เช้าของวันที่ 14 ธันวาคม 2558 คุณ คณกรณ์ post ถามไว้ในกลุ่ม PSU Sysadmin บน facebook ว่า
เรียนสอบถาม (จะได้ไม่ต้องทำซ้ำ) บน windows 10 ใครมี script ให้ทำการ auto authentication บ้างไม๊ครับ บางเครื่องต้องเปิดค้างไว้ข้ามวัน จะได้เข้ามาดูทางไกลได้ น่ะครับ ตอนนี้ใช้ team viewer ก็ยังติดเรื่องนี้อยู่ดี
ขอบคุณครับ
มีคุณ Thanongdat Noosrikaew กับคุณ ป้อม เภสัชฯ (Siripong Siriwan) มาเสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา แต่ดูเหมือนจะไม่ตรงกับที่เจ้าของคำถามต้องการสักเท่าไหร่
ผมอ่านแล้วก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า แล้วผมจะต้องตอบคำถามนี้ ผมมีทางเลือกอะไรบ้าง?
คำตอบที่มีให้กับตัวเองก็คือ หากินกับของเก่าที่เคยทำเอาไว้แล้ว … คือ… มีคำสั่งคำสอน ที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่ยุคโบราณกาลครั้งเก่าโพ้น ในชนเผ่า sysadmin ว่า sysadmin ที่ดีจะเป็นคนขี้เกียจ อะไรที่ได้ทำไว้แล้ว และยังเอามาใช้ได้ ก็ไม่ควรที่ทำขึ้นมาใหม่ … อันนั้น เป็นเรื่องที่ผมได้ยินมานะครับ จะเชื่อถือได้แค่ใหนก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะได้พิจารณากัน
ผมก็เลยพยายามทำตัวเป็น admin ขี้เกียจ .. เฮ่ย ไม่ใช่ เป็น admin ที่ดี ซึ่ง … ก็คือ ขี้เกียจน่ะแหละ -_-”
มีอะไรที่เคยทำเอาไว้แล้ว ก็เอามา recycle ขายใหม่ ถ้าขายได้ … เราต้องช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม … เกี่ยวกันใหม?
คำตอบแรกที่ผมคิดได้ก็คือ
ถ้า ยังหา solution บน Windows โดยตรงไม่ได้ และ ไม่รังเกียจที่จะติดตั้ง cygwin เพิ่มเข้าไปบนตัว windows ผมคิดว่า psuautosigned ที่เขียนไว้สำหรับ Linux ก็น่าจะพอดัดแปลงให้ใช้งานบน Windows ได้ครับ ฟังก์ชัน หลักๆ ต้องการแค่ shell ซึ่งอาจจะเป็น cmd.exe ของ windows เองก็ได้ กับโปรแกรมที่ชื่อว่า curl ครับ โปรแกรมอย่างอื่นเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ทั้งหมด รวมทั้ง shell และ curl มีอยู่ใน cygwin อยู่แล้ว
ผมไม่มีเครื่องที่ใช้งาน windows 10 ให้ลอง ถ้าจะช่วยทดสอบให้ ผมก็ยินดีที่จะแก้ script ให้รองรับ windows 10 ด้วยครับ
โปรแกรม psuautosigned ที่ผมอ้างถึงคือ ตัวนี้ ซึ่งเคยเขียนถึงเอาไว้แล้ว ที่นี่ , ที่นี่, ที่นี่, และ ที่นี่ … ซึ่ง มาคิดดูอีกที เยอะแฮะ กับ script ตัวเดียวทำไมจะต้องเขียนบันทึกเกี่ยวกับมันหลายบันทึกด้วยก็ไม่รู้ จะว่าไป บันทึกนี้เอง ก็นับเป็นหนึ่งในชุดนี้ด้วยแหละ
ส่วน cygwin ก็คือ https://www.cygwin.com/ เป็น tools สำหรับ Windows ให้สามารถใช้งานได้เหมือน(หรือใกล้เคียงมากๆ) กับการใช้ชีวิตอยู่บน Unix Command Line … ซึ่งเนื่องจาก script psuautosigned พัฒนาและใช้งานบน Linux ถ้าจะให้เอาไปใช้งานบนเครื่อง Windows 10 ได้ตามความต้องการของคุณหนุ่ม ก็ต้องการเครื่องมือเหล่านี้ มาช่วยด้วย
นั่นหมายถึงว่า ถ้าจะเอาไปใช้ จะต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม และ ถึงแม้ว่า cygwin จะสร้างสภาพแวดล้อมแบบ Unix บนเครื่อง Windows เจ้าตัว script ที่ผมเขียน และ ทดสอบบน Debian Linux ก็จะยังไม่สามารถเอาไปใช้งานได้ทันที มันจะต้องการแก้ไขบางส่วนแน่ ๆ
พอนั่งทบทวนไปสักพักว่ามีส่วนใหนที่จะต้องแก้ไขบ้าง จากความจำที่ค่อนข้างลางเลือนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ cygwin เพราะไม่ได้ใช้ Windows นานมาก และ cygwin ก็ไม่ได้แต่นานมากเช่นเดียวกัน และ มีความขี้เกียจ เอ๊ย! ผิด! มีคุณลักษณะที่ดีของ sysadmin เป็นตัวกระตุ้น … ผมก็ได้ idea ใหม่แจ่มแจ๋วขึ้นมา
นี่คือสิ่งที่ผม post reply ตามไปจาก reply ที่แล้ว
หรือ อีกทางนึง ถ้ามี resource บนเครื่อง windows 10 เหลือเฟือ และไม่รังเกียจที่จะเสีย เนื้อที่ harddisk สัก 512MB และ memory สัก 32MB ก็ติดตั้ง virtualbox (เอ่อ เนื้อที่ harddisk กับ ram ข้างต้นไม่รวมของ virtualbox) และติดตั้ง linux ตัวใหนก็ได้แบบ minimal (แต่แนะนำ debian) ลงไปต้องการแค่ bash shell, basic linux utils และ ติดตั้งโปรแกรม curl เพิ่ม กำหนดให้ interface ของ VM เป็นแบบ NAT ก็จะสามารถใช้โปรแกรม psuautosigned สำหรับการ authen จากตัว VM ซึ่งเมื่อใช้งานเป็นแบบ NAT ก็จะ authen ให้กับ host ที่เป็น windows 10 ด้วยเลย วิธีการนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องดัดแปลง psuautosigned ใดๆทั้งสิ้นครับ
และ
ถ้า เลือกใช้วิธีการติดตั้ง debian บน VM ตอนติดตั้งจะต้องให้ memory ของเครื่องซํก 256 หรือ 512 MB ก่อนนะครับ เพราะตอนตั้ง มันจะใช้ RAM ค่อนข้างเยอะ ถ้ามี memory น้อยเกินไปจะติดตั้งไม่สำเร็จ แต่ พอติดตั้งเสร็จแล้ว ก็ค่อยลด memory ให้เหลือเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้มันต้องการเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ run อยู่เลย ผมคิดว่า 32MB ก็เหลือเฟือครับ เครื่องของผมที่ run linux สมัยแรกๆ ใช้ RAM แค่ 8MB ก็ run ได้โดยไม่แตะ swap ในตอน boot และใช้แค่ console ไม่ได้ run X-windows
ข้อดีที่สุดของวิธีการนี้ ถ้าคุณหนุ่มจะเอาไปใช้ก็คือ จะต้องไป download และ ติดตั้งโปรแกรม virtualbox จาก ที่นี่ แล้วก็สร้าง Virtual Machine ที่เป็น Linux ขึ้นมา ซึ่งถ้า Linux ที่เป็น Debian ตามที่ผมแนะนำ ตัว script ก็สามารถที่จะทำงานได้เลย โดยไม่ต้องแก้ไขใดๆทั้งสิ้น ปล่อยภาระของการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ให้เป็นการติดตั้ง Linux บน Virtual Box ของคุณหนุ่มไป ส่วนผม อยู่เฉยๆ ทำตัวขี้เกี… เอ๊ย ทำตัวเป็น sysadmin ที่ดี ที่มีทั้งหลังที่ยาว และ ขนตามตัวยาวเฟื้อยต่อไป 😉
อันที่จริง วิธีการนี้ จะเป็นการใช้ psuautosigned script สำหรับการ signed in หรือ login สำหรับตัวเครื่อง Virtual Machine ที่เป็น Linux แต่ trick สำหรับกรณีนี้ก็คือว่า ถ้ากำหนดให้ชนิดของ Network Interface ของ Virtual Box เป็นแบบ NAT ตัว Host OS ของเครื่อง ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ Windows 10 จะส่งข้อมูลของการติดต่อ ของ Linux VM ไปยังเครื่องอื่นๆด้วย IP Address ของเครื่อง Windows 10 เอง เมื่อ Linux VM ไป authentication กับเครื่อง Palo Alto ก็จะใช้ address ของ Windows 10 ก็เลยเป็นการ authentication ให้กับตัว Windows 10 ซึ่งเป็น host computer ไปด้วยกันเลย ทำให้ไม่จำเป็นจะต้องใช้การ authen ใดๆจาก Windows 10 เอง
และ ถ้าจะว่าไป ในกรณีนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ VirtualBox ก็ได้ อาจจะใช้ VMWare หรือ Virtualization อื่นๆที่สามารถใช้งานได้บนเครื่อง Windows ก็สามารถืำได้แบบเดียวกัน ข้อสำคัญก็คือ ชนิดของเครือข่ายที่จะให้ Linux VM ติดต่อออกสู่ภายนอก จะต้องเป็นแบบ NAT ก็ทำได้แบบเดียวกัน เพียงแต่ผมไม่เคยใช้งาน Virtualization Technology อื่นๆ ก็เลยไม่แนะนำครับ เพราะคงตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีการ setup network ให้กับ virtual machine ไม่ได้
โดยหลักๆ วิธีการแก้ปัญหา ของผมก็คงมีแค่นี้แหละ
แต่หลังจากตอบคำถามไปแล้ว ก็เลยกลับไปดู script ที่เคยเขียนไว้อีกหน่อยนึง อันที่จริง ก็เขียนเอาไว้นานจนจำแทบไม่ได้เหมือนกันว่าได้เขียนอะไรไว้บ้าง แต่พอลองเอามาไล่ดูและ ตัดเอาเฉพาะส่วนที่จำเป็นออก ก็ได้ script สำหรับการใช้งาน บน Linux ประมาณนี้ครับ
#!/bin/bash
USER=”YOUR-PASSPORT-ID”
PASSWD=”YOUR-PASSPORT-PASSWORD”
COOKIES=”cookies.txt”/usr/bin/curl \
–connect-timeout 10 \
–max-time 10 \
-s -k \
-L ‘https://cp-ufw.psu.ac.th:6082/php/uid.php?vsys=1‘ \
-c $COOKIES \
-b $COOKIES \
-d user=$USER \
–data-urlencode “passwd=$PASSWD” \
-d ok=Login
และนี่คือคำอธิบายที่ผม post ตามไป
อันนี้ ไม่มีการตรวจสอบอะไรทั้งสิ้น และมีการเรียกใช้งานเพียงครั้งเดียว ซึ่งมันก็จะ timeout ไปตามช่วงเวลา ถ้าจะให้มัน authen ได้ตลอด ก็อาจจะเรียกใช้จาก crontab ทุกๆช่วงเวลาก่อนที่มันจะ timeout ไป ผมไม่แน่ใจว่าค่า timeout ล่าสุดจะเป็นเท่าไหร่ แต่ที่ผมใช้อยู่ผมให้มัน loop ไป check login ว่า authenticate ไปแล้วหรือเปล่า ทุกๆ 10 นาที URL ซึ่งใช้ตรวจสอบการ login จะต่างไปจากนี้ แต่ผมคิดว่า ถ้าสั่งให้ authen ใหม่ ผลก็น่าจะไม่ต่างกัน script ข้างบน ถ้าจะให้ใช้งานได้จาก windows 10 ก็ คงเปลี่ยนบรรทัดแรกให้ไป อ้างอิง cmd.exe หรือ เปลี่ยนเป็นชื่อเป็น .bat และ path ที่ใช้อ้างอิง /usr/bni/curl ก็เปลี่ยนไปใช้ของ Windows
ส่วน parameter ของ curl ทั้งหมด ก็ลบเครื่องหมาย backslash ของทุกบรรทัดออก ให้เหลือคำสั่งแค่บรรทัดเดียวก็น่าจะใช้งานได้แล้วครับ
อ้อ เปลี่ยน USER กับ PASSWD แล้วก็ COOKIES (ชื่อไฟล์สำหรับเก็บ cookeis) ให้เป็นค่าที่เหมาะสมด้วยครับ
เนื่องจากโปรแกรมยังไม่ได้ทดสอบกับเครื่องที่เป็น Windows 10 จริงๆ ก็เลย ให้แนะนำตามในคำอธิบาย แต่ในแง่ของการติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม ตัว script ตัวนี้ น่าจะเป็นตัวที่มีขนาดเล็ที่สุดแล้วครับ code สามารถ download ได้ ที่นี่
ขอบคุณครับ