Day: November 11, 2015

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Lighttpd Web Server (Ubuntu 14.04 LTS)

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะทำการปิดช่องโหว่ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่ามีช่องโหว่หลายตัว) วิธีการปิด SSL ทำได้โดยแก้ไขไฟล์ /etc/lighttpd/conf-enabled/10-ssl.conf ดังนี้ sudo vim /etc/lighttpd/conf-enabled/10-ssl.conf ทำการแก้ไขไฟล์โดยทำการเพิ่มท้าย ๆ ไฟล์ ก่อนปิดวงเล็บดังนี้ (อย่าลืม comment cipher-list เดิมทิ้งก่อนนะครับ)…

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Apache Web Server (Ubuntu 14.04 LTS)

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะทำการปิดช่องโหว่ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่ามีช่องโหว่หลายตัว) วิธีการปิด SSL ทำได้โดยแก้ไขไฟล์  /etc/apache2/mods-enabled/ssl.conf ดังนี้ sudo vim /etc/apache2/mods-enabled/ssl.conf ทำการแก้ไขไฟล์ดังนี้ (จะ Comment SSLCipherSuite กับ SSLProtocol แล้วเพิ่มตรงท้าย ๆ…

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Windows Server 2008 / 2008 R2 / 2012 / 2012 R2

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะทำการปิดช่องโหว่ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่า Grade ร้ายแรงมาก) จากนั้นทำการโหลดโปรแกรมจาก web https://www.nartac.com ดังนี้ https://www.nartac.com/Downloads/IISCrypto/IISCrypto40.exe จากนั้นรันโปรแกรมดังรูป จากนั้นทำการ Reboot อีกครั้ง ทำการทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server…

นโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 23 มีนาคม 2561

นโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ผ่านความเห็นชอบการจัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ่านได้จากไฟล์ตามลิ้งค์นี้ https://www.cc.psu.ac.th/pdf/PSU_IT_Sec_Policy_23Mar2018.pdf ซึ่งฉบับแรกผ่านเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 และล่าสุดทบทวนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อยู่ในบันทึกลำดับที่ 99 จากทั้งหมด 154 หน่วยงาน ตามประกาศ http://www.etcommission.go.th/etc-annoucement-sp-p1.html เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่มีการทบทวนนโยบายตั้งแต่มีการเริ่มประกาศใช้ ผู้ใช้ไอทีทุกระดับควรได้เปิดอ่าน ทำความเข้าใจ และนำไปปฏิบัติความปลอดภัยไอที ม.อ. ทุกคนมีส่วนร่วมกันดูแล ครับ 😀 ก้าวต่อไปเพื่อเพิ่มความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่บนระบบไอที ม.อ. จะได้จัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของรัฐซึ่งตามข้อมูลเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 มีเพียง 14…

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Windows Server 2003 R2

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม แต่สำหรับ Windows Server 2003 เนื่องจากไม่รองรับ Cipher Suite ที่ปลอดภัยบางตัว จึงต้องทำการรัน hotfix ก่อน โดยสามารถโหลดได้ที่นี่ (อย่าลืมเลือกให้ตรง platform x86 x64 นะครับ) https://support.microsoft.com/en-us/kb/948963 ก่อนจะรัน hotfix ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่…

การแก้ไข Certificate สำหรับ Lighttpd Web Server (Ubuntu 14.04 LTS)

“อยากแก้ Certificate บน Linux Lighttpd Server ทำอย่างไร” ในกรณีที่มีไฟล์ Certificate อยู่แล้วให้ทำการวางไฟล์ Certificate ใหม่ทับแล้วสั่ง Restart Apache Server เป็นอันเสร็จครับ (สำหรับการเปลี่ยน Certificate มีแค่ขั้นตอนนี้จบเลยครับ) ในกรณีที่ยังไม่ได้ติดตั้ง https รวมถึง Certificate ให้ทำการติดตั้ง https ก่อนดังนี้ sudo lighttpd-enable-mod ssl จากนั้นให้สั่ง Restart Apache ตามปกติ sudo service lighttpd restart ทำการวางไฟล์ Certificate ไว้ในตำแหน่งที่ Lighttpd สามารถเข้าถึงได้ ในกรณีที่ที่นี้ผมจะวางไว้ที่…