับ