วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Lighttpd Web Server (Ubuntu 14.04 LTS)

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะทำการปิดช่องโหว่ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่ามีช่องโหว่หลายตัว) วิธีการปิด SSL ทำได้โดยแก้ไขไฟล์ /etc/lighttpd/conf-enabled/10-ssl.conf ดังนี้ sudo vim /etc/lighttpd/conf-enabled/10-ssl.conf ทำการแก้ไขไฟล์โดยทำการเพิ่มท้าย ๆ ไฟล์ ก่อนปิดวงเล็บดังนี้ (อย่าลืม comment cipher-list เดิมทิ้งก่อนนะครับ) ssl.use-compression = “disable” ssl.use-sslv2 = “disable” ssl.use-sslv3 = “disable” ssl.cipher-list = “EECDH+AESGCM:EDH+AESGCM:AES128+EECDH:AES128+EDH” จากนั้นทำการ Restart Lighttpd Server … Read more

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Apache Web Server (Ubuntu 14.04 LTS)

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะทำการปิดช่องโหว่ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่ามีช่องโหว่หลายตัว) วิธีการปิด SSL ทำได้โดยแก้ไขไฟล์  /etc/apache2/mods-enabled/ssl.conf ดังนี้ sudo vim /etc/apache2/mods-enabled/ssl.conf ทำการแก้ไขไฟล์ดังนี้ (จะ Comment SSLCipherSuite กับ SSLProtocol แล้วเพิ่มตรงท้าย ๆ ก่อน tag ปิด </IfModule> ก็ได้ครับ) SSLCipherSuite ECDH+AESGCM:DH+AESGCM:ECDH+AES256:DH+AES256:ECDH+AES128:DH+AES:RSA+AESGCM:RSA+AES:!aNULL:!MD5:!DSS SSLHonorCipherOrder on SSLProtocol all -SSLv3 -SSLv2 SSLCompression off … Read more

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Windows Server 2008 / 2008 R2 / 2012 / 2012 R2

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะทำการปิดช่องโหว่ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่า Grade ร้ายแรงมาก) จากนั้นทำการโหลดโปรแกรมจาก web https://www.nartac.com ดังนี้ https://www.nartac.com/Downloads/IISCrypto/IISCrypto40.exe จากนั้นรันโปรแกรมดังรูป จากนั้นทำการ Reboot อีกครั้ง ทำการทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server อีกครั้งก็ได้ดังรูป เป็นอันว่าเรียบร้อยครับ สามารถอ่านวิธีแก้ไขช่องโหว่เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ http://sysadmin.psu.ac.th/2015/11/10/serversecuritypatch

นโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 23 มีนาคม 2561

นโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ผ่านความเห็นชอบการจัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ่านได้จากไฟล์ตามลิ้งค์นี้ https://www.cc.psu.ac.th/pdf/PSU_IT_Sec_Policy_23Mar2018.pdf ซึ่งฉบับแรกผ่านเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 และล่าสุดทบทวนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อยู่ในบันทึกลำดับที่ 99 จากทั้งหมด 154 หน่วยงาน ตามประกาศ http://www.etcommission.go.th/etc-annoucement-sp-p1.html เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่มีการทบทวนนโยบายตั้งแต่มีการเริ่มประกาศใช้ ผู้ใช้ไอทีทุกระดับควรได้เปิดอ่าน ทำความเข้าใจ และนำไปปฏิบัติความปลอดภัยไอที ม.อ. ทุกคนมีส่วนร่วมกันดูแล ครับ 😀 ก้าวต่อไปเพื่อเพิ่มความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่บนระบบไอที ม.อ. จะได้จัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของรัฐซึ่งตามข้อมูลเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 มีเพียง 14 หน่วยงานที่ผ่านความเห็นชอบแล้วตามประกาศ http://www.etcommission.go.th/etc-annoucement-dp.html และมุ่งไปสู่ความปลอดภัยไอทีของ ม.อ. ที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิดตามแนวทาง Center for Internet Security : CIS Control v7 ซึ่งผมได้เริ่มต้นแปลบางส่วน ให้ผู้สนใจเริ่มทำความคุ้นเคยได้จาก … Read more

วิธีการปิดช่องโหว่ Logjam,Freak,Poodle,Beast สำหรับ Windows Server 2003 R2

“จะทำอย่างไรทีดีกับช่องโหว่ SSL เยอะซะเหลือเกิน ปิดใช้แต่ TLS ก็ได้นิ นั่นสินะ” อย่างที่ข้างบนกล่าวไว้ครับวิธีการปิดช่องโหว่นี้ทำง่าย ๆ แค่ปิด SSLv2 SSLv3 และปิด Cipher Suite ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มเติม แต่สำหรับ Windows Server 2003 เนื่องจากไม่รองรับ Cipher Suite ที่ปลอดภัยบางตัว จึงต้องทำการรัน hotfix ก่อน โดยสามารถโหลดได้ที่นี่ (อย่าลืมเลือกให้ตรง platform x86 x64 นะครับ) https://support.microsoft.com/en-us/kb/948963 ก่อนจะรัน hotfix ลองทดสอบ test ความปลอดภัย ที่ website https://ssltest.psu.ac.th/server ก็จะได้ดังรูปตัวอย่างนี้ (จะเห็นได้ว่า Grade ร้ายแรงมาก) เมื่อโหลดไฟล์เรียบร้อยแล้วทำการแตก zip และ run ด้วยสิทธิ์ administrator ดังรูป หลังจากนั้นเลือก Finish … Read more