การทำ Wireframe

ในการพัฒนาเว็บไซต์ จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงหลักๆ ได้แก่
1. ทีมพัฒนาเว็บไซต์ หรือโปรแกรมเมอร์ อาจจะมีคนเดียว หรือทำงานกันเป็นทีมก็ได้ และ
2. ผู้ใช้ หรือลูกค้า จะเป็นผู้กำหนดความต้องการของเว็บไซต์

หลังจากที่ทีมพัฒนาเก็บรวบรวมความต้องการของลูกค้า และได้ทำการวิเคราะห์ความต้องการแล้ว ขั้นตอนถัดไป ก็จะเป็นการวางแผน ออกแบบ Layout คร่าวๆ ก่อน เพื่อให้ทีมพัฒนามีความเข้าใจที่ตรงกัน อีกทั้งยังสามารถนำเสนอต่อลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของเว็บไซต์ก่อนการลงมือออกแบบเว็บไซต์ และเขียนโค้ดจริง  เราเรียกกระบวนการออกแบบ Layout และนำเนื้อหาคร่าวๆ ในเว็บไซต์มาจัดเรียงบน Layout นี้ว่า “การทำ Wireframe”

การทำ Wireframe นั้นไม่ได้มีรูปแบบตายตัว นักพัฒนาแต่ละคนอาจมีวิธีการที่แตกต่างกันไป แต่มีวัตถุประสงค์ในการทำที่เหมือนกัน คือ เพื่อให้เห็นภาพรวมของเว็บไซต์ ทำให้ทีมเข้าใจตรงกัน และพัฒนาไปในทางเดียวกัน

ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ทำ Wireframe ที่ทำได้ง่ายที่สุด คือการใช้ดินสอ วาด Layout ลงบนกระดาษ และจัดเรียงเนื้อหาคร่าวๆ ดังรูป

wireframe

หรือจะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการทำก็ได้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการทำ Wireframe จะมีให้เลือกใช้มากมาย ทั้งในแบบใช้งานออนไลน์ และแบบที่ต้องติดตั้งลงเครื่อง มีทั้งที่ให้ใช้งานฟรี และเสียตังค์ซื้อก็มี ตัวอย่างที่น่าสนใจได้แก่

  1. Prototype – โปรแกรมทำ Wireframe ตัวนี้มีทั้งบน Windows / Mac OS โดยแบ่งเป็นเวอร์ชั่นฟรี กับเวอร์ชั่นเสียเงิน
  2. Pencil Project – โปรแกรมทำ Wireframe ใช้ฟรี ๆ มีทั้งบน Windows / Linux / Mac OS
  3. Cacoo – Web App สำหรับทำ Diagram, Wireframe ออนไลน์ โดย Account ฟรีจะสร้าง Wireframe ได้จำกัดหน้า
  4. JumpChart – Web App สำหรับทำ Wireframe Online ที่หน้าตาเรียบง่าย โดย Account ฟรีจะสร้าง Wireframe ได้จำกัดหน้า
  5. FrameBox – Web App สำหรับทำ Wireframe ฟีเจอร์น้อย แต่ใช้ฟรี ทำเสร็จส่งลิงค์ให้ลูกค้าได้ทันที
  6. iPlotz – Web App สำหรับสร้าง Wireframe ออนไลน์ที่ดูมีสีสันกว่าตัวอื่น ใช้ฟรี Account จะจำกัดหน้า

วิธีการใช้งานโปรแกรมเหล่านี้ก็ไม่ยากมาก สามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง และเลือกใช้งานโปรแกรมได้ตามความถนัดของแต่ละคน ตัวอย่างต่อไปนี้จะเป็นวีดีโอแนะนำการใช้งาน Pencil Project ซึ่งเท่าที่เคยได้ลองเล่นดูพบว่าเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจ มีเครื่องมือให้ใช้ค่อนข้างครบถ้วน และที่สำคัญคือใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย